Maou ni Nattanode, Dungeon Tsukutte Jingai Musume to Honobono Suru 15 ปีกจ๋า พาบินที 1

ตอนที่ 15 ปีกจ๋า พาบินที 1

ผมเพิ่มภาพตอน 5,9,12,13,14 แล้วนะจิ

 

 

 

ในวันหนึ่ง…

“… อ-โอ้อออ โว้ววว!?”

ผมเจอมันแล้ว ในที่สุดผมก็เจอ

อิลูน่ามองผมด้วยความสงสัยเพราะผมจู่ๆก็ยืนขึ้นและส่งเสียง

เธอนั่งอยู่บนเข่าของผม เธอจึงลุกตามผม ส่วนชิอิที่อยู่บนตักของอิลูน่าก็หล่นลงพื้น แล้วก็มองมาที่ผมอย่างไม่พอใจ

แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะผมได้เจอสิ่งที่ผมตามหามาตลอด… ในที่สุดก็ได้เจอมันซะที

“… Fufufu, hahaha, hahahahahaha! จะได้ไปบนฟากฟ้าแล้ว สุดยอดไปเลย!”

ผมเดินออกจากห้องไปพร้อมหัวเราะเสียงดัง

* * *

ตั้งแต่ที่ฟิร์แสดง ‘โซ่หลากรูปแบบ’ ให้ผมดู ผมก็เริ่มมองหาสกิลที่คล้ายๆกันในแค็ตตาล็อก และผมก็ไปเห็นสกิลอันหนึ่งเข้า

มันก็คือ ‘บิน’

มันก็มีสกิลที่น่าสนใจอยู่เยอะในกลุ่มสกิลธรรมดาอยู่หรอก แต่มันไม่มีอันไหนที่ทำให้บินได้ง่ายๆเลย ผมค่อนข้างอิจฉาเลฟี่เลยล่ะที่สามารถบินได้ด้วยสกิลของตัวเอง

แต่ว่า ในกลุ่มสกิลยูนีค ผมก็ได้เจอับ ‘บิน’

ผมแลก DP เพื่อเอามันมาทันทีที่เห็น ราคามันเป็น 10 เท่าของสกิลทั่วไป DP 2 ใน 3 ของผมหายไปทันที แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเลย

มันเป็นเพราะความโรแมนช์ยังไงล่ะ สิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตบนโลกนี้คือคามโรแมนช์ยังไงล่ะ

A certain pirate king also sailed the seas solely for the sake of romance, it’s all that matters in life.
ถึงมันจะใช้ค่า DP มหาศาล แต่ผมก็ไม่ได้ลังเลเลย

ตอนที่ผมไปบอกเลฟี่ เธอก็พูดว่า “อย่าใช้เงินไปกับของไร้สาระพวกนั้นสิ!” แต่เธอไม่มีอำนาจในการคบคุมการใช้ DP ของผม ดังนั้นมันจึงไม่เป็นปัญหาอะไร

ผมรู้สึกตื่นเต้น ผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าปีกของผมมันเป็นปีกมังกรหรือค้างคาว แต่แทนที่จะมากังวลเรื่องพวกนี้ เอาปีกสีดำของผมไปอาบแสงแดดดีกว่า

ในชาติก่อนผมก็เคยใช้ปีกคล้ายๆกันในการครอสเพล แต่ตอนนี้มันต่างออกไป มันเป็นของจริง มันจะทำให้ผมกลายเป็นนกและเดินไปบนท้องฟ้า ไปในที่ที่ผมอยากไป

วันนี้ ผมจะบินผ่านท้องฟ้าอย่างอิสระงดงาม!!

“ไปเลย! สู่ฟากฟ้า!”

ผมขยับปีกพร้อมกับตะโกนเสียงดังด้วยความสุข


……
………
………… หืม?

เป็นไปไม่ได้

ปีกของผมมันไม่ขยับ

… ไม่สิ มันขยับอยู่นิดนึง แต่มันไมได้พาผมไปสู่ท้องฟ้า

“… มุ่งตรงไป! สู่ท้องฟ้า!”

ผมตะโกนด้วยก้นบึ้งของหัวใจ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ท-ทำไมล่ะ!?

