Rise of The Undead Legion 234

Chapter 234 : แสงสว่าง

เดฟ เดินออกมาจากถ้ำพร้อมกับบ่น
เมื่อเห็นท่าทีอารมณ์เสียของ เดฟ  ราฟ ก็เดินเข้ามาหา – “ เฮ้ เดฟ เร็วดีแหะ นายได้อะไรจากในถ้ำบ้างรึเปล่า ? “
“ เควสที่ยิ่งยากเข้าไปอีกน่ะสิ “ – เดฟ พูดขึ้น มันมีแจ้งเตือนโผล่มากระพริบตรงหน้าเขา
****
ความสัมพันธ์ของคุณกับโบสถ์ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็น : ศัตรู
NPC ที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์จะไม่พูดคุยกับคุณ  พาราดินจะไล่ล่าคุณทันทีที่เห็น
****
****
เควสลับใหม่ : ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ฆ่าคาดินัล 3 คนเพื่อให้ได้รับฉายา : ผู้ดูหมิ่น
ผู้ดูหมิ่นจะมีผลดังนี้ :
การโจมตีศักดิ์สิทธิ์จะทำดาเมจลดลง 20% เมื่อใช้ฉายานี้
ผู้ใช้จะทำดาเมจใส่คนทางโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ได้แรงกว่าเดิม 20% เมื่อใส่ฉายานี้
****
‘ เหี้ย ! ฆ่าเทวดาน่ะดีกว่านี้ตั้งเยอะ ตอนนี้มีปิศาจกับทางโบสถ์มาไล่ล่าฉันแทน เยี่ยมจริงๆ ’
“ ไปสุสานกันเถอะ “ – เดฟ พูดขึ้น
พวกเขาพากันเดินหน้าต่อไปยังที่หมาย
คนอื่นๆเดินตาม เดฟ ไปแต่ โซว์ กลับเดินปลีกตัวออกจากเพื่อนและเงียบอยู่ตลอด ทุกคนต่างก็พากันอารมณ์หม่นลงโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีใครพูดอะไรเอาแต่เดินหน้าต่อ
เดฟ อยากให้มีมอนเตอร์เข้ามาโจมตีบ้างเพื่อปลุกทุกคน
มันราวกับตอบรับคำภาวนาของเขา ตอนนั้นได้มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
****
คุณได้ใช้เวลาในป่าทั้งหมด 24 ชม.
ระบบของป่าเป็นศัตรูกับสิ่งมีชีวิตภายนอก ยิ่งผู้เล่นอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับผลเท่านั้น
คุณได้รับดีบัฟ : กลิ่นอายของผู้อ่อนแอ เลเวล 1/5
ร่างกายจะส่งกลิ่นเพื่อล่อสิ่งมีชีวิตในป่า มอนเตอร์จะเพิ่มระยะความโกรธขึ้น 100% และการโจมตีแรงขึ้น 5% ถ้าคุณตายภายใต้ผลของดีบัฟ คุณจะเสียเลเวลตามเลเวลสกิลดีบัฟ
คุณได้รับ xp เพิ่มขึ้น 10% จากผลของดีบัฟนี้
****
กลิ่นอายของผู้อ่อนแอนั้นเป็นเหตุผลหลักที่ผู้เล่นไม่เข้ามาในป่า  มันซ้อนทับกันได้และอยู่ได้ตลอดซึ่งยังไม่มีใครรู้วิธีลบมันออก แต่ละเลเวลก็จะทำให้มอนเตอร์แข็งแกร่งขึ้นมา จนในที่สุดตอนเลเวล 5 ก็จะล่อมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดและน่ากลัวที่สุดในป่ามาซึ่งก็คือ Abyssal Dragon
“ เหลือเชื่อ นี่มันห่วยแตกชะมัด “ – เดฟ พูดขึ้น
“ มีอะไร ? “ – ราฟ ถาม
“ ฉันเดาว่านายยังไม่ได้แจ้งเตือนเพราะนายยังไม่อยู่ในป่านานเท่าเรา “
เดฟ ส่งแจ้งเตือนให้กับ ราฟ ดู
“ งั้น Flanker, Perfect กับ Fortress เองก็ได้รับดีบัฟเหมือนกันสินะ “
“ ใช่ “ – เดฟ พูดขึ้น มันมีไอคอนสีเขียวเล็กๆบนหัวของสามเกลอรวมถึงตัวเขาเองด้วย
