Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita 26: ระวังหน้าระวังหลังให้มากกว่านี้ก็ดีนะยูยะ

ตอนที่ 26: ระวังหน้าระวังหลังให้มากกว่านี้ก็ดีนะยูยะ

อย่างที่คาเอเดะขอเอาไว้ในตอนเช้าวันนี้พวกเราก็ไม่ได้ฝึกพิเศษกัน

ผมกับชินจิพวกเราต่างพากันกลับบ้านด้วยกัน

โชคดีที่คนอื่นไม่ได้ยินเรื่องที่ผมพูดคุยกับชินจิ ขืนสมาชิกคนอื่นของทีมฟุตบอลรู้เข้าว่าผมอาศียอยู่ชายคาเดียวกันกับคาเอเดะซังล่ะก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะโดนต้มยำทำแกงอะไรบ้างในช่วงสุดสัปดาห์ที่เหลือน่ะ แค่พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเรามันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาอยากจะเชือดผมแล้วเอาไปถ่วงทะเลแล้ว

แล้วนับประสาอะไรกับการที่พวกเราอาศัยอยู่ด้วยกัน 

นี่สักวันผมคงจะไม่โดนเขาแทงเอาใช่มะ?

 

“ระวังหน้าระวังหลังให้มากกว่านี้ก็ดีนะยูยะ นายมันมองออกง่ายชั้นว่าอีกไม่นานก็คงจะมีเรื่องแน่ๆ แล้วนี่อยู่ด้วยกันงั้นก็แสดงว่าได้นอนเตียงเดียวกันด้วยสินะ?”

“ไม่หรอก เรานอนด้วยกันก็จริงแต่ก็เว้นระยะห่างพอสมควรเลยนะ ก็เผื่อไว้กรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันน่ะ……”

“ก็นี่แหละที่อยากจะบอกน่ะ ชั้นแค่ถามว่าได้นอนด้วยกันรึเปล่าเพราะงั้นก็ควรจะตอบว่านอนแยกกันสิ แล้วไหงนายถึงได้พล่ามอะไรที่ไม่จำเป็นออกมาอีกล่ะ?”

 

ชินจินี่แกเหลี่ยมชั้นสินะ? มันไม่แฟร์เลยนี่ที่นายจะมาฉวยโอกาสจากหัวใจที่โกหกใครไม่เป็นแล้วมาคอยยิงคำถามใส่น่ะ

 

“ไม่สิ ก็ไม่คิดว่ายูยะบ้าขนาดซื่อตรงจนพูดออกมาตรงๆล่ะนะ สำหรับนายบางทีมันก็เป็นเรื่องของเวลาแล้วล่ะเพราะดูเหมือนว่าทางฮิโตสึบะซังเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังเหมือนกัน”

 

อันที่จริงบางทีก็นั่นแหละคือปัญหาใหญ่ที่สุดน่ะ คาเอเดะซังมาโรงเรียนพร้อมกับควงแขนเหมือนกับว่าเธอกำลังคบกับผมอย่างภาคภูมิใจทั้งรอผมซ่อมเสร็จจนค่ำมืดแล้วก็จูงมือพากันออกจากโรงเรียนอย่างคู่รัก ในช่วงพักเที่ยงก็มาที่ห้องเรียนแล้วก็กินมือเที่ยงโฮมเมดด้วยกัน พวกเราก็เลยได้ขลุกอยู่ด้วยกันทุกวัน

ไม่รู้เลยว่าจะเป็นไงถ้าเกิดว่าพวกเราได้อยู่ห้องเดียวกันน่ะ

 

“เดี๋ยวเธอจะต้องกลายเป็นคุณภรรยาอย่างเต็มตัวได้แน่ๆ แล้วนี่อย่างฮิโตสึบะซังเธอจะหึงเป็นกับเขาบ้างรึเปล่านะ?”

“อย่าพยามทำให้ท้องไส้ชั้นปั่นป่วนหน่อยเลยน่า……..ก็ไม่รู้หรอกว่าเธอจหึงเป็นรึเปล่าแต่ก็ค่อนข้างแน่ใจเลยว่าถ้าเธอหึงก็คงจะน่ารักน่าดูเลย”

 

ลองนึกภาพตามนะว่าถ้าเกิดว่าผมทำผลงานได้ดีในคาบพละและพวกสาวๆก็พากันส่งเสียงเชียร์และโบกมือให้ด้วยรอยยิ้ม ไม่สิจะว่าแบบนั้นก็คงไม่ถูกเพราะว่าอย่างคาเอเดะซังก็คงจะตะโกนส่งเสียงเชียร์ดังกว่าใครเขาอยู่แล้วล่ะนะ

แล้วถ้าเกิดว่าผมไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากคาเอเดะซังจะเป็นยังไงล่ะ?