สกิลมันก็ทำงานอยู่นี้นา…

ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงหรอก แต่ในตอนที่สกิลมันทำงานนะ เราจะรู้สึกถึงมันได้แม้จะหลับตาก็ตาม

และ ‘บิน’ ก็ทำงานปกติ แต่ผมก็ยังไม่สามารถบินได้

“ทำไมล่ะ! ทำไมชั้นถึงบินไม่ได้!?”

ผมพยายามอยู่อีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย

หรือว่าผมจะไม่สามารถบินได้กันนะ?

ปีกผมมันเป็นแค่ของตกแต่งงั้นหรอ…?

อารมณ์ของผมตกหวบลงอย่างรวดเร็ว

ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่นั้น ผมจะไม่สามารถได้แตะต้องมันเลยงั้นหรือ? ตัวผมตอนนี้มีแต่ความสิ้นหวัง

สภาพผมตอนนี้นั้นได้แต่คุกเข่าแล้วเอาสองมือยันพื้นไว้

ไม่ ผมต้องใจเย็นลงก่อน ความต้องการที่จะโบยบินของผมมันไม่ได้มีแค่นั้น ผมจะยอมแพ้ไม่ได้

แล้วก็ พอมาคิดดูดีๆแล้ว เจ้าสกิลนี้มันไม่มีเลเวลทั้งๆที่ผมซื้อมันมาแล้ว บางทีอาจจะเหมือนพวกสกิลการต่อสู้ที่ผมต้องทำอะไรซักอย่างก่อนถึงจะได้มันมา

งั้นผมคงต้องไปถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้แล้วล่ะ

* * *

“และนั้นก็เป็นเหตุผลที่เจ้ามางอแงขอร้องเราอยู่ตอนนี้นะหรือ?”

“ใช่ครับ ผมต้องการที่จะยืมพลังของท่านมังกรผู้สูงส่งหน่อยครับ”

ผมหมอบก้มขอร้องต่อหน้าเลฟี่

“รู้สึกหยะแหยงเลยแหะที่เห็นเจ้ามาทำท่าทางอย่างนี้…เรายังไม่ลืมหรอกนะ เจ้ารู้ไหม? ที่เจ้าสั่งงดของหวานเรา 3 วันนะ เจ้าทำให้เราได้ลิ้มรสความสิ้นหวัง แล้วคิดว่าแค่ก้มหัวขอร้องแค่นั้นมันจะพอรึ?”

“งั้นให้ชั้นเลียเท้าให้ไหมล่ะ?”

“เจ้าคิดว่าแค่นั้นมันจะพอจริงๆนะหรอ…?” 

แค่ได้เห็นท้องฟ้าอย่างเดียวนะมันไม่พอหรอก ผมต้องการที่จะบินด้วย มันเป็นสิ่งที่ผมอยากมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว

ผมจะไม่พลาดโอกาศนี้ไปแน่

“อย่าทำอย่างนั้นกันดีกว่า เจ้าทำได้ดีกว่านั้น ใช่ไหมล่ะ?” เลฟี่ทำมือเป็นรูปวงกลมมีรู มันไม่ใช่เงินแน่นอน แต่เป็นโดนัท

แค่เนี่ย? เอาแค่นั้นจริงดิ?

ผมเอาโดนัท 3 รสออกมา ห่อด้วยกล่องสีขาวหรูหรา

“อ-อะไรกัน? กลิ่นอันหอมหวานนี้…!”

เลฟี่เปิดกล่องอย่างระมัดระวังราวกับเป็นกล่องสมบัติ

“น-นี้มัน…3 รสงั้นรึ!?! แล้วแต่ล่ะอันก็ดูน่ากินหมดเลยด้วย!” เลฟี่มองผมด้วยความประหลาดใจ

ที่ผมเอาออกมาเป็นอันที่ถูกสุดเลย คิดว่าเธอต้องการของที่ราคาสูงกว่านี้ซะอีก

แต่มาคิดดูแล้ว เลฟี่มองทุกอย่างด้วยมุมมองของโลกนี้ การจะเห็นของหวานพวกนี้เป็นของหายากก็คงไม่แปลก ขนาดคนในโลกนู้นยังชอบของหวานกัน แล้วจะเอาอะไรกับทางนี้

