The King of War 17 เหยียดหยามทุกวิถีทาง

ตอนที่ 17 เหยียดหยามทุกวิถีทาง

บทที่ 17 เหยียดหยามทุกวิถีทาง

นายท่านฉินเซหนึ่งก้าวล้มลงไปนั่งบนโซฟา สีหน้าไร้จิตวิญญาณ

“ท่านปู่ ท่านอย่างกังวลใจไป เรื่องนี้จะต้องมีปัญหาแน่ เมื่อเช้าเพิ่งจะเซ็นสัญญา สัญญานี้จับยังไม่ทันอุ่น จะทำผิดสัญญาได้อย่างไร?” ฉินเฟยรีบพูดขึ้นทันที

ในแววตาของนายท่านฉินมีราศีขึ้นหลายส่วนในฉับพลัน รีบพูดขึ้นทันที “เจ้าพูดถูก เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะทำผิดสัญญา พวกเขาได้พูดไหมว่าพวกเราทำผิดสัญญาข้อไหน?”

ฉินเฟยส่ายหน้า “พูดแค่ว่าพวกเราทำผิดสัญญา จำเป็นต้องชดใช้ตามในสัญญา ไม่อย่างนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย”

“อะไรนะ?”

นายท่านฉินที่เพิ่งจะกอดความหวังอยู่เมื่อกี้ก็ร้อนรนขึ้นทันใด “เรียกทุกคนมารวมตัวกันประชุม!”

“ท่านปู่ ท่าน…”

ฉินเฟยกำลังจะสอบถามก็โดนนายท่านฉินตำหนิเสียงดัง “ฉันจะต้องได้เห็นทุกคนในห้องประชุมภายในสิบนาที”

สิบนาทีผ่านไป ห้องประชุมชั้นบนสุด

“ท่านปู่ นอกจากฉินซีแล้ว ทุกคนก็มากันครบหมดแล้วครับ” ฉินเฟยพูดขึ้น

นายท่านฉินขมวดคิ้ว พูดขึ้นทันที “ไม่รอแล้ว ฉินเฟย เจ้าเล่าเรื่องทั้งหมดมาอีกรอบหนึ่งซิ”

ฉินเฟยพยักหน้า เล่าเนื้อหาที่ทีมกฎหมายของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปโทรมาหนึ่งรอบ

เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนต่างก็ตกอยู่ในอาการช็อก

“ท่านประธาน นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

“นั่นสิ เมื่อเช้าเพิ่งจะได้สัญญามา ตอนบ่ายก็แจ้งว่าพวกเราทำผิดสัญญา?”

“จะต้องเป็นแผนการร้ายของฉินซีกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแน่ ๆ รังแกกันเกินไปแล้วจริง ๆ!”

ทุกคนล้วนโกรธแค้นเต็มอก

“หุบปาก!”

นายท่านฉินตบโต๊ะหนึ่งที ร้องตะโกนด้วยความเดือดดาล เสียงจึงเงียบลง

“เรียกพวกคุณมาประชุม ไม่ใช่ให้ทุกคนมาตัดสินโทษใคร แต่ให้มาคิดวิธีว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรดี นั่นเป็นถึงเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จะบีบให้พวกเราตายนั้นง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ใช้สมองกันให้หมด!” นายท่านฉินตวาดอย่างเดือดดาล

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนเยือกเย็นลงในพริบตาเหมือนกับน้ำเย็น

“ท่านประธาน เรื่องนี้มีลับลมคมในอย่างเห็นได้ชัด ด้วยฐานะของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้วไม่น่าจะจัดการกับพวกเราอย่างนี้ หรือว่ามีใครไปเหยียบเท้าใครเข้า?” มีคนใช้สมองจริง ๆ

นายท่านฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ มีความเป็นไปได้นี้จริง ๆ เขาใช้สายตากวาดมองทุกคนในทันทีแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ในวันนี้มีใครไปล่วงเกินใครไว้บ้าง?”

ทุก ๆ คนพากันส่ายหน้า คนที่อยู่ที่นี่เดิมก็มีความสัมพันธ์สายตรงกับตระกูลฉิน ล้วนเป็นเสือนอนกินทั้งฝูง วันทั้งวันถ้าไม่นั่งดูวิดีโออยู่ในออฟฟิศก็ใช้เหตุผลในหน้าที่การงานออกไปเดินเฉิดฉาย

“ในเมื่อไม่ได้ไปล่วงเกินใครเขาเข้า แล้วจะมีเหตุผลอะไรได้?”

