[WN ]Ore no Oyome-san, Hentai Kamo Shirenai: Zero Kyori datta Osananajimi, Kekkon Shita Totan Sokuochi Shite Ore ni Muchuu desu 1.2 เรามาแต่งงานกันเถอะ! (2)

ตอนที่ 1.2 เรามาแต่งงานกันเถอะ! (2)

คำเตือน: จะมีเนื้อหาฉีกออกจากฉบับมังงะมาพอสมควร เพราะฉนั้น ได้โปรด ถอดสมองก่อนอ่าน❤️

 

ต่อจากตอนก่อนน้าา—

 

 

“อ๊ะ…ใช่แล้ว! ถ้าเราจะแต่งงานกันจริงๆ เราต้องเกลี้ยกล่อมพ่อแม่ของเรา”

 

“นี่เธอลืมไปแล้วเหรอ ปีนี้พวกเราอายุ18กันพอดี แสดงว่าตอนนี้เราสามารถแต่งงานได้โดยไม่ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกรอง”

 

“อะ..อึ้ม จริงด้วย!”

 

หลังจากนั้น เราก็ไม่ได้ค้นคว้าอะไรมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าหากเราถูกลอตเตอรี่

 

แต่เราทำการค้นคว้ามากมายเกี่ยวกับวิธีแต่งงานและการเตรียมการ

 

จากนั้นเราไปที่สำนักงานเทศบาลเพื่อขอสำเนาทะเบียนบ้านและอื่นๆ

 

ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและเมื่ออายุ ครบ18 ปี ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบกับพ่อแม่เพื่อดูว่าพวกเขาให้ความยินยอมกับเราหรือไม่

 

การเตรียมการดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่มีปัญหากับส่วนของพยานในทะเบียนสมรส

 

อายุของเราจะครบ 18 ปีแล้ว แต่ต้องมีลายเซ็นของผู้ที่มีอายุมากกว่า 20 ปี

 

“…อ่า..เอาใครดีนะ..”

 

“เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน! เรายังเรียนอยู่ม.ปลายใช่มั้ย? มีกฎของโรงเรียนห้ามการแต่งงานในโรงเรียนมัธยมรึเปล่า—?”

 

ผมคิดว่าคงไม่เป็นไร ตอนที่ผมอ่านกฎของโรงเรียนในคู่มือนักเรียนในขณะที่ผมกำลังรวบรวมทะเบียนครอบครัวและเรื่องนั้น มันไม่ได้กล่าวอะไรเลยเกี่ยวกับการไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งงาน…

 

“อะ…อึม..ไม่น่ามีนะ”

 

ตอนที่ผมเขียนทะเบียนสมรส เลยเจอคอลัมน์สำหรับพยานการแต่งงาน

 

สำหรับตอนนี้ ผมเลยคิดจะเอามันกลับบ้านแล้วคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีก่อน

 

…ในขณะนั้น

 

“ผมขอรบกวนสักครู่ได้ไหมครับ? พวกคุณอยู่ในโรงเรียนมัธยมใช่รึเปล่า เราได้ยินประมาณว่า “การแต่งงานอะไรนี่” และพวกคุณยังไม่สามารถหาพยานที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 20 ปีได้ ถ้าไม่รังเกียจยังไงให้ผมกับภรรยาของผม เราจะเซ็นให้ ตกลงไหมครับ”

 

คนสองคนที่เพิ่งมาจดทะเบียนสมรสเดินเข้ามาหาเรา

 

พวกเขาคงได้ยินว่าเรากำลังกังวลเกี่ยวกับการขาดพยานในฐานะนักเรียนมัธยมปลาย

 

“..ทำไมคุณถึงช่วยเราเหรอครับ”

 

“แน่นอน เธออาจจะยังอยู่ในวัยที่ใครๆบอกว่ายังเด็ก อยู่ยังคงเชื่อในความรักและต้องการที่จะแต่งงาน เมื่อเธอเจอคนแบบนั้น เป็นเรื่องปกติไหมที่เราจะอยากช่วยพวกเขา?”

