World domination system 143 NOA 2

ตอนที่ 143 NOA ตอนที่ 2

นิยาย World domination system WDS Chapter 143 NOA ตอนที่ 2 ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ความมีชีวิต ชีวาได้หายออกไปจากบาร์ส่วนใหญ่ในราชอาณาจักรแลนธานอร์เนื่องจากการหายตัวไปของกวีส่วนใหญ่ในราชอาณาจักร ขณะที่ขี้เมาจํานวนมากถือไวน์ไว้ใน มือพร้อมกับร้องรําทําเพลงหรือพูดคุยกันได้มีการสัมภาษณ์เกิดขึ้นในห้องลับที่อยู่ใต้ดินของราชอาณาจักรแลนธานอร์ ทีละคนทีละคน ชายและหญิงที่แต่ งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสเดินไปข้างหน้าแล้วร้องตามท่วงทํานองในกระดาษที่พวกเขาได้รับ พวกเขาถอนหายใจบ่อยครั้งขณะที่เห็นว่าชายที่ทรงอํานาจมากที่สุดในแลนธานอร์เป็นผู้สัมภาษณ์พวกเขา ไม่กี่วันก่อน ได้มีการปิดประกาศทั่วทั้ง แลนธานอร์เชิญชวนให้กวีเข้ามาทํางานในพระราชวังผู้สมัครทุกคนจะต้องรายงานตัวที่พระราชวังภายใน 2 วัน สิ่งที่ทําให้ทุกคนที่เห็นใบประกาศเต็มไปด้วยความอิจฉาก็คือ ปริมาณเงิน เดือนที่พวกเขาจะได้รับ 50 แลนทอง/เดือน นี่เป็นเงินเดือนในระดับพ่อค้าขนาดเล็กที่ทํางานอย่างหนักและขายสินค้าได้มากที่สุดหากใครสามารถจะมีรายได้ในหนึ่งเดือนมากขนาดนี้พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยได้โดยไม่ต้ องคิดอะไรมาก แม้ว่าประกาศนี้จะดึงดูดประชาชนเป็น จํานวนมาก แต่คนที่เป็นเป้าหมายของ ประกาศนี้มีเพียงกวีเท่านั้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งบรรทัดสุดท้ายในประกาศที่ว่า “เหล่ากวีที่ได้รับเลือก จะมีโอกาสจารี กชื่อของพวกเขาไว้ในประวัติศาสตร์” ในแลนธานอร์ และส่วนใหญ่ของทั้ง ทวีปกวีไม่ใช่อาชีพที่มีรายได้สูงมากนักมีหลายครั้งที่พวกเขาจะต้องไปนอนตามท้องถนน เนื่องจากไม่มีบาร์ที่ยินดีจะจ่ายค่าอาหารและค่าที่พักเพื่อว่าจ้างพวกเขาทางเลือกถัดไปของพวกเขาก็ไปคือไปตามบ้านของผู้คน เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับเด็กในบ้านเหล่านั้นแต่มันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นที่ตอบรับมากนัก แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะรู้ตัวดีว่า พวกเขาจะหมดตัวจากการเดินในเส้นทางนี้ของพวกเขา แต่พวกเขาหลายคน ก็ยังคงเลือกที่จะเดินในเส้นทางที่เต็มไปด้วยความยากลําบากนี้ นี่เป็นเพราะพวกเขารักและหลงไหล ในเรื่องราวและเสียงเพลงของพวกมัน บางคนเริ่มหลงไหลตั้งแต่ยังเด็ก และ มันก็ค่อยๆเติบโตมากยิ่งขึ้นในทุกๆปีจนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจกระโดด เข้าไปในเส้นทาง
ขณะที่คนที่เหลืออาจจะได้รับอิทธิพลจากมันในภายหลังจากนั้น พวกเขาก็สละทุกสิ่งในชีวิตเพื่อมันราว ความรักต่อประวัติศาสตร์ เรื่องราว และปรัมปรา นี่เป็นสิ่งเดียวที่รวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เมื่อเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่พวกเขา จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวดังกล่าวเปลวเพลิงก็ลุกไหม่ในดวงตาของพวก เขา เร่งเร้าให้พวกเขาไปยังสถานที่ที่เขียนไว้ในประกาศก่อนกําหนดเวลา หลังจากที่ได้เห็นการตอบรับ แดน ลก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี มันเป็นความคิดของเขาที่ลงบรรทัดสุดท้าย ของประกาศ ขณะที่เคลเลอร์ไม่มั่นใจเกี่ยวกับมันสําหรับคนส่วนใหญ่แล้วพวกเขาเพียงแค่คิดกันว่าเงินเดือนดังกล่าวเพียงพอที่จะดึดดูดคนทั้งหมดแล้ว
