Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน 727 พลังเหนือธรรมชาติ

ตอนที่ 727 พลังเหนือธรรมชาติ

ตอนที่ 727 พลังเหนือธรรมชาติ
ฉินหยุนรู้สึกว่าตนเองอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากับเชี่ยวเสวียนฉินไม่
ช้าก็เร็ว ดังนั้นพบแต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยขมวดคิ้วกล่าว “พี่ชาย ท่านยังไม่อาจพบท่านป้า หลัง
นางตื่นรู้ความทรงจำขึ้นมา นางกลับกลายเป็นคนน่ากลัวยิ่งขึ้น!
ท่านไม่ทราบว่าในชาติภพก่อนนั้น นางเป็นสตรีที่ร้ายกาจเพียงใด!”
ฉินหยุนนึกย้อนถึงครั้งที่เขาและเชี่ยวเสวียนฉินเข้าสู่สุสานราชวงศ์
เทียนเชี่ยว ทั้งยังไปด้วยกันได้ดี เขาไม่คิดว่าเชี่ยวเสวียนฉินจะกลับ
กลายเป็นปฏิปักษ์ต่อเขาได้ถึงเพียงนั้น
“นั่นไม่น่าเป็นไร! ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าก็ไปด้วยดีกับข้าเหมือนเคยก่อน
จะตื่นรู้ความทรงจำหรือไร? กระทั่งพี่สาวปิงชิงตอนนี้ก็ยังดีต่อข้า!”
ฉินหยุนยิ้มกล่าว “เย่ว์เหม่ย เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ตราบเท่าที่ข้าได้
พบเจอนาง ปัญหาย่อมคลี่คลายได้โดยง่าย!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียงตอบกลับ “พี่ชาย! ท่านป้านั้นแตกต่างจาก
พวกเรา! ครั้งนางอยู่แดนเซียนอ้างว้าง นางคือเซียนทรงอำนาจสูงล้ำ
ท่านหลอกลวงนางไปหลายสิ่งอย่าง กระทั่งขโมยของส่วนตัวของ
นางไปประมูลขาย นั่นทำให้นางเกลียดชังท่านถึงกระดูกดำ!”
“เหตุใดตัวข้าชาติภพก่อนกระทำต่อนางเพียงนั้น?” ฉินหยุนไม่เข้าใจ
จนต้องร้องถามออกมา
“ผู้ใดกันทราบว่าท่านคิดอะไร? โดยสรุป ชาติภพก่อนท่านเป็นคน
ต่ำตมอย่างยิ่ง! ครั้งท่านป้าพบเจอข้าล่าสุด นางกล่าวว่าเมื่อใดพบ
ท่านนางจะสังหารโดยไม่ลังเล!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยสีหน้าเป็นกังวล
“กระทั่งว่าไม่สังหารท่าน อย่างน้อยก็ต้องสั่งสอนบทเรียนครั้งใหญ่!”
ฉินหยุนบุ้ยปากกล่าวคำ “อย่างนั้นพวกเราควรทำอย่างไร? จะบอก
ให้ข้าไม่ต้องพบหน้านางอีกอย่างนั้นหรือ? ก็ได้ ครั้งนี้ข้าซ่อนตัวจาก
นางก่อน ไว้ข้าลอบติดตามเจ้าไป!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลอกตาพลางหัวเราะซุกซน “พี่ชาย ข้ามีวิธีการดีกว่า
นั้น ทั้งท่านยังจะอยู่ที่ตรงนี้ต่อได้!”
“กล่าวมา!” ฉินหยุนพบเห็นรอยยิ้มซุกซนของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ภายใน
เวลานี้รู้สึกถึงลางร้าย
“ข้าได้เชี่ยวชาญความสามารถเทวะที่เรียกว่าความสามารถเทวะหุ่น
เชิด มันจะแปรเปลี่ยนคนเป็นหุ่นเชิดได้! หุ่นเชิดนั้นจะแปรสภาพไป
ตามที่ข้าต้องการ กระนั้นก็จะคงอยู่ได้เพียงชั่วครู่ชั่วคราว” เชี่ยวเย่ว์
เหม่ยยิ้มเผยฟันขาวหัวเราะดัง “พี่ชาย ให้ข้าเปลี่ยนท่านเป็นสตรีผู้
งดงามสักคราหนึ่ง จากนั้นค่อยบอกท่านป้าว่าท่านเป็นมิตรสหายข้า!”