ดูจากท่าทางแล้ว แค่นี้มันน่าจะพอแล้วล่ะ

“… ชั้นให้อันนี้ด้วย”

“อ-อะไรนะ!? น-นี้มันของหวานในตำนานที่เจ้าเคยเอาออกมาแค่ครั้งเดียว ‘คาสเลล่า’?” [TL: เผื่อใครที่ไม่รู้จัก มันก็คือเค้กไข่ เค้กฟองน้ำพวกนั้นนะจิ]

คาสเทลล่านี้เป็นของในตำนานสำหรับเธอเลยหรอ? ที่ตอนนั้นผมเอาออกมาแค่ครั้งเดียวก็เพราะมันแพง และก็รู้ว่าเลฟี่จะกินหมดในที่เดียวแน่นอน เลฟี่ชอบมันขนาดนั้นเลย?

“… ในเมื่อเจ้าให้ขนาดนี้แล้วล่ะก็… ยอมได้! มังกรผู้สูงส่งผู้นี้จะทำให้เจ้าเป็นปีศาจแห่งฟากฟ้าเอง! เป็นปีศาจที่บินได้ดีเท่ากับมังกรชั้นสูง!”

“ปีศาจแห่งฟากฟ้า…”

ฟังดูเท่แหะ [TL:อิงพิมพ์อีกอย่าง ผมแปลอีกอย่าง แหะๆ :D]

“อ๊ะ! พี่สาว! ไม่แฟร์เลยอ่ะ!”

และในช่วงนั้น อิลูน่าก็ร้องขึ้นมา

“เราต้องขอโทษด้วยนะ อิลูน่า แต่นี้มันเป็ฯพลังของความรู้ยังไงล่ะ! เป็นความรู้ที่ได้มาจากการพยายามอย่างหนัก ถ้าเธออย่างได้เหมือนสิ่งที่เราได้ล่ะก็ เธอก็ต้องทำเพื่อให้ได้มันมา” 
เลฟี่พูดอย่างคึกคัก

… เธอกล้าพูดเรื่องอย่างนี้ได้ยังไงทั้งๆที่ตัวเองเอาแต่ขี้เกียจไปวันๆแท้ๆ? แต่ถ้าพูดงี้ไปเธอได้อารมณ์บูดแน่ เงียบไว้ก่อนดีกว่า

“พี่ชายคะ หนูก็อยากกินของหวานเหมือนกันอ่ะ” อิลูน่าพูดพลางทำหน้ามุ่ย

“ก็ได้ งั้น ช่วยพี่้เตรียมอาหารเย็นวันนี้ด้วยนะ แล้วพี่จะให้ของหวานเรา”

แต่ก่อนเรากินแต่อาหารสำเร็จรูป ที่เหมือนกับกล่องอาหารกลางวัน มันให้ความรู้สึกไร้สีสันยังไงก็ไม่รู่ พอได้เพิ่มห้องครัวขึ้นมา เราก็ได้มันกินอาหารทำมือตามปกติ

ถึงผมจะเป็นคนทำเองอยู่ตลอดก็เถอะ เลฟี่ไม่คิดที่จะทำ และที่อิลูน่าเคยทำมากที่สุดก็คือหันผัก

ผมก็ยังทำอาหารพิเศษๆไม่ได้หรอก แต่พอได้เห็นผลที่ตัวเองทำขึ้นมาอย่างพยายาม มันก็สนุกดี วันนี้ก็คงเป็นอย่างนั้นเช่นกัน

“เข้าใจแล้วค่ะ! หนูจะพยายามค่ะ!” อิลูน่าตอบกลับอย่างร่าเริง

“อาา เออ… เรา… เราก็อยากได้บ้างอ่ะ…” เลฟี่ถามเสียงเบา

“ถ้าเธอช่วยเรื่องอาหารเย็นล่ะก็นะ"

“… ไม่ล่ะ เราขอผ่าน”

หน้าเลฟี่แสดงออกว่าเกลียดการทำงาน ผมก็ยิ้มตอบกลับเพราะรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว

 

Options

not work with dark mode
Reset