Rise of The Undead Legion 180

ตอนที่ 180

Chapter 180 : ตำนานของโทรลน้ำแข็งและ….สะพาน

กลุ่มโทรลได้นำทางไปจนสุดทางเดิน มันไม่ได้มีโทรลที่ถูกขังไว้ในถ้ำนั้นอีก ก้อนน้ำแข็งส่วนมากนั้นว่างเปล่าไปแล้วแต่มันก็ยังมีเลือดที่ถูกแช่แข็งอยู่ไว้ภายใน

โทรลได้หยุดและวางทั้งสามคนลง พวกมันได้เดินเข้าไปที่เลือดนั้นแล้วลองดมกลิ่นดู โทรลขนแดงร้องโหดยหวนออกมาก่อนที่โทรลตัวอื่นจะร้องตาม จากนั้นพวกมันก็ทุบอกแล้วแสดงความโกรธออกมา พวกมันรวมกลุ่มกันก่อนจะร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันแล้ววิ่งออกไปขางหน้า

” ทำไมพวกมันถึงทิ้งเราไว้แบบนี้ ?” – โซว์ ถามขึ้นมา

” เลือดนั้นคงเป็นเลือดของโทรล โทรลน่ะรักพวกพ้อง ตัดสินจากพฤติกรรมและจำนวนเลือดตรงนี้แล้วตัวที่โดนขังไว้ที่นี่คงตายไปแล้ว ตอนนี้พวกมันกำลังไปสืบสวนสาเหาตุการตาย ” – Jura อธิบายออกมา

” ความรักของโทรล ? น่ารักดีแหะ ! แต่ฉันคิดว่าพวกมันคงวิ่งเข้าไปหาเรื่องมากกว่า….”

” ฉันไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับโทรลทั่วไป กลุ่มโทรลน้ำแข็งน่ะเป็นแบบนี้เพราะมีเหตุผล อย่างน้อยก็ในหลายๆส่วน “

ทั้งสามคนวิ่งตามโทรลไปและต้องแปลกใจว่าโทรลนั้นเคลื่อนที่ได้เร็วแค่ไหน

ถ้ำแห่งนี้เหยียดยาวออกไปและจบลงที่เหวที่กว้างใหญ่

” ระวัง ช้าลงหน่อย ” – เดฟ พูดขึ้น

พวกเขาได้หยุดที่ปากเหว ที่ตีนสะพานนั้นทำขึ้นมาจากน้ำแข็งซึ่งเชื่อมทั้งสองฝั่งเอาไว้แต่สะพานนี้พังไปแล้ว บางส่วนตรงใจกลางนั้นหายไป ที่อีกด้านของสะพานนั้นมีประตูเหล็กตั้งเอาไว้อยู่

โทรลได้เดินงุ่มง่ามไปที่ปลายสะพานพร้อมกับร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ เดฟ ได้ยินเสียงร้องโหยหวนและเมื่อมองไปที่ปลายเหวเขาก็พบว่า Drahma กำลังปีนขึ้นมาจากอีกด้านของเหวอยู่

” Drahma ไปทำอะไรด้านล่าง ? “- โซว์ ถาม

” เขาคงหนักเกินไปสำหรับสะพานแล้วตกลงไปแต่เขารอดจากการตกได้ยังไง ? ” – เดฟ พูดขึ้น

Drahma ปีนขึ้นมาด้วยการใช้มือต่อยไปที่กำแพงแล้วดึงตัวเองขึ้นมา เขาไต่ขึ้นมาเรื่อยๆแล้วจับสะพานน้ำแข็งไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะเหวี่ยงตัวเองขึ้นมา ส่วนสะพานที่เขาเหยียบนั้นเริ่มแตกออกก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปที่ประตูเหล็ก

Drahma ต่อยประตูเหล็กนั้นสองรอบแต่ก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เขาได้เอากระบองของตัวเองเหวี่ยงใส่ประตูราวกับตีกลอง เขาต้องทุบถึงสามรอบถึงระเบิดประตูได้ Drahma มองผ่านประตูเข้าไปแล้วเห็นนทางเดินเหล็กที่มีขนาดเล็กกว่าตัวเขา เขาจึงได้ลดขนาดตัวลงอีกรอบ ตอนนี้ Drahma สูง 1/10 จากเดิมแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาจะลดลงเลย

ในตอนที่เดินเข้าไปในประตูนั้นก็ได้มีงูน้ำแข็งโผล่มาจากใต้เท้าของเขาแล้วเข้าโจมตี Drahma มันรัดรอบตัวเขาตั้งแต่เข่าจนถึงคอตรึงแขนของเขาเอาไว้แต่ Drahma ยกแขนขึ้นสลัดการรัดของงูได้ก่อนจะโยนมันลงไปที่พื้น เขาได้ฟาดกระบองลงทุบหัวของงูก่อนที่จะคำรามแล้ววิ่งออกไปอีกครั้ง ไม่นานก็ได้มีเสียงคำรามและโหยหวนดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกระดูกที่หัก Drahma คงไปจัดการกับพวกมอนเตอร์อีกรอบ

” แล้วไงต่อ ? เราจะข้ามไปยังไง ? ” – โซว์ ถามขึ้น

เดฟ มองขึ้นไปที่สะพานอีกด้านแล้วพูดขึ้นมา – ” มันน่าจะมีทางอื่น ผู้เฒ่าบอกว่ามันมีอีกทางเดินที่เราสามารถไปได้ เราน่าจะกลับไปทางนั้น “

“เราข้ามไปเลยดีมั้ยอย่างกระโดดไปเลย ? ” – โซว์ ถามด้วยท่าทีกลัว

” ฉันไม่คิดงั้น อย่างน้อย {Immortal Apprition} กับ {Death’s Descent} ก็ไปไม่ถึง” – เดฟ ตอบกลับเธอตรงๆ

โซว์ ส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา

โทรลขนแดงเกาหัวอยู่สักพักก่อนจะร้องออกมา

” พวกนั้นจะทำอะไร ?”

โทรลตัวหนึ่งได้เดินเข้ามาหา เดฟ แล้วชี้ไปที่คทาน้ำแข็งของมันก่อนจะชี้ไปที่ เดฟ เดฟ ไม่เข้าใจว่าโทรลจะสื่ออะไรจึงได้ตอบกลับด้วยการส่ายหน้า

เดฟ สาบานเลยว่าโทรลน่ะกรอกตาใส่เขาก่อนที่จะยกคทาน้ำแข็งขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่อีกด้านของสะพาน โทรลยิ้มแล้วชี้มาที่ เดฟ ก่อนจะชี้กลับไปที่อีกด้านของสะพาน

” ไม่ ! ไม่มีทาง ! ไม่มีใครโยนดาร์กคนนี้ข้ามเหวได้ ! ” – เดฟ พูดพร้อมกับถอยออกมาแต่โทรลนั้นไม่ได้สนใจคำพูดของเขาแล้วจับตัว เดฟ เอาไว้

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นก่อนที่ เดฟ จะไปถึงอีกด้านของสะพานได้….ด้วยการเอาหน้าลง

[-1,000]

” บ้าเอ้ย ! ” – เดฟ สบถออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนปัดเนื้อปัดตัว เขามองไปยังอีกด้านที่เขาลอยมาแล้วก็ต้องแปลกใจกับความแม่นยำและแรงของโทรล

” ฉันด้วย ! ฉันด้วย ! ” – โซว์ ร้องออกมาแล้วเต้นไปรอบๆราวกับเด็กที่อยากขึ้นเครื่องเล่น

โทรลอุ้มเธอขึ้นมาแล้วโยนเธอไปเหมือนกับลูกบอล โซว์ ถึงกับกางแขนออกเหมือนกับปีกราวเธอบินผ่านเหวมาก่อนจะลงมายืนที่พื้นได้

เดฟ สบถออกมาตอนที่เห็นเอลฟ์ลอยเข้ามาหาเขา เขากางแขนออกแล้วรับ โซว์ เอาไว้ เธอชนเข้ากับเขาก่อนจะกลิ้งไปตามพื้นน้ำแข็ง สุดท้ายทั้งคู่ก็ไปกองกันที่ประตู

