King propose 5 แม่มด Part 1

ตอนที่ 5 แม่มด Part 1

คืนวันนั้น ณ ห้องอาจารย์ใหญ่ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารเรียนกลาง〈อุทยาน〉 มุชิกิกำลังฟังรายงานอาการของรูริจากเอลูลูก้า

 

「…..แค่นี้แหละ แม้จะเสียเลือดมาก แต่โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ──แน่นอนว่า ถ้าได้รับการรักษาช้ากว่านี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ล่ะน้อ」

 

เอลูลูก้าเคาะแฟ้มผู้ป่วยเบาๆแล้วจบการรายงาน

มุชิกิที่นั่งฟังอยู่บนเก้าอี้อาจารย์ใหญ่ที่อยู่ในส่วนลึกของห้อง ถอนหายใจอย่างโล่งอก

หลังถูกโจมตี ก็รีบติดต่อกับทาง〈อุทยาน〉 แล้วส่งรูริเข้าห้องฉุกเฉิน 

แต่ว่า ถ้ามีอาจารย์ใหญ่ยืนทำหน้าเครียดอยู่จะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ ก็เลยถูกบอกให้รอที่นี่มาโดยตลอด

พูดตามตรง ก่อนจะได้ยินรายงานก็กังวลจนอยู่ไม่สุข

แต่ว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะโล่งใจได้ตลอดไป มุชิกิกัดฟัน แล้วทำสีหน้าตึงเครียด

พอเห็นสภาพแบบนั้นของมุชิกิ เอลูลูก้าก็กอดอกถามเข้ามา

 

「…..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไซกะ ทำไมรูริถึงบาดเจ็บขนาดนี้」

 

「……….」

 

แต่ว่า มุชิกิไม่ตอบกลับ

ไม่สามารถที่จะตอบได้

พอเห็นอย่างนั้น เอลูลูก้าก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายออกมา

 

「…..พูดไม่ได้…รึ งั้นก็ไม่เป็นไร ไม่คิดว่าคนอย่างเจ้าจะปิดปากเงียบโดยไม่มีเหตุผลอยู่แล้วล่ะนะ」

 

「…..ขอโทษจริงๆ」

 

「ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง แล้วสักวันค่อยมาบอกแล้วกัน」

 

พอพูดเสร็จ ก็ทำท่าจะเดินออกจากห้อง มุชิกิส่งเสียงเรียกจากทางด้านหลัง

 

「เอลูลูก้า」

 

「หือ?」

 

「ฉันมีสาวใช้…..ที่ชื่อคุโรเอะอยู่ใช่ไหมล่ะ เธอน่ะ รู้เรื่องของเขาหรือเปล่า」

 

พอมุชิกิถาม เอลูลูก้าก็เอียงคอสงสัย

 

「สาวใช้…..ผู้หญิงที่ชื่อคุโรเอะนั่นน่ะเหรอ เพิ่งเคยเจอตอนประชุมก่อนหน้านี้เป็นครั้งแรกน่ะ เรื่องนั้นมันทำไมล่ะ?」

 

「……..、งั้นเหรอ」

 

หลังจากเงียบไปหลายวินาที มุชิกิก็พูดอย่างสงบแล้วส่ายหน้าเบาๆ

 

「ฝากรูริด้วยนะ เอลูลูก้า」

 

「อืม ไว้ใจได้เลย」

 

เอลูลูก้าพยักหน้าตอบรับ แล้วออกจากห้องอาจารย์ใหญ่

เสียงปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับความเงียบที่เข้ามาเยือน

 

「……….」

 

มุชิกิค่อยๆลุกขึ้น ไปยืนหน้ากระจกเงาบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของห้อง จ้องมองไปยังคนที่ปรากฏออกมาจากกระจกเงา

เด็กสาวผู้งดงามจนน่าเหลือเชื่อ ถูกสาดส่องโดยแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามาจากทางหน้าต่าง

 

คุโอซากิ ไซกะ จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ผู้นำของ〈อุทยาน〉แห่งนี้ รักแรกผู้ช่วงชิงหัวใจของมุชิกิ