เอ๊ะ ก็ไม่ใช่ว่าพักนี้ผู้หญิงที่ผมคุยด้วยมันก็มีแต่คาเอเดะซังไม่ใช่เรอะ?

แต่นอกเหนือจากเธอแล้วก็มีอีกคนที่ผมพูดคุยด้วยนั่นก็คือโอสึกิซังแฟนสาวของเจ้าชินจิ

คิดว่าพวกเราคงจะต้องหาเวลาคุยกันให้มากกว่านี้แล้วสินะ

 

 

“ทุกคนเขาก็พากันเก็บอาการอยู่นะโดยเฉพาะกับนายที่เป็นแฟนหนุ่มของฮิโตสึบะซังน่ะ ทีแรกชั้นเองก็ไม่ต่างกัน ทุกๆคนต่างก็พากันเลิกเสวนากับชั้นเพียงเพราะชั้นเป็นแฟนกับอากิโฮะน่ะ เอาเถอะถึงตอนนี้ก็กลับมาปกติแล้วก็เถอะแต่ในกรณีของนายมันอีกเรื่องเลย”

 

นักเรียนชายที่ได้คบหากับสาวงามที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะเลิศการประกวด Miss High School Girls Contest เดิมทีมันก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะพูดคุยกับผู้ชายที่มีแฟนแล้ว

แล้วทีนี้พอผู้หญิงที่ว่าคือคาเอเดะพวกผู้หญิงคนอื่นเขาก็ไม่อยากจะสู้หน้าเลยอย่างนั้นรึ?

 

“แต่ก็เอาเถอะตราบใดที่คาเอเดะยังอยู่และนายกับโอสึกิซังก็อยู่ด้วยถึงชั้นเองก็อยากจะเห็นคาเอเดะซังหึงอยู่เหมือนกันนะแต่ชั้นก็ไม่อยากจะทำให้เธอต้องมารู้สึกเสียใจน่ะ”

 

การหึงนั่นก็หมายถึงการที่ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจ

ผมเองก็เป็นหนี้คาเอเดะหลายเรื่องและการที่ได้ใช้เวลากับเธอทำให้แต่ละวันของผมมันมีสีสันมากขึ้นแต่นั่นก็ใช่ว่าจะไม่ได้เจอเรื่องปวดหัวต่างๆ อาทิ หัวใจจะวายและเพลียจากวีรกรรมของเธอ

 

“ข้อดีของยูยะเนี่ยก็คือที่นายสามารถพูดออกมาได้อย่างง่ายๆว่านายไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจนี่แหละ นี่นายไม่คิดบ้างเหรอว่าที่ฮิโตสึบะซังมาชอบนายก็เพราะว่าเจ้าหล่อนเองก็คิดแบบเดียวกันกับนายน่ะ?”

 

อย่างงั้นเหรอ? ก็เป็นธรรมดาที่ไม่อยากที่จะทำให้คนสำคัญของเราต้องเสียใจจริงไหมล่ะ?  ไม่ว่าจะคนรักหรือเพื่อนหรือจะคนในครอบครัวก็ตามที

 

“นั่นเป็นสิ่งที่นายคิดแต่ก็พูดออกมาดังๆไม่ได้ แต่ยูยะก็เท่เพราะว่าพูดออกมาได้โดยที่ไม่ลังเลเลย ดูเหมือนจะต้องลำบากหน่อยล่ะนะฮิโตสึบะซัง”

 

ชินจิหัวเราะจนทำให้ผมเคืองแต่พอลองคิดว่าจะตอบโต้อะไรกลับไปชินจิก้เปลี่ยนหัวข้อทันที

จะมาไม้ไหนอีกล่ะทีนี้?

 

“แบบว่าเดี๋ยวก่อนนะยูยะ เมื่อกี้ชั้นปล่อยผ่านมันไปแต่ว่า เอ๊ะ อะไรนะ? นี่พวกนายจูงมือกันไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน? หมายความว่าไง? ไม่เห็นจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย”

 

นายขุดเอาเรื่องเก่าๆมาพูด?

ชั้นไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาคอยนั่งรายงานนายให้รู้ว่าชั้นกับคาเอเดะซังเราจูงมือกลับบ้านด้วยกันจริงไหมล่ะ?

