Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา 1424

ตอนที่ 1424
เต๋าสูงศักดิ์จู่โจม!

                พายุฝนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สายฝนตกลงบนพื้นดังซ่าๆ เสียงนี้เหมือนแฝงไว้ด้วยกฏบางอย่าง ทำให้ฟังนานๆ เข้าจะมีความรู้สึกว่าจะหลับตามเสียงนี้

                ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือเพิงไม้ที่ซูหมิงอยู่ล้วนมีเสียงฝนต่างกัน เสียงเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันกลายเป็นดั่งเสียงสวรรค์ เพียงแต่หากผู้ฝึกฌานใช้ใจฟังจะแยกไม่ออกถึงความต่างมากนัก มีเพียงใจของคนธรรมดาที่เงียบในยามกลางคืน อยู่ในระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่นเท่านั้นถึงสัมผัสได้ถึงเสียงสวรรค์นี้

                เพียงแต่ว่าในคืนฝนตกมักจะมีเสียงที่หมายจะรบกวนเสียงฝน มันดังแว่วออกมาจากในบ้านช่วงที่ซูหมิงกำลังกึ่งหลับ

                “เจ้าหนูข้างนอก ข้าความจำไม่ดี เจ้าจำเอาไว้นะ พรุ่งนี้ช่างเหล็กทางสุดตะวันตกของหมู่บ้านให้พวกเราพาสุนัขสองตัวกลับมา ถ้าไม่อย่างนั้นกลางดึกมีโจรมาขโมยขวานข้าจะซวยเอา”

                เสียงชายชราดังแว่วมาจากในบ้าน ผ่านสายฝนเข้าไปถึงซูหมิงในเพิง ซูหมิงไม่ตอบ แต่ดวงตาขยับประกายวาว

                เขารู้สึกได้ถึงอันตรายรางๆ กลางสายฝน เหมือนได้ยิน…เสียงที่ไม่ได้กระทบลงแผ่นดิน และก็ไม่ได้ตกลงบนบ้าน นั่นคือ…เหมือนเสียงตกลงกลางอากาศ ตกลงบนปราการไร้รูปบางอย่าง

                ‘มีคนมาแล้ว’ ซูหมิงซ่อนประกายในดวงตาเล็กน้อย แต่ส่วนลึกในดวงตากลับแผ่จิตสังหาร คนที่หาที่นี่พบได้จะต้องไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญญาให้ชายชราคนนั้นแน่ ถึงอย่างไรที่ที่เขาอยู่ก็น่าจะเป็นที่ลับที่คนอื่นไม่รู้

                ดังนั้นคนที่มาได้ เว้นแต่จะผ่านทางมา มิเช่นนั้น…จะต้องมาเพื่อหาซูหมิงอย่างแน่นอน

                ‘เสียงเต๋าเก้าเสียง หากไม่ตายจะได้เป็นมหาเต๋าสูงศักดิ์อย่างแน่นอน สองประโยคนี้ บางทีวันนี้อาจเป็นจริง’ ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง ตั้งแต่เปล่งเสียงรูปแบบชะตาหรือเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้า เขาก็เข้าใจแล้วว่าในแคว้นกู่จั้ง โดยเฉพาะสำนักเอกะเต๋ากับฝ่ายอสุราจะต้องผู้ฝึกฌานคิดจะสังหารตนไม่น้อยแน่

                ‘สำนักเอกะเต๋า ฝ่ายอสุรา…ผู้ฝึกฌานฝ่ายอสุรายังมีคุณธรรมอยู่บ้าง ส่วนสำนักเอกะเต๋า…หากข้ามีวันหนึ่งก้าวสู่มหาเต๋าสูงศักดิ์ ข้าจะฆ่าล้างสำนัก ให้โลหิตย้อมสำนักนี้!’ จิตสังหารในแววตาซูหมิงเกิดเป็นแสงสีแดง

                ยามนี้เองมีสายฟ้าสายหนึ่งผ่าลงมากลางฟ้า แสงพลันส่องสะท้อนแผ่นดิน เผยเป็นร่างเงาซูบผอมที่ลอยอยู่กลางอากาศของลาน และยังมีร่างเงาผู้ฝึกฌานค่อนข้างอ้วนอีกคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนหลังคาบ้านในลานตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้!

