The King of War 893 ไป๋ชิ่งชี้แจง

ตอนที่ 893 ไป๋ชิ่งชี้แจง

ไป๋ชิ่งตอบข้อสงสัยก่อนหน้าของหลิวฉีด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “หยางเฉินคนนี้ ฉันได้จับตาดูเขามาเป็นเวลานานแล้ว ไม่เพียงแต่ฉันเท่านั้น ยังมีตระกูลเดอะคิงทั้งสี่ก็คอยจับตาดูเขาอยู่นานแล้ว”

“และครั้งนี้เหตุผลที่ตระกูลเดอะคิงทั้งห้ากล้าที่จะเคลื่อนไหวในเมืองเยี่ยนตูอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ ทั้งหมดต้องขอบคุณหยางเฉิน”

“เพราะมีคนกระจายข่าวออกมาว่า หยางเฉินกำลังตั้งตัวเป็นใหญ่ในเมืองเยี่ยนตู”

“ถ้าบอกว่าคนอื่นตั้งตัวเป็นใหญ่ในเมืองเยี่ยนตู บางทีตระกูลเดอะคิงทั้งห้าคงไม่กล้าเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนั้น แต่เป็นเพราะหยางเฉิน ดังนั้นตระกูลเดอะคิงทั้งหลายจึงกล้า”

หลิวฉีไม่เคยรู้เกี่ยวกับหยางเฉินมาก่อน แต่ตอนนี้เมื่อได้ฟังไป๋ชิ่งพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกสงสัยขึ้นมา “พี่เขย นี่มันเพราะอะไรอีกเหรอ?”

“เพราะว่าหยางเฉินเป็นคนที่ใกล้ชิดเมืองเยี่ยนตูมากที่สุดในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ตอนนี้ทั้งตระกูลซ่างกวน, ตระกูลหวง, ตระกูลเย่ และตระกูลหลงล้วนมีความสัมพันธ์อันดีกับเขา”

“ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีตระกูลทรงอิทธิพลอีกหลายตระกูลที่มีศักยภาพเป็นรองเพียงแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ล้วนเชื่อฟังคำสั่งของหยางเฉิน”

“จุดที่สำคัญที่สุดคือเขามีพละกำลังแข็งแกร่งในวิถีบู๊ ถ้าจะบอกว่าคนแบบนี้ต้องการตั้งตัวเป็นใหญ่ในเยี่ยนตู มันก็เป็นเรื่องง่ายดาย”

ไป๋ชิ่งพูดอย่างคล่องปาก “แม้ว่าหยางเฉินจะไม่ได้มีความคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ แต่เพราะมีความสามารถจึงต้องตายหรือบาดเจ็บ เพราะเขามีพลังที่แข็งแกร่งและยังมีตระกูลทรงอิทธิพลในเมืองเยี่ยนตูเป็นจำนวนมากที่มีสัมพันธไมตรีที่ดีกับเขา เขาถูกผลักให้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่ล่อแหลมและไม่อาจคาดเดาผลที่ตามมาได้”

“ความแข็งแกร่งของชายผู้นั้นเมื่อร้อยปีที่แล้วช่างน่ากลัวเสียจนในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา ตระกูลเดอะคิงทั้งห้าล้วนไม่กล้าเคลื่อนไหวใหญ่โตใดๆ ในเมืองเยี่ยนตู”

“ปัจจุบันนี้ยังมีตี้ชุนที่ยังไม่ได้ถือกำเนิด และจะฟังคำสั่งของคิงแห่งเยี่ยนตูเท่านั้น และหยางเฉินก็คือบุคคลนั้นที่มีความหวังมากที่สุดที่จะได้ขึ้นเป็นคิงแห่งเยี่ยนตู”

“พูดอีกอย่างก็คือ ขอเพียงเขายินดี ก็จะสามารถขึ้นเป็นคิงแห่งเยี่ยนตูได้อย่างง่ายดาย”

“นายล่วงเกินผู้แข็งแกร่งที่มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นคิงแห่งเยี่ยนตู คอยบัญชาการตี้ชุน นายไม่คิดว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่เหรอ?”

หลิวฉีรู้สึกช็อกอย่างสุดขีด พึมพำกับตัวเองว่า “นึกไม่ถึงเลยว่า คนหนุ่มคนนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”

“ดังนั้น การที่ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาหยุดชะงัก ก็เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง”

“พี่เขย ก่อนหน้านี้คุณบอกว่ามันเป็นแผนการของตระกูลกษัตริย์เซวเหรอ?”

ไป๋ชิ่งยิ้มเยาะ “หรือว่าไม่ใช่ล่ะ? ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมหลังจากส่งมอบซินเฉ่ากรุ๊ปให้กับหยางเฉินแล้ว ถึงต้องให้นายมาเป็นผู้จัดการด้วย? อีกอย่างก็ยังไม่บอกนายว่าใครจะมาเป็นประธานคนใหม่ของซินเฉ่ากรุ๊ป”

“ฉันจะบอกนายให้ ก็เพราะว่าตระกูลกษัตริย์เซวรู้อยู่แล้วว่านายเป็นคนยังไง จึงใช้นิสัยของนายมาเล่นงานนาย”

“เท่าที่ฉันรู้ เป็นเพราะนายเกิดความขัดแย้งกับหยางเฉินเพราะผู้หญิงคนหนึ่งใช่ไหม?”

หลิวฉีรีบพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง และเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของหยางเฉินด้วย เมื่อวานเธอมีความขัดแย้งกับเขาและถูกไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์เมืองในฝัน ต่อมาเธอเลยมาหาผม จากนั้นก็…”

หลิวฉีไม่มีอารมณ์จะพูดต่อไป

ไป๋ชิ่งพูดต่อ “จากนั้น ก็มายั่วยวนนาย นายลุ่มหลงไปกับความงาม และให้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นเลขาส่วนตัวของนาย?”

หลิวฉีพยักหน้า ไม่กล้ามองไป๋ชิ่ง

“สิ่งที่ฉันสามารถบอกนายได้ในตอนนี้ก็คือ ความจริงแล้วผู้หญิงคนนั้นถูกกษัตริย์เซวซื้อตัวไปแล้ว เธอมาหานายและจงใจทำให้เกิดความขัดแย้งกับหยางเฉิน จากนั้นก็ล่อให้นายออกหน้าแทนเธอ ทั้งหมดเป็นแผนการของกษัตริย์เซว”

ไป๋ชิ่งถอนหายใจพลางพูดว่า “ครั้งนี้ นายกลายเป็นตัวหมากของตระกูลกษัตริย์เซว ใช้คนในตระกูลไป๋เพื่อตอบโต้ตระกูลไป๋ของเรา เดินหมากได้ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

หลิวฉีเบิกตากว้างและพูดอย่างโกรธเคือง “เซียวจื่อฉิงนังสารเลว กล้าดียังไงมาวางแผนใส่ฉัน ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่”

“ตอนนี้นายไม่มีโอกาสแล้ว”

ไป๋ชิ่งเดาผลลัพธ์ได้ “ฉันเกรงว่าเธอหายจากโลกนี้ไปแล้ว”

“พี่เขย คุณหมายความว่าตระกูลกษัตริย์เซวถูกปิดปากไปแล้วเหรอ?”

หลิวฉีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ รู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง

ไป๋ชิ่งมองหลิวฉีราวกับกำลังมองคนโง่ “แล้วนายคิดว่าไงล่ะ? ไม่เชื่อก็สามารถลองติดต่อเธอดูได้”

หลิวฉีรีบกดเบอร์โทรของเซียวจื่อฉิง แต่โทรไปหลายครั้งก็มีแต่ปิดเครื่อง

ในเมื่อติดต่อกับเซียวจื่อฉิงไม่ได้ ก็เกือบจะสามารถพิสูจน์การคาดเดาของไป๋ชิ่งได้แล้ว ยิ่งหลิวฉีรู้สึกหวาดกลัวมากเท่าไหร่ แผ่นหลังก็ยิ่งเย็นวาบเท่านั้น

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่า ทำไมไป๋ชิ่งถึงโกรธขนาดนั้น เพราะเขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่ใหญ่จริงๆ

“พี่เขย ผมขอโทษ ผมผิดเอง ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ

หลิวฉีกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำ “แต่ไม่ต้องกังวลนะพี่เขย ผมจะไปที่ซินเฉ่ากรุ๊ป ตอนนี้เพื่อขอโทษหยางเฉิน และบอกแผนการทั้งหมดของตระกูลกษัตริย์เซวให้เขาฟัง”

ภรรยาของไป๋ชิ่งก็ไม่กล้าพูดอะไร สีหน้าเธอดูแย่มาก

แต่ไป๋ชิ่งกลับมาสุขุมเหมือนเดิม เขาขยับแว่นตาขอบทอง ดูเหมือนจะมีแสงสีทองระยิบระยับอยู่บนเลนส์แว่นของเขา

“ไม่จำเป็น!”

หลังจากเงียบไปนาน ไป๋ชิ่งก็ส่ายหน้าและพูดว่า “ในเมื่อตระกูลกษัตริย์เซว ต้องการวางแผน เราก็มาเล่นแผนซ้อนแผนกันดีกว่า”

“พี่เขย ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าคุณจะมีคำสั่งอะไร ผมยินดีที่จะให้ความร่วมมือ!”

หลิวฉีรีบสัญญาทันที

ไป๋ชิ่งหรี่ตาจ้องมองหลิวฉีอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะตบไหล่เขาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายไม่ต้องกังวล อีกไม่นานฉันจะมอบหมายภารกิจสำคัญให้นายทำ”

หลิวฉีไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกเสมอว่าสายตาของไป๋ชิ่งนั้นไม่ได้มีเจตนาดี

แต่เขาก็ยังพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พี่เขยไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอีกแล้ว!”

ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินได้ออกจากซินเฉ่ากรุ๊ปและมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล

“อาจารย์คะ!”

เมื่อหยางเฉินมาถึงห้องพักของกวนเย่ว กวนเย่วพยายามลุกขึ้นนั่ง

“นอนนิ่งๆ อย่าขยับ!”

หยางเฉินรีบเข้าไปและจับกวนเย่วกดลงบนเตียง

กวนเย่วต้องนอนตะแคงเพราะเธอถูกยิงที่ด้านหลัง

“คุณรู้สึกยังไงบ้าง? ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า?”

เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดเผือดของกวนเย่ว หยางเฉินก็มีการแสดงออกทางสีหน้าที่ซับซ้อน

กวนเย่วฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้า “อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วง อาการบาดเจ็บนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อีกไม่กี่วันฉันก็จะหายดีแล้ว”

“หมอบอกว่าแผลของคุณจะไม่สามารถปล่อยให้ปริแตกได้อีกแล้ว มิฉะนั้นมันจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อร่างกาย และอาจทำให้คุณพิการได้”

หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “คราวนี้คุณต้องพักฟื้นให้เพียงพอ เมื่ออาการบาดเจ็บหายสนิทแล้ว ถึงจะฝึกต่อได้”

เมื่อมีหยางเฉินคอยเป็นห่วงเป็นใย กวนเย่วก็รู้สึกหัวใจชุ่มชื่น เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ตกลงค่ะ อาจารย์พูดอะไร ฉันจะเชื่อฟังทุกอย่าง”

หยางเฉินส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก คุณอย่าอวดเก่งเอาตัวเข้ามาบังกระสุนอีก คุณคิดว่าคุณคือยอดฝีมือแดนราชาหรือไง?”

กวนเย่วแค่อมยิ้มมุมปากและพยักหน้า เหมือนเด็กที่ว่านอนสอนง่าย

ตอนแรกหยางเฉินยังอยากจะสั่งสอนอีก แต่สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจและหยุดสั่งสอน

“อาจารย์คะ คุณอย่าทำอะไรกวนซินนะคะ”

จู่ๆ กวนเย่วก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้ากังวลใจ

“ผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของคุณ แต่ใช้วิธีการโหดเหี้ยมขนาดนี้ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ยังไม่ไร้หัวใจเหมือนเธอ”

เมื่อพูดถึงกวนซิน ความโกรธก็ปะทุขึ้นภายในใจของหยางเฉินทันที

The King of War

The King of War

Score 10
Status: Completed
ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Options

not work with dark mode
Reset