และในตอนนี้──ยังเป็นร่างกายของมุชิกิด้วย

มุชิกิได้พบกับเธอ ได้ถูกส่งมอบร่างกายและพลังจากเธอ และได้รับชีวิตสองด้านที่แสนประหลาดนี้

ทั้งหมดนี่ เพื่อโค่นล้มคนที่เข้าจู่โจมไซกะ

และนำจิตใจของไซกะกลับคืนมา

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยลืมจุดมุ่งหมายนั้น และไม่เคยคิดที่จะละเลยด้วย สิ่งที่ตัวเองทำได้ก็ตั้งใจที่จะทำเสียทั้งหมด

แต่ว่า ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างนี้

 

ตั้งแต่ต้น เข้าใจดีว่าตัวเองไม่รอบคอบ เข้าใจดีว่าตัวเองมันไร้เหตุผล

แต่ว่า มุมเล็กๆมุมหนึ่งข้างในหัว ก็ยังแอบมองโลกในแง่ดีอยู่

แต่ละวันที่ได้รู้ว่าพลังลึกลับที่ถูกเรียกว่า『เวทย์มนต์』ในมือของตัวเองเป็นเรื่องจริง ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยก็คงโกหก

ถ้าเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดของเด็กสาวผู้เป็นที่รักอย่างคุโอซากิ ไซกะ จะต้องฟันฝ่าสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปได้อย่างแน่นอน 

ความเชื่อมั่นอันไร้ต้นเหตุที่ไม่รู้ไปได้มาจากไหน

มุชิกิในตอนนี้ ทั้งไร้หนทางและไร้พลัง และยังต้องทรมานกับความเกลียดชังที่มีให้แก่ตัวเอง

โลกไม่ได้หมุนไปอย่างทึ่คิด ความเด็ดขาดของมุชิกิยังมีไม่พอ 

──จะกำจัดศัตรูคู่อาฆาตของไซกะให้ได้ จมอยู่กับความเชื่อมั่นในการแก้แค้นแบบผิดๆ

 

「…..อาา…..」

 

แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว

ตอนที่ได้เผชิญหน้ากับ『ศัตรู』เป็นครั้งแรก เห็นรูริถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หัวใจของมุชิกิ ก็ลุกโชนด้วยไฟแห่งการเตรียมใจและความแน่วแน่

───กล้าดียังไงมาทำร้ายรูริ น้องสาวที่น่ารักของฉัน

───กล้าดียังไงมาทำร้ายคุณไซกะ คนที่ฉันรักที่สุด

 

「ยกโทษให้ไม่ได้」

 

มุชิกิพูดอย่างสงบ แต่ก็หนักแน่น

แล้วก้าวเท้าไปตรงหน้าหนึ่งก้าว ยื่นมือทั้งสองข้างไปยังกระจกเงา

 

「──คุณไซกะ ขอโทษนะครับ จากนี้ไปผมจะทำอะไรบุ่มบ่ามสักหน่อย」

 

มุชิกิพูดออกไปด้วยความมุ่งมั่น──

 

「ขอพลังของคุณ ให้ผมยืนด้วยเถอะครับ」

 

จากนั้น ก็จุมพิตลงบนกระจกเงาอย่างเงียบงัน

 

 

 

พอเปิดประตูที่อยู่ข้างในสุดของห้องอาจารย์ใหญ่ ปลายทางกลับเป็นสวนกว้างขวางขยายออกไป

ทางเดินที่กระจายออกเป็น 4 ทิศ แต่งแต้มด้วยแปลงดอกไม้และต้นไม้ต่างๆที่ถูกเล็มอย่างดี เพราะเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึก จึงมีแสงจากไฟถนนฉายลงมาอ่อนๆ

แน่นอนว่า บนอาคารเรียนกลางชั้นบนสุด ไม่มีทางมีของแบบนั้นอยู่แน่นอน แต่เป็นประตูแบบพิเศษของ〈อุทยาน〉ที่เชื่อมต่อกับประตูแบบเดียวกันด้วยศาสตร์เวทย์

 

