Rise of The Undead Legion 242

ตอนที่ 242

Chapter 242 : ราชาเนโครแมนเซอร์ Dark Pas

 

เดฟ เดินมาที่ห้องโถงหินโดยไม่พูดอะไร ด้านนอกนั้นมังกรยังกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธและฟาดตัวเองเข้ากับประตู
โซว์ พยายามเข้าไปหา เดฟ เพื่อปลอบเขาแต่ ราฟ ดึงไหล่เธอไว้แล้วส่ายหน้า ก่อนจะส่งข้อความส่วนตัวไปหาเธอ – “ บางคนต้องการอยู่คนเดียวสักพัก “
โซว์ ไหล่ทรุดลงแต่ก็ยอมรับข้อเสนอของ ราฟ
ด้านในสุสานนั้นมืดสนิทยกเว้นแค่รอยแตกที่มีแสงลอดผ่านรอยแตกที่หลังคา  Flanker ได้ร่ายเวทย์และใช้คทาของตัวเองเพื่อนำทาง
เมื่อเดินมาได้ครึ่งห้องโถง เดฟ ก็หยุด  เขาได้ก้มตัวลงและหยิบกระดาษขึ้นมา มันเก่าและถูกฉีกขาดมา ตัวหนังสือส่วนมากจางหายไปแล้วแต่ก็ยังมีบางส่วนที่พอแกะได้  เดฟ ได้แชร์มันให้กับทุกคนดูผ่านช่องแชท
***
… ความต้องการสำหรับเวทย์เลือดและเวทย์ดำเริ่มลดลง แต่ละอย่างนำมาแต่ความล้มเหลวและผิดหวัง…..
***
“ นี่มันหมายความว่ายังไง ? “ – Tess ถาม
เดฟ ตอบกลับด้วยเสียงเรีบๆ – “ เควสฉันต้องหาสิ่งที่เรียกว่า Miasmic Aether ในสุสาน  นี่มันอาจจะเป็นสิ่งที่เนโครแมนเซอร์พูดถึง “ – เขาเก็บกระดาษลงไปและเดินหน้าต่อ
กำแพงหินนั้นเต็มไปด้วยพวกมอสและราที่เกาะเต็มไปหมด  อากาศด้านในนั้นอับและมีลมพัดเข้ามาจากด้านนอกเพื่อไล่กลิ่นนี้ไปบ้าง
“ ที่นี่เหมือนห้องของนายเลย เดฟ “ – ราฟ หัวเราะ
เดฟ ส่ายหน้า – “ นายไม่ผิดหรอกแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันมีที่อยู่ในเมืองแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน มันน่าจะย้ายเข้าได้ในวันพรุ่งนี้ “
“ โอ้ ปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่  ทุกคนไปได้ใช่มั้ย?” – ราฟ ถาม
“ ได้ แน่นอน “ – เดฟ ตอบกลับ
เดฟ เดินไปที่ประตูไม้ที่ปลายห้องโถง ตอนที่เขาจะเปิดมัน ประตูก็ได้แตกออกเป็นเศษไม้ ประตูบานนั้นได้นำไปสู่กรงเหล็กพร้อมกับคันโยกข้างๆ มันคือลิฟต์
เขาเคยเห็นของแบบนี้ในดันเจี้ยนของราชินีน้ำแข็ง
เขาได้เข้าไปในกรงและโบกมือเรียกคนอื่นๆ ตอนที่อยู่ด้านในกันหมดแล้วเขาก็ได้เหยียบที่กระเบื้องตรงกลางกรง มันดังขึ้นก่อนที่กรงจะค่อยๆเลื่อนลงไป
ลิฟต์ได้เลื่อนลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันก็หยุด  แสงจาก Flanker ได้เผยให้เห็นประตูตรงหน้าที่มีโซ่และกุญแจล็อค
เมื่อออกจากลิฟต์ ราฟ ก็พบกระดาษอีกชิ้นวางไว้ที่พื้นและส่งมันให้กับ เดฟ
***
ฉันล้มเหลว ตอนนี้ปิศาจได้เดินเข้ามาในเส้นทางเหล่านี้ เส้นทางที่ฉันเคยรู้จักดี ตอนนี้พวกมันบิดเบี้ยวเหมือนกับความทะเยอทะยานของฉัน
***
“ เราคงต้องจัดการกับปิศาจ “ – Flanker พูดขึ้นมา
“ อะไรก็เกิดขึ้นได้ มันเป็นเควสระดับ SS นะพวก “ – Perfect ตะโกนกลับมา
“ ใช่ มีอะไรจะพูดอีกมั้ย Flanker ? “ – เดฟ หยอก
“ พวกนายนี่นะ  ใครจะไปต้องการเพื่อนอย่างพวกนาย มานี่ ฉันจะฮีลให้ ไอ้อันเดต  นายน่ะยังเลือดน้อยอยู่จากการโดนมังกรกระทืบมา “ – พรีสพยายามทำตัวให้ยุ่งไว้เพื่อสลัดเรื่องอันตรายและน่ากลัวออกจากหัว
“ ขอบคุณ ฉันมียาเยอะอยู่ เก็บมานาของนายไว้เถอะ “ – เดฟ พูดแล้วเอายาออกมากิน  เขารอจนยาคูลดาวน์เสร็จแล้วกินต่อ  เขาเลือดเหลือแค่ 1% ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ยาหลายขวดเพื่อฟื้นฟูเลือดให้เต็ม