“บ้าบอ!” ฉินหยุนทราบอยู่แล้วว่าความคิดนางไม่เคยมีอันใดดีเป็นชิ้น
อัน มืออดไม่ได้ที่จะยื่นไปหยิกใบหน้าเชี่ยวเย่ว์เหม่ย “หยุดล้อเล่น
แล้วจริงจังได้แล้ว!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยังคงกล่าวซุกซน “ข้าเพียงเปลี่ยนท่านเป็นสตรีผู้งดงาม
เช่นนี้ท่านป้าจะได้ไม่สงสัยอันใด หากข้าอยู่กับชายหนุ่ม เช่นนั้น
นางคงสงสัยและเริ่มตรวจสอบท่านเป็นแน่ ถึงตอนนั้นท่านคิดปิด
อย่างไรก็ไม่อาจมิดแล้ว!”
“ข้าไม่อยากเป็นผู้หญิง!” ฉินหยุนปฏิเสธหนักแน่น
“พี่ชาย ข้าก็แค่เปลี่ยนหน้าท่านเป็นสตรี แล้วค่อยเปลี่ยนรูปร่างสัก
เล็กน้อย ทั้งยังเป็นชั่วคราว หาได้ใช่ถาวร อย่างมากก็อยู่ได้ไม่กี่วัน
เท่านั้น!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจงใจหัวเราะดัง
“เจ้าก็แค่เปลี่ยนรูปลักษณ์ข้า ตราบเท่าที่เป็นบุรุษย่อมไม่เป็นไร ข้าก็
เพียงแสร้งทำตัวเป็นหุ่นเชิดหรือไม่ใช่?” ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าเชี่ยว
เสวียนฉินและคณะใกล้เข้ามาแล้ว เขาเร่งร้อนกล่าว “ไม่มีเวลาแล้ว
รีบลงมือเข้า!”
“อย่างนั้นก็ขอความร่วมมือด้วยแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยบุ้ยปากจิ้มลิ้ม
อย่างผิดหวัง นางกระทืบเท้าเบาก่อนจะแปรเปลี่ยนฉินหยุนเป็นชาย
หนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่ง
ที่ทำฉินหยุนตระหนก คือความสามารถเทวะที่เข้าสู่ร่างกายของเขา
นี้ มันแปรเปลี่ยนโครงร่างพื้นฐาน ความสูงและสัดส่วนทั้งหลายใน
ร่างกายล้วนแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
ไม่ช้า ฉินหยุนค่อยเป็นชายหนุ่มอ่อนโยนผู้หนึ่งซึ่งเผยสายตารักใคร่
ต่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
“พี่ชาย ท่านอยู่สภาพนี้ตลอดไปคล้ายดูดีไม่น้อย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ย
หัวเราะก่อนจะลูบใบหน้าราวรูปสลักของฉินหยุน
ฉินหยุนพลันนำเอาชุดที่เหมาะสมออกมาสวมใส่ สายตาหันกลับไป
จับจ้องนางอย่างหนักแน่น
ไม่นานนัก สามสตรีผู้งดงามพลันบินเข้ามา พวกนางทั้งสามเปรียบ
ดังภูติผู้ซึ่งเหยียบย่างลงสู่แดนมนุษย์
เชี่ยวเสวียนฉินสวมใส่ชุดสีขาว ท่าทีสง่างามและสูงศักด์ิ ใบหน้ารูป
ไข่ของนางอัดแน่นไว้ด้วยสีหน้าอันเย็นเยือก
ข้างกายทางด้านซ้ายคือสื่อชิงเฉิงในชุดสีม่วง นางคืออีกตัวตนหนึ่งที่
มีเอกลักษณ์ ยามเมื่อลอยตัวเชื่องช้า ความงดงามของนางประหนึ่ง
เทพธิดาแห่งเหล่าภูติ
ทางด้านขวาของเชี่ยวเสวียนฉิน ย่อมเป็นสุ่ยเทียนสื่อผู้ซึ่งงดงามและ