” สนุกดีแหะ ! ” – โซว์ ตะโกนขึ้นก่อนจะเด้งตัวไปมาบนอกของ เดฟ

” ไม่ใช่สำหรับฉัน ! ลุกไปได้แล้ว ! ” – เขาบ่นออกมาแล้วผลัก โซว์ ออกจากตัว

โซว์ เม้มปากใส่เขาและลุกขึ้นมายืน

ต่อมาโทรลพยายามที่จะจับ Jura เพื่อจะโยนชายแก่มาอีกฝั่งแต่ด้วยการที่สองคนแรกโดนโยนออกไปแล้ว เขาจึงรีบหลบการจับของโทรลอยู่หลายครั้ง

Jura วิ่งมาที่ปลายสะพานก่อนจะมัดเชือกเข้ากับหอกแล้วโยนมันออกไป หอกปักเข้าไปที่น้ำแข็งด้านบนประตู จากนั้นชายแก่ก็ทำการดึงเชือกเพื่อเช็คว่าเขาจะโหนไปได้หรือไม่ จากนั้นเขาก็โหนตัวไปแล้วมองกลับมาที่โทรลด้วยรอยยิ้ม

” แล้วพวกโทรลล่ะ ? พวกนั้นจะโยนกันมาเองด้วยมั้ย? “

” อ่ะ ไม่มีทาง ! มันไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก ! ” – เดฟ พูดขึ้นแล้วรีบถอยกลับไม่คิดที่จะเสี่ยงรับเผื่อว่าจะมีโทรลถูกโยนมาจริงๆ

โทรลตัวหนึ่งอุ้มเพื่อนมันขึ้นแต่ก็ต้องยอมแพ้แล้ววางเพื่อนลง มันตระหนักได้ว่าเพื่อนน่ะตัวหนักเกินไป โทรลขนแดงเริ่มคำรามใส่โทรลตัวอื่นๆแล้วกระทืบเท้าไปที่สะพาน เสาน้ำแข็งงอกขึ้นมาเป็นแนวนอนปิดช่องว่างระหว่างสะพานที่พังไปได้

เมื่อเห็นแบบนั้นโทรลตัวอื่นก็เริ่มทำตาม สุดท้ายแล้วเหวทั้งสองฝั่งก็เชื่อมต่อกัน น้ำแข็งที่งอกขึ้นมานี้ไม่ได้สวยมากนัก ผิวมันไม่ได้เรียบแต่ก็ยังใช้งานได้ ทันทีที่สร้างสะพานเสร็จพวกโทรลก็พากันเดินข้ามาอย่างพอใจ

” ทำไมไม่ทำแบบนั้นตั้งแต่แรก ? ” – เดฟ ถามขึ้นมาเมื่อคิดถึงตอนที่เขาถูกโยนข้ามมา

” พวกนี้เป็นโทรล นายจะไปคาดหวังอะไร ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่อยากยุ่งกับพวกนั้น ฉันพยายามเตือนนายแล้ว ” – Jura หัวเราะ

เดฟ ถอนหายใจออกมา – ” งั้นก็ไปกันต่อเถอะ “

พวกโทรลที่ตามมานั้นวิ่งขึ้นแซงหน้าเขาโดยเอาคทาน้ำแข็งมันลากไปกับพื้นซึ่งทำให้เสียงมันหนวกหูมากกว่าเดิม

” พวกนี้วุ่นวายกันจริงๆ ” – สีหน้าของ Jura ดูขมขื่นในตอนที่พวกโทรลวิ่งผ่านไป

พวกเขาเดินผ่านประตูเข้ามายังอีกห้องที่ทำขึ้นมาจากน้ำแข็งโดยถังทรงกระบอกวางเรียงไว้ที่กำแพง มีของเหลวสีเขียวเปรอะไปทั่วพื้น มันไหลออกมาจากถังพวกนั้นตอนที่ถังพวกนั้นแตกออก บางทีอาจจะเป็นฝีมือของ Drahma ที่มุมห้องนั้นมีถังใบหนึ่งที่ยังมีสภาพดีอยู่ สิ่งที่ลอยอยู่ด้านในนั้นคือสิ่งมีชีวิตลูกผสม มันเป็นกิ้งก่าตัวน้อยที่มีหัวเป็นงู,ขาแมงมุมและหางแมงป่อง

ห้องต่อมาก็เหมือนกับห้องแรก พวกเขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตอื่นในห้องต่อๆไป บางห้องนั้น ‘ตกแต่ง’ ต่างกันออกไปซึ่งแทนที่จะเป็นถังแก้วแต่กลับเป็นรูที่พื้น มีโซ่สนิมเปื้อนเลือดและหอกเหล็กห้อยอยู่ตามน้ำแข็ง

” น่ากลัว ! ที่นี่มันบ้าอะไรกัน ? ” – โซว์ รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที

” เธอเห็นของพวกนี้ในหนังสยองขวัญอยู่ตลอดแหละ มันคือห้องของปิศาจ ” – เดฟ พูดขึ้น

เขาเดินไปยังถังใบหนึ่งและอยู่ๆสิ่งมีชีวิตด้านในก็ได้พุ่งตัวเข้าชนถังจนทำให้ เดฟ กรีดร้องแล้วโดดหนีออกมา สิ่งมีชีวิตด้านในนั้นสลัดตัวไปมาอยู่หลายรอบก่อนที่จะหยุดนิ่งไป

โซว์ เข้าไปก้มดูก่อนที่จะหัวเราะออกมา “

” ไอ้นั่นคงโดดใส่หน้านายแล้วทำให้นายกลัวสินะ ! “

” ช่างมัน ! ฉันไม่คิดนิว่ามันยังมีชีวิตอยู่ …” – เขาป้องกันตัวเองแล้วพยายามเข้าไปตรวจสอบสิ่งมีชีวิตนั้น – ” เฮ้ ไอ้นั่นมันะเพิ่งตาย “

” ได้ยังไง ? ” – โซว์ เข้ามาดูด้วยแล้วเข้าไปตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา

” มันอาจจะมีไว้เพื่อทำให้ผู้เล่นกลัวและฉันก็เป็นคนโดน ไอ้พวกนักพัฒนาเฮงซวย ไปกันต่อดีกว่า ” – เดฟ พูดขึ้น

Jura ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังและมองไปยัง ‘ เครื่องมือ’ ที่ห้อยอยู่ที่กำแพงแต่พวกเขาก็ยังได้ยินที่ชายแก่พูดกับตัวเอง

” นายหญิง ฉันหวังว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉัน Jura ผู้ศรัทธากำลังจะไปช่วย “

” นั่นเศร้าแหะ รีบไปกันเถอะ ” – โซว์ กระซิบกับ เดฟ

” ได้ “

พวกเขาเดินหน้ากันเร็วขึ้นผ่านห้องต่างๆที่มีถังสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด บางห้องนั้นมีร่างของคิเมร่าที่เพิ่งถูกฆ่า บางทีอาจจะเป็นฝีมือของ Drahma ไม่ก็พวกโทรล ยิ่งพวกเขาเดินหน้ามากเท่าไหร่ก็พบว่าคิเมร่านั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาได้หยุดลงที่ประตูเหล็กซึ่งถูกพังลงไปโดยมันนำไปสู่อีกห้องหนึ่งแต่พื้นห้องนี้เป็นเหล็ก มันมีถังเพียงแค่ใบเดียวที่แตกออกแล้วตั้งไว้อยู่ใจกลางห้องแต่ถังนี้ใหญ่กว่าถังเก่าๆที่พวกเขาพบอยู่หลายเท่า ประตูที่ถูกพังนั้นอยู่อีกฝั่งของห้อง ตอนนี้ Drahma นั้นอยู่ไหนก็ไม่รู้

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากภายในห้องซึ่งเกิดจากการต่อสู้ด้านหลังถังนั่น มันเป็นพวกโทรลที่กำลังต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับคิเมร่าตัวขนาดเท่ากับช้าง

” ทำไมมินิบอสยังมีชีวิตอยู่ถ้า Drahma ผ่านห้องนี้ไปแล้ว ? ” – โซว์ สงสัย

ชายแก่ยกหอกขึ้นมาแล้วหมุนที่ด้ามก่อนจะมีหัวหอกโผล่ออกมา

” บางทีสัตว์ประหลาดนี้ยังคงหลับอยู่ในถังและยักษ์นั่นก็ไม่ได้สนใจ ไม่ก็สัตว์ประหลาดตัวนี้กลัวที่จะสู้กับยักษ์ ” – Jura พูดขึ้น เขาชี้ไปที่พื้นแล้วพบว่าพื้นเหล็กนั้นบุบลงเป็นรอยเท้า – ” ชัดแล้วว่าเขาผ่านที่นี่ไป เรายังมาถูกทาง “