วาเนสซ่า ได้เอาพิณออกมาแล้วเริ่มดีด
***
เพิ่มความเร็ซในการฟื้นฟู HP/MP/SP 10%
เพิ่มผลการฮีล 20% (รวมถึงของใช้)
ระยะเวลา : 30 นาที
***
“ ขอบคุณ Demeri “ – เดฟ พูดขึ้น
“ ฉันควรลองเปิดประตูดูมั้ย ?” – Perfect ถาม
“ นายทำได้มั้ย ? “ – เดฟ ถามกลับ ประตูนี้ถูกล็อคเอาไว้แน่นหนา เขาคิดจะพังมันเข้าไปแต่มันคงทำให้สกิลหลายอย่างต้องคูลดาวน์และอาวุธก็คงเสียหายด้วย
“ ได้พวก ฉันมีสกิลสำหรับผ่านแนวกั้น “
“ งั้นก็เอาเลย Fortress นายมี [Guard Ally] มั้ย ?”
“ มี ทำไม ? “
“ ใช้สกิลนั้นกับ Perfect เขาจะเข้าไป มันอาจจะโดนซุ่มโจมตี “
Fortress ได้ใช้ [Guard Ally] พร้อมกับโล่สีฟ้าที่โผล่มาบนหัวของ Perfect อยู่ 1 วินาทีก่อนจะหายไป
“ คนอื่นเตรียมพร้อมไว้ มันอาจจะมีอะไรแย่ๆอีกฝั่ง “ – เดฟ พูดขึ้น การเข้ามาในดันเจี้ยนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเควสสืบทอด มันถือว่ายากแล้วถ้าเป็นระดับ S แต่นี่กลับเป็น SS แล้วยังอยู่ในป่าอีก  เพราะแบบนั้นเขาถึงให้คนอื่นๆระวังตัวและเขาก็ระวังตัวยิ่งกว่าเคย
Perfect คุกเข่าลงตรงหน้าประตูและเริ่มจัดการกับตัวล็อค ไม่นานโซ่กับตัวล็อคก็ตกลงมาที่เท้าเขา
“ เห็นมั้ย มันไม่ได้มีอะไรแย่ “ – Flanker พูดขึ้นในตอนที่ประตูเปิดออกและมีบางอย่างพุ่งออกมาชนเข้ากับ Perfect
โล่สีฟ้าส่องแสงขึ้นมารอบตัวแรนเจอร์และดูดซับแรงจากการปะทะจากหนวดที่พุ่งออกมา  หนวดนั้นมีทั้งเศษเนื้อ, กระดูกและเลือด มันทำให้พวกเขาได้กลิ่นเหมือนกับโรงเชือด
เดฟ ได้ดึงดาบออกมาแล้วตะโกนขึ้น – “ Perfect ถอยกลับมานี่  ราฟ เขาไปก่อน ! “
ราฟ ได้วิ่งเข้าไปพร้อมกับดาบที่เปล่งแสงตอนที่เขาเหวี่ยงมัน ก้อนเนื้อนั้นก็ได้ละลายกลายเป็นของเหลวสีดำ
“ เหี้ยอะไรวะ ?” – Perfect ถามออกมาและมองไปที่กองน้ำ
“ ฉันยังไม่มีโอกาสตรวจสอบมัน “ – เดฟ พูดขึ้น
เดฟ เดินผ่านประตูไปและต้องหยุดเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า  แทนที่จะเป็นกำแพงแต่เขาได้เข้ามาในอุโมงค์ที่ทำขึ้นจากเนื้อ มันเหมือนกับยืนอยู่ในเครื่องในของยักษ์ เนื้อนั้นเต้นไปมาเป็นจังหวะราวกับหัวใจเต้น  ทางเดินนี้แยกออกไปหลายทาง
เสียงของ ราฟ ดังขึ้นมาจากด้านหลังดังก้องในหัวเขา – “ มันเหมือนอยู่ในเครื่องในของสัตว์ประหลาดเลยและนายน่ะต้องรู้ว่านี่คืออะไร พวก “
“ อี๋ย ไม่นะ ฉันไม่เข้าไปที่นั่นแน่ ! “
“ นี่มันน่าขยะแขยง ฉันยอมโดนตั๊กแตนรึคนป่าฆ่าดีกว่า ! “
“ นี่…ฉันอยากได้มีดใหญ่กว่านี้ “
Flanker ได้เดินเข้าไปในอุโมงค์ด้วยหน้าซีด, มือสั่นและยกคทาส่องไปที่อุโมงค์  แน่นอนว่าตอนที่ยกแสงนั้นขึ้นไม่นานแสงก็ดับไป
“ Flanker แสง ! “ – เดฟ พูดขึ้น
“ โทษทีพวก ฉันได้รับแจ้งเตือนบอกว่าฉันใช้เวทย์แสงที่นี่ไม่ได้ “ – Flanker พูดขึ้นมา
“ บ้าชะมัด ฉันหวังว่าทุกคนจะเอายามาพอโดยไม่ต้องใช้ฮีลเลอร์นะ “ – ราฟ พูดขึ้น
“ Flanker อยู่ด้านหลัง ทุกคนจุดคบไฟ “ – เดฟ พูดขึ้นแล้วจุดคบไฟของตัวเอง
คบไฟนั้นส่องแสงหม่นๆออกมาเผยให้เห็นการเคลื่อนไหวของอุโมงค์ที่น่ารังเกียจ
“ เราควรส่งคนไปตรวจสอบก่อนมั้ย ?” – เคทลิน ถาม
เดฟ ส่ายหน้า –“  เราไม่รู้ว่าเส้นทางพวกนี้จะนำไปที่ไหน มันดีกว่าถ้าเราจะอยู่ด้วยกัน “
“ เฮ้ พวก ดูนี่สิ “ – Flanker พูดขึ้น เขาได้ใช้คบไฟเผาที่กำแพงเนื้อ  พื้นที่ที่โดนเผานั้นหดตัวหนีจากไฟ ของเหลวไหลออกมาจากแผลเหมือนกับน้ำมันที่หยดลงมาจากเนื้อย่างและกลิ่นย่างก็ลอยคลุ้งไปทั่ว
“ นายไม่ควรทำแบบนั้น “ – Tess พูดขึ้น
Flanker กรอกตาใส่ – “ แล้วไง มัน…เอ่อ แล้วเราจะเลือกทางไหน ? “
เดฟ มองดูทางแยกต่างๆแล้วคิด
“ ตรงกลาง “ – เขาตัดสินใจ
พวกเขาได้เดินเรียงกันเป็นแถวแทบจะไม่ส่งเสียงอะไรออกมา เท้าของพวกเขาจมลงไปกับพื้น ราวกับเดินบนพรมเปียกๆ
เสียงที่เหมือนกับกระดูกหักดังขึ้นมาจากกองเนื้อที่เริ่มฉีกออก
เลือดและของเหลวได้ไหลออกมา จากนั้นก็รวมตัวกันกลายเป็นคนขึ้นมา มีลูกตาหลายสิบลูกได้มองมาที่เขา
เดฟ ได้ตรวจสอบสิ่งมีชีวิตตรงหน้า
***
[Half Born Seer]
เลเวล : 360
ระดับความอันตราย : ปกติ
ดาเมจ : 1,000-2,000
HP : 200,000
ลดดาเมจ : 0
ดูดซับเวทย์ : 0
สกิล :
[Fate Reveled(ติดตัว) : ลดเลือดเป้าหมาย 1% ต่อวินาทีเมื่อจ้องตาด้วย]
[The End is Near(ติดตัว) : ถ้าเสียเลือดไปกว่า 50% จะทำการระเบิตัวเอง ระเบิดจะทำดาเมจโดยตรง 100,000 หน่วยให้กับเป้าหมายในระยะ 5 ม.]
คำอธิบาย : Ashkar ราชาเนโครแมนเซอร์ได้จับกุม Wood Hag เพราะมีข่าวลือว่าเธอสามารถทำนายชะตาได้   Half Born Seer คือผลลัพธ์จาการทดลองที่ล้มเหลวในการเลียนแบบความสามารถของ Wood Hag
***
เลือดของ เดฟ เริ่มลดลงเพราะสกิล [Fate Reveled]
[-4,450]
“ เอาล่ะทุกคน เราต้องจัดการมันให้เร็วที่สุด ยิ่งนานเรายิ่งเสียเลือดเยอะ ! “
[-4,450]
มอนเตอร์นั้นมีพลังป้องกันที่ต่ำ พวกเขาสามารถจัดการมันได้แต่พวกเขาต้องทำอย่างรวดเร็ว ทุกวินาทีที่เสียไปนั้นเท่ากับการที่พวกเขาต้องเสียเลือด
[-4,450]
เดฟ เข้าโจมตีด้วย [Decimating Smash] โดยไม่ลังเลและตามด้วยการโจมตีธรรมดาใส่มอนเตอร์ที่สตันท์
Tess ได้ยิงเวทย์ออกไปและ ราฟ ก็ได้พุ่งเข้าใส่ด้วย [Rend the Flesh]
***
สมาชิกในปาร์ตี้ได้ฆ่า [Half Born Seer]
***
“ ง่ายดีแหะ “ – ราฟ พูดขึ้น
“ เราโชคดี สกิลติดตัวของมันอาจจะซ้อนทับกันได้ ถ้ามันมีพวกมันมากกว่านี้ เราคงตายในเวลาไม่กี่วินาที “ – เดฟ พูดขึ้น
“ มันดรอปบางอย่างด้วย “ – โซว์ พูดขึ้น
เธอหยิบเอากระดาษสองหน้าออกมาจากศพมอนเตอร์และส่งมันให้กับ เดฟ
กระดาษแผ่นแรกมีเลือดอาบ ตัวหนังสือส่วนมากนั้นไม่อาจจะอ่านออกได้
***
หลังจากที่ทดลองล้มเหลวมาหลายครั้ง ความสิ้นหวังก็เข้าหาตัว…..ทุกอย่างหยุดและมีแต่เศษเนื้อที่ไร้ค่าเพิ่มขึ้นจนกลายเป็น….ภาระ และฉันตัดสินใจที่จะทำบางอย่างกับมัน
***
“ อี๋ พวก นี่มันเควสบ้าอะไรกัน ? “
“ เดินหน้ากันต่อเถอะ “ – เดฟ พูดขึ้น
ผู้เล่นพากันเดินหน้าไปในอุโมงค์เนื้อต่อ เสียงของหัวใจเต้นดังก้องดังขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ
จากนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาด้านหลังพวกเขาจนเกือบระเบิดแก้วหูพวกเขา  อุโมงค์เนื้อกระตุกก่อนจะฉีกขาดออก มีก้อนเนื้อ 5 ก้อนถูกดีดออกมาจากกำแพงตกลงมาที่พื้น พวกมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาจากพื้นดินเผชิญหน้ากับผู้เล่น

