Rise of The Undead Legion 70

ตอนที่ 70

Chapter 70: ของดรอป!

เดฟได้ใช้ { Rising Strike } เพื่อหลบการโจมตี

เดฟจำได้ว่าสกิล {Magma Throw} ของบอสนั้นกินพื้นที่ 10 เมตร เขารู้ว่าถึงแม้จะหลบการโจมตีแรกได้แต่มันก็ยังทำดาเมจต่อซึ่งฆ่าเขาได้ มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ไร้ค่าแต่นั่นคือทั้งหมดที่เขาทำได้ เขารู้ว่าเขาคงซวยแล้วและไม่อาจะทำอะไรเพื่อแก้ไขมันได้

ตอนนั้นเขายังอยู่กลางอากาศ ในตอนที่เขาตกลงไปที่พื้น เขาคงต้องตายอย่างแน่นอน

[-150]

ดาเมจโผล่มาที่หัวของเดฟ จากนั้นก็มีระเบิดเกิดขึ้นทำให้เขากระเด็นออกไปข้างๆหลบพื้นที่ของสกิลบอสได้

ความร้อนของลาวาทำให้เดฟต้องตัวสั่น

” ขะ ขอบคุณ ! ” – เขาพูดขึ้น

” ฉันบอกนายแล้วไง โลภมากมีแต่จะทำให้นายโดนฆ่า ! นายจะทำยังไงถ้าฉันไม่ช่วยนายไว้ ! “

” ใช่ ขอบคุณ “

” ถอยกลับมา ปล่อย Drahma จัดการกับบอส ! ” -Lone Arrow ยิงทำดาเมจเข้าใส่บอสเพื่อรับประกันว่าจะได้ xp กลับมา

เดฟ ได้ใช้ {Spectral Bomb} เข้าไปโจมตีบอสแล้วถอยไปในระยะปลอดภัย

ขนาดของ Drahma ทำให้บอสดูเหมือนคนแคระ ทุกการโจมตีเขาจะทำให้บอสกระเด็นไปตามพื้นและทำให้ลาวากระจายออกมา

บอสลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธก่อนจะพุ่งเข้าหา Drahma อย่างไม่เกรงกลัว

Drahma ปัดการโจมตีราวกับยุงเข้ามาตอมและอัดบอสกลับไปด้วยกระบองของเขา ทำให้มันกระเด็นไปตามพื้นราวกับว่าวที่โดนตัดสาย

ค่าดาเมจนั้นเกินกว่าเลือดที่เดฟมี

” เราควรซื้อป็อปคอร์นมาดู นี่มันเหมือนหนังยักษ์สู้กับยักษ์เลย! ” – Lone Arrow พูดขึ้น

” ฉันมีความคิดดีกวานั้น ทำไมไม่ — “

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงคนจากด้านหลัง

เขาหันกลับไปและพบกลุ่มผู้เล่นที่เข้ามาในสนามต่อสู้

” อ่ะ ซวยละ มีคนมา ! ” – เดฟพูดขึ้น

นี่คือกลุ่มจาก Devastators ที่เข้ามาในถ้ำตามหลังเดฟมา Drahma ได้กำจัดมอนสเตอร์ตามทางไปแล้วและเพราะแบบนั้นพวกนี้จึงข้ามาที่นี่ได้โดยไม่พบกับปัญหามากนัก

Drahma กำลังอัดกับบอสอยู่แต่คนแคระในปาร์ตี้นั้นกลับมองมาที่ตำแหน่งของเดฟแล้วพูดขึ้น – ” ดูตรงนั้นสิ ไอ้โครงกระดูกนั่นไง ! “

ผู้เล่นประมาณ 20 คนหันกลับมามองโครงกระดูกผู้โด่งดัง

” ซวยแล้วไง หนี ! ” – เดฟ ตะโกนขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปหา Drahma

” โอ๊ย ไม่ใช่ว่านายวิ่งไปผิดทางหรือไง ? ” – Lone Arrow ตะโกนขึ้นมาแต่เธอก็ยังคงวิ่งตามเดฟ ไปอยู่

” ฉันมีแผน ! หวังว่าจะได้ผลนะ ! “

พวก Devastators วิ่งไล่ตามเดฟและ Lone Arrow ด้วยสายตาที่แสดงความโลภ

Drahma ดูเหนือกว่าในการต่อสู้ ต้องขอบคุณความต่างของเลเวล เขามีเลือดมากกว่าบอส 30% และตอนนี้บอสเหลือขาแค่ข้างเดียวด้วย