                ทันทีที่ร่างเงาสองคนนี้เผยออกมากลางแสงฟ้าผ่าอย่างชัดเจนนั้น เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นฟ้าสะเทือนแผ่นดิน

                “องค์ชายสาม เจ้าหาตัวยากมาก” ผู้ฝึกฌานซูบผอมที่ลอยอยู่กลางอากาศของลานยิ้มเล็กน้อย สวมชุดคลุมเต๋าอยู่ในพายุฝน เหมือนว่าร่างกายเขาเป็นขอบเขตปกคลุมฝน ทำให้ที่เขายืนอยู่ที่นี่ พื้นดินในลานจึงไม่มีฝนตกแม้แต่น้อย

                ซูหมิงเดินออกมาจากเพิงไม้ สวมชุดผ้าเนื้อหยาบ มองผู้ฝึกฌานซูบผอมกลางอากาศอย่างเย็นชา ก่อนจะมองผู้ฝึกฌานอีกคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนหลังคาบ้าน

                ความรู้สึกต่อสองคนนี้เหมือนเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเจ็ดจันทรา เห็นได้ชัดว่ามีพลังเต๋าสูงศักดิ์!

                ขอบเขตจิตเต๋าขั้นเจ็ด จากวิญญาณเต๋าจะเปลี่ยนเป็นสูงศักดิ์ กลายเป็นเต๋าสูงศักดิ์ หากก้าวอีกก้าวก็จะเป็นมหาเต๋าสูงศักดิ์ที่เป็นที่จับตามองทั่วแคว้น เพียงแต่การเดินหนึ่งก้าวนี้ ระดับความยากของมันนั้น…ตั้งแต่โบราณมา ในแคว้นกู่จั้งมีไม่ถึงสามสิบคนที่ทำได้

                ‘เคาะเสียงวิญญาณเต๋าเก้าเสียงถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะได้บรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์ น่าเสียดาย…หากเจ้าไม่ใช่องค์ชายสาม ไม่ว่าสำนักใดก็จะมองเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่า น่าเสียดาย…ชีวิตเจ้าไม่มีโอกาสได้บรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์แล้ว’ ผู้ฝึกฌานซูบผอมถอนหายใจเบา พลันยกมือขวาขึ้นกลางอากาศกดไปยังซูหมิง

                ช่วงที่กดมือขวาไป พลันปรากฏวงแหวนอาคมห้าเหลี่ยมที่รวมจากควันดำขึ้นเหนือซูหมิงก่อนกดลงมา ในวงแหวนอาคมห้าเหลี่ยมปรากฏควันดำเข้มข้น คล้ายว่ากลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าซูหมิงอย่างแรง

                การคว้านี้ดูเหมือนธรรมดา แต่ความจริงผนึกทุกพื้นที่รอบตัวซูหมิงเอาไว้แล้ว ทำให้ที่นี่ถูกผนึกจากฟ้าถึงดิน!

                ซูหมิงมีสีหน้าปกติ สองมือประสานมุทราโบกไปยังวงแหวนอาคมห้าเหลี่ยม เกิดเสียงอึกทึกดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า ผู้ฝึกฌานซูบผอมยิ้มเยาะมุมปาก แต่ไม่ทันไรก็หรี่ตาลงโดยพลัน

                ยามนี้เองร่างเงาซูหมิงเดินออกมาจากมวลอากาศข้างหลังผู้ฝึกฌานซูบผอมด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า ช่วงที่ยกมือขวาขึ้นดวงจิตสี่โลกแท้จริงรวมถึงพลังขอบเขตวิญญาณเต๋าหลอมรวมด้วยกันกลายเป็นหนึ่งนิ้วมือ!

                นิ้วมือนี้เลิศล้ำเป็นที่สุด พริบตาที่ผู้ฝึกฌานซูบผอมหน้าเปลี่ยนสีพร้อมหมุนตัวกลับสะบัดแขนเสื้อนั้น ก็เข้าปะทะกับนิ้วพอดี!

                เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องอีกครั้ง ซูหมิงโลหิตไหลจากมุมปาก ร่างถอยไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้ฝึกฌานซูบผอมเดินตามเข้ามา แต่ซูหมิงกลับหายไป มาปรากฏอีกทียืนอยู่ในลานบ้าน

                ผู้ฝึกฌานซูบผอมกลางอากาศก้มหน้ามองมือซ้ายตนเองแวบหนึ่ง มือซ้ายเขาเป็นรูแผลเหวอะหวะ โลหิตภายในไหลออกมา ซ้ำยังมีกลิ่นอายพลังที่ทำให้เขารู้สึกจัดการยากเล็กน้อยกำลังแผ่คลุมไปทั่วร่างผ่านเลือดเนื้อ

                “ด้วยพลังของขอบเขตวิญญาณเต๋า แม้จะใช้วงแหวนอาคมที่เจ้าวางไว้ที่นี่ แต่ทำร้ายข้าได้ เจ้าจงภูมิใจเสีย” ผู้ฝึกฌานซูบผอมมีสีหน้าทะมึนทึบ เขาไม่สนใจบาดแผลนี้ แม้จะแปลกอยู่บ้าง แต่เขามั่นใจว่าจะขจัดไปได้ แต่มาบาดเจ็บต่อหน้าสหายร่วมสำนักแบบนี้ มันทำให้เขาโกรธแล้ว