นายท่านฉินคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก มองไปที่ฉินเฟยทันที “เจ้าเป็นประธาน เจ้าว่ามาซิ เรื่องนี้ควรจะจัดการอย่างไรดี?”

ฉินเฟยทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย พูดต่อไปว่า “ท่านปู่ สัญญานี้ฉินซีเป็นคนเอามา พอเกิดเรื่องก็ไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หน้ามา จะต้องเกี่ยวกับเธอแน่ ๆ ควรจะให้เธอมาแก้ไข”

นายท่านฉินรู้สึกว่าเริ่มจะมีเค้าลาง “พูดต่อไป!”

“เมื่อตอนเช้าผมก็ไม่สบายใจ ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทสาขาย่อยของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่จะมาส่งสัญญาด้วยตัวเองได้อย่างไร? ตอนนี้มาลอง ๆ คิดดู ทุกอย่างมันชัดเจนแล้ว”

ฉินเฟยมีท่าทางเข้าใจแจ่มแจ้ง “ต้องเป็นเพราะลั่วปิงพอใจในตัวฉินซีอย่างไม่เปิดเผยแน่ ๆ ดังนั้นจึงพูดได้ว่าเขาถูกความจริงใจของฉินซีชักนำ เพียงแต่ว่าสัญญาได้เซ็นไปแล้ว ฉินซีกลับไม่ได้แสดงออกใด ๆ สักพักก็ให้ทีมกฎหมายมาแจ้งว่าพวกเราทำผิดสัญญา แต่ไม่ใช่ว่าพวกเราทำผิดสัญญาจริง ๆ แต่เป็นการหยิบยืมข้ออ้างนี้มาขูดเลือดขูดเนื้อพวกเรา”

ถ้าหากว่าลั่วปิงได้ล่วงรู้ความคิดของคนพวกนี้ละก็ จะต้องตกใจจนฉี่ราดแน่ ๆ คนอื่นไม่รู้ฐานะของหยางเฉิน เขารู้ชัดเจนดี เมียของเจ้านายตัวเอง ให้เขายืมสักร้อยความกล้าเขาก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิด!

ทุกคนล้วนมีท่าทางเหมือนกับนึกขึ้นได้ในทันที นายท่านฉินมองไปที่ฉินเฟยด้วยสีหน้าพออกพอใจ “ลั่วปิงมาเยือนถึงที่ด้วยตัวเอง จะต้องมีสิ่งที่ต้องการแน่ ๆ ก็มีเพียงแค่ทรัพย์สิน อำนาจ ความงามของสตรี ทรัพย์สินกับอำนาจพวกเราให้ไม่ได้ แต่พวกเรามีฉินซี หญิงงามอันดับหนึ่งของเจียงโจว”

“ท่านปู่ ดังนั้นขอเพียงฉินซีออกหน้า เรื่องนี้ก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างราบรื่น” ฉินเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไปแจ้งเธอให้มาพบฉันที่บริษัททันที” นายท่านฉินกำชับ

บ้านใหญ่ตระกูลฉิน

ตอนเช้าหลังจากออกจากบริษัท ฉินซีก็กลับบ้าน อยู่ในห้องของตัวเองโดยตลอด

โจวยู่ชุ่ยถามเธอ เธอก็ไม่สนใจ พอไปสืบถามถึงจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ฉันบอกตั้งกี่รอบแล้วว่าให้เธอหย่ากับเจ้าตัวไร้ประโยชน์นั่น ก็เพราะเธอไม่ฟัง เอาแล้วไงล่ะ ตอนนี้ซานเหอกรุ๊ปที่เธอก่อตั้งมาอย่างยากลำบากถึงได้ตกเป็นของคนอื่นไป”

“ฉินซี ครั้งนี้เธอจำเป็นจะต้องหย่ากับเจ้าตัวไร้ประโยชน์นั่น ขอเพียงเธอแต่งงานกับหวังเจี้ยน ตระกูลฉินจะต้องไม่กล้ารังแกเธออีกแน่”

โจวยู่ชุ่ยพูดประโยคทำนองเดียวกันนี้มาหลายรอบแล้ว แต่ฉินซีไม่ได้ตอบรับ

ในตอนนี้เอง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังออกมาจากในห้องของฉินซีทันที

ตอนนี้เสียงของฉินซีถึงจะเปล่งออกมา “ค่ะ ฉันทราบแล้วค่ะ!”

