Rise of The Undead Legion 283

ตอนที่ 283

Chapter 283 : สุสานของ Ashkar อีกแล้วเหรอ ?

“ ไปกันต่อเถอะ “ – Demetri พูดขึ้น
กิลด์พันธมิตรได้จัดกองทัพใหม่เป็นขบวนสี่เหลี่ยมโดยแต่ละชุดมีผู้เล่น 1,000 คนและเดินหน้าไปทางตะวันออกต่อ
เวลาผ่านไปช้าๆ พวกเขาได้ถูกโจมตีโดยมอนเตอร์ป่าอยู่หลายครั้ง ทั้งมนุษย์เสือ, หมาป่าเลือดและแม้แต่คางคกโคลน
มีผู้เล่นตายทุกครั้งและลดความเร็วในการเดินหน้าลงเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็ต้องข้ามเหว
เคทลิน และ Tess จำพื้นที่ตรงนี้ได้ ด้านหลังมันคือป่าแพง มันคือพื้นที่ที่ของพวกคนป่า มันมีสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งของเหวนี้
“ Demetri เราควรจะอ้อมไป “ – เคทลิน พูดขึ้น
“ ทำไม ? “
“ มันคือพื้นที่ของคนเผ่าตัวเล็ก พวกมันแข็งแกร่ง พวกมันมีพลังป้องกันเวทย์และกายภาพ 800,000 หน่วยและพวกมันมีเป็นหมื่นตัว เราต้องอย่าสู้กับมัน “ – เคทลิน พูดขึ้น
“ เธอเห็นทางอื่นที่จะไปยังที่หมายเรามั้ย ?” – Demetri ถาม
“ มีปัญหาอะไร ? “ -White Ghost เข้ามาถาม
เคทลิน ได้บอกเรื่องที่เจอกับพวกเผ่าคนแคระและปิดบังเรื่องเควสของ เดฟ ที่จะไปยังสุสานของ Ashkar
“ เธอยังมีบันทึกของพวกมันอยู่รึเปล่า ? “ – White Ghost ถาม
เคทลิน ได้ส่งบันทึกของคนแคระให้กับ White Ghost
“ บ้าเอ้ย พวกนี้มันปิศาจตัวเล็กชัดๆ Mercy พูดถูก หน่วยสอดแนมมานี่ “ – White Ghost เรียกหน่วยสอดแนมเข้ามาหา
แรนเจอร์กับบีสเทมเมอร์กว่าสิบคนได้เดินเข้ามา
“ ฉันอยากให้พวกนายไปดูทางด้านหน้า ถ้าเจอกับเผ่าคนแคระให้รายงานทันที “
แรนเจอร์คนหนึ่งพยักหน้าและพาพวกที่เหลือข้ามสะพานไป
คนอื่นๆรอข้อมูลจากหน่วยสอดแนม ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รายงานอันแรกก็ถูกส่งกลับมา
“ ฉันเห็นเผ่าคนแคระขนาดใหญ่ พวกมันกำลังใช้มนุษย์เสือทำอาหาร พวกมันโคตรโหดเลย ฉันไม่คิดว่ามันจะคุ้มที่จะสู้กับพวกมัน “
ผู้เล่นอีกคนได้รายงานเข้ามา -” รายงาน มีภูติอยู่ที่นี่ พวกนั้นขวางทางเรา เราผ่านเส้นทางนี้ไม่ได้เช่นกัน “
มีรายงานเข้ามาอีกเรื่อยๆ ทุกอย่างเป็นข้อความแบบเดียวกัน เส้นทางโดนกันโดยมอนเตอร์
“ รายงาน ฉันเชื่อ่วามีทางผ่านป่าแดงไปได้ ที่นี่มีมอนเตอร์น้อยแต่พวกมันจัดการได้ง่าย เส้นทางนี้นำไปสู่ตึกเก่าๆที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง มันเป็นไปได้ที่จะเป็นดันเจี้ยน “
“ ดันเจี้ยน ? “ – Demetri คิ้วขมวด
เคทลิน ถามขึ้นมาก่อน – “ ส่งภาพพื้นที่มา “
สักพักมันก็เป็นตามที่ เคทลิน คิด นี่คือสุสานของ Ashkar
“ มันเป็นพื้นที่ใหญ่พอที่เราจะตั้งแคมป์ได้และมันง่ายกับการป้องกันด้วย ฉันว่าเราควรไปที่นั่น เราอาจจะได้ลงดันเจี้ยนด้วย “ – White Ghost พูดขึ้น
“ ไม่ใช่ว่าเราตกลงกันว่าเราจะไปจนไปถึงอาณาจักรตะวันออกรึไง ?” – Demetri ถาม
White Ghost ส่ายหน้า – “ นายคือผู้นำ เราล็อคอินมาสองวันแล้ว บางคนมีสังคมของตัวเองและต้องไปพักผ่อน “