มีใบหน้าเผยเสน่ห์ที่อัดแน่น ราวกับนางถือกำเนิดมาพร้อมเสน่ห์
ดึงดูดนี้ ดวงตางดงามของนางอัดแน่นด้วยเสน่ห์มากล้น ใบหน้าเย้า
ยวนเผยยิ้มบาง ทุกการเคลื่อนไหวของนาง มันจะแอบแฝงมาด้วย
ท่าทีเร้าอารมณ์จนถึงจิตวิญญาณผู้คน
ฉินหยุนเมื่อได้พบสตรีทั้งสามอีกครั้งหนึ่ง ใจพลันต้องเต้นแรง เขา
ไม่คาดคิด ว่าหลังไม่ได้พบเจอกันนาน เขาแทบไม่อาจจดจำอีกฝ่าย
ได้ ไม่เพียงแต่พวกนางงดงามขึ้น ทว่ายังทรงพลังอำนาจมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสื่อชิงเฉิง เขาคิดอยากเข้าไปหยิกใบหน้างดงาม
ของนาง นั่นคือสิ่งที่เขาเฝ้านึกถึงมาโดยตลอด
“เสี่ยวหยุน เข้าไปคว้าพวกนางมาเสียให้หมดเลยเป็นไร ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ผู้ใดกันทราบ ว่าหลิงหยุนเอ๋อจะโพล่งร้องตะโกนออกมาเช่นนี้
“เย่ว์เหม่ย นั่นคือใคร?” เชี่ยวเสวียนฉินมองทางฉินหยุน
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต่างลอบถอนหายใจโล่งอก เพราะเชี่ยว
เสวียนฉินจดจำฉินหยุนไม่ได้
“เป็นหุ่นเชิดที่ข้าเพิ่งได้รับมา วิเศษไปเลยจริงไหม!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ย
หัวเราะคิกคักพลางหยิกแก้มฉินหยุน “นอกจากนี้แล้ว ยามสัมผัส
ยังให้ความรู้สึกดียิ่ง หากสนใจพวกท่านลองเข้ามาสัมผัสดู!”
“เป็นน้องชายที่หล่อเหลายิ่งนัก!” สุ่ยเทียนสื่อเป็นสตรีที่ไม่ถือตัว
นางเผยยิ้มซุกซนบินเข้ามา ใช้มือขาวนวลอ่อนนุ่มของนางลูบสัมผัส
ใบหน้าฉินหยุน
ถัดจากนั้น นางค่อยยื่นมือเข้าไปในเสื้อของฉินหยุน สัมผัสเข้ากับ
หน้าอก “หุ่นเชิดนี้วิเศษนัก ถึงขั้นมีหัวใจให้เต้น!”
ฉินหยุนแม้โดนสัมผัส เขาก็ยังคงสายตาไร้ชีวิต ตัวเขาต้องทำประหนึ่ง
เป็นท่อนซุง ภายในเวลานี้ต้องสบถต่อวิญญาณร้ายวารีตรงหน้าขณะ
คิดอยากต่อว่านาง
“แล้วเจ้าไปหาหุ่นเชิดนี้มาจากที่ใดกัน? ใบหน้านั้นสามารถเปลี่ยน
ได้ตามต้องการเลยหรือ? ให้ข้าสักตัวหนึ่ง ข้าต้องการที่หน้าเหมือน
ฉินหยุน ข้าจะได้เล่นกับเขาได้ทุกวี่วัน!” สุ่ยเทียนสื่อเผยยิ้มซุกซน
มือขาวนวลของนางสัมผัสกับกายท่อนล่างของฉินหยุน และขณะ
เกือบจะสัมผัสนั้นเอง
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพลันกระโดดพรวดเข้าไปคว้ามือสุ่ยเทียนสื่อเอาไว้
“พี่สุ่ยอย่าได้ทำโดยไม่ยั้งคิดแล้ว! ข้าใช้ความสามารถเทวะแปรเปลี่ยน
มนุษย์เป็นหุ่นเชิด มันคงอยู่ได้ไม่นาน หากท่านยังเอาแต่เย้ายวนเขา
ต่อไป เวลาที่เขาจะมีสภาพเป็นหุ่นเชิดของข้ายิ่งลดน้อยลง!”