ฉินซีเดินออกจากห้องด้วยดวงตาคู่แดงก่ำด้วยความรวดเร็ว

“เธอได้ยินที่ฉันพูดบ้างไหมเนี่ย?”

ไม่ง่ายเลยกว่าที่โจวยู่ชุ่ยจะรอจนฉินซีออกมาได้ จึงฉุดแขนของเธอไว้ทันที

“แม่คะ เรื่องอื่นรอจนหนูกลับมาแล้วค่อยคุยกันดีไหมคะ? ตอนนี้คุณปู่รีบร้อนจะพบหนูให้ได้”

พอได้ยินฉินซีพูดว่าคุณปู่กำลังตามตัวเธอ โจวยู่ชุ่ยถึงได้คลายมือออก ก่อนที่ฉินซีจะได้แต่งเข้าตระกูลหวัง เธอก็ไม่กล้าที่จะผิดใจกับนายท่านฉินหรอก

ยี่สิบนาทีผ่านไป ห้องทำงานประธาน

นายท่านฉินนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน สีหน้าเคร่งขรึม เขาเพิ่งจะบอกเรื่องที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยกเลิกความร่วมมือกับฉินซีไป

“คุณปู่คะ ท่านตามฉันมาเพื่อที่จะพูดเรื่องนี้เหรอคะ?”

ดวงตาทั้งคู่ของฉินซีแดงก่ำ สีหน้าผิดหวัง “ฉินเฟยเป็นประธาน บริษัทเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่ว่าควรจะไปเรียกหาเขาเหรอคะ?”

“เสี่ยวซี ฉันรู้ว่าเธอคับแค้นใจกับการตัดสินใจเมื่อตอนเช้าของฉัน แต่เธอก็ต้องเข้าใจปู่นะ แค่เรื่องอื้อฉาวของพวกเธอก็สร้างความยากลำบากที่ยิ่งใหญ่ให้กับตระกูลฉินมากพออยู่แล้ว”

นายท่านฉินพูดด้วยท่าทางยืนหยัดในคุณธรรม “บอกให้เธอแต่งงานกับหวังเจี้ยน เธอก็ไม่ยินยอม แถมสามีไร้ประโยชน์นั่นของเธอยังไปต่อยตีคนอื่น กระทั่งผิดใจกับตระกูลจาง ต่อให้ฉันส่งมอบตำแหน่งประธานให้กับเธอ แล้วเธอคิดว่าคนอื่นจะยอมรับเหรอ?”

ฉินซียิ่งผิดหวังในตัวนายท่านฉินมากกว่าเดิม พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “คุณปู่คะ เมื่อห้าปีก่อนฉันเองก็เป็นเหยื่อนะคะ และต่อให้สร้างความลำบากให้กับบริษัทจริง ๆ ในตอนนั้นบริษัทก็เป็นของฉันคนเดียว ซึ่งนั่นมันก็ถือเป็นเรื่องของฉัน”

“ตอนนี้ฉันมีสามีอยู่แล้ว ทำไมยังจะต้องแต่งงานกับคนอื่นอีก? สามีของฉันต่อยจางกว่างไปก็จริง แต่ว่าถ้าหากเขาไม่ลงมือ น้องสาวกับลูกสาวของฉันก็จะโดนต่อยตี หรือว่ามีแค่การที่ฉันต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตระกูลฉิน ทุกคนถึงจะยอมรับฉัน?”

นายท่านฉินมีสีหน้าไม่น่ามอง เขาไหนเลยจะไม่เข้าใจเหตุผลพวกนี้? เพียงแต่ในใจของเขาฉินซีเป็นได้แค่เครื่องสังเวยของวงศ์ตระกูลเท่านั้น

“ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเธอก็เป็นคนก่อตั้งซานเหอกรุ๊ปขึ้นมา หรือว่าเธอจะนั่งมองมันพังพินาศโดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?” นายท่านฉินถามอย่างข่มโทสะ

ฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้ง ทันใดนั้นก็พูดด้วยความแน่วแน่ว่า “คุณปู่คะ ขอเพียงท่านรับปากฉันเรื่องหนึ่ง ฉันก็จะไปหาประธานลั่วให้”

“เธอว่ามา!” นายท่านฉินขมวดคิ้ว

“ถ้าหากฉันสามารถทำให้ประธานลั่วต่อสัญญากับตระกูลฉินได้ ฉันจะให้ท่านคืนซานเหอกรุ๊ปให้กับฉันค่ะ” สีหน้าของฉินซีจริงจังหาใดเปรียบ

ได้ยินเช่นนั้นฉินเฟยก็ไม่ยินยอมทันที พูดด้วยความเดือดดาลว่า “ฉินซี เธออย่ามาได้คืบจะเอาศอกนะ!”

