World of Warcraft ราชันต่างภพ 587

ตอนที่ 587

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล

กองทัพจักรวรรดิเมฆาใช้โอกาสนี้ไล่ตามตีไปนับร้อยกิโลเมตรจึงจะหยุดลง ศึกครั้งนี้ฝ่ายทหารทมิฬบาดเจ็บล้มตายไปนับไม่ถ้วน ขณะพวกกากเดนที่เหลือก็แยกย้ายกันหลบหนีไปทุกทิศ เมื่อไม่มีผู้นำคอยบัญชาการ ระบบสั่งการของทัพทมิฬก็เป็นอัมพาตไป กลายเป็นกลุ่มทหารเร่ร่อนไร้จุดหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกมันก็ไม่มีกำลังก่อเภทภัยใด เพียงรอให้โถวปาหงส่งทหารออกกวาดล้าง ใช้เวลาไม่นาน พวกทหารทมิฬก็ยอมจำนน หลังจากทุกคนกลับมาถึงแนวกำแพง เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่มไปทั่วแนวกำแพง บรรยากาศเต็มไปด้วยความปิติยินดี ครั้งนี้ ทุกคนทราบว่าสงครามในจักรวรรดิจบลงจริงๆแล้ว ส่วนที่เหลือคือการฟื้นฟู จักรวรรดิสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคง ในห้วงแห่งวิกฤต วิญญาณบรรพกาลได้ออกมาปกป้องจักรวรรดิไว้ นี่ยิ่งทำให้ชาวเมฆาปักใจเชื่อว่าจักรวรรดิเมฆาได้รับการปกปักษ์จากทวยเทพ เซียวอวี๋พักในค่ายอยู่หลายวัน เวลาส่วนใหญ่ใช้พักผ่อนหย่อนใจไปกับหลินมู่เสวี่ย เซียวอวี๋ตัดสินใจอย่างเแน่วแน่ว่ากลับไปคราวนี้เขาจะจัดงานแต่งงานกับหลินมู่เสวี่ย เวลาก็ผ่านมานานแล้ว สมควรจัดการเรื่องนี้ให้ดี มิเช่นนั้นอาจมีแมงหวี่แมงวันอย่างโถวปาเฟิงโผล่มาอีก โถวปาหงไม่ได้มากล่าวคำขอบคุณกับเซียวอวี๋ แต่ในใจของเขาทราบว่าตนติดหนี้เซียวอวี๋อย่างลึกล้ำ สิบกว่าวันผ่านพ้นไป เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ทางนี้เริ่มมั่นคง เซียวอวี๋ก็คิดว่าถึงเวลาที่เขาจะเดินทางกลับดินแดนไลอ้อนแล้ว อย่างไรเสีย นี่ก็ผ่านมานานมากแล้ว ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลจัดการดินแดนของตน สามจ้าวมนตราเวลานี้กำลังพำนักอยู่ที่นั่น เขาอยากกลับไปดูว่าสามท่านนั้นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ยิ่งกว่านั้น นิโคลัสเองก็กลับไปพักหนึ่งแล้ว ดูเหมือนสถานการณ์ทางด้านนั้นคงไม่ราบรื่นสักเท่าใด เวลานี้ทั้งทวีปกำลังถูกปกคลุมด้วยไฟสงคราม เซียวอวี๋จำต้องวางแผนเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ ในเช้าของวันนี้ เซียวอวี๋ได้รับสารว่าเวลานี้ศาสนจักรได้เข้ายึดครองแว่นแคว้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ห่างจากรัฐเว่ยไปเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร พวกเขาอาจยกกำลังบุกโจมตีดินแดนไลอ้อนได้ทุกเวลา หลังอ่านจบ เซียวอวี๋ก็พลันขมวดคิ้วมุ่น ศาสนจักรคิดไวทำไว ดูท่าพวกมันคิดยึดดินแดนไลอ้อนไว้ในมือจริงๆ การรุกตีครานี้ช่างรวดเร็วนัก “เป็นอย่างไร เซียวอวี๋? ต้องการคนไปช่วยหรือไม่?” หลังได้ฟังสารนั้น โถวปาหงก็ถามขึ้นเบาๆ เซียวอวี๋ส่ายหน้าก่อนจะกล่าวว่า “แม้โถวปากุ้ยจะตายแล้ว หากแต่ภัยซ่อนเร้นในจักรวรรดิยังคงอยู่ เจ้าต้องอยู่คุมสถานการณ์ที่นี่ ทั่วทั้งทวีปกำลังจะเกิดความวุ่นวาย ถึงเวลานั้น ข้าคงต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้า” เซียวอวี๋ทราบว่าในอนาคตอันใกล้ ทั่วทั้งทวีปจะเต็มไปด้วยไฟสงคราม เมื่อเวลานั้นมาถึง จักรวรรดิเมฆาย่อมไม่อาจยืนดูอยู่นอกวงได้ โถวปาหงพยักหน้ารับ “ตกลง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าต้องการให้ช่วยเมื่อใดก็บอกข้าแล้วกัน” เซียวอวี๋พยักหน้า เขาเผยยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เกรงใจเจ้าแน่” หลังจากนั้น เซียวอวี๋ก็เริ่มนำผู้คนออกเดินทางกลับ โถวปาหงนำเหล่าทหารคุ้มครองส่งนับร้อยกิโลเมตร และชาวเมฆายังได้มอบดอกกล้วยไม้คังฮัวอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งหญ้าให้กับพวกเซียวอวี๋เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพวกเขา ในใจพวกเขาตระหนักดี หากปราศจากเซียวอวี๋และกองทัพของเขา สถานการณ์ของจักรวรรดิเมฆาคงอยู่ปากเหวจริงๆ หนึ่งเดือนต่อมา เซียวอวี๋ก็กลับมาถึงเมืองไลอ้อน เซียวอวี๋ได้รับแจ้งว่าสามจ้าวมนตราได้จากไปแล้ว ก่อนจากไป พวกเขายังทิ้งจดหมายเอาไว้ เป็นจดหมายขอบคุณ เซียวอวี๋ขบริมฝีปาก ไฉนไม่อยู่ฝึกที่นี่ต่อ มันคงจะดีกว่านี้หากเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นม้วนคัมภีร์เวทหรือของล้ำค่า หลังจากเซียวอวี่เข้ามาในเมือง เขาก็ไม่ได้พักผ่อน หากแต่เดินทางไปหารือกับมู่ฮัว หลงฮุ่ย จางมู่เหอและคนอื่นๆเพื่อที่จะทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน และจากคำรายงานของพวกเขา เซียวอวี๋ก็พบว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิดมาก ตอนนี้กองทัพของศาสนจักรมาจ่อรอที่หน้าประตูบ้านแล้ว ขอเพียงตีชิงมาอีกแคว้นเดียว พวกเขาก็จะจ่อประชิดพื้นที่บริเวณรัฐเว่ยเดิม ตอนนี้ หลังจากถูกเซียวอวี๋ปราบพิชิต พื้นที่รัฐเว่ยเดิมก็กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี กำลังจะกลายเป็นหัวเมืองอันรุ่งเรือง หากการพัฒนาดำเนินต่อไปเช่นนี้ ทั่วทั้งดินแดนไลอ้อนก้จะเป็นแผ่นดินอันศิวิไลซ์ อย่างไรก็ตาม ศาสนจักรไม่มอบโอกาสนั้นต่อเซียวอวี๋ เดิมที เซียวอวี๋กำลังคิดจะจัดงานแต่งงาน หากแต่ตอนนี้จำต้องเลื่อนออกไปก่อนแล้ว “มารดามันเถอะ ศาสนจักรนี่ต้องการจะเป็นศัตรูกับลูกพี่มากนักใช่ไหม” เซียวอวี๋คิดอย่างขื่นขม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น สงครามก็สงครามเถอะ หลังจากไปร่วมศึกใหญ่ที่จักรวรรดิเมฆามาสองครา กองทัพของดินแดนไลอ้อนก็เปลี่ยนแปลงไปมาก อีกทั้งเวลานี้ ค่าผลงานของเซียวอวี๋เพียงพอที่จะเลื่อนระดับฐานทัพจากสองเป็นสามแล้ว รถถังและปืนใหญ่ของฐานทัพมนุษย์ก็ใกล้จะได้เผยโฉมแล้ว คิดถึงเรื่องนี้ เซียวอวี๋ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ครั้งนี้เขาจะให้ศาสนจักรได้ลิ้มรสชาติของยูนิตสุดแกร่ง ด้วยเหตุนี้ หลังจากการประชุม เซียวอวี๋ก็รีบบึ่งไปยังฐานทัพมนุษย์และเลือกอัพเกรดเป็นระดับสามทันที กระบวนการนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นเซียวอวี๋จึงเดินทางไปหาอาร์ทัสเพื่อดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ และเมื่อเขาไปถึงก็ต้องตกใจ เพราะเวลานี้อาร์ทัสอยู่ในขั้นที่หกแล้ว ไม่ได้ล้าหลังฮีโร่คนอื่นๆเลย เซียวอวี๋ประหลาดใจยิ่ง เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขามาก กองทัพที่อาร์ทัสบัญชาการแทบไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเซียวอวี๋เลย พวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? เซียวอวี๋เอ่ยปากถาม และอาร์ทัสก็เล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา อาร์ทัสบอกว่า พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความตายที่ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้า พวกเขารับเอาพลังจากบนนั้นมา และนั่นก็ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เซียวอวี๋นิ่งตะลึง เขาเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แน็กแรม มารดามันเถอะ ที่แท้เหตุผลที่นครลอยฟ้าแห่งนี้ลอยไปทางเทือกเขาอัลคาเกนก็เพราะทิศทางนั้นเป็นที่ตั้งของฐานทัพอันเดดนี่เอง จะว่าไปแล้ว แน็กแรมและอาร์ทัสก็มีความเกี่ยวพันกันอย่างลึกล้ำ ไม่แปลกที่พวกเขาจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เซียวอวี๋นิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าเวลานี้ควรกล่าวอะไรดี เดิมทีเขากังวลว่าอาร์ทัสและกองทัพของเขาจะแข็งแกร่งจนสร้างความวุ่ยวายขึ้นในอนาคต ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้นเหนือความคาดหมายของเขาไปไกลโข ดูเหมือนว่าจะมีฝ่ามือในเงามืดคอยควบคุมความเป็นไปของโชคชะตาอยู่ เซียวอวี๋ส่ายศีรษะทอดถอนใจ สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตา บางที นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าชะตากรรม….