“เป็นเช่นนี้!” สุ่ยเทียนสื่อหัวเราะเบา จากนั้นจึงลูบมือเบาที่ใบหน้า
ฉินหยุนก่อนจะพิจารณามอง “ดวงตานี้ช่างคล้ายฉินหยุนยิ่งนัก!”
“หยุดกล่าวถึงตัวบัดซบนั่นได้แล้ว!” เชี่ยวเสวียนฉินแค่นเสียง “หาก
ข้าได้พบมันอีกครั้ง เมื่อนั้นจะถลกหนังมันพร้อมไล่ตระเวนแขวน
ทุกหน้าเมืองสักหนึ่งวันวนทั่วแดนวิญญาณอ้างว้าง!”
ฉินหยุนใจดิ่งฮวบ เขาค่อยเข้าใจถึงความกังวลของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็
ตอนนี้ เชี่ยวเสวียนฉินและชาติภพก่อนของเขา มีความเกลียดชังเข้า
กระดูกดำต่อกันอย่างแท้จริง
“เสวียนฉิน ที่เจ้าเกลียดชังนั้นเป็นชาติภพก่อนของเสี่ยวหยุน!” สื่อ
ชิงเฉิงถอนหายใจเบา ดวงตาของนางเผยความคะนึงหา นางไม่ทราบ
ว่าเหตุใดตนเองจึงคิดถึงฉินหยุนมากมายเพียงนี้
“ข้าหาได้สนใจไม่ พบเจอมันเมื่อใดข้าจะสอนสั่งบทเรียนแก่มัน มี
แต่ทำเช่นนั้นข้าค่อยลบเลือนความหยามเหยียดที่มีในใจออกไปได้!”
เชี่ยวเสวียนฉินพอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของนางจึงเผยความโกรธสุม
อัดแน่น
“อย่าได้กล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว! พวกท่านมาที่นี่เพราะพี่หยางใช่หรือไม่?”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถาม
“ใช่! พวกเราคิดอยากมาที่นี่นานแล้ว ทว่าเสวียนฉินบอกว่าพวกเรา
จะพบฉีเย่ว์ก็ต่อเมื่อจันทราสีครามปรากฏ” สื่อชิงเฉิงกล่าวอธิบาย
สุ่ยเทียนสื่อถอนหายใจเบา “สงสัยนักว่าฉินหยุนจะมาด้วยหรือไม่
ได้ยินว่าเขาสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่งานประลองยุทธ์ เขาคงไม่
กล้าออกมาเพ่นพ่านไปทั่วแล้วกระมัง?”
“เมื่อพบเจอฉีเย่ว์ ข้าคิดเดินทางไปยังนครเซียนยุทธภัณฑ์! เขาช่วย
เหลือข้าเอาไว้หลายครั้งไม่ใช่น้อย!” สื่อชิงเฉิงกล่าวคำเบา
“ไปหาสัตว์อสูรดวงดาวกันก่อน!” เชี่ยวเสวียนฉินกล่าว
นางไม่คิดพูดคุยถึงเรื่องของฉินหยุนเพิ่มเติมอีก อันที่จริง นางก็มี
ความคิดขั้วตรงข้ามอยู่ภายใน นางห่วงหาต่อเขา เพราะเขาได้ช่วยเหลือ
นางขัดเกลาวิญญาณ ช่วยให้นางได้เลื่อนระดับพลังมาได้ ครั้งเข้าไป
ยังสุสานราชวงศ์เทียนเชี่ยวด้วยกัน ก็เป็นฉินหยุนช่วยนางเอาไว้
ไม่ใช่น้อย
แต่ก็เป็นเพราะช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันในสุสานราชวงศ์เทียนเชี่ยว
ทำให้นางตกหลุมรักต่อฉินหยุน นางรักต่ออีกฝ่ายที่เป็นชาติภพนี้