 

ไม่ใช่ว่าการเป็นพยานเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่

 

เราบังเอิญเจอคู่บ่าวสาวสองคนที่เพิ่งยื่นทะเบียนสมรส และพวกเขาก็ได้กรอกข้อมูลในช่องพยานในที่สุด

 

ดังนั้น การเตรียมการจึงสิ้นสุดลง

 

สิ่งที่เราต้องทำคือยื่นเอกสารและ—เราจะแต่งงาน

 

“ยูกิ ฉันเริ่มง่วงแล้วอ่ะ…”

 

“อึม..ฉันก็ด้วย”

 

ผมยื่นทะเบียนสมรสให้พนักงานที่เคาน์เตอร์อย่างประหม่า

 

อายุที่จะบรรลุนิติภาวะคือ 18 ปี เราไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครองอีกต่อไป

 

“ยินดีด้วยนะคะทั้งสองคน~”

 

—ชินโด ยูกิ และ มิตะ ซูซูกะ แต่งงานกัน—

 

ซูซูกะ เข้ามาในทะเบียนของผม และตอนนี้ชื่อของเธอกลายเป็น ชินโด ซูซูกะ…

 

.

 

.

 

.

 

เนื่องจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทำให้ยังมีเวลาพอสมควร

 

วันที่ 5 มกราคม วันที่แลกหวยได้

 

หลังจากยื่นทะเบียนสมรสแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่สถานที่รับเงินด้วยความกระฉับกระเฉง

 

เนื่องจากเราเป็นผู้ชนะรางวัลสูงสุด เราจึงถูกพาไปที่ห้องเล็กๆ เพื่อรับคำอธิบาย

 

“อืม คุณสองคนอยากรับด้วยกันหรือรับเป็นส่วนบุคคลดีคะ”

 

“ห๊ะ…รับเป็นส่วนบุคคล..!!?.”

 

“อ๊ะ…”

 

“หมายความว่ายังไงครับ!!”

 

“ก็หมายความว่าถ้าคนสองคนซื้อลอตเตอรีด้วยกัน ในกรณีของการซื้อร่วมกัน คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณแต่ละคนจะได้รับเท่าไร จากนั้นคุณสามารถรับรางวัลตามอัตราส่วนนั้นๆที่ตกลงกันไว้ค่ะ”

 

…..

 

“แล้วภาษีนั่นละ…”

 

“อะไรนะคะ..?”

 

ผมมีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

 

ตอนนี้ไม่สามารถห้ามไม่ให้เหงื่อไหลออกมาจากดวงตาของตัวเองได้….ไม่ ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้

 

“แน่นอน ว่าไม่มีภาษีอะไรพวกนี้ใช่มั้ยคะ…”

 

“ภาษี…อะไรเหรอคะ”

 

“…..”

 

“…..”

 

“เดี๋ยวฉันขอเช็คสักครู่นะคะ? ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด ฉันแน่ใจว่าคุณยินดีที่จะรู้ว่าเนื่องจากคุณสองคนเป็นสามีภรรยากัน คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งปันเงินรางวัลจากการซื้อร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อกล่าวหาขึ้นในอนาคต แล้วยังยากจะรับเป็นส่วนบุคคลหรือรับร่วมกันดีคะ”

 

“อ่ะ…รับเป็นส่วนบุคคลคลครับ แบ่งครึ่งเลย”

 

“นั้นเปอร์เซ็นต์การรับคือ 50 เปอร์เซ็นต์ต่อคน เราจะแบ่งครึ่งและโอนเงินเข้าบัญชีของคุณนะคะ”

 

“ครับ ขอบคุณครับ”

 

“…มีอะไรเหรอ..”

 

“อ๊ะ..เปล่าไม่มีอะไร”

 

ขั้นตอนดำเนินไปอย่างเงียบๆ โดยที่ผมไม่สามารถบอกได้ว่าตัวแต่งงานแล้ว เพราะผมคิดว่าจะมีภาษีการแบ่งเงิน…

 

..

 

.

 

ขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น ผมสามารถโอนเงินรางวัลของผมไปยังบัญชีที่สร้างขึ้นใหม่ได้ ตามที่คาดไว้ เงินจะไม่ถูกโอนในทันที

 

ผมรอคอยที่จะได้เห็นเงินโอนเข้าบัญชีใหม่ของตัวจริงๆ

 

—หลังจากนั้นพวกเราก็เดินออกมาจากสำนักงานและเสร็จสิ้นขั้นตอนของการรับเงินในที่สุด…

 

เมื่อเดินจากออกจากธนาคาร เราตัดสินใจที่จะดูสถานการณ์

 

“พวกเรางี่เง่าไม่ใช่เหรอ?”