“ งั้นก็รีบกันเถอะ ดีบัฟนี่มี 5 เลเวล ฉันคงไม่แปลกใจถ้าเลเวล 5 มันจะล่อมังกรดำมาหาเรารึเทพหวงห้ามรึบางอย่างที่แย่กว่า  “- เดฟ พูดขึ้นด้วยท่าทีรำคาญ
“ นายได้ยินนั่นมั้ย ?” – Perfect ถามขึ้นมา
ทุกคนพากันหยุด พวกเขาตั้งใจฟังเสียงคำรามเบาๆที่ดังขึ้นรอบตัว
Spike เริมดูหงุดหงิด มันมีศัตรูรอบตัวเขา ศัตรูที่แข็งแกร่ง
“ รวมตัวกันไว้ “ – เดฟ พูดขึ้น
ตาสีแดงสองคู่แรกได้โผล่มาจากความมืดมองมาที่พวกเขา ทุกคนต่างก็ตัวแข็งทื่อ
ไม่นานมันก็โผล่มาให้พวกเขาได้เห็น มันมีขนสีส้มคาดดำร้องมาใส่พวกเขาพร้อมกับเขี้ยวที่งอกออกมาจากปาก
****
[Weretiger]
เลเวล : 450
ดาเมจ : 45,000-50,000
ระดับ : Epic
ระดับความอันตราย :  
HP : 600,000
ลดดาเมจ : 60,0000
ดูดซับเวทย์ :  50,000
สกิล :
{Smoke Screen : หายใจเอาควันออกมาทำให้ศัตรูตาบอด การโจมตีแรกใส่ศัตรูที่ตาบอดจะเป็นสองเท่า }
{Shadow Bind : รัดศัตรูไว้ด้วยเงา ตรึงศัตรูไว้กับที่ 5 วินาที}
{Hunter’s Mark : เมือใช้กับเป้าหมายแล้วมันจะไล่ตามเป้าหมายได้จนกว่ามันรึเหยื่อจะตายไป }
{Vicious Retaliation : ทุกๆการเสียเลือด 10% จะทำให้การโจมตีต่อไปทำดาเมจ 500% และจะติดดีบฟเลือดไหลลดเลือด 20% ในตอนนั้น }
****
“ เหี้ยละ ! อย่างกับว่าแค่มนุษย์หมาป่าก็ยังไม่พออีก  ! “ – เดฟ สบถออกมา โรคกลัวมนุษย์หมาป่าของเขากำเริบขึ้นมาอีกรอบ จากท่าทีของเขามันอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเขาคงกลัวมันจากรูปร่างมากกว่า
มนุษย์เสือมีเลเวลสูงกว่า Spike การสู้กับพวกมันคงเป็นเรื่องยาก
“ ฉันคิดว่าฉันน่าจะแทงค์ได้  Mercy กับ ราฟ พวกนายจัดการอีกตัว “ – เดฟ พูดขึ้นด้วยตัวที่สั่น
“ ฉันกับ Mercy จะจัดการตัวที่สองละกัน คนอื่นช่วยสนับสนุนห่างๆ “
ในตอนเตรียมที่จะสู้นั้นมนุษย์เสือได้คำรามออกมา จากเสียงคำรามนั้นมีตาอีก 6 คู่ได้โผล่มามองมาที่พวกเขา
“ เหี้ย ! “ – Flanker สบถออกมา – “ เราคงต้องตายแน่ๆ ! “
เดฟ มองไปที่มอนเตอร์ พวกเขาโดนล้อมจากทุกด้าน
“ ไม่มีทางที่เราจะอดออกจากที่นี่ไปได้ “
“ บ้าเอ้ย ฉันคิดว่าป่าเป็นที่เก็บเลเวลที่ดีแท้ๆ “ – ราฟพูดขึ้นพร้อมกับถอยมาหาปาร์ตี้
ทุกคนต่างก็จับกลุ่มเป็นวงกลมหันหน้าออกไป
“ จบแล้วพวก! เราต้องตายกันหมดแน่ ! เราต้องเสียเลเวลด้วย นี่มันเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่ได้อยากมาที่นี่ตั้งแต่แรก “ – Flanker บ่นออกมา
เดฟ สะบัดมือพร้อกมับลูกไฟที่พุ่งเข้าไปหามนุษย์เสือ เขาดีดนิ้วและลูกไฟก็ได้ระเบิดออกทำให้มนุษย์เสือต้องเซ
“ ไป ! “ – เดฟ ตะโกนพร้อมกับตบที่ขาของ Spike ทำให้มันเริ่มขยับ
กวางยักษ์ได้วิ่งฝ่าวงล้อมและหายไปในป่า
มนุษย์เสือไม่ได้ไล่ตามมัน พวกมันกลับสนใจมนุษย์ที่โจมตีพวกมันด้วยลูกไฟแทน
เดฟ ได้รับแจ้งเตือนสองอย่าง
****
คุณถูกทำเครื่องหมาย !