เดฟและ Lone Arrow เข้าไปในระยะความโกรธของบอสและมันก็ได้ใช้สกิลออกมา

{Call to Arms} ซึ่งได้เรียกปีศาจสองตัวออกมาในสนามรบ

เดฟและ Lone Arrow ได้เข้าไปใกล้กับมอนสเตอร์ที่กำลังจะพุ่งเข้ามาเพื่อโจมตีทั้งคู่

เดฟได้ใช้ {Block} และตามด้วย {Counter} เพื่อทำให้มอนสเตอร์ที่เข้ามาหาต้องเซ

เขาตามด้วย {Spectral Bomb} เพื่อทำให้มันกระเด็นออกไป

Drahma หันกลับมาแล้วใช้กระบองจัดการมอนสเตอร์ตัวนั้นและถูก {Magma Throw} โยนใส่เพราะไขว้เขว

{Magma Throw} ทำดาเมจใส่ Drahma อย่างหนักแต่เขาก็กัดฟันทนรับมันไว้

” ขอบคุณ ! ” – เดฟพูดขึ้นและยังคงอยู่ใกล้กับ Drahma

Lone Arrow รีบใช้ {Blink} เพื่อหนีการชนของมอนสเตอร์และขยับเข้าไปใกล้เดฟ

มอนสเตอร์นั้นไม่ได้หยุดและมุ่งหน้าไปหาปาร์ตี้อีกฝั่งแทนเมื่อพบเป้าหมายใหม่

Lone Arrow ไม่ได้ทำการโจมตีมอนสเตอร์ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ดึงความโกรธเข้าหาตัว

สำหรับกลุ่มผู้เล่น 20 คนนั้นกลับกัน หนึ่งในนั้นได้ใช้สกิลโจมตีเข้าใส่มอนสเตอร์

” ไอ้โง่ ! ” – คนแคระตะโกนขึ้นมา

มันสายเกินไปแล้ว มอนสเตอร์ได้ล็อคความโกรธไปที่นักเวทย์และพุ่งเข้าใส่เขา

ปาร์ตี้ได้สลัดการโจมตีของมอนสเตอร์ในเสี้ยววินาทีและจากนั้นก็ได้เข้ามาในระยะของบอส

” ดูสิว่าเราเจออะไร เฮ้ Blaster ฉันบอกนายแล้ว บางครั้งเราก็ต้องเสี่ยงเพื่อจะได้รางวัลมา เห็นอันเดตนั่นมั้ย ถ้าเรายังคอยแต่ระวังเราคงไม่มีทางมาถึงที่นี่เพื่อฆ่าเขาได้ทันหรอก ” – คนแคระพูดขึ้น

ชายที่ชื่อ Blaster นั้นดูรำคาญกับคำพูดของคนแคระและไม่ได้ตอบกลับ

เขามองไปที่เดฟด้วยสีหน้าซับซ้อนและเห็นอันเดตหนวดมองมาที่เขา

เดฟรู้จักคนที่ชื่อ Blaster ….

มันคือราฟเพื่อนสมัยเด็กของเขา

ปาร์ตี้นี้เข้ามาใกล้ Drahma ขึ้นเรื่อยๆ

พวกนั้นลังเลเพราะขนาดตัวของยักษ์ที่สู้กันอยู่ พวกนั้นคิดว่าการต่อสู้นี้เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยน พวกเขาไม่ค่อยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และไม่อาจเชื่อมต่อความเป็นไปได้ที่ว่าเดฟจะมี Drahma คอยช่วยได้

” ดูนั่น เขาอยู่ใกล้กับการต่อสู้ของบอส เราต้องฆ่าเขา ไม่งั้นบอสสักตัวคงฆ่าเขาก่อนเราแน่ ” – คนแคระพูดขึ้น

ไม่มีใครเห็นว่ามีมอนสเตอร์แค่สองตัวที่ถูกเรียกออกมาตอนที่ทั้งสองเข้าไปในระยะของบอส

ทันใดนั้นมอนสเตอร์กว่า 20 ตัวก็โผล่ขึ้นมาซึ่งมีเต่าหัวงู 6 ตัว ส่วนที่เหลือนั้นเป็นกระทิงและการ์กอย

” เหี้ยอะไรวะ ! ” คนแคระร้องออกมาเมื่ออยู่ๆก็มีเต่าหัวงูเข้าโจมตีเขา

ผู้เล่นเริ่มใช้สกิลออกมาเพื่อหลบพวกมอนสเตอร์หวังว่าจะพลิกการต่อสู้นี้ได้

เดฟและ Lone Arrow หันกลับไปมองความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่อีกฝั่ง

” นายรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใช่มั้ย ? ” – เธอถาม

” ใช่ บอสตัวนี้มันน่ารำคาญ เอาจริงๆแล้วสกิล {Call to Arms} จะบังคับให้ผู้เล่นเข้าต่อสู้กับมันด้วยจำนวนที่จำกัด ยิ่งมีผู้เล่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งยากเท่านั้นและผู้เล่น 20 คนนั้นโง่ที่ไม่ตรวจสอบบอสก่อนจะพุ่งเข้ามา….”

