Super God Gene 2251

ตอนที่ 2251

หานเซิ่นมองไปที่หน้ากากโกสต์โบนและเห็นมันสร้างการเชื่อมต่อกับพลังโกสต์โบนที่เขาจำลองขึ้นมา

 

“หน้ากากโกสต์โบนนี้เป็นหนึ่งในอันที่อ่อนแอ แต่การได้รับการยอมรับจากมันในหนึ่งเดือนก็ถือเป็นความก้าวหน้าที่ยอดเยี่ยม พวกเขายังคงพอมีเวลา ฝึกฝนต่อไปเพื่อสร้างความมั่นใจกับเหล่าหน้ากาก และ…”
ราชินีจิ้งจอกหันไปชี้ที่หน้ากากอีกอันหนึ่ง “ถ้าเจ้าสร้างการเชื่อมต่อกับหน้ากากโกสต์โบนนี้แทนล่ะก็ การฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นก็ควรจะเป็นอะไรที่ง่ายดาย”

 

หานเซิ่นมองหน้ากากที่ราชินีจิ้งจอกชี้ เขาใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนและวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อตรวจสอบมัน เขาพบว่ามันเป็นหน้ากากโกสต์โบนที่ทรงพลังที่สุดจริงๆ พลังของมันเหนือกว่าหน้ากากอื่นอยู่พอสมควร

 

“อะไรกันที่ทำให้หน้ากากโกสต์โบนนี้แตกต่างไปจากอันอื่น?” หานเซิ่นถามและแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่สังเกตเห็นถึงพลังของมัน

 

ราชินีจิ้งจอกพูด “พวกมันทั้งหมดเป็นหัวกะโหลกของซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพเหมือนกันก็จริง แต่สิ่งมีชีวิตบางตัวก็แข็งแกร่งกว่าตัวอื่นๆ หน้ากากโกสต์โบนอันนั้นทำมาจากกะโหลกของปีศาจจากขุมนรก โกสต์โบนต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากกับหน้ากากอันนั้น พลังของมันเกือบจะอยู่ในระดับเทพเจ้า มันเป็นหน้ากากโกสต์โบนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้”

 

“ไม่เห็นต้องกังวลเลย ที่ข้าต้องฆ่าเป็นแค่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันตัวหนึ่ง ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งสักไหน พลังของหน้ากากโกสต์โบนระดับครึ่งเทพก็เพียงพอที่จะฆ่ามันอย่างแน่นอน ข้าจะใช้แค่หน้ากากโกสต์โบนที่ข้าได้รับการยอมรับเรียบร้อยแล้วนี่”
หานเซิ่นยกมือขึ้นเพื่อชี้ไปที่หน้ากากโกสต์โบนที่เขาสร้างการเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว และหน้ากากก็บินเข้ามาอยู่ในมือของเขา

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะมีพลังโกสต์โบน เพียงแค่แตะต้องหน้ากากก็ทำให้เขากระเด็นไปชนกับกำแพง แต่ตอนนี้เขาสามารถถือหน้ากากโกสต์โบนอยู่ในมือและสัมผัสถึงพลังของมันได้

 

หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนและวิญญาณอสูรเนตรม่วงเพื่อตรวจดูหน้ากากอย่างละเอียด หลังจากนั้นเขาก็สวมมันบนใบหน้าของเขา

 

เมื่อหานเซิ่นสวมหน้ากากกับใบหน้า พลังก็หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของเขา พลังงานใหม่นี้รวมเข้ากับพลังโกสต์โบนที่หานเซิ่นจำลองขึ้นมาและเพิ่มพลังของพวกมันอย่างมหาศาล

 

ทันใดนั้นใบหน้าของหานเซิ่นก็ซีดไป เขาอยากจะถอดหน้ากากออก แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะทำแบบนั้น จิตใจที่แข็งแกร่งคำรามออกมาจากหน้ากากและเข้าไปในตัวหานเซิ่น มันขัดขวางหานเซิ่นจากการเคลื่อนไหว พลังโกสต์โบนเป็นเหมือนกับคลื่นสึนามิที่กำลังซัดผ่านเขา ร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำและออร่าของผีก็ห้อมล้อมตัวของเขา