มนุษย์เสือทำเครื่องหมายเหยื่อไว้กับคุณ
มนุษย์เสือจะไม่หยุดไล่ล่าจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย
****
****
Forest Pronged Fiend รู้ว่าคุณเป็นห่วงมัน
Spike นั้นจะเป็นพันธมิตรกับคุณตลอดไป
ความสนิทเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
ความสนิทตอนนี้ 9/10
คุณสามารถเรียก Spike ออกมาที่ไหนก็ได้ในป่าด้วยการผิวปาก
Spike จะสู้ให้กับคุณจนเลือดเหลือ 25%
ถ้า Spike เลือดเหลือ 25% มันจะหนีจาการต่อสู้และพยายามหาทางกลับมาช่วยคุณ
****
เดฟ ยิ้มออกมา – “ เอาล่ะพวก มาดูกันว่าพวกนี้จะเก่งกันแค่ไหน ! “ – เดฟ ใส่ดาบของเขา
ไม่กี่นาทีต่อมา เดฟ ก็อยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย  ป่าที่เต็มไปด้วยหลุมศพ  ลำแสงได้ส่องประกายแทงทะลุป่าอันมืดมิด
“ อ่ะ บ้าเอ้ย “ – เดฟ ร้องออกมา
****
เกราะได้รับความเสียหาย
รองเท้าได้รับความเสียหาย
คุณเสียเลเวล 1 เลเวล
เครื่องหมายนักล่าถูกลบไป
****
“ บ้าชะมัด “
“ มันเป็นเรื่องธรรมดาพวก “- Fortress พูดผ่านช่องแชท
“ใช่ มนุษย์เสือตัวหนึ่งฉีกฉันออกจากกัน มันโคตรสมจริงเลย “
“ น่ากลัวจริงๆ “ – วาเนสซ่า พูดขึ้น
“ แม้แต่ Mercy ก็ยังตาย “ – Flanker พูดขึ้น
“ พวกมันทำเครื่องหมายก่อนที่ฉันจะหายตัว “ – เคทลิน บ่น
“ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เสียเลเวล “ – Flanker ค้าน
“ ฉันไม่ได้อยู่ป่านานพอที่จะโดนดีบัฟแต่ก็เสีย xp ไป 5% แล้วอีกอย่าง เดฟ เกราะฉันพังด้วย….”
“ งั้นกลับไปซ่อมอุปกรณ์กันก่อนแล้วไปเจอกันที่ Urburg “ – ราฟ พูดขึ้น
“ อ่ะ เดฟ ฉันชวนคนมาด้วยได้มั้ย ?” – Fortress ถาม
“ ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าฉันเป็นอันเดตน่ะสิ “ – เดฟ ตอบกลับ
“ เราบอกให้ทุกคนเงียบไว้จนกว่าเธอจะทำสัญญาก็ได้ เธอเป็นผู้เล่นที่ดี “ -Fortress พูดขึ้นมา
“ อ่า พวก นายพูดถึงแฟนในจินตนาการนายน่ะเหรอ ? ไม่เอาน่า เอาจริงดิ “
“ หุบปากไปเลย นี่เรื่องจริงจัง “ – Fortress หันกลับไปหา เดฟ – “ นายว่าไง ? “
เดฟ เกาหัวพยายามคิดหาทางปฏิเสธ
“ เธอเป็นนักเวทย์เลเวล 420 “
ทุกคนต่างก็อึ้งไปทันที
“ นายรู้จักนักเวทย์เลเวล 420 งั้นเหรอ ? “
“ ใช่ ฉันเคยบอกนายแล้วว่า เทส น่ะเป็นผู้เล่นเลเวลสูงแต่พวกนายไม่เชื่อฉัน “
“ ฉันอยากได้นักเวทย์เลเวลสูงอยู่แล้ว ฉันแค่คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้เล่นเลเวล 420 มา  สถานการณ์ต้องเปลี่ยนไปแน่ เราแค่ต้องรีบเดินทาง มันคงใช้เวลา 4 วันในการเดินไปสุสาน “ – เดฟ พูดขึ้น เขาไม่ได้คิดจะเพิ่มคนเข้ามาในระยะยาว ไม่ว่าจะเลเวลสูงแค่ไหนแต่มันเสี่ยงกับการที่คนอื่นจะรู้ว่าเขาคือM r.Skeletal
“ เธอยังเป็นเพื่อนกับเผ่าเซนทอร์ด้วย “ – Fortress พูดขึ้น
“ แล้วไง ?”
“ เราขี่พวกนั้นไปที่สุสานได้ พวกนั้นเดินทางเร็วพอๆกับ Spike รึอาจจะเร็วกว่าด้วย “
พวกเขาพากันเงียบไปทันที…..