ผู้เล่นเริ่มตายกันไป บางพวกจัดการมอนสเตอร์ได้ แรดนั้นฆ่าได้ง่ายแต่พวกการ์กอยนั้นจำป็นต้องใช้สกิลเพื่อยิงมันลงมา สำหรับเต่าแล้ว….สกิลโจมตีแบบสุ่มของมันนั้นทำให้พวกนั้นไม่อาจจะป้องกันแนวหลังได้

ด้วยการที่ขาดพรีสและอาชีพสายสนับสนุนอยู่แล้ว พวกเขาจึงยื้ออยู่ได้ไม่นาน

แทงค์ตายอย่างน่าอนาถเพราะขาดการฮีลและระดับความอันตรายที่พวกเขาเจอ

Blaster ทำได้ยอดเยี่ยมกับการรับมือเต่าสองตัวแต่ไม่นานเขาก็กลายเป็นเศษแสงไป

นี่ทำให้เดฟถอนหายใจออกมาซึ่ง Lone Arrow ก็เห็นมัน

” นายรู้จักคนนั้นงั้นเหรอ ? “

” บางที…แต่ตอนนี้เรามีปัญหาตรงหน้า ! ” – เดฟพูดขึ้น – ” เธอเห็นมั้ยละ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดได้ก่อนที่พวกเขาจะตาย…และเมื่อเป็นแบบนั้นเรานี่แหละที่จะตายเป็นพวกต่อไป Drahma ปกป้องเราจากทุกอย่างไม่ได้โดยเฉพาะสกิลเล็งเป้าหมายแบบสุ่มของเต่า “

มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เดฟจัดการหลบมันได้บ้างแต่มันก็มีมอนสเตอร์เยอะเกินไปที่เขาจะหลบได้

คนสุดท้ายในปาร์ตี้อีกฝั่งที่ตายคือคนแคระ

จากมอนสเตอร์ 20 ตัวนั้นมีเต่า 5 ตัวที่ยังเหลือเลือดกว่าครึ่งและการ์กอยสองตัว พวกมันหันกลับมาและเดินหน้าเข้าหาเดฟและ Lone Arrow

” ฉันก็เดาว่างั้น ” – Lone Arrow พูดขึ้น

มีการปะทะครั้งใหญ่เกิดขึ้นด้านหลังเขา

เดฟได้ยินเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ตอนที่หันกลับไป Drahma ยังคงยืนอยู่พร้อมกับบาดแผลทั่วตัวและความคลุ้มคลั่งที่เพิ่มขึ้นมา

Drahma เหลือเลือดแค่ 20% แม้ว่าจะเลเวล 550 แต่เขาก็ยังได้รับดาเมจจากบอสเลเวล 500 อยู่

[ เลเวลเพิ่ม ]

[ เลเวลเพิ่ม ]

[ เลเวลเพิ่ม ]

[ เลเวลเพิ่ม ]

..

[ประกาศจากเซิฟเวอร์ บอสโลกตัวแรก Dalmadoth ถูกกำจัดแล้ว !]

[ กองกำลังปีศาจได้ถูกผลักดันกลับไปยังโลกใต้ดิน มันเป็นหน้าที่ของคุณในการจัดการสิ่งที่คุณเริ่ม ]

[ เขตโลกใต้ดินเขตที่สองจะเปิดใน 2 ชม.ตามเวลาเกม ]

[ คุณอยากจะทิ้งชื่อไว้ในสถิติโลกหรือไม่ ? Y/N ]

เดฟพึมพำตอบกลับ ‘ ไม่ ‘

เขาไม่ต้องการให้ชื่อตัวละครเขารู้กันทั่วโลก

[ผู้เล่น Lone Arrow ช่วยในการเอาชนะ Dalmadoth และกำจัดบอสโลกตัวแรก ]

[ โปรดชื่นชมกับนักผจญภัยที่กล้าหาญในสิ่งที่หลายคนทำไม่ได้ ! ]

Lone Arrow ก็ช่วยในการจัดการบอส ดังนั้นเธอจึงได้สิทธิในการบันทึกชื่อไว้ในเกม ยังไงซะ เดฟก็ได้รังเกียจอะไร จริงๆแล้วเขาดีใจกับเธอด้วยซ้ำ น่าเศร้าที่เขาใช้ชื่อตัวเองไม่ได้

ฉันต้องเพิ่มเลเวลให้มากกว่านี้…..