เนื่องจากในโลกเดิม ศิลปะที่ทรงคุณ ค่าล้วนแล้วแต่ได้รับการยอมรับในระดับสูงแดนลจึงตระหนักได้ถึงความสําคัญ ของความหลงไหลในศิลปะดังนั้นเขาจงบอกให้เคลเลอร์ทําเช่นนั้น ในความเป็นจริง เคลเลอร์รู้สึกอับอาย เป็นอย่างมากที่เขาพบว่า ไม่มีใครเลยที่ถามถึงเงินเดือนขณะที่เข้ามาภายในพระราชวัง เนื้อหาสาระในคํากล่าวส่วนใหญ่ของพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับบรรทัดสุดท้าย ดังนั้น ในตอนนี้ที่เขายืนอยู่ข้างๆแด นีล เขาเกิดความสงสัยว่า เหตุใดราชาของเขาถึงสามารถคาดเดาแรงจูงใจของ เหล่าคนไร้สาระเหล่านี้ได้ ในทางกลับกัน แดนลถึงกับสาบแช่ งตัวเองที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องต่างๆเหล่านี้มากนักตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขามายังอยู่ที่โลกเดิม ข้อมูลที่เขาได้รับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ เรื่องนี้ มาจากบทความที่เขาเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ ข้อความหนึ่งที่เขาจําได้จากโลกเดิม และนํามันมาใช้ในแผนการของเขาก็คือ“หากต้องการที่จะครอบครองประเทศ ก็ จําเป็นที่จะยึดสื่อให้ได้เสียก่อนตราบเท่าที่สามารถควบคุมความคิดของประ เทศได้คุณก็จะสามารถทําให้ประชาชนท่าในสิ่งที่คุณต้องการได้
ไม่มีเครือข่ายการข่าวที่เหมาะสมใน แอนแกเรีย เหตุผลหลักๆมาจากราคาที่สูงของของเครื่องประดับเวทมนต์สื่อสาร และความแพร่หลายของกระดานประกาศข่าวสําคัญๆจะถูกติดประกาศไว้ใน ช่องทางหลังซึ่งโดยทั่วไปแล้วการกระจายข้อมูลเช่นนี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว นี่เป็นเพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ สนใจเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในราชอาณาจักรอย่างแท้จริงตราบเท่าที่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาพวกเขาก็แทบจะไม่สนใจใดๆกับมัน แน่นอนว่า เอลดินอร์แตกต่างออกไป และมันมีช่องว่างให้แดนีลสามารถจะเข้าไปแทรกแซงได้ เขามีความทะเยอทะยานสูงสําหรับ แผนการนี้ ซึ่งมันทําให้เขาตัดสินใจทดสอบในแลนธานอร์ที่ทุกอย่างสามารถจะควบคุมได้ เครื่องประดับเวทมนต์สื่อสาร และแม้ แต่สถานีออกอากาศ ก็ถูกจัดทําขึ้นโดยการทํางานร่วมกันของแดนีลและริปลีย์ ตอนนี้ สิ่งสุดท้ายที่จะต้องจัดการก็คือ คนที่จะทําหน้าที่เป็นเสียงของการดําเนินงานทั้งหมด
ในการเริ่มต้นผลงานของพวกเขา เค รื่องประดับเวทมนต์สื่อสารสามารถจะส่ง เสียงออกมาได้เท่านั้น ดังนั้น ในความ เป็นจริงแล้ว สิ่งที่แดนลกําลังจะสร้างขึ้นมาก็คือสถานีวิทยุแห่งแรกในทวีปแอน แกเรีย เพื่อจุดประสงค์นี้ เขาตัดสินใจทดสอบ ง่ายๆ กระดาษที่เขาแจกให้เหล่ากวีอ่าน มี ข้อความดังนี้ “พวกเอลฟ์เป็นหนี้แลนธานอร์ แต่ พวกเขาปฏิเสธที่จะจ่าย ดังนั้น ในขณะที่พวกเขาพยายามจะโจมตีองค์ราชาก็ได้นําการคุกคามพวกเขาด้วยตัวเองหลังจากสังหารพวกเขาทั้งหมดแล้วเงินก็จะถูกนํากลับมาซึ่งมันจะถูกใช้สําหรับยกระดับเหล่าคนยากจนในแลนธานอร์จงถ่ายทอดข้อความนี้แบบที่จะทําให้ผู้คนสนใจสําหรับสไตร์การถ่ายทอดพวกเจ้าสามารถเลือกได้เอง” สิ่งที่เขาต้องการก็คือ คนที่มีน้ําเสียง ไพเราะและมีความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถจะบอกข่าวและสิ่งที่อื่นในลักษณะที่อาจจะทําให้คนอื่นๆที่กําลังรับฟังหลงไหลและตั้งใจฟังได้