ในตอนแรก ก็ไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้องแล้วถูกส่งไปทั่ว แต่ตอนนี้ชินกับมันแล้ว

หลังจากยืนยันว่าเป็นทิวทัศน์แบบเดียวกับที่จินตนาการไว้ ก็ก้าวออกไปแล้วปิดประตู 

ที่แห่งนั้น อยู่ในตำแหน่งทิศเหนือของ〈อุทยาน〉 สวนหน้าคฤหาสน์ของไซกะ 

มุชิกิทิ้งตัวบ้านหรูหราไว้เบื้องหลัง แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างช้าๆ

 

「────」

 

พอมาถึงบริเวณกึ่งกลางของสวน เด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็หันกลับมา

 

「คุณมุชิกิ อาการของอัศวินฟุยะโจวเป็นยังไงบ้างคะ?」

 

เด็กสาว──คาราสุมะ คุโรเอะ ถามเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไร้การเปลี่ยนแปลงเหมือนทุกที

เรื่องที่คุโรเอะมายืนอยู่ในที่แบบนี้เพียงลำพังแถมยังพูดจาแปลกๆ มุชิกิไม่ตกใจเลยแม้แต่นิดเดียว

เรื่องนี้ก็คือสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะคนที่เรียกคุโรเอะมาที่นี่ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมุชิกิ

ใช่ มุชิกิมีเรื่องที่ไม่ว่ายังไง ก็อยากถามคุโรเอะให้มั่นใจ

 

「…..ครับ ดูเหมือนจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต」

 

มุชิกิตอบกลับไปด้วยความรู้สึกชาอ่อนๆที่บริเวณใต้หน้าอก

 

「งั้นหรือคะ เรื่องนั้นสำคัญที่สุดแล้วค่ะ…..แต่ว่า กล้าโจมเข้ามาอีกรอบแบบนี้ คงไม่มีเวลาแล้วค่ะ ศึกตัดสินใกล้เต็มที่แล้ว คุณมุชิกิ เตรียมใจไว้เลยนะคะ」

 

คุโรเอะพูดอย่างไร้อารมณ์

 

มุชิกิจ้องเขม็งไปยังท่าทางนั้น แล้วถอนหายใจสั้นๆ

 

「……….ผมน่ะ」

 

「คะ?」

 

คุโรเอะเอียงคอเล็กน้อย ทำท่าทีสงสัย

แต่มุชิกิก็พูดต่อโดยไม่หลบตา

 

「รู้สึกขอบคุณคุโรเอะครับ──หลังจากที่ถูก『ศัตรู』โจมตี และรวมร่างกับคุณไซกะ ตัวผมที่ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร ก็ได้คุโรเอะช่วยไว้ตลอด ถ้าเกิดไม่มีคุโรเอะ ผมคงได้ก่อปัญหาหลายอย่างมากกว่านี้แน่เลยครับ」

 

「ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ นั่นก็ถือเป็นหน้าที่ของสาวใช้ท่านไซกะอย่างหนึ่ง」

 

คุโรเอะยืดหลังตรงตอบกลับ

รูปลักษณ์ที่แทบจะไร้ช่องโหว่ สมเป็นสาวใช้จนเกินไป

 

──ราวกับ กำลังเล่นบท『สาวใช้』อย่างสมบูรณ์แบบ

มุชิกิกลืนน้ำลาย แล้วยิงคำถามออกไป

 

「เพราะฉะนั้น ช่วยตอบคำถามผมมาตรงๆด้วยเถอะครับ ขอร้องล่ะ」

 

「…..? พูดเรื่องอะไรกันค──」

 

「──คุโรเอะ คุณน่ะ เป็นใครกันแน่ครับ?」

 

วินาทีที่มุชิกิพูดออกไป

คำพูดของคุโรเอะหยุดชะงักลง

ดวงตาที่ไม่สามารถอ่านได้ จ้องมองมายังใบหน้าของมุชิกิอย่างสงบ

แม้มุชิกิ จะรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้น แต่ก็ไม่แสดงท่าทีลนลานออกไป ค่อยๆพูดต่อ