 

“อึม ใช่แล้ว พวกเราเป็นคนงี่เง่า เราหวาดระแวงมากเกินไปกับเงินจำนวนมาก ทำไมพวกเราถึงคิดเรื่องบ้า บอๆ เกี่ยวกับการแต่งงานและไม่นึกถึงวิธีการรับเงินรางวัลของเรากันนะ…”

 

“เห้อ…เราจะทำยังไงต่อดี”

 

“…กะ..ก็ คง..จะต้องหย่ากันละมั้ง”

 

“ก็อย่างที่คาดไว้ ทั้งฉันแล้วก็ยูกิกำลังจะหย่ากันใช่มั้ย..? ถึงตอนนี้ตั้งแต่เราแต่งงานกัน เราจะใช้ชีวิตแบบคู่รักปกติได้ไหม…”

 

“ก็จริง…การแต่งงานไม่ได้ไม่ดีไม่ใช่ว่าเราเข้ากันไม่ได้หรืออะไร ถ้าเราเข้ากันได้จริง ๆ เราไม่เห็นจะต้องหย่ากันเลยนี่..”

 

“อะ..อื้อ…ถ้างั้น—ถ้างั้น พวกเราเอง ก็มาลองอยู่ด้วยกันมั้ย!..”

 

“ใช่ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีที่เราจะเป็นคู่สามีภรรยากัน”

 

“งั้น…พวกเรามาลองเป็นสามีภรรยากันเถอะ เนอะ~”

 

“..อะ อึ้ม….”

 

และชีวิตแต่งงานที่แปลกประหลาดของ ซูซูกะ และยูกิ ก็เริ่มขึ้น…

 

 

จบ~

คำเตือน: จะมีเนื้อหาฉีกออกจากฉบับมังงะมาพอสมควร เพราะฉนั้น ได้โปรด ถอดสมองก่อนอ่าน❤️

 

ต่อจากตอนก่อนน้าา—

 

 

“อ๊ะ…ใช่แล้ว! ถ้าเราจะแต่งงานกันจริงๆ เราต้องเกลี้ยกล่อมพ่อแม่ของเรา”

 

“นี่เธอลืมไปแล้วเหรอ ปีนี้พวกเราอายุ18กันพอดี แสดงว่าตอนนี้เราสามารถแต่งงานได้โดยไม่ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกรอง”

 

“อะ..อึ้ม จริงด้วย!”

 

หลังจากนั้น เราก็ไม่ได้ค้นคว้าอะไรมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าหากเราถูกลอตเตอรี่

 

แต่เราทำการค้นคว้ามากมายเกี่ยวกับวิธีแต่งงานและการเตรียมการ

 

จากนั้นเราไปที่สำนักงานเทศบาลเพื่อขอสำเนาทะเบียนบ้านและอื่นๆ

 

ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและเมื่ออายุ ครบ18 ปี ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบกับพ่อแม่เพื่อดูว่าพวกเขาให้ความยินยอมกับเราหรือไม่

 

การเตรียมการดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่มีปัญหากับส่วนของพยานในทะเบียนสมรส

 

อายุของเราจะครบ 18 ปีแล้ว แต่ต้องมีลายเซ็นของผู้ที่มีอายุมากกว่า 20 ปี

 

“…อ่า..เอาใครดีนะ..”

 

“เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน! เรายังเรียนอยู่ม.ปลายใช่มั้ย? มีกฎของโรงเรียนห้ามการแต่งงานในโรงเรียนมัธยมรึเปล่า—?”

 

ผมคิดว่าคงไม่เป็นไร ตอนที่ผมอ่านกฎของโรงเรียนในคู่มือนักเรียนในขณะที่ผมกำลังรวบรวมทะเบียนครอบครัวและเรื่องนั้น มันไม่ได้กล่าวอะไรเลยเกี่ยวกับการไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งงาน…

 

“อะ…อึม..ไม่น่ามีนะ”

 

ตอนที่ผมเขียนทะเบียนสมรส เลยเจอคอลัมน์สำหรับพยานการแต่งงาน

 

สำหรับตอนนี้ ผมเลยคิดจะเอามันกลับบ้านแล้วคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีก่อน

 

…ในขณะนั้น

 

“ผมขอรบกวนสักครู่ได้ไหมครับ? พวกคุณอยู่ในโรงเรียนมัธยมใช่รึเปล่า เราได้ยินประมาณว่า “การแต่งงานอะไรนี่” และพวกคุณยังไม่สามารถหาพยานที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 20 ปีได้ ถ้าไม่รังเกียจยังไงให้ผมกับภรรยาของผม เราจะเซ็นให้ ตกลงไหมครับ”