“ ก็จริง งั้นก็ไปพักที่นั่นและในขณะเดียวกันเราก็อาจจะได้ลงดันเจี้ยนไปด้วย “ – Wan Yi พูดขึ้น เขาไม่ได้ดูเหมือนคนที่อยากจะไปนอนแม้ว่าจะเล่นมาถึงสองวันแล้วก็ตาม
“ โทษทีที่ต้องบอกแต่ดาร์กน่ะไปฆ่าบอสที่นั่นแล้ว “ – Blaster พูดขึ้น
“ นายอีกแล้ว Blaster “ – Demetri พูดขึ้น – “ นายรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับที่นั่น ? “
เคทลิน ส่ายหน้าให้กับ ราฟ แต่เขาก็ยิ้มออกมา – “ ไม่ต้องกังวล Mercy ดาร์กไม่สนใจเรื่องนี้หรอก ฟังนะ มันจริงที่พื้นที่นี้มันดีสำหรับการตั้งแคมป์ มันมีพลังกั้นพวกคนป่าแต่เมื่อดาร์กเคลียร์ดันเจี้ยนไปแล้ว สุสานนี้ก็พังไปและไม่มีมอนเตอร์เหลืออยู่ นายใช้มันเป็นฐานได้เลย “ – Blaster พูดขึ้น
“ นายรู้ดีจังนะ “
“ ใช่ ฉันก็อยู่ที่นั่นด้วยตอนที่เขาฆ่าบอส “
“ นายระดับอะไร ? “ – Demetri ถาม
“ ฉันหัวหน้ากองร้อย “
“ นายขึ้นเป็นหัวหน้ากองพัน สั่งการให้ 20 หน่วยเคลียร์ทางไปที่นั่น “ – Demetri พูดขึ้น
“ Blaster ระวังด้วย “ – เคทลิน พูดขึ้น
ราฟ ยิ้มและพยักหน้าตอบรับ จากนั้นเขาก็เดินไปหาผู้เล่น 20 หน่วยและสั่งการให้พวกนั้นเดินหน้า
Tess มองอย่างมีเลศนัยไปที่ เคทลิน
“ อะไร ? “- เคทลิน ถามพร้อมแก้มที่แดงขึ้นมา
“ ไม่อะรายยยย” – Tess พูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ
หัวหน้ากิลด์ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา พวกเขาไม่คิดว่า Mercy ที่ถือสกิลสืบทอดระดับ S , ลูกสาวของมาเฟียในอเมริกา, นักฆ่าที่เยือกเย็นที่สุดในเกมจะหน้าแดงแบบนี้ได้ มันเป็นประสบการณ์ใหม่และเป็นเรื่องแปลกโดยเฉพาะเพราะการที่เธอหน้าแดงนั้นมาจากความเป็นห่วงผู้เล่นที่ไร้ชื่อเสียงของ Devastators
“ อะแฮ่ม งั้นก็มารอฟังข่าวจาก Blaster “ -เคทลิน พูดขึ้น
ในตอนที่ ราฟ เดินไปแนวหน้า เขาก็กลัวว่าคนของเขาจะไม่เคารพเขาเพราะเขาเพิ่งเลื่อนขั้นและไม่สมควรกับตำแหน่งนี้
น่าแปลกใจที่คนในทีมเชื่อฟังอย่างดี พวกนั้นไม่ได้เถียงเขารึเรียกร้องในสิ่งที่เขากลัว
ทีมพวกนี้ได้ตาม ราฟ เดินข้ามสะพานไป ราฟ รู้อยู่แล้วว่าต้องไปไหน  เขาเดินผ่านเส้นทางที่เคยสอดแนมมาก่อนหน้านี้
“ นายเป็นหัวหน้าคนใหม่ เอ้ย เห็นนั่นมั้ย?” – หน่วยสอดแนมชี้
“ ฉันคิดว่าจะเข้าไปก่อนแต่จะมีพวกคนป่าโผล่มาตลอด ฉันไม่อยากให้พวกนั้นเห็นฉันและบอกกับตัวอื่นๆ ดังนั้นฉันเลยมารอพวกนาย “
“ นายทำได้ดีแล้ว “ – ราฟ พูดขึ้นและบอก Demetri ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ เอาล่ะ เราต้องไปแล้ว ทุกคนเรียงแถวตอน เราต้องไปที่สุสานโดยไม่ให้โดนเห็น ถ้ามีโอกาสที่จะโดนเห็น เราจะวิ่ง หน่วย 6,7,8,9 และ 10 พวกนายจะอยู่แนวหลัง ถ้าพวกคนป่าโจมตี พวกนายจะต้องยื้อมันไว้และถอยกลับไปที่สุสาน “ – Demetri พูดขึ้น
“ กลยุทธดีนิ Demetri “ – Valentine พูดขึ้นมา
“ ใช่ นายเลือกใช้ความคิดได้เมื่อมีคนอื่นอยู่รอบๆ” – Demetri พูดขึ้น เขาไม่ใช่คนหลงตัวเองและยอมรับว่าเขาผิดรวมถึงฟังความคิดลูกน้อง นั่นคือหัวหน้าที่แท้จริง
