Scholar’s Advanced Technological System 383 เชิญมาร่วมวิจัย

ตอนที่ 383 เชิญมาร่วมวิจัย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นคำขอที่คาดไม่ถึง

ลู่โจวเงียบไปสักครู่ก่อนจะเอ่ย “…แม้ว่าผมจะวิจัยผลเฉลยที่ราบรื่นของสมการนาเวียร์-สโตกส์ แต่ผมไม่ได้มีเป้าหมายที่ปัญหามิลเลนเนียม”

ลู่โจวพูดความจริง

เหตุผลที่ทำไมเขาถึงวิจัยสมการนาเวียร์-สโตกส์ก็เพื่อสร้างแบบจำลองเชิงทฤษฎีที่เหมาะสมให้แก่ปรากฏการณ์ความปั่นป่วนในพลาสมา

การวิจัยนี้มาจากคำแนะนำของเฒ่าชิว

ส่วนการหาผลเฉลยที่สมบูรณ์ของรางวัลมิลเลนเนียมสมการนาเวียร์-สโตกส์นั้น…

พูดตามจริง ลู่โจวไม่เคยคิดถึงเลย

“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย ถ้ามันง่าย ตอนนี้มันคงถูกแก้ไปแล้ว แม้แต่ฉันก็ไม่มั่นใจว่าจะพิชิตมันได้” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรก็ตามถ้าเราร่วมมือกัน ฉันคิดว่ามันคุ้มที่จะลอง”

ลู่โจวถาม “คุณมั่นใจเหรอว่าถ้าเราร่วมมือกันแล้วเราจะแก้มันได้?”

“ฉันไม่รู้ แต่สัญชาตญาณของฉันบอกว่ามันอาจเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง”

ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนมองดูสมการบนไวท์บอร์ดแล้วพยักหน้าให้ตัวเอง

จากนั้นเขาก็หันไปมองลู่โจวก่อนจะยื่นมือขวาออกมา

“คุณคิดเห็นอย่างไร?”

ทั้งห้องเรียนตกอยู่ในความเงียบ

ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนไม่ใช่คนเดียวที่กำลังรอการตัดสินใจของลู่โจว ทุกคนในห้องต่างก็กำลังกลั้นลมหายใจ

ลู่โจวจ้องมองมือของอีกฝ่ายแล้วครุ่นคิด

จะว่าไป นับตั้งแต่เขาแก้ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคและระดับคณิตศาสตร์มาถึงระดับ 6 เขาก็ไม่ได้ท้าทายโจทย์คณิตศาสตร์ยากๆเลย

ลู่โจวพลันเปล่งเสียงหัวเราะ เขาจับมือกับเฟฟเฟอร์แมน

“น่าสนใจ”

ปัญหารางวัลมิลเลนเนียม…

มันฟังดูน่าสนใจทีเดียว

เช่นเดียวกับศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน ลู่โจวก็ไม่มีความมั่นใจมากพอที่จะท้าทายปัญหานี้เพียงคนเดียว

แต่ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน มันจะเป็นเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ฮ่าๆ ฉันดีใจมากที่ตกลงกับคุณได้!” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนจับมือขวาของลู่โจวไว้แน่น “ดูเหมือนโลกจะมีปริศนาน้อยลงอีกอย่างหนึ่งแล้ว”

ลู่โจวไม่ได้มองในแง่ดีนัก เขาจึงยิ้มบางๆ เท่านั้น

“หวังว่ามันจะได้ผลนะ”

เมื่อเห็นทั้งสองตกลงกัน ห้องเรียนก็เดือดเหมือนหม้อน้ำที่กำลังเดือด

“คุณพระ…”

ชายผิวขาวหน้าเป็นกระหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วถ่ายรูปศาสตราจารย์ทั้งสอง เขาอดใจบันทึกช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนี้ไม่ได้

ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อพิชิตสมการนาเวียร์-สโตกส์!

มันไม่มีอะไร…

สุดยอดกว่านี้แล้ว!

ถ้าศาสตราจารย์ทั้งสองทำสำเร็จ งั้นทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องเรียนก็จะเป็นสักขีพยานช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์!

รูปใบนี้จะเป็นรูปบันทึกช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้ไว้!

หลังลู่โจวทำข้อตกลงกับศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเสร็จ สถาบันการศึกษาขั้นสูงก็เปิดการวิจัย’การมีอยู่ของผลเฉลยที่ราบรื่นของสมการนาเวียร์-สโตกส์ในสามมิติที่บีบอัดไม่ได้ด้วยค่าเริ่มต้นจำเพาะ’อย่างเป็นทางการ

ชื่อของโปรเจกต์วิจัยนี้เรียบง่ายมาก มันมีแค่สองตัวอักษรเท่านั้น ‘NS’

ศาสตราจารย์ทั้งสองตัดสินใจใช้วิธีดั้งเดิมอย่าง’ต่างคนต่างวิจัยและแลกเปลี่ยนผลการวิจัยเป็นประจำ’

วันที่สองหลังโปรเจกต์วิจัย NS ถูกสร้างขึ้น ทีมโปรเจกต์ He3 ก็ได้รับเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กในที่สุด

เลเซอร์สันเลือกใช้อุปกรณ์เก่าจากห้องแล็บแห่งชาติบรูคเฮเว่น แม้ว่าจะเอาจาก CERN ก็ได้เหมือนกัน แต่เครื่องเร่งขนาดเล็กของ CERN ต้องผ่านด่านศุลกากร ซึ่งมันต้องใช้เวลานาน ห้องแล็บแห่งชาติบรูคเฮเว่นอยู่ในรัฐนิวยอร์ก พวกเขายินดีกำจัดอุปกรณ์เก่าทิ้ง