 

คนสองคนที่เพิ่งมาจดทะเบียนสมรสเดินเข้ามาหาเรา

 

พวกเขาคงได้ยินว่าเรากำลังกังวลเกี่ยวกับการขาดพยานในฐานะนักเรียนมัธยมปลาย

 

“..ทำไมคุณถึงช่วยเราเหรอครับ”

 

“แน่นอน เธออาจจะยังอยู่ในวัยที่ใครๆบอกว่ายังเด็ก อยู่ยังคงเชื่อในความรักและต้องการที่จะแต่งงาน เมื่อเธอเจอคนแบบนั้น เป็นเรื่องปกติไหมที่เราจะอยากช่วยพวกเขา?”

 

ไม่ใช่ว่าการเป็นพยานเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่

 

เราบังเอิญเจอคู่บ่าวสาวสองคนที่เพิ่งยื่นทะเบียนสมรส และพวกเขาก็ได้กรอกข้อมูลในช่องพยานในที่สุด

 

ดังนั้น การเตรียมการจึงสิ้นสุดลง

 

สิ่งที่เราต้องทำคือยื่นเอกสารและ—เราจะแต่งงาน

 

“ยูกิ ฉันเริ่มง่วงแล้วอ่ะ…”

 

“อึม..ฉันก็ด้วย”

 

ผมยื่นทะเบียนสมรสให้พนักงานที่เคาน์เตอร์อย่างประหม่า

 

อายุที่จะบรรลุนิติภาวะคือ 18 ปี เราไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครองอีกต่อไป

 

“ยินดีด้วยนะคะทั้งสองคน~”

 

—ชินโด ยูกิ และ มิตะ ซูซูกะ แต่งงานกัน—

 

ซูซูกะ เข้ามาในทะเบียนของผม และตอนนี้ชื่อของเธอกลายเป็น ชินโด ซูซูกะ…

 

.

 

.

 

.

 

เนื่องจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทำให้ยังมีเวลาพอสมควร

 

วันที่ 5 มกราคม วันที่แลกหวยได้

 

หลังจากยื่นทะเบียนสมรสแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่สถานที่รับเงินด้วยความกระฉับกระเฉง

 

เนื่องจากเราเป็นผู้ชนะรางวัลสูงสุด เราจึงถูกพาไปที่ห้องเล็กๆ เพื่อรับคำอธิบาย

 

“อืม คุณสองคนอยากรับด้วยกันหรือรับเป็นส่วนบุคคลดีคะ”

 

“ห๊ะ…รับเป็นส่วนบุคคล..!!?.”

 

“อ๊ะ…”

 

“หมายความว่ายังไงครับ!!”

 

“ก็หมายความว่าถ้าคนสองคนซื้อลอตเตอรีด้วยกัน ในกรณีของการซื้อร่วมกัน คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณแต่ละคนจะได้รับเท่าไร จากนั้นคุณสามารถรับรางวัลตามอัตราส่วนนั้นๆที่ตกลงกันไว้ค่ะ”

 

…..

 

“แล้วภาษีนั่นละ…”

 

“อะไรนะคะ..?”

 

ผมมีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

 

ตอนนี้ไม่สามารถห้ามไม่ให้เหงื่อไหลออกมาจากดวงตาของตัวเองได้….ไม่ ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้

 

“แน่นอน ว่าไม่มีภาษีอะไรพวกนี้ใช่มั้ยคะ…”

 

“ภาษี…อะไรเหรอคะ”

 

“…..”

 

“…..”

 

“เดี๋ยวฉันขอเช็คสักครู่นะคะ? ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด ฉันแน่ใจว่าคุณยินดีที่จะรู้ว่าเนื่องจากคุณสองคนเป็นสามีภรรยากัน คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งปันเงินรางวัลจากการซื้อร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อกล่าวหาขึ้นในอนาคต แล้วยังยากจะรับเป็นส่วนบุคคลหรือรับร่วมกันดีคะ”

 

“อ่ะ…รับเป็นส่วนบุคคลคลครับ แบ่งครึ่งเลย”

 

“นั้นเปอร์เซ็นต์การรับคือ 50 เปอร์เซ็นต์ต่อคน เราจะแบ่งครึ่งและโอนเงินเข้าบัญชีของคุณนะคะ”

 

“ครับ ขอบคุณครับ”

 

“…มีอะไรเหรอ..”

 

“อ๊ะ..เปล่าไม่มีอะไร”

 

ขั้นตอนดำเนินไปอย่างเงียบๆ โดยที่ผมไม่สามารถบอกได้ว่าตัวแต่งงานแล้ว เพราะผมคิดว่าจะมีภาษีการแบ่งเงิน…

 

..

 

.

 

ขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น ผมสามารถโอนเงินรางวัลของผมไปยังบัญชีที่สร้างขึ้นใหม่ได้ ตามที่คาดไว้ เงินจะไม่ถูกโอนในทันที

 

ผมรอคอยที่จะได้เห็นเงินโอนเข้าบัญชีใหม่ของตัวจริงๆ

 

—หลังจากนั้นพวกเราก็เดินออกมาจากสำนักงานและเสร็จสิ้นขั้นตอนของการรับเงินในที่สุด…

 

เมื่อเดินจากออกจากธนาคาร เราตัดสินใจที่จะดูสถานการณ์

 

“พวกเรางี่เง่าไม่ใช่เหรอ?”

 

“อึม ใช่แล้ว พวกเราเป็นคนงี่เง่า เราหวาดระแวงมากเกินไปกับเงินจำนวนมาก ทำไมพวกเราถึงคิดเรื่องบ้า บอๆ เกี่ยวกับการแต่งงานและไม่นึกถึงวิธีการรับเงินรางวัลของเรากันนะ…”

 

“เห้อ…เราจะทำยังไงต่อดี”

 

“…กะ..ก็ คง..จะต้องหย่ากันละมั้ง”

 

“ก็อย่างที่คาดไว้ ทั้งฉันแล้วก็ยูกิกำลังจะหย่ากันใช่มั้ย..? ถึงตอนนี้ตั้งแต่เราแต่งงานกัน เราจะใช้ชีวิตแบบคู่รักปกติได้ไหม…”

 

“ก็จริง…การแต่งงานไม่ได้ไม่ดีไม่ใช่ว่าเราเข้ากันไม่ได้หรืออะไร ถ้าเราเข้ากันได้จริง ๆ เราไม่เห็นจะต้องหย่ากันเลยนี่..”

 

“อะ..อื้อ…ถ้างั้น—ถ้างั้น พวกเราเอง ก็มาลองอยู่ด้วยกันมั้ย!..”

 

“ใช่ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีที่เราจะเป็นคู่สามีภรรยากัน”

 

“งั้น…พวกเรามาลองเป็นสามีภรรยากันเถอะ เนอะ~”

 

“..อะ อึ้ม….”

 

และชีวิตแต่งงานที่แปลกประหลาดของ ซูซูกะ และยูกิ ก็เริ่มขึ้น…

 

 

จบ~

[WN ]Ore no Oyome-san, Hentai Kamo Shirenai: Zero Kyori datta Osananajimi, Kekkon Shita Totan Sokuochi Shite Ore ni Muchuu desu

[WN ]Ore no Oyome-san, Hentai Kamo Shirenai: Zero Kyori datta Osananajimi, Kekkon Shita Totan Sokuochi Shite Ore ni Muchuu desu

Score 10
Status: Completed
ชินโด ยูกิ และ มิตะ ซูซูกะ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก วันหนึ่งพวกเขาเกิดถูกหวยล็อตเตอรี่รางวัลสูงสุด แต่ด้วยที่ทั้งสองซื้อมันมาด้วยเงินคนละครึ่งและคนที่สามารถครอบครองลอตเตอรี่ได้มีแค่คนเดียวเท่านั้น การที่จะแบ่งทรัพย์สินของอีกฝ่ายจำนวนมหาศาลขนาดนั้นจำเป็นต้องจ่ายค่าภาษีจำนวนมหาศาลเช่นกัน —ด้วยสถานการณ์และเวลาที่กดดันเป็นอย่างมาก "เรามาแต่งงานกันเถอะ!" การเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของทั้งสองเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบรื่นพออยู่กันไปด้วยสักระยะหนึ่ง ยูกิ ก็ได้เริ่มได้รู้ว่าแท้จริงแล้วภรรยาของเขา ซูซูกะ เป็นพวกสาวเฮนไต คลั่งใคล้กลิ่นตัวและร่างกายของเขาเป็นอย่างมาก...!

Options

not work with dark mode
Reset