 

จิตใจของหน้ากากเข้าข่มจิตใจของหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆกำลังตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของมัน
“ร่างกายนี่ไม่ถือว่าดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้แย่จนเกินไป”

 

“เจ้าก็คือขุนพลโกสต์โบน?” หานเซิ่นตระหนักว่าหน้ากากโกสต์โบนนี้เป็นของใครกันแน่ แต่เขาไม่ได้หวาดกลัว เขารู้อยู่แล้วว่ามันมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับหน้ากากพวกนี้ แต่เขาแค่ยังระบุถึงมันไม่ได้เท่านั้น อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ได้รู้สึกถูกทำให้หลงทาง

 

วิญญาณของขุนพลโกสต์โบนภายในหัวของหานเซิ่นพูด
“ใช่ ข้าคือราชาโกสต์โบน ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของเจ้าที่ทำให้เข้าสิงร่างกายของเจ้าได้ ถ้าเจ้ามีบางสิ่งที่อยากจะทำก่อนตาย ข้าจะช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนั้น”

 

หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อหยุดการจำลองพลังโกสต์โบน ซึ่งทำให้พลังของหน้ากากโกสต์โบนที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขาถูกหยุดไป

 

ขุนพลโกสต์โบนดูประหลาดใจ “เจ้าไม่ได้ฝึกเทคนิคโกสต์โบน! แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ใช้พลังของมันได้?”

 

“ร่างกายของข้าไม่ใช่ร่างกายโกสต์โบน ดังนั้นทำไมเจ้าถึงต้องการใช้มัน?” หานเซิ่นถามอย่างไร้อารมณ์ความรู้สึก

 

“เจ้าเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง การจะเปลี่ยนร่างกายของเจ้าให้กลายเป็นร่างกายโกสต์โบนนั้นไม่ต้องพยายามอะไรมาก และใช่ ข้าจะใช้ร่างกายของเจ้า!”
ขุนพลโกสต์โบนพูดด้วยเสียงแข็ง เขาหยุดพยายามจะข่มจิตใจของหานเซิ่น แต่พลังโกสต์โบนจากหน้ากากโกสต์โบนนั้นทรงพลังขึ้นไปอีก

 

พลังโกสต์โบนสีดำแทรกตัวเข้าไปในทุกเซลล์ของหานเซิ่น และทำให้ยีนของเขาดูต่างไปจากเดิม

 

หานเซิ่นใช้กายหยกและเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นรูปปั้นหยก พลังโกสต์โบนแทรกซึมเข้าไปในตัวของเขาอย่างช้าๆ แต่พวกมันไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างร่างกายของเขาได้

 

“เจ้าฝึกร่างกายคงกระพัน? นี่ถือเป็นอะไรที่หายากมากๆ”
ขุนพลโกสต์โบนดูจะประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม เสียงของเขาฟังดูละโมบและพลังโกสต์โบนของหน้ากากโกสต์โบนก็ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก

 

ร่างกายหยกของหานเซิ่นแข็งแกร่ง แต่มันไม่สามารถต้านทานพลังของขุนพลโกสต์โบนได้ พลังที่กำลังแทรกซึมเข้ามาในตัวของเขาเป็นพลังระดับเทพเจ้า ร่างกายหยกของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นกระดูก

 

หานเซิ่นไม่สามารถต้านทานพลังของขุนพลโกสต์โบนได้ แต่ในขณะเดียวกันขุนพลโกสต์โบนก็ไม่สามารถเอาชนะจิตใจของเขาได้เช่นกัน

 

“ขุนพลโกสต์โบน เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเมืองที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายแห่งหนึ่งที่ถูกเรียกว่าเมืองโกสต์โบนหรือเปล่า?” จู่ๆหานเซิ่นก็ถามขึ้นมา

 

“เจ้าเคยไปที่นั่น?”  ขุนพลโกสต์โบนพูด

 