 

「…..คุณไซกะน่ะ ไม่เคยมีคนใช้ครับ คุโรเอะ เวลาที่คุณปรากฏตัวขึ้นที่〈อุทยาน〉 คือช่วงเวลาเดียวกับที่ผมมาที่นี่──

──จะถามอีกรอบ คุณน่ะเป็นใครกันแน่ มีจุดมุ่งหมายอะไร ถึงมาอ้างตัวเป็นคนรับใช้กับตัวผมที่ไม่รู้อะไร」

 

แน่นอนว่า ด้วยข้อมูลเพียงแค่นี้ ไม่ได้ตั้งใจจะตัดสินว่าคุโรเอะคือคนร้าย อย่างน้อยๆตัวมุชิกิเอง ก็ไม่ต้องการที่จะคิดเช่นนั้น

แต่ว่า คุโรเอะกำลังปิดบังอะไรมุชิกิอยู่ มีเพียงเรื่องนั้นที่เป็นสิ่งแน่นอน

มุชิกิถามเพื่อซักคำตอบ

 

「……….」

 

คำพูดของมุชิกิ ทำคุโรเอะเงียบหายไปพักหนึ่ง

แต่ว่า ท้ายที่สุด ช่วงเวลาเดียวกับที่คิดว่า ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆจากลำคอ

 

「────อะไรกัน รู้ตัวแล้วอย่างงั้นรึ?」

 

แสยะ ริมฝีปากบิดเบี้ยว เผยรอยยิ้มที่ดูดุร้ายออกมา

 

「……….!」

 

คำพูดและสีหน้าที่ไม่เคยคิดว่าจะมาจากคุโรเอะ ทำให้เส้นขนทั้งหมดลุกชัน

ไม่ได้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ หรือมีสัตว์ประหลาดโผล่มาจากด้านหลังอะไรทั้งนั้น

เพียงแค่เปลี่ยนสีหน้าและวิธีพูด

แม้จะเพียงแค่นั้น แต่มุชิกิ รู้สึกเหมือนเด็กสาวตรงหน้ากลายเป็นคนอื่นในชั่วพริบตา

 

「แกน่ะ──เป็นใครกันแน่…..!?」

 

มุชิกิรู้สึกเกร็งไปทั่วร่าง และย่อตัวลงเล็กน้อยทำท่าเหมือนเตรียมพร้อม

พอเห็นแบบนั้น คุโรเอะก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน

 

「อื้ม การตอบสนองไม่เลวนี่ แต่ว่า ยังห่างจากเกณผ่านพอสมควรเลย────นะ!」

 

พริบตาต่อมา ร่างกายของคุโรเอะที่ยังพูดไม่จบ ก็กลายเป็นภาพเบลอ แล้วมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า

 

「น่ะ──」

 

เคลื่อนที่พริบตา──ไม่สิ เพียงแค่เตะพื้นร่นระยะ แต่ว่า ทั้งความเร็วและการเคลื่อนไหวนั่น มุชิกิไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

พยายามเรียกใช้ศาสตร์เวทย์อย่างลนลาน แต่ก็ช้าเกินไป คุโรเอะ เข้ามาอยู่ในระยะยกแขนของมุชิกิแล้ว

รับกระแทกจากการพุ่งเข้าใส่ด้วยแรงสะสม ร่างกายของมุชิกิถูกผลักกระเด็นออกไปด้านหลัง

 

「กุ…..!」

 

ก้นกระแทกกับพื้นทางเดินแข็งๆ มุชิกิรีบเงยหน้าขึ้น

ทว่า ในตอนนั้นเครื่องหมายคำถามก็ลอยขึ้น──ทั้งที่ถูกเล่นงานทีเผลอแท้ๆ แต่ความเสียหายที่ร่างกายมุชิกิได้รับกลับมีน้อยผิดปกติ

จริงอยู่ที่โดนพุ่งเข้าใส่สุดตัว แล้วก้นที่ถูกกระแทกก็เจ็บระบมไปหมด แต่ถ้าพูดกลับกัน สุดท้ายมันก็แค่นั้น 