กิลด์พันธมิตรเดินหน้าเป็นแถวตอนตามทีมของ ราฟ ไป
ราฟ ได้ใช้ตัวเลือกโทรออกและโทรหา เดฟ
“ ว่าไง ราฟ ! “ – เดฟ ตอบกลับ
“ พวก นายทำอะไรอยู่ ?”
“ ก็แค่เพิ่งเคลียร์พื้นที่เสร็จ ฉันกำลังจัดการบางอย่างอยู่และอาจจะต้องไปเช็คเขตสี่ดู “
“ บ้าเอ้ย นายเร็วจริงๆเลยพวก ฟังนะ กิลด์พันธมิตรจะไปที่สุสานของ Ashkar “ – ราฟ พูดขึ้น
“ พวกเขาเจอ Urburg รึเปล่า ? “
“ ไม่ Urburg ห่างจากที่เราอยู่ ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะเจอเมืองรึเข้าไปได้เพราะนายเป็นเจ้าของเมือง ถ้านายไม่ยอมให้พวกนั้นเข้า พวกเขาก็เขาไปไม่ได้ “
“ นายพูดถูก งั้นนายอยากจะพูดแค่นี้สินะ ?”
“ ไม่ นายไม่คิดว่ามันเป็นเวลาที่ดีในการเข้าป่ารึไง ? เอา Dog มากับนายและนายจะได้ชุบชีวิต Spike ไง “
“ ใช่ นายพูดถูก มังกรไม่อยู่ในป่าแล้ว มันจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นในการเอา Spike กลับมา เขาไม่สมควรตายแบบนั้น ได้ ฉันจะรีบไป “
“ ได้ ระวังตัวด้วย Heaven Dawn กับ Blood Rager เคืองนายอยู่ “
“ ฉันมีพวกอันเดตอยู่ด้วยแล้ว พวกนั้นต้องคิดดีๆถ้าอยากหาเรื่องฉัน “
“ นี่กองทัพแสนคนเลยนะ “
“ ฮ่ะ ยิ่งเยอะยิ่งดี แล้วเจอกัน “ – เดฟ พูดขึ้น
“ นายพูดกับใคร หัวหน้า ?  “- ผู้เล่นคนหนึ่งถามขึ้นมา
“ เพื่อนน่ะ ช่างเถอะ ไปกันต่อ ให้พวกคนป่าผ่านเราไป ต้องใช้เวลาอีก 5 นาทีกว่าที่อีกกลุ่มจะมา “ – ราฟ พูดขึ้นและสั่งการให้คนทั้งพันเดินหน้าไปทางสุสาน
ผู้เล่นได้วิ่งผ่านพื้นที่เปิดและโดดข้ามกำแพงของสุสานไป
ไม่กี่นาทีต่อมาทหารลาดตระเวนของคนป่าอีกชุดก็มาเช็คอีกรอบแต่ก็ไม่ได้พบผู้เล่นเลยสักคน
ผู้เล่นอีกพันคนได้วิ่งผ่านเข้ามาสมทบกับชุดแรก
3 ชม.ผ่านไป ผู้เล่นทั้งแสนคนก็ได้มาอยู่ด้านในสุสาน
หัวหน้ากิลด์ได้พากันไปยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าสุสาน ประตูสุสานนั้นพังและมีหินกันทางเข้าเอาไว้ ดันเจี้ยนแห่งนี้ไม่ทำงานเมื่อ เดฟ เอาชนะ Ashkar ได้
“ งั้นนี่ก็คือดันเจี้ยนที่ดาร์กนั่นเคลียร์ได้ เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด “ – Demetri พูดขึ้น
“ ใช่ เอาจริงๆนะมันก็ยากอยู่ “ – Blaster พูดขึ้น
“ เอาล่ะ เราจะพัก 12 ชม. ทุกคนล็อคเอาท์ออกไปพัก พรุ่งนี้เราจะเดินหน้ากันต่อจนถึงชายแดนอาณาจักรตะวันออก “ – Demetri สั่งการ
“ Demetri “ – ราฟ พูดขึ้น
“ ว่าไง “
“ ตอนที่เรามาที่นี่ครั้งที่แล้ว เราไม่เคยผ่านเขตนี้ไป พื้นที่ตรงหน้าเรา เรายังไม่รู้ข้อมูล “
“ ไม่เป็นไร ฉันจะส่งคนหาเส้นทางไปสอดแนม เราแค่ต้องหาทางที่เหมาะที่สุดและปลอดภัยที่สุดไปอาณาจักรตะวันออก จากนั้นเราค่อยเข้าควบคุมเมือง จากนั้นทั้งอาณาจักรก็จะตกอยู่ในมือฉัน ”
ป่านั้นมืดมิดและน่ากลัว ถึงมันจะใกล้กับทางตะวันออกแต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับเหล่าผู้เล่น มอนเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมากกำลังรอพวกเขาอยู่

 

 

Rise of The Undead Legion

Rise of The Undead Legion

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 100

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


สามปีก่อน เกมจำลองแบบใหม่ Conquest ได้ถูกปล่อยออกมา

‘ ทั้งโลกอยู่บนเซิฟเวอร์ เกม RPG เข้ามาใช้ชีวิตพร้อมกับคนอื่นๆ สำรวจ, สร้างและพิชิตมัน ! ’

มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เดฟรัสเตอร์ โตขึ้นมาโดยไม่มีครอบครัวให้พูดถึง เขามีเพื่อนไม่กี่คนและไม่ค่อยได้รับโอกาสในชีวิตนัก เขาอยู่ในเมืองเล็กๆที่เขาเรียนจบจากมัธยมมาและทำงานกินค่าแรงต่ำๆที่ยากจะพอจ่ายค่าเช้าและค่ากินค่าอยู่ได้ เขาไม่มีเงินไปเรียนมหาลัยแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไปนอนข้างถนน

ชีวิตเของเขาย่ำอยู่กับที่

อยู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลง มันคือกรรมรึไม่ว่าเราจะเรียกมันกว่าอะไรก็ตาม มันก็เกิดการพลิกผัน

อยู่ๆชีวิตของเดฟก็เปลี่ยนไป

เขาบาดเจ็บและไม่อาจจะทำงานได้อีก เขาเสียสิ่งที่เขามีอยู่น้อยนิดไป โชคชะตาของเขาเจอกับวิกฤตและโอกาสก็ได้โผล่มาตรงหน้า

เขาเสียงทุกอย่าง และพยายามเพื่อคว้าโอกาสที่มันส่งผลดีต่อตัวเขา เพื่อให้เขาได้กว้าหน้าขึ้นเหมือนที่เขาฝันไม่งั้นก็นั่งมองดูตัวเองจมดิ่งไปกับความล้มเหลว

มาดูเดฟผู้ซึ่งใช้แรงบันดาลใจและความหวังทั้งหมดที่มีเข้าไปในเกมที่เขาต้องการเล่นมาโดยตลอด Conquest !

มันเป็นการเดินทางของการผจญภัยและการสำรวจ, ชัยชนะและพ่ายแพ้ เขามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตให้กับตัวเขาเองทั้งในเกมและชีวิตจริง

Options

not work with dark mode
Reset