The Soul Purchasing Pirateบทที่ 315: นิรันดร์

S.PP: บทที่ 315: นิรันดร์

เจอร์รี่นั้นได้รับใช้เอเดนมาหลายปี มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัวของเอเดนมากกว่าคนอื่น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออกมาในตอนนี้มันเหนือจืนตนาการของเขาไปแล้ว

ด้วยร่างกายที่ราวกับเป็นอมตะและพลังเวทย์ที่กว้างใหญ่ราวกับท้องทะเล

เอเดนนั้นถึงกลับสามารถปลดปล่อยคาถาต้องห้ามเหล่านี้ออกมาได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก ถ้าเป็นตัวเขาละก็เพียงแค่สามครั้ง พลังเวทย์ในร่างกายของเขาก็ไม่เหลือแล้ว แต่เอเดนนั้นกลับไม่ใช่อย่างงั้นร่างกายของเขานั้นราวกับหลุมดํา

ในตอนนี้ทุกคนในอาณาจักรบารุตได้รับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของเอเดนแล้ว

นี่คือความแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน!

“ชีวิตนิรันดร์งั้นหรอ?” “มันน่าเสียดายที่ชีวิตของแกจะต้องจบลงในวันนี้!”

“ฉันยอมรับว่าแกแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าให้ไปเทียบกับพวกที่อยู่ในจุดสูงสุดของท้องทะเลในเวลานี้แล้วแกยังคงเทียบกับพวกเขาไม่ได้!”

ในที่แห่งนี้คงจะมีเพียงแค่โรแกนคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงใจเย็นอยู่ได้แบบนี้

ในตอนนั้นเองเนตรสังสาระของเขาก็ได้เปลี่ยนกลับมาเป็นเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา พร้อมกับเคลือบฮาคิเกราะไปที่ดาบเจ็ดดาวที่อยู่ในมือขวา

“ไม่ว่าจะเป็นหนวดขาวหรือชิกิความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นต่างก็อยู่ในจุดสูงสุด!”

“ไม่ว่าจะพลังที่ได้จากปัจจัยภายนอกหรือจากตัวของเขาเอง!”

“แต่แกที่เป็นเพียงแค่กบในกะลา กลับคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุดในโลก!”

“มันจะน่าหัวเราะเกินไปแล้ว!”

โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยความดูถูก

มันเป็นเรื่องจริงที่พลังอํานาจของเอเดนนั้นขัดต่อกฎของธรรมชาติแถมยังมีคาถาต้องห้ามที่น่าหวาดกลัวพอๆกับพลังผลปีศาจสายโรเกีย เพียงแค่พริบตาเดียวเขาก็สามารถทําลายเกาะราชาไปได้เกือบครึ่ง ไม่รู้ว่ามีคนตายไปกี่คนจากการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวของเขา
อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของเอเดนเองก็เด่นชัดมากพอๆกัน

ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่อ่อนแอ,ประสบการณ์การต่อสู้ที่น้อยนิดและรวมไปถึงเหล่าเวทมนตร์ของเอเดนที่ไม่สามารถทําอะไรเขาได้

เอเดนนั้นดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่ง แต่จนถึงตอนนี้เขาพึ่งที่จะจัดการกับวิถีสวรรค์ไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น

และจุดอ่อนใหญ่ๆอีกจุดของเอเดนก็คือการที่เขาไม่มีฮาคิเกราะและฮาคิสังเกต

ถ้าเอเดนสู้กับคนธรรมดาทั่วไปมันก็คงจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าเขาต้องไปสู้กับพวกโจรสลัดชั้นยอดที่อยู่ในโลกใหม่ละก็ไม่ว่าใครก็สามารถจัดการกับเขาได้

“เป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆที่ฉันต้องมาเสียเวลากับแก!”

เมื่อกล่าวจบโรแกนก็ได้ฟาดฟันดาบเจ็ดดาวออกไปในทันที

“ฟื้ววว!”

คลื่นดาบจันทร์เสี้ยวสีฟ้าได้ฉีกกระชากอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว

“เก็ทสึกะ เท็นโช!”

ภายในคลื่นดาบที่น่าหวาดกลัวนี้มีฮาคิเกราะอัดแน่นอยู่อย่างมากมายมหาศาล!

ภายใต้ความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวของคลื่นดาบของโรแกนเอเดนนั้นไม่สามรถปลดปล่อยเวทมนตร์ของเขาออกมาได้ทัน และในตอนนั้นเองร่างของเขาก็ได้ถูกแยกออกเป็นสองส่วน

“ไร้ประโยชน์! ไม่ว่ายังไงข้าก็ไม่มีวันตาย!”

เอเดนได้กล่าวออกมาด้วยความดูถูก

แต่ในตอนนั้นเองเขาก็ได้เหลือบไปเห็นดวงตาของโรแกน และทันใดนั้นเองโลกของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยสีแดงเลือ

“อ่านจันทรา!”

เอเดนได้กวาดตามองไปทั่วทั้งที่แห่งนี้ด้วยความดูถูก

“เวทย์มนตร์วิญญาณงั้นหรอ? เจ้าคิดหรอว่ามันจะสามารถทําอะไรข้าได้!”

นี่มันจะดูถูกกันเกินไปแล้ว ในฐานะจอมเวทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพลังวิญญาณอย่างเขานี่มันคือการดูถูกกันชัดๆ

ด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งของเขาทําให้โลกสีแดงเลือดนั้นได้ถูกทําลายลงไปในทันที

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองวิถีเดรัจฉานก็ได้ทําการเคลือบฮาคิเกราะลงบนแขนของเขา พร้อมกับตรึงแขนของเอเดนเอาไว้อย่างแน่นหนา

เมื่อเอเดนลืมตาขึ้นมาเขาก็สังเกตเห็นว่าวิถีเดรัจฉานได้เข้ามาตรึงแขนของเขาเอาไว้

“ต้องการที่จะฆ่าข้า? พวกเจ้ากําลังฝันอยู่หรือไง!”

เอเดนได้จ้องมองไปที่ใบหน้าของโรแกนด้วยสายตาที่เย็นชา
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง
“คาถาไฟ: ลูกบอลเพลิงยักษ์!”

เมื่อเห็นลูกบอลเพลิงที่กําลังพุ่งเข้ามาใบหน้าของเอเดนก็ได้เปลี่ยนไปในทันที

ถ้าเป็นตามปกติละก็เขาหลบการโจมตีนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้แขนของเขาถูกวิถีเดรัจฉานตรึงเอาไว้อยู่ ทําให้เขาไม่สามารถหลบหนีออกไปจากการโจมตีนี้ได้

“พวกเจ้าเป็นบ้ากันไปแล้วหรือไง!?”

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเอเดนนั้นไม่เคยหวาดกลัวต่อการโจมตีใดเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่ร่างกายและจิตวิญญาณของเขายังคงอยู่เขานั้นสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้ด้วยเวทมนตร์แห่งชีวิตของเขา แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังมีข้อจํากัดอยู่

มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ร่างกายของมนุษย์จะต้องมีขีดจํากัด แม้ว่าเขาจะทําการศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณได้อย่างถ่องแท้และสามารถรับรู้ได้ถึงความลับของชีวิตอันเป็นนิรันดร์ แต่กฎแห่งธรรมชาติเองก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถละเมิดได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากมายขนาดไหน ก็ไม่สามารถต้านทานกฎแห่งธรรมชาติได้

ไม่ว่าจะเป็นหนวดขาวชายที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกเองก็ยังไม่สามารถต่อต้านกฎแห่งธรรมชาติได้ เมื่อวันเวลาผ่านไปความแข็งแกร่งของเขาเองก็เริ่มถดถอยลง

แต่เพราะว่าเอเดนนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงชายขอบของชีวิตนิรันดร์ได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะกล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ ตราบใดที่เขาสามารถก้าวข้ามชายขอบนั้นไปได้เขาก็จะได้ชีวิตนิรันดร์มาครอบครองอย่างแน่นอน!

แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังมีจุดอ่อนอยู่และจุดอ่อนที่ว่านั่นก็คือไฟ! ไฟนั้นสามารถยับยั้งจิตวิญญาณของเขาได้ และตราบใดที่มันเผาไหม้ร่างของเขาจนหมดสิ้น เมื่อนั้นเขาก็จะ..

ตาย! ตายอย่างแท้จริง!

เพื่อที่จะหลบหนีจากความตายนั้นเอเดนได้ลง ทุนลงแรงไปกับมันเยอะมาก เขาหวาดกลัวต่อ ความตายดังนั้นเขาจึงได้ทําการวิจัยเกี่ยวกับชีวิต อย่างบ้าคลั่งจนเขามีอายุถึง 156 ปี สําหรับเขาห นวดขาวนั้นก็เป็นได้เพียงแค่คนรุ่นหลานเท่านั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่ออยู่ต่อมาบอลเพลิงของโรแกนเขากลับสามารถรับรู้ได้ถึงความตายที่กําลังคืบคลานเข้ามาได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ ร่างกายของเขานั้นกําลังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

“ไม่! อย่าฆ่าข้า!”

“ฟื้ววว!”

บอลเพลิงของโรแกนได้พุ่งเข้ามาที่ดวงตาของเขา และในตอนนั้นเองมันก็ได้กลืนร่างของเขาไปจนหมดสิ้น

เพียงพริบตาเดียวทั้งร่างของเอเดนก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง!

แม้ว่าจะเห็นอย่างงั้นแต่วิถีเดรัจฉาน ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอเดน

“ซี่! ! !”

เปลวเพลิงได้โหมกระหน่ําขึ้นมาอย่างรุนแรง และในพริบตาเดียวร่างอขงเอเดนก็ได้กลายเป็นเถ้าถ่าน

แม้แต่แขนของวิถีเดรัจฉานเองก็ถูกเผาไหม้จนขาดหายไป

ด้วยความสามารถของโรแกนเขาได้ทําการเรียกวิถีสวรรค์คืนกลับมา

“ตายแล้วงั้นหรอ!”

“มีเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นล่ะที่สามารถเรียกว่าความนิรันดร์ที่แท้จริง!”

โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา

ในตอนนี้เอเดนได้ตายไปอย่างสมบรูณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อีกด้านหนึ่งซาโลได้มองมาที่ฉากตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม!? มันคือเรื่องจริงใช่ไหม!?”

“มันคือเรื่องจริง! ฮ่าๆๆๆ,เอเดนตายแล้ว!”

แอสเพนได้กล่าวและหัวเราะออกมาด้วยความตื่นเต้น

“ฉันตัดสินใจแล้วฉันจะยกเนลื่นให้กับราชาองค์ใหม่!”

โทนี่ได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ในตอนที่เขาพูดออกมานั้นใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังของเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงในทันที แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ไม่ได้กล่าวปฏิเสธใดๆออกมา

ในเวลานี้โรแกนเองก็กําลังนึกถึงใครบางคนที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับเอเดนในเนื้อเรื่องดั้งเดิมอยู่

“หวังว่าเราจะได้พบกันในเร็วๆนี้!”