 

“ไม่ๆ ก็จริงอยู่ที่นายไม่จำเป็นต้องรายงานชั้นหรืออะไรทั้งนั้นแต่นายก็ไม่ได้คบกับฮิโตสึบะซังใช่ไหมล่ะ? แล้วไหงถึงได้เดินไปโรงเรียนด้วยกันแบบคู่รักเลยล่ะงั้น?”

“อ่า……นั่นน่ะ…พวกเราจูงมือกันกลับบ้านครั้งนึงแล้วชั้นก็เขินมากๆในขณะที่คาเอเดะซังเธอดีใจสุดๆแล้วตั้งแต่นั้นมาเธอก็จะเริ่มงอแงถ้าหากว่าชั้นไม่ยอมจูงมือกับเธอน่ะ เอาเถอะมันก็แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยล่ะนะ”

 

วันนั้นตอนที่กำลังจะกลับบ้านก็รอให้ฝึกเสร็จอยู่คนเดียวท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ

ผมอุ่นมือที่เย็นเฉียบของตัวเองและคาเอเดะซังก็เข้ามาจับมือแล้วก็เดินกลับบ้านด้วยกัน

แล้วก็กลายเป็นว่าเราก็จูงมือกันกลับบ้านเป็นเรื่องปกตินับแต่วันนั้น

 

“นั่นไม่ได้หมายความว่าชั้นภูมิใจจะอวดเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราหรอกนะ ชั้นเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อโค๊ตแล้วก็จับมือกันในนั้น แบบนั้นมันก็ไม่เตะตาแล้วจริงไหม?”

 

มันน่าอายจะตายไปที่จะเดินควงแขนกันไปมาหรือเดินจับมือกันอย่างเปิดเผย แต่ถ้าเราจับมือกันในเสื้อโค๊ตล่ะก็แว่บแรกก็มองไม่ออกหรอก แล้วพอผมบอกเธอเกี่ยวกับความคิดที่แหวกแนวของผมแก้มของคาเอเดะซังก็ย้อมเป็นสีแดงแล้วก็พูดอย่างเขินอายว่า “ถ้ายูยะคุงโอเคล่ะก็…….” 

ว่าแต่แล้วมันทำไมล่ะ?

 

“เฮ้อ…..จูงมือแบบคนรักในกระเป๋าเสื้อโค๊ตของแฟนหนุ่มอย่างงั้นเรอะ? ชั้นว่าแบบนั้นมันดูเหมือนโลกส่วนตัวของพวกนายสองคนมากกว่าแล้วมั้ง แต่ชั้นว่าอย่างยูยะคงจะไม่เข้าใจสินะ? นายเอาชนะความงดงามของฮิโตสึบะซังไม่ได้หรอก” 

 

ไม่เข้าใจความหมายของไอ้เจ้าชินจิเลยและระหว่างนี้ผมกับชินจิก็มาถึงที่หมายของเรา

ก็นะ ในมุมมองของผมคือเราพึ่งจะมาถึงบ้านล่ะนะ

 

“ยะ-ยอดไปเลยนะ…….นี่คือรังรักของพวกนายทั้งคู่เหรอเนี่ย…..”

 

“อย่ามาเรียกว่า “รังรัก” นะเฟ้ย เอาล่ะ…เลิกไร้สาระแล้วไปกันได้แล้ว ชั้นโดนคาเอเดะซังโทรตามหลายสายแล้วว่าจะกลับบ้านรึยังน่ะ”

 

ผมจูงมือของชินจิที่กำลังดูเหวอสุดๆพอๆกับผมตอนที่มาที่นี่ครั้งแรกแล้วพวกเราก็รีบบึ่งไปหายัย 2 คนนั้นที่กำลังรออยู่

นี่จะเตรียมเสิร์ฟอาหารแบบไหนไว้กันนะ? ตั้งหน้าตั้งตาคอยเลยจริงๆ

เจ้าชินจิตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ในลิฟท์ ผมเองก็เคยเป้นแบบนี้เหมือนกันตอนที่ได้มาที่นี่ครั้งแรก

ผมปลดล็อกประตูแล้วก็พูดว่า “กลับมาแล้ว” แล้วขณะที่กำลังก้าวเข้าไปคาเอเดะซังที่สวมผ้ากันเปื้อนยืนอยู่ตรงทางเข้าประตูและถือทัพพีอยู่ในมือ

 

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะคุณคะ! อยากจะอาบน้ำก่อน? กินข้าวก่อนหรือว่าจะเป็น ชั้-น ดีล่ะคะ?”

 

ผมได้รับการต้อนรับจากคุณภรรยามือใหม่ที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่นด้วยรอยยิ้มกว้างๆบนใบหน้าของเธอล่ะครับ

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Score 10

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset