My Pick Up Artist System 21 : พิมพ์เขียวชีวิตของพวกคุณเป็นแบบไหน?

ตอนที่ 21 : พิมพ์เขียวชีวิตของพวกคุณเป็นแบบไหน?

ลมหายใจของเบ็นเริ่มสงบลง ราวกับว่าเขาควบคุมความกังวลของตัวเองได้แล้ว

 

มันเป็นเหมือนกับครั้งก่อนไม่ผิด…ต่างออกไปเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น – ดวงตาของเบ็นดูสงบมาก

 

‘สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ’ เขาบอกตัวเองอยู่ในใจ เขาเริ่มหายใจเข้าและออกอย่างช้าๆขณะที่ทุกคนจ้องมาที่เขาราวกับรอให้เขาเริ่มพูดเสียที บางคนก็เริ่มกระซิบกระซาบกันเองพร้อมส่ายหัว

 

“เจ้าหมอนั่นจะทำได้จริงๆเหรอ? พวกเราควรแค่ข้ามเขาไป”

 

“เจ้าเด็กนี่กำลังทำให้ตัวเองดูโง่อีกครั้ง…”

 

“การพูดต่อหน้าคนจำนวนมากไม่ใช่เรื่องสำหรับทุกคน จริงๆเขาควรรู้จุดอ่อนของตัวเอง”

 

อาจารย์เริ่มขมวดคิ้ว และกำลังครุ่นคิดว่าบางทีเขาอาจจะต้องช่วยให้เบ็นหลีกหนีจากความอับอายในการกระทำของตัวเอง

 

มิยูกิเองก็กำหมัดแน่น

 

แซคลีเมื่อเห็นท่าทางที่กังวลของเธอก็ขมวดคิ้ว ‘ยัยกะ**นี่แกจะไปออกเดทกับฉันอยู่แล้ว แกยังไปมัวห่วงผู้ชายคนอื่นอยู่อีกงั้นเหรอ? ถ้าฉันได้ขึ้นเตียงกับเธอเมื่อไหร่ล่ะก็ ฉันจะสอนเธอเรื่องมารยาทเอง!’ “มิยูกิ ฉันคิว่าพวกเราน่าจะไปอิตาลี…เธอชอบอิตาลีไหม?”

 

มิยูกิไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

 

เบ็นได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ และการจ้องมองอย่างดูถูกทั้งหมด

 

เขาไม่สนใจสิ่งใดเลย เขาเลือกที่จะสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์การเรียนเทียบเท่ากับสองปี มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้รับประสบการณ์ทั้งหมดสองปีมาโดยไม่ได้มีการฝึกฝน

 

ร่างกายของเขาต้องการเวลาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับแรงกดดันให้ได้ ขนาดนักพูดมืออาชีพยังมีความกังวลในบางครั้งเลย แม้จะมีความวุ่นวายอยู่ในหัวของเขา แต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก เขาคาดการณ์มาแล้วและเขาก็รู้วิธีที่จะรับมือกับมัน

 

การสูดลมหายใจลึกเข้าไปในแต่ละครั้ง ช่วยให้เขาเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยแขนที่สั่นเขายกน้ำขึ้นมาจิบและเดิมไปรอบๆ ภายในหัวของเขาเต็มไปด้วยเรื่องที่เขาจะพูดในวันนี้ ‘นายเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ไม่มีเหตุผลที่ต้องกังวล นายทำได้!’ เราเริ่มสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง

 

หลังจากวางน้ำของเขาลง เบ็นก็กำมือและปล่อยไปมาเพื่อให้กล้ามเนื้อเริ่มผ่อนคลายจากนั้นมือของเขาก็หยุดสั่น เขาหลับตาเพื่อนึกถึงตอนที่เขาประสบความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้คือเทคนิคทั้งหมดที่เบ็นใช้เพื่อรับมือกับความวิตกกังวลของเขา

 

จากมุมมองของผู้ที่มองมา เบ็นนั้นใช้เวลาทำสิ่งต่างๆนานมาก

 

แซคลีเดินไปหาอาจารย์พร้อมกล่าวว่า “อาจารย์พวกเราควรปล่อยเขาไปนั่ง เขาทำมันไม่ได้หรอก”

 

อาจารย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมองไปยังเบ็น เขาสังเกตุเห็นสิ่งที่เบ็นทำ ทว่าการพยายามทำตัวให้ใจเย็นลงกับการประสบความสำเร็จนั้นต่างกัน หากเขาให้เวลาเบ็นมากกว่านี้มันก็คงไม่ยุติธรรมต่อคนอื่นๆ ‘ฉันควรให้เขากลับไปที่นั่งรึเปล่านะ’

 

เบ็นนั้นยังอยู่หน้าชั้นพร้อมหลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึก

 

เสียงพึมพัมของเหล่านักศึกษาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

 

เมื่อเห็นดังนั้นอาจารย์ก็ถอนหายใจออกมา เขามีหน้าที่ที่ต้องดูแลนักเรียนทั้งหมด เบ็นจะไม่ได้รับเวลาไปมากกว่านี้แล้ว อาจารย์มองไปที่เบ็นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำขอโทษ เขากำลังจะพูดขึ้นเพื่อขอให้เบ็นเดินลงมา

 

แต่ในตอนนั้นเอง เบ็นก็ลืมตาขึ้นมา!

 

ราวกับผู้เชี่ยวชาญลงสู่สนามเอง อาจารย์สังเกตุได้ว่าดวงตาของเบ็นนั้นเปลี่ยนไป ดวงตาคู่นั้นสงบลงแล้ว!

 

เบ็นไม่ได้กังวลอีกต่อไป! เทคนิคของเขาได้ผล!

 

เบ็นดูนิ่งสงบพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ‘ตอนนี้ล่ะ’ เขามองไปรอบห้องสายตาของเขาปะทะเข้ากับสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ หลังจากที่เขามองไปที่ทุกคนเสร็จแล้ว ห้องก็เงียบสงบลง ไร้ซึ่งเสียงกระซิบกระซาบอีกต่อไป

 

สายตาและภาษากายของเบ็นเป็นบางสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานมันได้ มันดึงดูดความสนใจจากทุกคน ทำให้ทุกคนหยุดทำหรือหยุดคิดเรื่องของตัวเอง พวกเขาต้องการจะรู้ว่าเบ็นจะทำอะไรต่อไป

 

เมื่อเวทีพร้อมแล้ว เสียงของเบ็นก็ดังขึ้น เขากล่าวออกมาพร้อมกับความแน่วแน่ “ฉันอยากจะถามอะไรพวกคุณสักอย่าง…”

 

ฝูงชนต่างถูกดึงดูดไปด้วยคำพูดของเขา

 

“และนั่นคือ…พิมพ์เขียวในชีวิตของพวกคุณเป็นแบบไหนงั้นเหรอ?”

 

เหล่าฝูงชนต่างเริ่มคิดตาม

 

เบ็นพูดต่อว่า “นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิต ว่าคุณจะทำอะไรในตอนนี้ หากคุณตัดสินใจมันตั้งแต่ตอนนี้บางทีมันอาจจะเป็นตัวช่วยกำหนดว่าชีวิตของพวกคุณจะก้าวเดินไปทางไหน…

 

และคำถามคือ…พวกคุณมีพิมพ์เขียวที่มั่นคงและลื่นไหลแล้วหรือยัง

 

และฉันต้องการแนะนำอะไรสักอย่าง…บางสิ่งที่ควรจะอยู่ในพิมพ์เขียวแห่งชีวิตของพวกคุณ…”

 

เมื่อเบ็นพูดจบ น้ำเสียงของเขาก็ดังขึ้นโทนเสียงของเขาเองก็มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเช่นกัน เขาใช้มือทำท่าทางเพื่อเน้นความหมายของมันออกมา

 

“สิ่งแรกที่ควรมีในพิมพ์เขียวแห่งชีวิตของพวกคุณก็คือ…

 

การเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้ง…ในศักดิ์ศรีของตัวเอง, ในคุณค่าของตัวเอง และในความเป็นตัวของตัวเอง อย่าให้ใครก็ตามทำให้พวกคุณรู้สึกว่าคุณเป็นเพียงคนที่ไม่มีคุณค่า!”

 

ทั้งชั้นเรียนต่างรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเมื่อได้ยินมัน คำพูดเหล่านี้ราวกับเป็นเสียงสะท้อนในใจของเบ็นและหนุ่มสาวทั้งหมดในห้องนี้ ทุกคนต่างดิ้นรนเพื่อหาที่ของพวกเขาในโลกใบนี้

 

เมื่อสามอาทิตย์ก่อน เบ็นนั้นเป็นแค่ใครก็ไม่รู้ ทั้งเป็นพวกขี้แพ้, เป็นพวกที่ถูกรังแกและถูกขับไสไล่ส่งโดยโลกและคนรอบข้างของเขา ในตอนนั้นระบบก็ตกเข้ามาสู่หัวของเขา ทว่ามันไม่ใช่พรวิเศษใดๆกลับกันมันเป็นกิโยตินต่างหาก! เขายอมแพ้ให้กับมันงั้นเหรอ? เขายอมปล่อยให้ตัวเองตายไปงั้นเหรอ? มา! ต่อให้เขาจะตายในอาทิตย์ถัดไป เขาก็จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในทุกๆวันของเขาเพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า, เพื่อต่อสู้ และเพื่อมีชีวิตรอด! นี่คือสิ่งที่เขาอยากจะบอกให้กับทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้!

 

“พยายามคิดว่าตัวเองมีจุดยืน…พยายามคิดว่าตัวเองมีคุณค่า…และให้คิดอยู่เสมอว่าชีวิตของตัวคุณนั้นสำคัญที่สุด!”

 

ทุกคนต่างหยุดหายใจ! แซคลีอ้าปากค้างจนกรามตกถึงพื้น! ดวงตาของมิยูกิเองก็เปร่งประกายขึ้นมา! อาจารย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เบิกตากว้างพร้อมมองไปยังเบ็น! นักศึกษาทุกคนต่างรู้สึกลุกโชนขึ้นมา! มีใครในพวกเขาบ้างที่ไม่เคยถูกปฎิเสธ! มีใครบ้างที่ไม่เคยโดดเดี่ยวและหวาดกลัว? คำพูดพวกนี้สื่อไปถึงจิตวิญญาณของพวกเขา!

 

“อย่างที่สอง…ในพิมพ์เขียวของพวกคุณจำเป็นต้องมีมันราวกับว่าเป็นหลักการเบื้องต้นที่จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะก้าวไปสู่ความสำเร็จในด้านต่างๆของพวกคุณ

 

คุณจะต้องตัดสินใจว่าคุณจะใช้เวลากี่วันและกี่ปี และคุณจะทำอะไรต่อในชีวิตของคุณ และชีวิตการทำงานของพวกคุณจะเป็นแบบไหน

 

และเมื่อคุณพบมันแล้วว่าจะทำยังไง ก็ลุกออกมาและทำมันเลย ทำมันให้ดีที่สุดราวกับพระเจ้าผู้สูงส่งบอกให้พวกคุณทำให้มันกลายเป็นประวัติศาสตร์!” เบ็นเงียบลงพร้อมมองเข้าไปในดวงตาของทุกคนอีกครั้ง

 

“จงกลายเป็นพุ่มไม้หากพวกคุณไม่สามารถเป็นต้นไม้ได้!

 

หากไม่สามารถไปทางตรงได้ ก็จงไปทางอ้อม!

 

หากไม่สามารถเจิดจรัสราวกับแสงอาทิตย์ได้ก็จงเจิดจรัสราวกับดวงดาว

 

มันไม่สำคัญว่าคุณจะชนะหรือคุณจะล้มเหลว!

 

จงเป็นตัวคุณเองที่ดีที่สุด!”

 

อาจารย์ถึงกับอ้าปากค้างออกมา!

 

หัวใจของนักศึกษาต่างเต้นแรง! ลมหายใจของพวกเขาสั้นลง! มือของพวกเขากำหมัดแน่น!

 

แซคลีจับที่ด้านข้างของโต๊ะเขาแน่น เขารู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้หลุดออกจากการควบคุมไปแล้ว

 

ดวงตาของมิยูกิขึ้นสีแดง

 

มีใครในพวกเขาที่ไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง? มีใครในเมืองใหญ่แห่งนี้บ้างที่จะไม่ถูกมองข้าม? มีใครบ้างที่ไม่เคยดับฝันลงเพราะความกดดันของโลกใบนี้ ทำให้พวกเขาต้องก้าวเข้าสู่ “เส้นทางแห่งความจริง?”

 

พวกเขาต่างต้องการเป็นคนที่เก่ง! พวกเขาต้องการเป็นคนที่สำคัญ!

 

และบทพูดสุดท้ายของเบ็นก็มาถึงแล้ว

 

“และสุดท้าย พิมพ์เขียวของพวกคุณจำเป็นต้อง…ประกอบด้วยหลักสำคัญตลอดการนั่นก็คือ ความงดงาม, ความรัก และความยุติธรรม…

 

แน่นอน…ชีวิตของพวกเรานั้นไม่ได้ง่ายดายนัก ทว่าพวกเราก็จะมุ่งต่อไปข้างหน้า พวกเราจำเป็นต้องมุ่งไปข้างหน้า…

 

หากไม่สามารถบินได้ จงวิ่ง

 

หากไม่สามารถวิ่งได้…จงเดิน

 

หากไม่สามารถเดินได้! จงคลาน!

 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ! จงก้าวไปต่อ!”

 

 

เบ็นพูดจบแล้ว เขาได้ปรับแต่งและท่องสุนทรพจน์บางส่วนของดร. มาร์ตินลูเธอร์คิงจูเนียร์ผู้ยิ่งใหญ่ เขาพ่นลมหายใจออกมา ในที่สุดก็จบลงแล้ว

 

ภายในห้องเงียบลงเป็นเวลานาน…

 

จากนั้นนักศึกษาคนหนึ่งก็ยืนขึ้นพร้อมมองไปที่เบ็น

 

*แปะ**แปะ* นักศึกษาคนนั้นเริ่มปรบมือ

 

และเมื่อเขาเริ่มทำมัน ทุกคนก็ตื่นออกมาจากภวังค์หลังจากนั้นทั่วห้องก็ลุกขึ้นยืน

 

เสียงปรบมือดังกึงก้องไปทั่ว!

My Pick Up Artist System

My Pick Up Artist System

Score 10
Status: Completed

บทนำ

ด้วยระบบนี้ฉันจะกลายเป็นนักตกสาวที่เก่งที่สุดในโลก! ถ้าหากว่ามันไม่ฆ่าฉันก่อนละนะ…” ฉันนั้นเคยเป็นคนที่ไร้ตัวตน เป็นเพียงโอตาคุอ้วนเตี้ย จากนั้นเสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นมาในหัวของฉัน [ล่อลวงผู้หญิงให้ได้ภายในเดือนนี้ ไม่ก็ตายซะ]

[ไม่เอาผู้หญิงระดับกลางหรือล่าง ขอเป็นคนที่มีหน้าตารูปร่างระดับ 7 ขึ้นไป]

“แกกำลังบังคับให้ฉันตายอยู่รู้มั้ย!”

Options

not work with dark mode
Reset