Rise of The Undead Legion

Rise of The Undead Legion

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 100

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


สามปีก่อน เกมจำลองแบบใหม่ Conquest ได้ถูกปล่อยออกมา

‘ ทั้งโลกอยู่บนเซิฟเวอร์ เกม RPG เข้ามาใช้ชีวิตพร้อมกับคนอื่นๆ สำรวจ, สร้างและพิชิตมัน ! ’

มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เดฟรัสเตอร์ โตขึ้นมาโดยไม่มีครอบครัวให้พูดถึง เขามีเพื่อนไม่กี่คนและไม่ค่อยได้รับโอกาสในชีวิตนัก เขาอยู่ในเมืองเล็กๆที่เขาเรียนจบจากมัธยมมาและทำงานกินค่าแรงต่ำๆที่ยากจะพอจ่ายค่าเช้าและค่ากินค่าอยู่ได้ เขาไม่มีเงินไปเรียนมหาลัยแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไปนอนข้างถนน

ชีวิตเของเขาย่ำอยู่กับที่

อยู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลง มันคือกรรมรึไม่ว่าเราจะเรียกมันกว่าอะไรก็ตาม มันก็เกิดการพลิกผัน

อยู่ๆชีวิตของเดฟก็เปลี่ยนไป

เขาบาดเจ็บและไม่อาจจะทำงานได้อีก เขาเสียสิ่งที่เขามีอยู่น้อยนิดไป โชคชะตาของเขาเจอกับวิกฤตและโอกาสก็ได้โผล่มาตรงหน้า

เขาเสียงทุกอย่าง และพยายามเพื่อคว้าโอกาสที่มันส่งผลดีต่อตัวเขา เพื่อให้เขาได้กว้าหน้าขึ้นเหมือนที่เขาฝันไม่งั้นก็นั่งมองดูตัวเองจมดิ่งไปกับความล้มเหลว

มาดูเดฟผู้ซึ่งใช้แรงบันดาลใจและความหวังทั้งหมดที่มีเข้าไปในเกมที่เขาต้องการเล่นมาโดยตลอด Conquest !

มันเป็นการเดินทางของการผจญภัยและการสำรวจ, ชัยชนะและพ่ายแพ้ เขามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตให้กับตัวเขาเองทั้งในเกมและชีวิตจริง

Options

not work with dark mode
Reset