                เป็นอย่างที่ผู้ฝึกฌานซูบผอมว่าไว้ ด้วยความระวังของซูหมิง หลายเดือนมานี้เขาได้วางวงแหวนอาคมและอาวุธสังหารไว้ในลานบ้านไม่น้อย หากมีคนเข้ามา ขอเพียงซูหมิงคิดก็จะให้วงแหวนอาคมกับอาวุธสังหารทำงานได้ทันที

                ตอนนี้ซูหมิงยืนอยู่ในลาน แม้จะหน้าขาวซีด แต่ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองผู้ฝึกฌานซูบผอม นัยน์ตาเขามีความมุ่งมั่นในการต่อสู้ ยกมือขวาสะบัดไปข้างๆ เบาๆ สายฝนในลานพลันกลายเป็นหมอกขาว ภายใต้หมอกขาวนี้ เม็ดทรายบนพื้นดินจึงสั่นไหว

                “จะสู้ก็สู้ ไม่สู้ก็ไสหัวไป พูดอยู่ได้หนวกหู!” จังหวะที่ซูหมิงกล่าวอย่างเย็นชา ควันขาวจากสายฝนในลานพลันลอยขึ้นฟ้าพร้อมกัน วูบเดียวก็รวมเป็นวงแหวนอาคมวงกลมกลางอากาศ มันเพิ่งปรากฏก็หมุนโคจรอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงครึกโครมดังก้อง ซูหมิงใช้มือขวาคว้าอากาศไปบนพื้นดิน เม็ดทรายเหลือคณานับบนพื้นลอยขึ้นพร้อมกันเป็นการเปิดออก ก่อนเม็ดทรายทุกเม็ดที่ซูหมิงลงตราประทับมาหลายเดือนจะพุ่งขึ้นฟ้าไป

                “ยังอ่อนแอเกินไปจริงๆ” ผู้ฝึกฌานซูบผอมกล่าวราบเรียบด้วยท่าทีสงบนิ่งมาก แต่ความจริงดวงตาหรี่ลง เห็นถึงความตกใจภายในใจ

                เพียงแต่ว่า บางทีอาจคิดว่าตนมีพลังค่อนข้างสูง ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมเสียชื่อเสียงแน่ โดยเฉพาะมีคนดูอยู่ข้างๆ ดังนั้นจึงมีสีหน้าเฉยเมย ส่วนระดับความตื่นตัวในใจมีเพียงเขาที่รู้

                ขณะกล่าวอยู่นี้ผู้ฝึกฌานซูบผอมยกมือขวาขึ้นทำสัญลักษณ์มือกดลงแผ่นดิน ทันใดนั้นเกิดเสียงครึกโครมกึกก้อง บนฟ้าเหนือเขาเหมือนถูกฉีกออกเป็นรอยแยก ก่อนมีแสงทองส่องลงมากลายเป็นตราประทับใหญ่สีทองตรงไปยังแผ่นดิน

                ตราประทับสีทองกดลงมาพร้อมเสียงอึกทึก ควันขาวรอบตัวผู้ฝึกฌานซูบผอมสลายไปทันที ก่อนกดลงไปอีกครั้ง เม็ดทรายเหล่านั้นแตกออกพร้อมกัน แต่ทันใดนั้นเอง ซูหมิงเกิดจิตสังหารขึ้นอีกครั้ง

                เขายกมือขวาขึ้น ไข่มุกวิญญาณหวนคืนพลันสว่างวาบ พลังมหาศาลแผ่มาจากในไข่มุก ชั่ววูบเดียวก็ปกคลุมร่างผู้ฝึกฌานซูบผอม ทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสี แต่ก็กลับมาสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแค่นเสียงขึ้นจมูก ช่วงที่เดินหน้ากำลังจะลงมือนั้น ไข่มุกวิญญาณหวนคืนขยับแสงอีกครั้ง ครั้งนี้แรงสะท้อนกลับรุนแรงปะทุขึ้น ส่งผลให้ร่างผู้ฝึกฌานซูบผอมต้องถอยไปหลายก้าว เขาหรี่ตาแคบลง ตั้งใจมองไข่มุกวิญญาณหวนคืนแวบหนึ่งแล้วก็หน้าเปลี่ยนสีทันที

                “นี่มัน…ผลพิสูจน์เต๋า!”