กองทัพจักรวรรดิเมฆาใช้โอกาสนี้ไล่ตามตีไปนับร้อยกิโลเมตรจึงจะหยุดลง ศึกครั้งนี้ฝ่ายทหารทมิฬบาดเจ็บล้มตายไปนับไม่ถ้วน ขณะพวกกากเดนที่เหลือก็แยกย้ายกันหลบหนีไปทุกทิศ เมื่อไม่มีผู้นำคอยบัญชาการ ระบบสั่งการของทัพทมิฬก็เป็นอัมพาตไป กลายเป็นกลุ่มทหารเร่ร่อนไร้จุดหมาย

เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกมันก็ไม่มีกำลังก่อเภทภัยใด เพียงรอให้โถวปาหงส่งทหารออกกวาดล้าง

ใช้เวลาไม่นาน พวกทหารทมิฬก็ยอมจำนน

หลังจากทุกคนกลับมาถึงแนวกำแพง เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่มไปทั่วแนวกำแพง บรรยากาศเต็มไปด้วยความปิติยินดี

ครั้งนี้ ทุกคนทราบว่าสงครามในจักรวรรดิจบลงจริงๆแล้ว ส่วนที่เหลือคือการฟื้นฟู

จักรวรรดิสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคง ในห้วงแห่งวิกฤต วิญญาณบรรพกาลได้ออกมาปกป้องจักรวรรดิไว้ นี่ยิ่งทำให้ชาวเมฆาปักใจเชื่อว่าจักรวรรดิเมฆาได้รับการปกปักษ์จากทวยเทพ

เซียวอวี๋พักในค่ายอยู่หลายวัน เวลาส่วนใหญ่ใช้พักผ่อนหย่อนใจไปกับหลินมู่เสวี่ย

เซียวอวี๋ตัดสินใจอย่างเแน่วแน่ว่ากลับไปคราวนี้เขาจะจัดงานแต่งงานกับหลินมู่เสวี่ย เวลาก็ผ่านมานานแล้ว สมควรจัดการเรื่องนี้ให้ดี มิเช่นนั้นอาจมีแมงหวี่แมงวันอย่างโถวปาเฟิงโผล่มาอีก

โถวปาหงไม่ได้มากล่าวคำขอบคุณกับเซียวอวี๋ แต่ในใจของเขาทราบว่าตนติดหนี้เซียวอวี๋อย่างลึกล้ำ

สิบกว่าวันผ่านพ้นไป เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ทางนี้เริ่มมั่นคง เซียวอวี๋ก็คิดว่าถึงเวลาที่เขาจะเดินทางกลับดินแดนไลอ้อนแล้ว

อย่างไรเสีย นี่ก็ผ่านมานานมากแล้ว ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลจัดการดินแดนของตน

สามจ้าวมนตราเวลานี้กำลังพำนักอยู่ที่นั่น เขาอยากกลับไปดูว่าสามท่านนั้นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

ยิ่งกว่านั้น นิโคลัสเองก็กลับไปพักหนึ่งแล้ว ดูเหมือนสถานการณ์ทางด้านนั้นคงไม่ราบรื่นสักเท่าใด เวลานี้ทั้งทวีปกำลังถูกปกคลุมด้วยไฟสงคราม เซียวอวี๋จำต้องวางแผนเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ

ในเช้าของวันนี้ เซียวอวี๋ได้รับสารว่าเวลานี้ศาสนจักรได้เข้ายึดครองแว่นแคว้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ห่างจากรัฐเว่ยไปเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร พวกเขาอาจยกกำลังบุกโจมตีดินแดนไลอ้อนได้ทุกเวลา

หลังอ่านจบ เซียวอวี๋ก็พลันขมวดคิ้วมุ่น ศาสนจักรคิดไวทำไว ดูท่าพวกมันคิดยึดดินแดนไลอ้อนไว้ในมือจริงๆ การรุกตีครานี้ช่างรวดเร็วนัก

“เป็นอย่างไร เซียวอวี๋? ต้องการคนไปช่วยหรือไม่?” หลังได้ฟังสารนั้น โถวปาหงก็ถามขึ้นเบาๆ

เซียวอวี๋ส่ายหน้าก่อนจะกล่าวว่า “แม้โถวปากุ้ยจะตายแล้ว หากแต่ภัยซ่อนเร้นในจักรวรรดิยังคงอยู่ เจ้าต้องอยู่คุมสถานการณ์ที่นี่ ทั่วทั้งทวีปกำลังจะเกิดความวุ่นวาย ถึงเวลานั้น ข้าคงต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้า”

เซียวอวี๋ทราบว่าในอนาคตอันใกล้ ทั่วทั้งทวีปจะเต็มไปด้วยไฟสงคราม เมื่อเวลานั้นมาถึง จักรวรรดิเมฆาย่อมไม่อาจยืนดูอยู่นอกวงได้

โถวปาหงพยักหน้ารับ “ตกลง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าต้องการให้ช่วยเมื่อใดก็บอกข้าแล้วกัน”

เซียวอวี๋พยักหน้า เขาเผยยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เกรงใจเจ้าแน่”

หลังจากนั้น เซียวอวี๋ก็เริ่มนำผู้คนออกเดินทางกลับ

โถวปาหงนำเหล่าทหารคุ้มครองส่งนับร้อยกิโลเมตร และชาวเมฆายังได้มอบดอกกล้วยไม้คังฮัวอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งหญ้าให้กับพวกเซียวอวี๋เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพวกเขา

ในใจพวกเขาตระหนักดี หากปราศจากเซียวอวี๋และกองทัพของเขา สถานการณ์ของจักรวรรดิเมฆาคงอยู่ปากเหวจริงๆ

หนึ่งเดือนต่อมา เซียวอวี๋ก็กลับมาถึงเมืองไลอ้อน เซียวอวี๋ได้รับแจ้งว่าสามจ้าวมนตราได้จากไปแล้ว ก่อนจากไป พวกเขายังทิ้งจดหมายเอาไว้ เป็นจดหมายขอบคุณ

เซียวอวี๋ขบริมฝีปาก ไฉนไม่อยู่ฝึกที่นี่ต่อ มันคงจะดีกว่านี้หากเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นม้วนคัมภีร์เวทหรือของล้ำค่า

หลังจากเซียวอวี่เข้ามาในเมือง เขาก็ไม่ได้พักผ่อน หากแต่เดินทางไปหารือกับมู่ฮัว หลงฮุ่ย จางมู่เหอและคนอื่นๆเพื่อที่จะทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน

และจากคำรายงานของพวกเขา เซียวอวี๋ก็พบว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิดมาก ตอนนี้กองทัพของศาสนจักรมาจ่อรอที่หน้าประตูบ้านแล้ว ขอเพียงตีชิงมาอีกแคว้นเดียว พวกเขาก็จะจ่อประชิดพื้นที่บริเวณรัฐเว่ยเดิม

ตอนนี้ หลังจากถูกเซียวอวี๋ปราบพิชิต พื้นที่รัฐเว่ยเดิมก็กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี กำลังจะกลายเป็นหัวเมืองอันรุ่งเรือง หากการพัฒนาดำเนินต่อไปเช่นนี้ ทั่วทั้งดินแดนไลอ้อนก้จะเป็นแผ่นดินอันศิวิไลซ์