” ทำไมนายไม่ลงชื่อเอาไว้ล่ะ ? ” – เธอถาม

” เธอก็รู้อยู่แล้วนี่ ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้ชื่อตัวละครของฉัน มันจะเกิดปัญหาตามมา ” – เขาพูดขึ้น

เมื่อคิดถึงตอนที่เขายกระดับขึ้นมาได้ในดินแดนอันเดต เขาก็จะสามารถเดินทางออกไปยังโลกภายนอกได้ การบอกตัวตนของเขาคงจะสร้างปัญหาที่เขาไม่ต้องการเข้าสู่ตัว

” อันเดตน้อย ” – Drahma กัดฟันพูดขึ้น

” ฉันอยู่กับนายที่นี่ไม่ได้แล้ว ฉันต้องไปพักที่วัง ” – เขาพูดขึ้นก่อนจะกลายเป็นเศษแสงแล้วหายไปมุ่งหน้าสู่ทางตะวันออก

เวลาของ Drahma หมดลงพอดี

..

” ฉันเดาว่าเราให้ Drahma คอยช่วยไม่ได้แล้ว ” -Lone Arrow พูดขึ้น

เดฟดูผิดหวังแต่ก็ยังซาบซึ้ง หากไม่มี Drahma เขาคงไม่มีทางมาถึงตรงนี้ได้

” ฉันคิดว่ามันจบการผจญภัยแล้ว เราควรกลับกันได้แล้วแต่ก่อนอื่นมาดูกันว่าบอสดรอปของอะไรบ้าง ! ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วเดินไปที่ศพของบอส

เมื่อจับตัวบอส เดฟก็ได้ไอเท็มจำนวนมหาศาลกลับมา

[ แก่นดันเจี้ยนระดับสูง ]

[ หนังสือสกิล {Demon’s Call} ]

[Demon-Buster (ธนู) ]

[ Demonic Eye (วัสดุสร้างในตำนาน) ]

[ Broken Undead-King’s Helmet ( ไอเท็มเควสพิเศษ)]

2,000 ทอง

Rise of The Undead Legion

Rise of The Undead Legion

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 100

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


สามปีก่อน เกมจำลองแบบใหม่ Conquest ได้ถูกปล่อยออกมา

‘ ทั้งโลกอยู่บนเซิฟเวอร์ เกม RPG เข้ามาใช้ชีวิตพร้อมกับคนอื่นๆ สำรวจ, สร้างและพิชิตมัน ! ’

มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เดฟรัสเตอร์ โตขึ้นมาโดยไม่มีครอบครัวให้พูดถึง เขามีเพื่อนไม่กี่คนและไม่ค่อยได้รับโอกาสในชีวิตนัก เขาอยู่ในเมืองเล็กๆที่เขาเรียนจบจากมัธยมมาและทำงานกินค่าแรงต่ำๆที่ยากจะพอจ่ายค่าเช้าและค่ากินค่าอยู่ได้ เขาไม่มีเงินไปเรียนมหาลัยแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไปนอนข้างถนน

ชีวิตเของเขาย่ำอยู่กับที่

อยู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลง มันคือกรรมรึไม่ว่าเราจะเรียกมันกว่าอะไรก็ตาม มันก็เกิดการพลิกผัน

อยู่ๆชีวิตของเดฟก็เปลี่ยนไป

เขาบาดเจ็บและไม่อาจจะทำงานได้อีก เขาเสียสิ่งที่เขามีอยู่น้อยนิดไป โชคชะตาของเขาเจอกับวิกฤตและโอกาสก็ได้โผล่มาตรงหน้า

เขาเสียงทุกอย่าง และพยายามเพื่อคว้าโอกาสที่มันส่งผลดีต่อตัวเขา เพื่อให้เขาได้กว้าหน้าขึ้นเหมือนที่เขาฝันไม่งั้นก็นั่งมองดูตัวเองจมดิ่งไปกับความล้มเหลว

มาดูเดฟผู้ซึ่งใช้แรงบันดาลใจและความหวังทั้งหมดที่มีเข้าไปในเกมที่เขาต้องการเล่นมาโดยตลอด Conquest !

มันเป็นการเดินทางของการผจญภัยและการสำรวจ, ชัยชนะและพ่ายแพ้ เขามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตให้กับตัวเขาเองทั้งในเกมและชีวิตจริง

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset