Regressor Instruction Manual 15 การตื่นขึ้น

ตอนที่ 15 การตื่นขึ้น

“ทำไมคุณดูไม่สบายใจล่ะ?”

 

 

 

 

 

“น – นั่น…”

 

 

 

 

 

“คุณเป็นเด็กที่ตลกดีนะ แค่มองก็รู้แล้วว่าคุณรำคาญที่ฉันไปพบกับคุณกียอง”

 

 

 

 

 

“ม – มันไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ ธุระของพี่…มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน…”

 

 

 

 

 

“แต่ท่าทางของคุณเป็นอย่างนั้น…”

 

 

 

 

 

“ฉ – ฉันพูดความจริง”

 

 

 

 

 

” จริงเหรอคะ อย่าให้ฉันหัวเราะเลยเด็กน้อย คุณคิดว่าจะไม่มีใครรู้สิ่งที่อยู่ในหัวของคุณ? คุณดูเชื่องช้าและงี่เง่า แต่ดูเหมือนหัวของคุณทำงานได้ดี …ใครจะคิดล่ะว่า คนอย่างคุณจะจับปลาตัวใหญ่ขนาดนั้นได้ก่อนจะมาถึงที่นี่? ด้วยใบหน้าแบบนั้น ทักษะของคุณคงดีกว่าที่ฉันคาด …ไม่สิ เขาอาจจะเป็นคนที่มีรสนิยมประหลาด …คุณอาจจะรู้จักคนแบบนั้น คนที่สนใจเฉพาะคนไร้ความสามารถและไร้สติปัญญา “

 

 

 

 

 

เธอไม่สามารถเข้าใจคำพูดของพัคฮเยยองได้ทั้งหมด

 

 

 

 

 

“คุณกำลังทำหน้านั้นอีกครั้ง ฉันไม่ชอบมันเลย”

 

 

 

 

 

“ฉ – ฉ – ฉันขอโทษค่ะ…”

 

 

 

 

 

“คุณขอโทษเรื่องอะไรคะ? คุณกำลังหลอกทุกคนที่นี่โดยไม่คำนึงว่า…”

 

 

 

 

 

“มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็แค่…”

 

 

 

 

 

“คุณคิดว่ากียองจะชอบคุณจริง ๆ เหรอ? คุณคิดว่าเขาห่วงใยคุณจริง ๆ?”

 

 

 

 

 

“นั่น…”

 

 

 

 

 

“อย่าเข้าใจผิดไป นั่นเป็นเพียงโชคที่คุณมี คุณบังเอิญมาถูกที่ถูกเวลาและได้สบตากับเขา คุณอาจจะมองไม่เห็นว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนแบบไหน คุณกียองจะไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปในตอนแรก เมื่อเขาเบื่อ เขาทิ้งไปเมื่อเขาไม่ต้องการ”

 

 

 

 

 

“พ – พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น…”

 

 

 

 

 

“นั่นเป็นเพียงสิ่งที่คุณอยากจะเชื่อเพราะมันเป็นความคิดของคุณ แต่ฉันจะทำยังไงดี ถ้าคุณตัดสินใจแล้ว? ฉันคิดว่าฉันพูดถูก … ตอนนี้มันอาจจะโอเค แต่สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า จากมุมมองของฉันคุณค่อนข้างน่าเบื่อ อุ๊บ ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อนเลยเหรอคะ?”

 

 

 

 

 

จองฮายันกัดริมฝีปากของเธออย่างแรง

 

 

 

 

 

เธอรู้สึกสับสน

 

 

 

 

 

ใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าว เธออยากจะตะโกนว่า “แกกำลังพูดถึงอะไร” และโต้แย้งกับคำพูดไร้สาระของพัคฮเยยอง

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามร่างกายของเธอยังคงสั่น

 

 

 

 

 

“ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเห็นคุณทำหน้าแบบนั้นมาก่อน? คุณเป็นบ้าเหรอ? ฉันจะกล่าวให้ตรงขึ้น คุณถูกคนรอบข้างทอดทิ้งมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอคะ?”

 

 

 

 

 

“ไม่ใช่!!”

 

 

 

 

 

“ไม่? แต่มันเขียนไว้บนใบหน้าของคุณ ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นคุณมักจะถูกแย่งสิ่งของไปจากคุณ? ไม่ว่าจะด้วยวิธีก็ตาม คุณมันน่าสมเพช คุณเชื่อจริง ๆ หรือว่าเขามักจะให้ความสำคัญกับคุณเป็นอันดับแรก คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาหมดความสนใจต่อคุณ”

 

 

 

 

 

ใบหน้าของพัคฮเยยองค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ไม่นานจองฮายันก็ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาใกล้หู ซึ่งทำให้เธออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

 

“กียอง …ดีกว่าที่ฉันคิดซะอีก”

 

 

 

 

 

“อ – อย่ามาโกหก!”

 

 

 

 

 

“โอ้ คุณตกหลุมพรางซะแล้ว”

 

 

 

 

 

ดวงตาของจองฮายันเต็มไปด้วยน้ำตา

 

 

 

 

 

เธออยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อหักล้างพัคฮเยยอง แต่เธอรู้สึกหายใจไม่ออก

 

 

 

 

 

ผู้หญิงคนนี้พูดถูก

 

 

 

 

 

เธอถูกพ่อแม่และพี่สาวทอดทิ้ง

 

 

 

 

 

บรรดาคนที่เธอรักและเพื่อน ๆ ที่อยู่กับเธอมานานก็ทิ้งเธอไป

 

 

 

 

 

บางทีเธออาจจะเป็นคนแบบที่คนอื่นไม่ชอบก็ได้

 

 

 

 

 

เธอทำผิดเสมอและมีปัญหาในการพูดให้ถูกต้อง

 

 

 

 

 

การถูกรังแกกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ดังนั้นจึงสะดวกกว่าที่เธอจะอยู่คนเดียว

 

 

 

 

 

แต่

 

 

 

 

 

‘ไม่ใช่พี่นะ’

 

 

 

 

 

พี่ของเธอไม่ใช่คนแบบนั้น

 

 

 

 

 

เขาไม่ได้คล้ายกับคนอื่นเลยแม้แต่น้อย นิสัยของเขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่เธอเคยพบมา

 

 

 

 

 

เขาบอกว่าเธอเป็นเหมือนคนในครอบครัว เธอทำให้เขานึกถึงน้องสาวและเขาต้องการดูแลเธอ

 

 

 

 

 

เขาใส่ใจเธอเสมอและคอยดูแลเธอทุกวัน ด็อกกูก็บอกเธอเช่นนั้น

 

 

 

 

 

ทุก ๆ วันพี่จะบอกเธอว่าเขาเป็นห่วงเธอ

 

 

 

 

 

เขาสนับสนุนเธอเสมอและบอกว่าเธอจะทำได้ดีกว่านี้ แม้เธอจะทำผิดพลาด

 

 

 

 

 

แม้ว่าเธอจะถามคำถามโง่ ๆ เขาก็จะยิ้มและตอบเธออย่างอดทน

 

 

 

 

 

“นั่นไม่ใช่เรื่องจริง”

 

 

 

 

 

“ฉันเดาว่านั่นคือสิ่งที่คุณคาดหวัง? ฉันจะกล่าวตามตรงกับคุณ มีแนวโน้มว่าสิ่งที่ฉันพูดจะเกิดขึ้น ฉันจะเตือนเธอนะสาวน้อย หากคุณต้องการได้อะไรจากความสัมพันธ์ปัจจุบัน คุณควรปล่อยมันออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่คุณจะถูกทิ้ง มิฉะนั้นถ้ามันจะถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง”

 

 

 

 

 

“ห – ห – หยุดนะ พี่ไม่…”

 

 

 

 

 

“น่ารำคาญชะมัด”

 

 

 

 

 

ปากของพัคฮเยยองโค้งเป็นรอยยิ้ม และในขณะเดียวกันจองฮายันก็รู้สึกถึงแรงกดที่ไหล่ของเธอ

 

 

 

 

 

เธอถูกผลักลงมา

 

 

 

 

 

จองฮายันล้มลงกับพื้น เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมอง สิ่งที่เธอเห็นคือด้านหลังของพัคฮเยยองที่เดินจากไปแล้ว

 

 

 

 

 

ในเวลาเดียวกันเสียงที่หลั่งไหลเข้ามาจากทุกทิศทาง

 

 

 

 

 

“สมน้ำหน้า”

 

 

 

 

 

“เกิดอะไรขึ้น? “

 

 

 

 

 

“อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ายัยเด็กนั่นจะถูกทิ้งในไม่ช้า”

 

 

 

 

 

” หยุดสิ เฮ้ เดี๋ยวเธอก็ได้ยินหรอก”

 

 

 

 

 

“หยุดอะไรล่ะ? นายไม่ได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ? ในไม่ช้าเธอจะกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง แล้วเธอจะไปเกาะติดกับใคร? อ๊ะ! ต่ฉันไม่คิดว่าจะมีต้องการเธอได้อีกแล้ว”

 

 

 

 

 

“เธอจะทำยังไงล่ะ ถ้าอยู่คนเดียว”

 

 

 

 

 

นั่นไม่ใช่เรื่องจริง

 

 

 

 

 

‘มันไม่สามารถเป็นจริงได้’

 

 

 

 

 

ไม่มีทางที่พี่จะทอดทิ้งเธอ

 

 

 

 

 

ไม่มีทางที่พี่ที่บอกว่าเขาจะอยู่กับเธอตลอดไปจะทอดทิ้งเธอไปแบบนั้น

 

 

 

 

 

ไม่มีทางที่พี่ที่บอกเธอว่าเธอเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวจะทอดทิ้งเธอ

 

 

 

 

 

‘นั่นมันจริงเหรอ?’

 

 

 

 

 

แต่เสียงของพัคฮเยยองยังดังก้องอยู่ในหูของเธอ

 

 

 

 

 

” มันไม่จริง!! “

 

 

 

 

 

” เมื่อกี้อะไรน่ะ?”

 

 

 

 

 

“เธอตะโกน? เธอต้องโกรธมากจริง ๆ …”

 

 

 

 

 

“ถึงเวลาแล้วที่ธรรมชาติที่แท้จริงของเธอจะปรากฏขึ้น ชิ”

 

 

 

 

 

ไม่ พี่จะไม่ทิ้งเธอ

 

 

 

 

 

พี่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เขาอบอุ่นและใจดีเสมอ

 

 

 

 

 

‘พี่สาวก็ทอดทิ้งคุณเช่นกัน’

 

 

 

 

 

“ม – ไม่”

 

 

 

 

 

‘พ่อแม่ก็ทอดทิ้งคุณเช่นกัน’

 

 

 

 

 

“เขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น พี่แตกต่าง พี่แตกต่างกัน”

 

 

 

 

 

แน่นอนเขาแตกต่างออกไป

 

 

 

 

 

มันยากมากที่จะทำให้หัวใจของเธอสงบลง เธอรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก

 

 

 

 

 

เธอหายใจไม่ได้กและจิตใจของเธอก็ว่างเปล่า น้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม

 

 

 

 

 

เธอได้ยินเสียงคนหัวเราะรอบข้าง

 

 

 

 

 

เสียงนั้นไม่รบกวนเธออีกต่อไป มันจะต้องมีอะไรที่แย่กว่านั้นที่จะทำให้เธอกลัว

 

 

 

 

 

ก้าวของเธอมุ่งหน้าไปยังจุดที่พี่ของเธอเคยอยู่

 

 

 

 

 

‘เดี๋ยวก่อนนะ? มีบางอย่างที่ผมต้องการทราบ ดังนั้นผมจะพบคุณในภายหลัง’

 

 

 

 

 

เธอแน่ใจว่าเขาจะได้พบเธอ

 

 

 

 

 

จองฮายันรู้สึกว่าเธอต้องการเห็นใบหน้าของเขาเพื่อสงบสติอารมณ์

 

 

 

 

 

ขณะที่เธอกำลังรีบไป เธอก็ได้ยินเสียงที่อยู่ห่างออกไป

 

 

 

 

 

มันคือลีจีฮเย

 

 

 

 

 

“กรุณารวบรวมทุกคนมาด้วยค่ะ”

 

 

 

 

 

” ครับ/ค่ะ”

 

 

 

 

 

“เมื่อคุณฮยอนซึง คุณด็อกกูและคุณกียองออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ พวกเขาวางแผนที่จะคัดเลือกคนที่จะไปด้วย คุณฮยอนซึงจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมและผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในวันนี้ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ”

 

 

 

 

 

เมื่อคิดได้แล้ว เธอก็ได้ยินมาว่าพวกเขาจะเดินทางไปด้วยกัน

 

 

 

 

 

โดยปกติแล้วนั่นหมายความว่าเธอสามารถอยู่กับเขาได้นานขึ้น

 

 

 

 

 

จองฮายันไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงลืมเรื่องนั้นไป ตอนนี้มีเวลามากขึ้นที่เธอจะอยู่เคียงข้างกียอง

 

 

 

 

 

‘ค่อยยังชั่ว’

 

 

 

 

 

เมื่อเธอหันไปมองใกล้ ๆ เธอก็เห็นคิมฮยอนซึง ปาร์คด็อกกูและกียองเดินมาจากด้านหลังลีจีฮเย

 

 

 

 

 

‘พี่คะ’

 

 

 

 

 

เขามีสีหน้าจริงจัง ซึ่งแตกต่างจากท่าทางปกติของเขา แต่การได้เห็นเขาทำให้เธอนิ่งขึ้น

 

 

 

 

 

หัวใจของเธอเต้นรัว เธอไม่เจ็บปวดหรือรู้สึกเวียนหัว

 

 

 

 

 

ความรู้สึกหงุดหงิดที่ค้างคาหายไปเพียงแค่สบตากับเขา

 

 

 

 

 

แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

 

 

 

 

 

‘เขาเห็นฉันแล้ว’

 

 

 

 

 

เขากำลังมองไปในทิศทางของเธออย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

คิมฮยอนซึงเริ่มพูดอย่างช้า ๆ

 

 

 

 

 

“ขอโทษนะครับที่พามาที่นี่ แม้พวกคุณยุ่งมาก แต่พวกคุณคงรู้ดีว่าการอยู่เอาชีวิตรอดในสถานที่แห่งนี้ยากขึ้นเรื่อย ๆ การแบ่งส่วนของอาหารที่ลดลงในแต่ละวัน และจำนวนผู้รอดชีวิตที่เพิ่มขึ้น เรามีอาหารและน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ ณ จุดเริ่มต้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เราเชื่อว่าเราจำเป็นต้องขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น”

 

 

 

 

 

” อา….”

 

 

 

 

 

“เราต้องการคนที่สามารถต่อสู้ได้ แน่นอนผมรู้ว่าพวกคุณกลัวมอนสเตอร์ พวกคุณบางคนไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้และบางคนอาจไม่อยากออกจากสถานที่แห่งนี้ แต่ตอนนี้คุณต้องทำ ผมไม่ได้จะทำลายมัน จนทุกคนจะต้องทุกข์ทรมาน ดังนั้นเราจึงตัดสินใจว่าจะดีกว่าถ้าพาคุณออกไปทีละคนครับ”

 

 

 

 

 

หลังจากที่คิมฮยอนซึงพูด กียองก็ก้าวไปข้างหน้า

 

 

 

 

 

“กียอง”

 

 

 

 

 

” ใช่ครับ ผมเข้าใจว่าพวกคุณกลัว อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่สามารถได้รับจากการต่อสู้เท่านั้น อย่างที่คุณทราบ นี่ไม่เหมือนโลกที่เรารู้จัก ผมแน่ใจว่าคุณทุกคนรับรู้ว่าหน้าต่างสถานะและคลาสมีความหมายอย่างไร เปลวไฟ”

 

 

 

 

 

เปลวไฟลุกขึ้นจากฝ่ามือของเขา

 

 

 

 

 

ดวงตาของคนรอบข้างเบิกกว้าง

 

 

 

 

 

“ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่หน้าต่างสถานะรายงานว่าคลาสของผมคือวิซาร์ด ผมยังไม่มีเวทมนตร์ที่จะใช้งานได้มากนัก แต่ผมก็ไม่ต่างอะไรจากพวกคุณ ผมหนีจากมอนสเตอร์ไปซ่อนตัวเพราะไม่อยากเจอพวกมัน ในตอนแรกนั้นมันอาจเป็นแค่โชค แต่คุณจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าคุณทิ้งความกลัวเพื่อต่อสู้ เมื่อกลุ่มแข็งแกร่งขึ้น เมื่อพวกเราทุกคนก็แข็งแกร่งขึ้น ในที่สุดเราก็จะออกจากที่นี่ได้ครับ”

 

 

 

 

 

“โอ้…”

 

 

 

 

 

“สำหรับตอนนี้เราจะเลือกบุคคลที่จะนำไปด้วย คุณฮายันครับ”

 

 

 

 

 

” อา…”

 

 

 

 

 

“และคุณฮเยยอง”

 

 

 

 

 

” ค่ะ ฉันหวังว่าจะทำงานร่วมกับคุณ”

 

 

 

 

 

“ตอนนี้ผมจะพาสองคนนี้ไปด้วย เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้วเราจะจัดกลุ่มใหม่เพื่อเลือกคนต่อไป พวกคุณมีคำถามไหมครับ?”