กระนั้นชาติภพก่อนนางกลับเกลียดอีกฝ่ายเข้ากระดูกดำ ความขัดแย้ง
นี้มันต่อต้านกันเองภายในใจนางอยู่บ่อยครั้ง
นางได้รับความทรงจำจากชาติภพก่อนอย่างมหาศาล โดยเฉพาะ
เรื่องราวความเกลียดชังต่อฉินหยุนในชาติภพก่อน อย่างไรแล้ว เพื่อ
ไล่ล่าฉินหยุนในชาติภพก่อน นางต้องสละเวลาไปหลายพันถึงหมื่นปี
เชี่ยวเสวียนฉินมีความรู้สึกต่อฉินหยุนในช่วงชีวิตนี้ กระนั้นมันก็เป็น
เวลาเพียงไม่นาน เช่นกัน มีแต่นางที่แอบรักต่อฉินหยุน ดังนั้นเรื่องราว
จึงยังไม่ถลำลึกลงไป ด้วยเหตุนี้ นางจึงยิ่งเกลียดชังต่อฉินหยุน ทว่า
มันจะไม่ใช่ดังชาติภพก่อนของนาง นางไม่คิดอยากสังหารฉินหยุน
ในตอนนี้ เพียงต้องการหาทางได้ระบายโทสะออกไปบ้าง
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเข้าใจความขัดแย้งภายในใจเชี่ยวเสวียนฉิน ดังนั้นนาง
จึงยังไม่คิดอยากให้ฉินหยุนได้พบเชี่ยวเสวียนฉิน
ฉินหยุนแสร้งทำตัวเป็นหุ่นเชิด ติดตามสตรีทั้งสี่จากด้านหลังบิน
ผ่านอากาศ
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพลันถาม “ท่านป้า ข้าจำได้ว่าท่านเคยกล่าวเอาไว้ ว่า
พี่ชายช่วยท่านขัดเกลาวิญญาณขึ้นมา ท่านไม่ควรโกรธเขา ชีวิตใน
ชาติภพนี้ของพี่ชายเป็นคนดียิ่ง!”
“ข้า… จะเกลียดชังเขาก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้! เอาเถอะ อย่างไรตอนนี้
ไม่ได้เห็นหน้าเจ้านั่นก็พอแล้ว!” ภายในใจเชี่ยวเสวียนฉิน ความรู้สึก
ที่ขัดแย้งกันเองปรากฏขึ้นอีกครั้ง นางพบว่าความรู้สึกนี้ตนเองไม่
อาจจัดการได้ถูก
“เย่ว์เหม่ย ไม่ใช่ว่าเจ้าไปพบพี่ชายของเจ้าบ่อยครั้งหรอกหรือ?” สุ่ย
เทียนสื่อหัวเราะซุกซนกล่าวถาม “ข้าสัญญาต่อเขาเอาไว้ว่าจะเป็น
สตรีของเขา ข้าจะอุทิศตนเป็นผู้ช่วยเขาตลอดชั่วชีวิตนี้ ตอนนี้ข้ายัง
ไม่ได้เติมเต็มสัญญานั้นเลย!”
“ไปนครเซียนยุทธภัณฑ์ย่อมได้พบเขา!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “หาก
ท่านมีเวลา เช่นนั้นก็ไปนครเซียนยุทธภัณฑ์เพื่อพบตัวเขาได้!”
“สงสัยนักว่าระดับจารึกของเขาก้าวหน้าเพียงใดแล้ว” สื่อชิงเชิง
หัวเราะกล่าว “ข้ากำลังขาดแคลนสิ่งของพอดี ไว้มีเวลาคงต้องไป
พบปะเขาเพื่อให้ช่วยสร้างบ้างแล้ว!”
มุมปากฉินหยุนกระตุก เขากล่าวภายในใจ “พี่สาวซาลาเปานึ่ง ท่าน
หากไม่มีอันใดต้องการก็ไม่มาหาข้าอย่างนั้นหรือ ถึงตอนนั้นข้าจะ
นวดหน้าซาลาเปานึ่งให้แบน!”