“ที่แห่งนั้นมีชื่อว่าเมืองโกสต์โบน แต่ทำไมรูปปั้นของเจ้าถึงได้ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู? รูปปั้นภายในปราสาทนั่นเป็นของใครกัน? นั่นคือผู้นำของเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

“เจ้ากำลังจะตายอยู่แล้ว เจ้าจะสนใจเรื่องนั้นไปอีกทำไม? ขุนพลโกสต์โบนถามด้วยความสงสัย

 

“ไหนๆถ้าข้าจะตาย ข้าก็ไม่อยากจะจากโลกนี้ไปโดยมีคำถามค้างคาใจ” หานเซิ่นพูด

 

“ข้าจะบอกเจ้าเอง มันก็คือสถานที่ที่ท่านผู้นำหลับใหล” ขุนพลโกสต์โบนอธิบายขณะที่เขายังคงพยายามเปลี่ยนแปลงร่างกายของหานเซิ่น

 

“มันคือสุสานหรืออะไรทำนองอย่างนั้นหรอ? แล้วรูปปั้นที่อยู่ในปราสาทนั่นเป็นของใครกัน? ทำไมมันถึงได้ไปอยู่ในนั้น?” หานเซิ่นถาม

 

ขุนพลโกสต์โบนพูดอย่างเย้ยหยัน “บางทีเขาสมควรได้รับมัน?”

 

ขุนพลโกสต์โบนดูเหมือนจะรู้สึกดูถูกเหยียดหยามต่อจักรพรรดิมนุษย์ แต่เขาไม่ได้บอกว่าอีกฝ่ายจริงๆแล้วเป็นใครกันแน่

 

“ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นใครกัน? ทำไมรูปปั้นของเขาถึงไปอยู่ในปราสาท?” หานเซิ่นถามต่อ

 

“เจ้าเป็นคนที่กำลังจะตาย เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้อะไรไปมากกว่านั้น!”
ขุนพลโกสต์โบนไม่อยากจะพูดอะไรอีก ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือเปลี่ยนร่างกายของหานเซิ่นให้กลายเป็นกระดูก

 

ร่างกายของหานเซิ่นเปลี่ยนจากดำเป็นขาว เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตกระดูกขาว ซึ่งดูแปลกประหลาดอย่างมาก

 

พลังกระดูกดำดูชั่วร้ายมากๆ แต่ตอนนี้เมื่อมันเปลี่ยนเป็นกระดูกขาว มันก็ดูไม่ชั่วร้ายอีกต่อไป

 

“ข้าพบแผ่นหินพิเศษภายในปราสาท เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร?”
หานเซิ่นถาม เขามีคำถามมากมาย และดูเหมือนว่ามีเพียงแค่ขุนพลโกสต์โบนเท่านั้นที่จะคลายความสงสัยให้กับเขาได้

 

ขุนพลโกสต์โบนนิ่งไปชั่วขณะ แม้แต่พลังโกสต์โบนที่กำลังเปลี่ยนแปลงร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกหยุด เห็นได้ชัดว่าคำถามนั้นทำให้ขุนพลโกสต์โบนรู้สึกอึ้งไป

 

“เจ้าพบโบราณวัตถุ? ทำไมเจ้าถึงมีมันอยู่ได้?” ขุนพลโกสต์โบนรีบถาม

 

“ข้ามีมันติดตัวอยู่ในตอนนี้ โบราณวัตถุนั่นคือะไร? มันใช้ทำอะไรได้?” หานเซิ่นถาม

 

“ฮ่าๆ! พระเจ้าคงกำลังช่วยเหลือข้าอยู่แน่ๆ ด้วยโบราณวัตถุนี้ ข้าจะเข้าถึงสมบัติที่อยู่ภายในอนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์นั่นได้ ยุคสมัยของโกสต์โบนมาถึงแล้ว”
ขุนพลโกสต์โบนหัวเราะราวกับคนบ้าภายในหัวของหานเซิ่น

Super God Gene

Super God Gene

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 2000 อ่านนิยาย 

อ่านต่อข้างล่าง


ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก
แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่
“ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม”

Options

not work with dark mode
Reset