อย่างไรก็ตาม ศาสนจักรไม่มอบโอกาสนั้นต่อเซียวอวี๋

เดิมที เซียวอวี๋กำลังคิดจะจัดงานแต่งงาน หากแต่ตอนนี้จำต้องเลื่อนออกไปก่อนแล้ว

“มารดามันเถอะ ศาสนจักรนี่ต้องการจะเป็นศัตรูกับลูกพี่มากนักใช่ไหม” เซียวอวี๋คิดอย่างขื่นขม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น สงครามก็สงครามเถอะ

หลังจากไปร่วมศึกใหญ่ที่จักรวรรดิเมฆามาสองครา กองทัพของดินแดนไลอ้อนก็เปลี่ยนแปลงไปมาก

อีกทั้งเวลานี้ ค่าผลงานของเซียวอวี๋เพียงพอที่จะเลื่อนระดับฐานทัพจากสองเป็นสามแล้ว รถถังและปืนใหญ่ของฐานทัพมนุษย์ก็ใกล้จะได้เผยโฉมแล้ว

คิดถึงเรื่องนี้ เซียวอวี๋ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ครั้งนี้เขาจะให้ศาสนจักรได้ลิ้มรสชาติของยูนิตสุดแกร่ง

ด้วยเหตุนี้ หลังจากการประชุม เซียวอวี๋ก็รีบบึ่งไปยังฐานทัพมนุษย์และเลือกอัพเกรดเป็นระดับสามทันที

กระบวนการนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นเซียวอวี๋จึงเดินทางไปหาอาร์ทัสเพื่อดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ และเมื่อเขาไปถึงก็ต้องตกใจ เพราะเวลานี้อาร์ทัสอยู่ในขั้นที่หกแล้ว ไม่ได้ล้าหลังฮีโร่คนอื่นๆเลย

เซียวอวี๋ประหลาดใจยิ่ง เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขามาก กองทัพที่อาร์ทัสบัญชาการแทบไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเซียวอวี๋เลย พวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

เซียวอวี๋เอ่ยปากถาม และอาร์ทัสก็เล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา อาร์ทัสบอกว่า พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความตายที่ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้า พวกเขารับเอาพลังจากบนนั้นมา และนั่นก็ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เซียวอวี๋นิ่งตะลึง เขาเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

แน็กแรม

มารดามันเถอะ ที่แท้เหตุผลที่นครลอยฟ้าแห่งนี้ลอยไปทางเทือกเขาอัลคาเกนก็เพราะทิศทางนั้นเป็นที่ตั้งของฐานทัพอันเดดนี่เอง

จะว่าไปแล้ว แน็กแรมและอาร์ทัสก็มีความเกี่ยวพันกันอย่างลึกล้ำ ไม่แปลกที่พวกเขาจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

เซียวอวี๋นิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าเวลานี้ควรกล่าวอะไรดี เดิมทีเขากังวลว่าอาร์ทัสและกองทัพของเขาจะแข็งแกร่งจนสร้างความวุ่ยวายขึ้นในอนาคต ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้นเหนือความคาดหมายของเขาไปไกลโข

ดูเหมือนว่าจะมีฝ่ามือในเงามืดคอยควบคุมความเป็นไปของโชคชะตาอยู่

เซียวอวี๋ส่ายศีรษะทอดถอนใจ สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตา บางที นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าชะตากรรม….

World of Warcraft ราชันต่างภพ

World of Warcraft ราชันต่างภพ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 - 300 อ่านนิยาย ตอนที่ 301 - 400 อ่านนิยาย ตอนที่ 401 - 450 อ่านนิยาย ตอนที่ 451 - 460 อ่านนิยาย ตอนที่ 461 - 465 อ่านนิยาย ตอนที่ 466 - 469 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


เซียวอวี๋ นักศึกษาจากโลกยุคปัจจุบัน เกิดอุบัติเหตุบางอย่างทำให้เขาได้หลุดเข้าไปที่อีกโลกหนึ่งในฐานะลอร์ดแห่งดินแดน เขาได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากมาย เขาสาบานว่าสักวันเขาจะต้องเอาธุรกิจของตระกูลกลับคืนมาให้จงได้ สร้างดินแดนของตัวเอง สังหารผู้ใดก็ตามที่มาขวางทางผลประโยชน์ของเขา โลกนี้เขาจะปกครองมันเอง!


Options

not work with dark mode
Reset