แล้วสิ่งที่เขาได้ฟังก็คือ นิยานอย่างเช่น “ทุกคนฟังให้ดี นี่คือนิทานของเอลฟ์ ชั่วร้ายและราชาผู้ยิ่งใหญ่ ทุกอย่าง เริ่มต้นในวันที่…” หรือบทเพลงอย่างเช่น “เอลฟ์ฉลาดเจ้าเล่ห์ พวกเขาช่างชั่วร้า ยจริงๆ” “แต่ไม่ต้องกังวลไป แลนธานอร์จะ สังหารพวกเขาเอง “พวกเขาไม่ยินดีที่จะชําระหนี้” “เพื่อปูทางไปสู่วัน…” ความจริงที่น่าเศร้าก็คือ เกือบทุกคน คุ้นเคยกับการพยายามออกเสียงด้วยน้ําเสียงที่ไพเพราะที่สุดเท่าที่สามารถจะ ทําได้ เพื่อที่จะสร้างความบันเทิงให้ได้ยาวนานที่สุดซึ่งมันค่อนข้างจะไร้ประโย ชน์สําหรับแผนการของเขาตอนนี้มันจําเป็นจะต้องมีการบอกข่าวอย่างรวบรัดและสร้างสรรค์ขณะที่ภาพปกติและการแสดงออกของกวีจะต้องจางหายไปโดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้มีไว้สําหรับดึงดูดผู้คนเท่านั้น กระนั้น แดนลก็ยังคงหวังว่า เขาจะสามารถค้นหาคนที่เหมาะสมได้ แม้หลังจากที่เขาเตือนพวกเขาไปบ้างแล้วเขาก็ยังคงได้ฟังนิทานและบทเพลงที่มากเกินไปเช่นเดิม ในที่สุด เขาก็หมดความอดทนและสั่ง ให้หยุดพัก หลังจากสัมภาษณ์มาได้ 2 ชั่วโมงเขาก็ทําได้เพียงเลือกผู้หญิง 2 คนที่ไม่ได้พูดจาไพเราะมากเกินไปกระนั้นพวกเธอก็จําเป็นจะต้องได้รับ การขัดเกลาก่อนที่จะถูกพาไปออกอากาศ เดินกลับมายังห้องโถงของราชา เขา กําลังคิดว่าจะทําให้แผนการนี้สําเร็จได้อย่างไรมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะจัด การทุกอย่างด้วยตัวของเขาเองน่าเสียดายที่ไม่มีใครที่เขาสามารถจะไว้วางใจให้รับผิดชอบเรื่องนี้ได้เลย ในฉับพลัน จังหวะก้าวที่รวดเร็วของ เขาหยุดลง หลังจากที่ได้ยินเสียงอันไพเราะที่ดังมาจากทางแยกในทางเดินที่ เขาเพิ่งจะเดินผ่านมา “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า ในทั้งแอนแกเรีย แลนธานอร์เป็นราชอาณาจักรที่มีกําแพงสูงที่สุด? มันมีการกล่าวกันว่า พวกยักษ์ ได้เข้ามาช่วยเหลือในการก่อสร้างพวกเราก็ยังได้รับการสืบเชื้อสายมาจากยักษ์ อีกด้วย แม้ของข้าบอกกับข้าเกี่ยวกับประตูในพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ถึง 10 ฟุต พวกเจ้าจะต้องยืนต่อๆกันถึงจะไปถึงจุดสูงสุดของมันได้” “ว้าว พี่สาว ช่วยเล่าให้พวกเราฟังมาก กว่านี้ได้หรือไม่?” ได้ยินเสียงนี้ เขาก็คิดถึงผู้หญิงที่ถอด ชุดของเธอต่อหน้าเขา ขณะที่เธอพยายามร้องขอให้เขาปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างถูกต้อง เดินเข้าไปใกล้ เขาเห็นเอลอยเซ่หัว เราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะแสดงออกอย่างหวั่นเกรงบนใบหน้าของเธอ แม้เธอจะก้าวถอยหลังไปขณะที่เห็น เขา แต่แดนีลกลับยิ้มกว้าวออกมาเขารู้ว่าเขาอาจจะได้พบผู้สมัครที่สมบูรณ์แบบที่จะเป็นผู้นําแผนการเครือข่ายแอนแกเรีย(NOA)ของเขาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร คนที่ได้รับการฝึกอบรม มารยาทและทักษะมาตั้งแต่เด็กก็ย่อมมีคุณสมบัติที่ดีมากกว่าคนอื่นๆ นอกจากนี้ เธอยังใจดีกับเด็กๆ และสนใจในชีวิตของประชาชนอีกด้วย สิ่งที่เขาต้องการก็คือคนที่เขาสามาร ถจะไว้วางใจได้ และมีประสบการณ์ในการจัดการกับคน และตอนนี้ บุคคลนั้นได้ยืนอยู่ตรงหน้า ของเขาด้วยการแสดงออกที่หวาดกลัวบนใบหน้าของเธอซึ่งมันก็ทําให้แดนล สงสัยว่าเขาเป็นคนที่น่าหวาดกลัวหรือไม่?