เชี่ยวเสวียนฉินที่บินนำหน้า พลันหันกลับมองมาและถาม “เย่ว์เหม่ย
หุ่นเชิดของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด? คงไม่ได้มีดีแค่หน้าตากระมัง?”
“กำลังถือว่าพอได้ โดยสรุปก็เป็นเพียงหุ่นเชิด หากตาย เช่นนั้นก็
ตาย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแสร้งทำเป็นไม่สนใจใยดีนัก
“เย่ว์เหม่ย นี่เจ้ายังเที่ยวหลอกลวงผู้คนไปเรื่อยอีกหรือ?” เชี่ยวเสวียน
ฉินเอ่ยถาม
“ย่อมไม่ใช่! ข้าเพียงพบเจอคนเลวบ้าง จึงสอนสั่งบทเรียนแก่พวก
มัน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะ นางเวลานี้เป็นคนลวงหลอกผู้อื่นอย่าง
เต็มตัว ยิ่งเวลาผ่านไป เหยื่อของนางก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
“เย่ว์เหม่ย ชาติภพก่อนของเจ้าและตัวบัดซบนั่นฉ้อฉลคนไปทั่วทุก
หนแห่ง ชีวิตนี้เจ้ามีเค้าว่าจะกลับเป็นเช่นนั้นอีก!” เชี่ยวเสวียนฉิน
กล่าวอย่างนึกห่วง
“ข้าทราบดี!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยรับคำตามจริง
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อเองก็ทราบ ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยและเชี่ยวเสวียน
ฉินต่างมีชาติภพก่อน นั่นคือสิ่งที่เชี่ยวเสวียนฉินบอกต่อพวกนาง
เพราะเหตุนี้พวกนางคล้ายเปิดใจต่อกัน จึงทำให้มีสัมพันธ์อันดีต่อ
กันเช่นตอนนี้
อย่างกะทันหัน ร่างเงาสีดำพลันปรากฏจากพื้นขึ้นสู่บนฟากฟ้า
“บัดซบ!” เชี่ยวเสวียนฉินไหววูบฝ่ามือ เสียงเครื่องสายดีดผ่านอากาศ
ยิงออกซึ่งอัคคีเพลิงสีน้ำเงิน มันพุ่งเข้าปะทะกับร่างเงาสีดำนั้น
ร่างเงาสีดำร่วงหล่นกับพื้น เรื่องราวชวนตื่นตะลึง เมื่อครู่คือสัตว์
อสูรดวงดาวรูปลักษณ์พยัคฆ์ตัวขนาดใหญ่ที่ดุร้ายยิ่ง
ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า คือที่พื้นเบื้องล่าง มันมีสัตว์อสูรดวงดาว
รูปลักษณ์พยัคฆ์เหล่านั้นจำนวนมากกำลังบินพุ่งขึ้นมา!

Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน

Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 750 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ถูกจัดฉาก! ถูกใส่ร้าย! กล่าวหาว่าฝึกฝนวิชายุทธ์ของปีศาจอันชั่วร้าย! เหล่านี้ล้วนเป็นแผนการเขี่ยเขาทิ้งพ้นจากตำแหน่งที่ได้รับโดยกำเนิด ก่อนจะแต่งตั้งจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ขึ้นโดยเหล่าข้าราชบริพารเฒ่า อีกทั้งยังพรากเอาพรสวรรค์ที่เขามีแต่กำเนิดไปจนสิ้น!

เรื่องย่อ

ฉินหยุน อดีตองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเทียนฉิน เขาสืบทอดเคล็ดวิชายุทธ์ของโลกเก้าตะวัน มรดกเคล็ดวิชายุทธ์อันล้ำค่าคือคลังอาวุธของเขา ทั้งเขายังคลั่งที่จะแกะสลักความลึกล้ำของโลกด้วยปลายนิ้ว กระทั่งว่ามีศัตรูรายล้อมและหญิงงามมากมาย แต่ฉินหยุนก็ยังไม่พอใจ เขาต้องการไปให้เหนือยิ่งกว่าเก้าตะวันเพื่อเข้าสู่ความยิ่งใหญ่แห่งดาราจักร เพื่อให้ได้กลายเป็น ราชันเทพ

Options

not work with dark mode
Reset