 

 

 

 

 

“ฉันอยากรู้ว่าเกณฑ์คืออะไรคะ?”

 

 

 

 

 

“เกณฑ์การคัดเลือกจะเป็นแบบสุ่มครับ”

 

 

 

 

 

“เราจะออกไปออกล่าด้วยตัวเองแทน…”

 

 

 

 

 

“ผมก็ไม่ขัดถ้าพวกคุณทำเช่นนั้นครับ แต่ผมไม่แนะนำนัก”

 

 

 

 

 

เสียงโห่ร้องของฝูงชนดังขึ้น แต่จองฮายันไม่สามารถพูดออกมาได้อีกต่อไป

 

 

 

 

 

สายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่พัคฮเยยอง

 

 

 

 

 

เธอรู้ว่ามีคนอื่นจะไปกับเธอด้วย แต่เธอไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้น

 

 

 

 

 

“ยินดีด้วยครับพี่”

 

 

 

 

 

“อย่าบาดเจ็บนะคะพี่”

 

 

 

 

 

“คุณฮยอนซึง คุณกียองและคุณด็อกกูจะอยู่กับเรา ดังนั้นมันไม่น่าจะมีปัญหานะ มันค่อนข้างน่ากลัว แต่เราต้องผลักดันเรื่องนี้ไปให้ได้ คงจะดีกว่าถ้าเรามีคนที่สามารถต่อสู้ได้มากขึ้น”

 

 

 

 

 

จองฮายันไม่ได้อิจฉาพัคฮเยยองที่รายล้อมไปด้วยผู้คนที่แสดงความยินดีกับเธอ อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกแปลก ๆ ด้วยเหตุผลบางประการ

 

 

 

 

 

“อย่าเอาเธอไปนะ”

 

 

 

 

 

ขณะที่เธอเหลือบมองไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว เธอก็เห็นว่าพี่กำลังมองไปที่พัคฮเยยองเช่นกัน

 

 

 

 

 

มีรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปากของเขา

 

 

 

 

 

เสียงที่เธอเคยได้ยินก่อนหน้านี้ดังก้องในหู และการหายใจของเธอก็สั่นคลอน

 

 

 

 

 

“เขาเป็นคนที่เบื่อคนอื่นได้ง่าย”

 

 

 

 

 

พัคฮเยยองรีบขึ้นไปที่นั่นและเริ่มจับมือกับคนอื่น ๆ

 

 

 

 

 

‘คุณกำลังจะถูกโยนทิ้ง’

 

 

 

 

 

‘เขาจะปล่อยคุณไป’

 

 

 

 

 

‘พี่สาวก็ทิ้งคุณไป’

 

 

 

 

 

‘พ่อแม่ของคุณก็เช่นกัน’

 

 

 

 

 

‘หยุดนะ หยุดนะ หยุด’

 

 

 

 

 

คุณจะจบลงด้วยการ….’

 

 

 

 

 

‘หยุด…’

 

 

 

 

 

‘ถูกโยนทิ้งไป….’

 

 

 

 

 

“เกลียด”

 

 

 

 

 

ในขณะนั้นเองที่กียองจับมือของพัคฮเยยอง

 

 

 

 

 

มีบางอย่างพังทลายลงภายในจองฮายัน

Regressor Instruction Manual

Regressor Instruction Manual

Score 10
Status: Completed

วันหนึ่งผมถูกเรียกตัวมายังโลกใบนี้

สัตว์ร้ายหลั่งไหลออกมาและวิกฤตที่น่าเหลือเชื่อก็มาถึง

พรสวรรค์ของผมไม่อาจแย่ไปได้กว่านี้แล้ว

[ระดับความสามารถของผู้เล่นอยู่ในระดับต่ำสุด]

[ตัวเลขทั้งหมดเกือบสิ้นหวัง]

ไม่ว่าผมจะเลือกเป็นนักรบหรือพ่อมดที่มีความสามารถก็ตาม

ไม่ว่าคุณจะย้อนเวลากลับไป

คุณต้องใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งเพื่อที่จะอยู่รอด

Options

not work with dark mode
Reset