เดฟ ได้ทำการตรวจสอบคิเมร่ายักษ์

[Monstrosity (หมายเลขทดลอง 5547) ]

ระดับ : Epic

เลเวล : 280

HP : 235,111/400,000

ดาเมจ : 25,000-35,000

ลดดาเมจ : 12,000

ดูดซับเวทย์ : 13,000

สกิล :

{Poison Strike: ใช้หางโจมตีโดยทำให้ติดพิษ 30 วินาทีและทำดาเมจ 100% พิษนั้นซ้อนทับกันได้ 5 ครั้งโดยทำการเริ่มต้นเวลาใหม่ทุกครั้งที่ซ้อนทับ แต่ชั้นของพิษนั้นทำดาเมจ 5,000 หน่วยเป็นเวลา 30 วินาที }

{Bone Crush : รัดรอบตัวเป้าหมายทำดาเมจ 200% และทำให้เกิดดีบัฟหนึ่งอย่าง { Disarm} รึ {Crippled} }

{Spider Web: ใช้ไยแมงมุมตรึงเป้าหมาย 10 วินาที }

” ดูเหมือนว่าโทรลกำลังสนุก ” – โซว์ พูดขึ้น

โทรลหลายตัวนั้นติดพิษโดยมีฟองออกมาจากปาก ตัวอื่นยังคงถูกตรึงไว้ด้วยใยพยายามดิ้นให้หลุดออกมาได้แต่ตัวที่เหลือนั้นกำลังอัดกับคิเมร่าอยู่ คทาน้ำแข็งของพวกมันถูกฟาดเข้าใส่ด้านข้างอย่างแรง คิเมร่าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่โดนฟาด

” เราควรไปช่วยพวกนั้น “- เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับใช้ {Stampede}

Rise of The Undead Legion

Rise of The Undead Legion

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 100

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


สามปีก่อน เกมจำลองแบบใหม่ Conquest ได้ถูกปล่อยออกมา

‘ ทั้งโลกอยู่บนเซิฟเวอร์ เกม RPG เข้ามาใช้ชีวิตพร้อมกับคนอื่นๆ สำรวจ, สร้างและพิชิตมัน ! ’

มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เดฟรัสเตอร์ โตขึ้นมาโดยไม่มีครอบครัวให้พูดถึง เขามีเพื่อนไม่กี่คนและไม่ค่อยได้รับโอกาสในชีวิตนัก เขาอยู่ในเมืองเล็กๆที่เขาเรียนจบจากมัธยมมาและทำงานกินค่าแรงต่ำๆที่ยากจะพอจ่ายค่าเช้าและค่ากินค่าอยู่ได้ เขาไม่มีเงินไปเรียนมหาลัยแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไปนอนข้างถนน

ชีวิตเของเขาย่ำอยู่กับที่

อยู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลง มันคือกรรมรึไม่ว่าเราจะเรียกมันกว่าอะไรก็ตาม มันก็เกิดการพลิกผัน

อยู่ๆชีวิตของเดฟก็เปลี่ยนไป

เขาบาดเจ็บและไม่อาจจะทำงานได้อีก เขาเสียสิ่งที่เขามีอยู่น้อยนิดไป โชคชะตาของเขาเจอกับวิกฤตและโอกาสก็ได้โผล่มาตรงหน้า

เขาเสียงทุกอย่าง และพยายามเพื่อคว้าโอกาสที่มันส่งผลดีต่อตัวเขา เพื่อให้เขาได้กว้าหน้าขึ้นเหมือนที่เขาฝันไม่งั้นก็นั่งมองดูตัวเองจมดิ่งไปกับความล้มเหลว

มาดูเดฟผู้ซึ่งใช้แรงบันดาลใจและความหวังทั้งหมดที่มีเข้าไปในเกมที่เขาต้องการเล่นมาโดยตลอด Conquest !

มันเป็นการเดินทางของการผจญภัยและการสำรวจ, ชัยชนะและพ่ายแพ้ เขามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตให้กับตัวเขาเองทั้งในเกมและชีวิตจริง

Options

not work with dark mode
Reset