                แทบเป็นช่วงที่ผู้ฝึกฌานซูบผอมกล่าวขึ้น ผู้ฝึกฌานค่อนข้างอ้วนที่นั่งขัดสมาธิบนหลังคายิ้มมองการต่อสู้นัยน์ตาพลันเป็นสมาธิ ด้วยพลังเขาคงยากจะไม่เกิดความละโมบ จึงไม่พูดไม่จาเดินหน้าหนึ่งก้าวตรงไปหาซูหมิง

                ตอนนี้ผู้ฝึกฌานซูบผอมถอนหายใจภายใน เขาจงใจพูดแบบนั้นออกไป เพราะซูหมิงสร้างแรงกดดันให้เขาไม่น้อย แต่มีปัญหาเรื่องเกียรติยศ เขาเลยต้องทำสีหน้าสงบนิ่งไว้ ดังนั้นแล้วเมื่อรู้ว่านั่นคือไข่มุกวิญญาณหวนคืนจึงพูดออกไปทันที ให้อีกคนลงมือ ให้ช่วยจัดการสถานการณ์น่าปวดหัวนี้

                เผชิญหน้ากับเต๋าสูงศักดิ์หนึ่งคน ซูหมิงอาศัยวงแหวนอาคมที่วางไว้กับกลอุบาย ประกอบกับมีไข่มุกวิญญาณหวนคืนที่มีพลานุภาพไม่ธรรมดา รวมขั้นพลังและดวงจิตแล้วก็ยังพอจัดการได้ แต่ว่า…หากเต๋าสูงศักดิ์สองคนลงมือ ซูหมิงยากจะรับมือไหวจริงๆ

                ตอนที่เห็นว่าสถานการณ์ย่ำแย่เข้าตาจนนั้น มีเสียงกระแอมไอดังออกมาจากในบ้าน

                “เจ้าดูซิ ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าไปเอาสุนัขจากทางสุดตะวันตกของหมู่บ้านมาเฝ้าบ้านสักสองตัว เป็นอย่างไร ข้าพูดถูกหรือไม่ มีโจรมาขโมยขวานพวกเราจริงด้วยๆ! นั่นเป็นของที่อยู่กับบ้านเรามาตั้งแต่แรกสุด จะ เจ้า เจ้ายังไม่หยิบขวานขึ้นมาอีก หากให้ใครเอาไปข้าจะเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด”

                ตอนที่เสียงนี้ดังแว่วมา เต๋าสูงศักดิ์สองคนนั้นอึ้งไป ไม่คาดคิดการต่อสู้ที่นี่จะมีคนธรรมดาซ่อนอยู่ในบ้าน ซ้ำเห็นการต่อสู้แล้วยังกล้าพูดแบบนี้อีก บอกว่าพวกเขาเป็นโจร

                ดวงตาซูหมิงเป็นประกาย เหมือนเข้าใจอะไรบางอน่าง จึงยกมือขวาคว้าขวานที่อยู่ไม่ไกล ขวานนั้นจึงลอยมาอยู่ในมือ ทันทีที่กำขวานแล้วเงยหน้าขึ้นมองสองคนที่เข้ามานั้น ในใจเขาสั่นสะท้าน

                เขาเหมือนไม่ได้มองผู้ฝึกฌาน แต่เป็น…ฟืนสองท่อน!

Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา

Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 556 อ่านนิยาย ตอนที่ 557 – 710 อ่านนิยาย ตอนที่ 711 – 736 อ่านนิยาย ตอนที่ 737 – 754 อ่านนิยาย ตอนที่ 755 – 858 อ่านนิยาย ตอนที่ 859 – 923 อ่านนิยาย ตอนที่ 924 – 1007 อ่านนิยาย

ตอนที่ 1008  1100 อ่านนิยาย ตอนที่ 1101 – 1270 อ่านนิยาย ตอนที่ 1271 – 1300 อ่านนิยาย ตอนที่ 1301 – 1400 อ่านนิยาย ตอนที่ 1401 - 1420 อ่านนิยาย ตอนที่ 1420 อ่านนิยาย ตอนที่ 1421 อ่านนิยาย

อ่านต่อข้างล่าง


เขาคือปีศาจ ตอนที่ผู้คนต่างหลับตา เขาลืมตาขึ้นเพื่อมองโลกที่ผู้อื่นไม่อาจมองเห็น ฟื้นคืนสติจากเหวลึก ดิ้นรนออกมายังปลายเหวเพียงเพื่อมองฟ้าดินที่ผู้อื่นไม่อาจสัมผัส เด็กหนุ่มซูหมิงเกิดและเติบโต ณ แดนหมาน ทว่าร่างกายแปลกแยกไร้ซึ่งพลังหมาน เหตุเพราะครอบครองเศษหินพิลึกแผ่นหนึ่ง จึงทำให้เขาก้าวเข้าสู่เส้นทางของการฝึกฝนพลัง…

Options

not work with dark mode
Reset