“ฉันก่อตั้งซานเหอกรุ๊ปมาด้วยตัวเอง ฉันก็แค่อยากจะเอาของที่เป็นของฉันกลับคืนมา ทำไมถึงพูดว่าได้คืบจะเอาศอกล่ะ?” ฉินซีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ฉินเฟยพูดไม่ออกในทันที เพียงแค่มองนายท่านฉินด้วยความกระวนกระวายใจ “ท่านปู่ ผู้หญิงคนนี้บังคับแย่งเก้าอี้ชัด ๆ เธอมองไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลยสักนิด ถ้าหากยอมประนีประนอมวันนี้ วันหลังเธอจะยิ่งกำเริบเสิบสานยิ่งกว่านี้อีก”

“ฉันต้องการแค่ซานเหอกรุ๊ปเท่านั้น!” ฉินซีพูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น

นายท่านฉินไม่พูดอะไรสักคำ ยิ่งทำให้ฉินเฟยกังวลใจยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้นั่งตำแหน่งประธาน ฯ ก้นยังไม่ทันอุ่น จะมอบให้กันง่าย ๆ อย่างนี้เลย?

ฉินเฟยกลอกตา จู่ ๆ ก็ทำท่านึกขึ้นได้ “เธอเล็งตำแหน่งประธาน ฯ ไว้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ? หรือว่าเธอจะรอนั่งตำแหน่งประธาน ฯ สำเร็จแล้ว ก็จะใช้วิธีเดียวกันบีบบังคับให้ท่านปู่มอบตำแหน่ง แล้วเธอจะขึ้นมาเป็นผู้นำของตระกูลแทน?”

สีหน้าของนายท่านฉินค่อย ๆ อึมครึมลง

“ฉันเปล่านะ!” ฉินซีโต้แย้งทันที เธอชัดเจนดี ฉินเฟยจงใจเสี้ยมเขาควายให้ชนกัน

ฉินเฟยเยาะหยัน “ท่านปู่ เธอกำลังกินปูนร้อนท้อง ผมสงสัยว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับประธานลั่ว สมรู้ร่วมคิดกันใช้วิธีการแบบนี้มาเอาตำแหน่งประธาน ฯ ถึงอย่างไรเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ใหญ่ขนาดนั้น ตระกูลที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลมากมายยังทำสัญญากับพวกเขาไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวนึกไม่ถึงว่าถึงกับทำให้ประธานลั่วเอาสัญญามามอบให้ด้วยตัวเอง?”

“ฉินเฟย นายอย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ!” ฉินซีอับอายจนแค้นใจ

“ฉันพูดจาเหลวไหลหรือไม่เธอย่อมรู้ดีแก่ใจ”

ฉินเฟยยิ้มเยือกเย็น “ถ้าไม่อย่างนั้นตอนเช้าเพิ่งจะเซ็นสัญญา ทำไมพวกเขาถึงมาบอกว่าพวกเราทำผิดสัญญา? ทนรอไม่ได้แม้แต่วันเดียว ยังจะมาพูดว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกันอีก?”

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?” ฉินซีจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

“หุบปากกันทั้งหมด!”

ในที่สุดนายท่านฉินก็ระเบิด ตะคอกด้วยความเดือดดาลครั้งหนึ่ง มองไปทางฉินซีด้วยสีหน้าเดือดดาลในทันที “ภายในสามวัน ถ้าหากว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปยังไม่ยินยอมกลับมาทำสัญญากับตระกูลฉิน ฉันจะออกคำสั่งการของผู้นำ ขับไล่ครอบครัวของพวกเธอออกจากตระกูลฉิน!”

The King of War

The King of War

Score 10
Status: Completed
ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Options

not work with dark mode
Reset