นิยาย World domination system

WDS Chapter 143 NOA ตอนที่ 2

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ความมีชีวิต ชีวาได้หายออกไปจากบาร์ส่วนใหญ่ในราชอาณาจักรแลนธานอร์เนื่องจากการหายตัวไปของกวีส่วนใหญ่ในราชอาณาจักร

ขณะที่ขี้เมาจํานวนมากถือไวน์ไว้ใน มือพร้อมกับร้องรําทําเพลงหรือพูดคุยกันได้มีการสัมภาษณ์เกิดขึ้นในห้องลับที่อยู่ใต้ดินของราชอาณาจักรแลนธานอร์

ทีละคนทีละคน ชายและหญิงที่แต่ งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสเดินไปข้างหน้าแล้วร้องตามท่วงทํานองในกระดาษที่พวกเขาได้รับ

พวกเขาถอนหายใจบ่อยครั้งขณะที่เห็นว่าชายที่ทรงอํานาจมากที่สุดในแลนธานอร์เป็นผู้สัมภาษณ์พวกเขา

ไม่กี่วันก่อน ได้มีการปิดประกาศทั่วทั้ง แลนธานอร์เชิญชวนให้กวีเข้ามาทํางานในพระราชวังผู้สมัครทุกคนจะต้องรายงานตัวที่พระราชวังภายใน 2 วัน

สิ่งที่ทําให้ทุกคนที่เห็นใบประกาศเต็มไปด้วยความอิจฉาก็คือ ปริมาณเงิน เดือนที่พวกเขาจะได้รับ

50 แลนทอง/เดือน

นี่เป็นเงินเดือนในระดับพ่อค้าขนาดเล็กที่ทํางานอย่างหนักและขายสินค้าได้มากที่สุดหากใครสามารถจะมีรายได้ในหนึ่งเดือนมากขนาดนี้พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยได้โดยไม่ต้ องคิดอะไรมาก

แม้ว่าประกาศนี้จะดึงดูดประชาชนเป็น จํานวนมาก แต่คนที่เป็นเป้าหมายของ ประกาศนี้มีเพียงกวีเท่านั้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งบรรทัดสุดท้ายในประกาศที่ว่า

“เหล่ากวีที่ได้รับเลือก จะมีโอกาสจารี กชื่อของพวกเขาไว้ในประวัติศาสตร์”

ในแลนธานอร์ และส่วนใหญ่ของทั้ง ทวีปกวีไม่ใช่อาชีพที่มีรายได้สูงมากนักมีหลายครั้งที่พวกเขาจะต้องไปนอนตามท้องถนน เนื่องจากไม่มีบาร์ที่ยินดีจะจ่ายค่าอาหารและค่าที่พักเพื่อว่าจ้างพวกเขาทางเลือกถัดไปของพวกเขาก็ไปคือไปตามบ้านของผู้คน เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับเด็กในบ้านเหล่านั้นแต่มันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นที่ตอบรับมากนัก

แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะรู้ตัวดีว่า พวกเขาจะหมดตัวจากการเดินในเส้นทางนี้ของพวกเขา แต่พวกเขาหลายคน ก็ยังคงเลือกที่จะเดินในเส้นทางที่เต็มไปด้วยความยากลําบากนี้

นี่เป็นเพราะพวกเขารักและหลงไหล ในเรื่องราวและเสียงเพลงของพวกมัน

บางคนเริ่มหลงไหลตั้งแต่ยังเด็ก และ มันก็ค่อยๆเติบโตมากยิ่งขึ้นในทุกๆปีจนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจกระโดด เข้าไปในเส้นทาง
ขณะที่คนที่เหลืออาจจะได้รับอิทธิพลจากมันในภายหลังจากนั้น พวกเขาก็สละทุกสิ่งในชีวิตเพื่อมันราว

ความรักต่อประวัติศาสตร์ เรื่องราว และปรัมปรา นี่เป็นสิ่งเดียวที่รวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน

เมื่อเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่พวกเขา จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวดังกล่าวเปลวเพลิงก็ลุกไหม่ในดวงตาของพวก เขา เร่งเร้าให้พวกเขาไปยังสถานที่ที่เขียนไว้ในประกาศก่อนกําหนดเวลา

หลังจากที่ได้เห็นการตอบรับ แดน ลก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี มันเป็นความคิดของเขาที่ลงบรรทัดสุดท้าย ของประกาศ ขณะที่เคลเลอร์ไม่มั่นใจเกี่ยวกับมันสําหรับคนส่วนใหญ่แล้วพวกเขาเพียงแค่คิดกันว่าเงินเดือนดังกล่าวเพียงพอที่จะดึดดูดคนทั้งหมดแล้ว
เนื่องจากในโลกเดิม ศิลปะที่ทรงคุณ ค่าล้วนแล้วแต่ได้รับการยอมรับในระดับสูงแดนลจึงตระหนักได้ถึงความสําคัญ ของความหลงไหลในศิลปะดังนั้นเขาจงบอกให้เคลเลอร์ทําเช่นนั้น

ในความเป็นจริง เคลเลอร์รู้สึกอับอาย เป็นอย่างมากที่เขาพบว่า ไม่มีใครเลยที่ถามถึงเงินเดือนขณะที่เข้ามาภายในพระราชวัง เนื้อหาสาระในคํากล่าวส่วนใหญ่ของพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับบรรทัดสุดท้าย

ดังนั้น ในตอนนี้ที่เขายืนอยู่ข้างๆแด นีล เขาเกิดความสงสัยว่า เหตุใดราชาของเขาถึงสามารถคาดเดาแรงจูงใจของ เหล่าคนไร้สาระเหล่านี้ได้

ในทางกลับกัน แดนลถึงกับสาบแช่ งตัวเองที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องต่างๆเหล่านี้มากนักตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขามายังอยู่ที่โลกเดิม

ข้อมูลที่เขาได้รับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ เรื่องนี้ มาจากบทความที่เขาเคยอ่านในหนังสือพิมพ์

ข้อความหนึ่งที่เขาจําได้จากโลกเดิม และนํามันมาใช้ในแผนการของเขาก็คือ“หากต้องการที่จะครอบครองประเทศ ก็ จําเป็นที่จะยึดสื่อให้ได้เสียก่อนตราบเท่าที่สามารถควบคุมความคิดของประ เทศได้คุณก็จะสามารถทําให้ประชาชนท่าในสิ่งที่คุณต้องการได้
ไม่มีเครือข่ายการข่าวที่เหมาะสมใน แอนแกเรีย เหตุผลหลักๆมาจากราคาที่สูงของของเครื่องประดับเวทมนต์สื่อสาร และความแพร่หลายของกระดานประกาศข่าวสําคัญๆจะถูกติดประกาศไว้ใน ช่องทางหลังซึ่งโดยทั่วไปแล้วการกระจายข้อมูลเช่นนี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

นี่เป็นเพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ สนใจเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในราชอาณาจักรอย่างแท้จริงตราบเท่าที่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาพวกเขาก็แทบจะไม่สนใจใดๆกับมัน