แม้ว่ามันจะถือว่าเป็นเครื่องเร่งอนุภาค’ขนาดเล็ก’ แต่มันก็ไม่ได้เล็กเลย มันก็กินพื้นที่ห้องแล็บไปพอควรเลย

ท้ายที่สุดแล้ว ความเร็วแรกเริ่มของอนุภาคถูกกำหนดโดยความเข้มของสนามแม่เหล็กและรัศมีวงจรของอนุภาค

เครื่องเร่งที่พึ่งมาถึงมีความเข้มสนามแม่เหล็กอยู่ที่ 1T และรัศมีสูงสุดห้าเมตร มันใช้เวลาห้าวันกว่าทีมโปรเจกต์ He3 จะประกอบเครื่องเร่งเสร็จ

และนี่ก็เป็นศาสตราจารย์เลเซอร์สันที่พาพวกวิศวกรมาทำงานล่วงเวลาด้วยตัวเอง

ปกติแล้ว ทีมวิจัยต้องใช้เวลาเป็นเดือนถึงประกอบสิ่งนี้เสร็จ

ศาสตราจารย์เลเซอร์สันสวมหมวกนิรภัยอยู่ในห้องแล็บพีพีพีเอลเขากำลังตรวจสภาพวงจรของขดลวดตัวนำยิ่งยวดโดยใช้อุปกรณ์เฉพาะทางบางอย่างและเอ่ยถามลู่โจวที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังไปด้วย

“ทำไม?”

ลู่โจวตั้งตัวไม่ทัน

“ทำไมคือ?”

“เทคโนโลยีนี้ไม่ได้สร้างสิทธิบัตรให้คุณ ต่อให้ได้สิทธิบัตร สิทธิบัตรก็คงไม่เป็นที่นิยมเท่ากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบแช่แข็ง ฉันยอมเดิมพันเลยว่ามันมีห้องแล็บน้อยกว่าสิบแห่งเสียอีกที่ยอมจ่ายให้เทคโนโลยีนี้”

ศาสตราจารย์เลเซอร์สันไม่รู้คำตอบของคำถามนี้

แม้เขาจะรู้ว่าศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ท่านนี้ร่ำรวยเพียงใด แต่เขาไม่รู้ความตั้งใจของศาสตราจารย์

เป็นรางวัลโนเบลเหรอ?

นั่นมันตื้นเกินไปไหม?

ลู่โจวคิดเล็กน้อยแล้วพลันเผยรอยยิ้มออกมา “เพื่อเป็นเกียรติยศต่อความฉลาดของมนุษย์…เหตุผลนี้พอไหม?”

แววตาของศาสตราจารย์เลเซอร์สันเบิกกว้าง เขาไม่รู้จะพูดอะไร

หลังจากนั้นพักใหญ่ เขาก็ค่อยๆยกนิ้วให้

“มีนักวิชาการจีนเพียงสามคนเท่านั้นที่ฉันเคารพ และคุณเป็นที่สุด…”

ศาสตราจารย์เลเซอร์สันคิดเล็กน้อย เขาไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรดี

อ่อนเยาว์?

มันฟังดูไม่จริงจังพอ

ฉลาด?

งั้นมันก็เหมือนดูถูกนักวิชาการจีนอีกสองท่าน

“ที่สุดอะไร?”

ไม่นาน เลเซอร์สันก็นึกคำพูดดีๆ ได้

“เป็นคนที่ผลาญเงินที่สุด…”

ลู่โจว “…”

หมายความว่าไงผลาญเงินที่สุด?

คุณหาคำที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วเหรอ?

อย่างไอคิวสูงสุด ฉลาดที่สุด หล่อที่สุด…

อะไรก็ดีกว่าผลาญเงินทั้งนั้นแหละ!

กำหนดการทดลองคือสองวันหลังประกอบอุปกรณ์เสร็จ

ซึ่งเป็นสองวันก่อนคริสต์มาส

ถ้าการทดลองสำเร็จ ทุกคนก็จะได้เพลิดเพลินไปกับวันหยุดคริสต์มาสที่แสนวิเศษ

ถ้าการทดลองล้มเหลว…

พวกเขาก็ยังได้หยุดคริสต์มาสอยู่ดี

แต่วันหยุดของพวกเขาคงไม่น่ารื่นรมย์นัก

พวกเขาไม่มีเวลาแก้ไขการทดลองแล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของทีมโปรเจกต์ He3

ถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ พวกเขาต้องรอจนถึงเดือนมิถุนาปีหน้า เพื่อให้เวนเดลสไตน์ 7-X ปรับปรุงใหม่และกำหนดแผนการทดลอง

นี่หมายความว่าพวกเขาต้องเสียเวลาเปล่าครึ่งปี

อย่างไรก็ตามลู่โจวมองในแง่ดี

เขามั่นใจมาก โดยเฉพาะตอนนี้ปืนอะตอมได้รับการอัปเกรดแล้ว

สนามแม่เหล็ก 1T พอแน่นอน

ทั้งการคำนวณและสัญชาตญาณกำลังบอกเขา

ทีมโปรเจกต์ He3 รอคอยอย่างเป็นกังวล

ในที่สุด วันทดลองก็มาถึง…

……………………………….

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 801 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน

ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง

ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา

จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล

“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”

“ไม่ได้”

“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”

“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”


Options

not work with dark mode
Reset