แน่นอนว่า เอลดินอร์แตกต่างออกไป และมันมีช่องว่างให้แดนีลสามารถจะเข้าไปแทรกแซงได้

เขามีความทะเยอทะยานสูงสําหรับ แผนการนี้ ซึ่งมันทําให้เขาตัดสินใจทดสอบในแลนธานอร์ที่ทุกอย่างสามารถจะควบคุมได้

เครื่องประดับเวทมนต์สื่อสาร และแม้ แต่สถานีออกอากาศ ก็ถูกจัดทําขึ้นโดยการทํางานร่วมกันของแดนีลและริปลีย์

ตอนนี้ สิ่งสุดท้ายที่จะต้องจัดการก็คือ คนที่จะทําหน้าที่เป็นเสียงของการดําเนินงานทั้งหมด
ในการเริ่มต้นผลงานของพวกเขา เค รื่องประดับเวทมนต์สื่อสารสามารถจะส่ง เสียงออกมาได้เท่านั้น ดังนั้น ในความ เป็นจริงแล้ว สิ่งที่แดนลกําลังจะสร้างขึ้นมาก็คือสถานีวิทยุแห่งแรกในทวีปแอน แกเรีย

เพื่อจุดประสงค์นี้ เขาตัดสินใจทดสอบ ง่ายๆ

กระดาษที่เขาแจกให้เหล่ากวีอ่าน มี ข้อความดังนี้

“พวกเอลฟ์เป็นหนี้แลนธานอร์ แต่ พวกเขาปฏิเสธที่จะจ่าย ดังนั้น ในขณะที่พวกเขาพยายามจะโจมตีองค์ราชาก็ได้นําการคุกคามพวกเขาด้วยตัวเองหลังจากสังหารพวกเขาทั้งหมดแล้วเงินก็จะถูกนํากลับมาซึ่งมันจะถูกใช้สําหรับยกระดับเหล่าคนยากจนในแลนธานอร์จงถ่ายทอดข้อความนี้แบบที่จะทําให้ผู้คนสนใจสําหรับสไตร์การถ่ายทอดพวกเจ้าสามารถเลือกได้เอง”

สิ่งที่เขาต้องการก็คือ คนที่มีน้ําเสียง ไพเราะและมีความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถจะบอกข่าวและสิ่งที่อื่นในลักษณะที่อาจจะทําให้คนอื่นๆที่กําลังรับฟังหลงไหลและตั้งใจฟังได้
แล้วสิ่งที่เขาได้ฟังก็คือ

นิยานอย่างเช่น

“ทุกคนฟังให้ดี นี่คือนิทานของเอลฟ์ ชั่วร้ายและราชาผู้ยิ่งใหญ่ ทุกอย่าง เริ่มต้นในวันที่…”

หรือบทเพลงอย่างเช่น

“เอลฟ์ฉลาดเจ้าเล่ห์ พวกเขาช่างชั่วร้า ยจริงๆ”

“แต่ไม่ต้องกังวลไป แลนธานอร์จะ สังหารพวกเขาเอง

“พวกเขาไม่ยินดีที่จะชําระหนี้”

“เพื่อปูทางไปสู่วัน…”

ความจริงที่น่าเศร้าก็คือ เกือบทุกคน คุ้นเคยกับการพยายามออกเสียงด้วยน้ําเสียงที่ไพเพราะที่สุดเท่าที่สามารถจะ ทําได้ เพื่อที่จะสร้างความบันเทิงให้ได้ยาวนานที่สุดซึ่งมันค่อนข้างจะไร้ประโย ชน์สําหรับแผนการของเขาตอนนี้มันจําเป็นจะต้องมีการบอกข่าวอย่างรวบรัดและสร้างสรรค์ขณะที่ภาพปกติและการแสดงออกของกวีจะต้องจางหายไปโดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้มีไว้สําหรับดึงดูดผู้คนเท่านั้น

กระนั้น แดนลก็ยังคงหวังว่า เขาจะสามารถค้นหาคนที่เหมาะสมได้ แม้หลังจากที่เขาเตือนพวกเขาไปบ้างแล้วเขาก็ยังคงได้ฟังนิทานและบทเพลงที่มากเกินไปเช่นเดิม

ในที่สุด เขาก็หมดความอดทนและสั่ง ให้หยุดพัก หลังจากสัมภาษณ์มาได้ 2 ชั่วโมงเขาก็ทําได้เพียงเลือกผู้หญิง 2 คนที่ไม่ได้พูดจาไพเราะมากเกินไปกระนั้นพวกเธอก็จําเป็นจะต้องได้รับ การขัดเกลาก่อนที่จะถูกพาไปออกอากาศ

เดินกลับมายังห้องโถงของราชา เขา กําลังคิดว่าจะทําให้แผนการนี้สําเร็จได้อย่างไรมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะจัด การทุกอย่างด้วยตัวของเขาเองน่าเสียดายที่ไม่มีใครที่เขาสามารถจะไว้วางใจให้รับผิดชอบเรื่องนี้ได้เลย

ในฉับพลัน จังหวะก้าวที่รวดเร็วของ เขาหยุดลง หลังจากที่ได้ยินเสียงอันไพเราะที่ดังมาจากทางแยกในทางเดินที่ เขาเพิ่งจะเดินผ่านมา

“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า ในทั้งแอนแกเรีย แลนธานอร์เป็นราชอาณาจักรที่มีกําแพงสูงที่สุด? มันมีการกล่าวกันว่า พวกยักษ์ ได้เข้ามาช่วยเหลือในการก่อสร้างพวกเราก็ยังได้รับการสืบเชื้อสายมาจากยักษ์ อีกด้วย แม้ของข้าบอกกับข้าเกี่ยวกับประตูในพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ถึง 10 ฟุต พวกเจ้าจะต้องยืนต่อๆกันถึงจะไปถึงจุดสูงสุดของมันได้”

“ว้าว พี่สาว ช่วยเล่าให้พวกเราฟังมาก กว่านี้ได้หรือไม่?”

ได้ยินเสียงนี้ เขาก็คิดถึงผู้หญิงที่ถอด ชุดของเธอต่อหน้าเขา ขณะที่เธอพยายามร้องขอให้เขาปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างถูกต้อง

เดินเข้าไปใกล้ เขาเห็นเอลอยเซ่หัว เราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะแสดงออกอย่างหวั่นเกรงบนใบหน้าของเธอ

แม้เธอจะก้าวถอยหลังไปขณะที่เห็น เขา แต่แดนีลกลับยิ้มกว้าวออกมาเขารู้ว่าเขาอาจจะได้พบผู้สมัครที่สมบูรณ์แบบที่จะเป็นผู้นําแผนการเครือข่ายแอนแกเรีย(NOA)ของเขาแล้ว

ไม่ว่าอย่างไร คนที่ได้รับการฝึกอบรม มารยาทและทักษะมาตั้งแต่เด็กก็ย่อมมีคุณสมบัติที่ดีมากกว่าคนอื่นๆ นอกจากนี้ เธอยังใจดีกับเด็กๆ และสนใจในชีวิตของประชาชนอีกด้วย

สิ่งที่เขาต้องการก็คือคนที่เขาสามาร ถจะไว้วางใจได้ และมีประสบการณ์ในการจัดการกับคน

และตอนนี้ บุคคลนั้นได้ยืนอยู่ตรงหน้า ของเขาด้วยการแสดงออกที่หวาดกลัวบนใบหน้าของเธอซึ่งมันก็ทําให้แดนล สงสัยว่าเขาเป็นคนที่น่าหวาดกลัวหรือไม่?

World domination system

World domination system

Score 10
Status: Completed

[*ติ๊ง* ระบบการปกครองโลกเริ่มต้นขึ้น]

 

โลกปัจจุบัน : ไม่รู้จัก

โฮสต์เจ้าบ้าน : ใกล้ตาย

เป้าหมายปัจจุบัน : รอดชีวิต

เป้าหมายโดยรวม : พิชิตและยึดครองโลก!]

 

นักศึกษามหาวิทยาลัยกำลังดิ้นรนหาเงินสำหรับการทดสอบที่โฆษณาว่าปลอดภัย แต่ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ทันทีที่เขาถูกมัดไว้บนเก้าอี้และมีขั้วไฟฟ้าวางอยู่บนศีรษะของเขาเขาก็หลับไป แต่ตื่นขึ้นมาด้วยการที่มีเสียงหุ่นยนต์อยู่ในหัวของเขา

 

คำเหล่านี้เริ่มต้นการผจญภัยของดานีลในโลกที่ไม่รู้จัก

เขาจะสำรวจและพิชิตโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามที่ระบุไว้ในระบบหรือไม่? เขาจะตายและถูกลืมภายในรัศมีเวลาหรือไม่?

Options

not work with dark mode
Reset