ถ้าเกิดว่าคุโรเอะ ต้องการโจมตีด้วยความเป็นปรปักษ์จริงๆ เรื่องแบบนั้นคง──

──ทันใดนั้น

 

「……….!?」

 

ความคิดของมุชิกิ ก็ถูกหยุดลงที่ตรงนั้น

ข้างหลังของคุโรเอะ──ที่ๆมุชิกิเคยยืนอยู่จนถึงเมื่อกี้──

มีเสาสัญญานขนาดใหญ่ ลอยกลับหัวพุ่งจากท้องฟ้าลงมาตกตรงนั้น

 

「หา──,เอ๊ะ…..!?」

 

ปลายเสาเจาะทะลุพื้นดิน ชิ้นส่วนที่แตกสลายและคลื่นกระแทก พุ่งกระจายออกไปรอบๆ 

มุชิกิมองผ่านไหล่ของคุโรเอะที่กำลังยืนขวางปกป้องตน จ้องมองไปยังภาพที่ดูไม่เหมือนความจริงที่อยู่ตรงหน้า

 

「…..ให้ตายสิ…..ชอบทำอะไรยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินนะ」

 

คุโรเอะถอนหายใจ──แล้วหันไปมองเสาสัญญานที่ตั้งกลับหัวอยู่ด้านหลัง

ทันใดนั้น ราวกับเป็นการเข้าจังหวะกับการเคลื่อนไหว เสาสัญญานที่ตั้งกลับหัวอยู่กลางสวน ก็หายไปพร้อมกับแสง วินาทีนั้น ทัศนวิสัยของมุชิกิถูกปกคลุมด้วยแสงจ้า

แล้วพอแสงนั้นจางหายไป──ทิวทัศน์ของโลกที่ปกคลุมรอบตัวมุชิกิกับคุโรเอะ ก็กลายเป็นสิ่งที่ต่างจากเมื่อก่อนหน้า

 

「นี่มัน──」

 

เมืองเขาวงกตที่สร้างขึ้นจากตึกระฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน

ภาพที่ได้เห็นเป็นครั้งที่สามทำให้มุชิกิกลั้นหายใจ

 

「หมายความว่ายังไงครับ คุโรเอะคือศัตรูไม่ใช่──」

 

「──ฮ่ะ การมีเรื่องให้ประหลาดใจเนี่ย ก็อาจจะสนุกไปอีกแบบแหละนะ」

 

คุโรเอะพูดแล้วยิ้มบางๆออกมา ทว่าสีหน้านั้น เริ่มเบาบางผิดกับคำพูด

ในตอนนั้น มุชิกิก็รู้สึกตัว ที่หลังของคุโรเอะ กำลังเปียกชุ่มไปด้วยเลือดจำนวนมาก

ใช่ คุโรเอะไม่เพียงผลักมุชิกิออกไป แต่มองสิ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าทะลุปรุโปร่ง แล้วใช้ร่างกายนั้นปกป้องมุชิกิเอาไว้

 

「…..! คุโรเอะ เลือด──」

 

「…..พลาดโดนเข้าแล้วสินะ …..ที่สำคัญกว่านั้น ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ เขามาแล้วล่ะนะ…..ยมทูตที่เลวร้ายที่สุด…..ของพวกเราน่ะ…..」

 

คำพูดสุดท้าย ก่อนที่เรี่ยวแรงจะหลุดไปจากร่างคุโรเอะ แล้วล้มลงไป

ท่าทางจะหมดสติไปแล้ว แม้จะยังหายใจอยู่แต่ก็เสียเลือดมาก ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน

แต่ว่า ก็รู้ตัวขึ้นมาทันทีว่าเรื่องนั้นทำไม่ได้

ราวกับเป็นการยืนยันคำพูดของคุโรเอะ ร่างกายของมนุษย์ ค่อยๆโผล่มาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน

ทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุม แม้แต่ฮู้ด ก็มีช่องว่างให้เห็นปากเพียงเล็กน้อย

การแต่งกายเหมือนไม่ชอบถูกใครสังเกตตัวตน มีเพียงตราสัญลักษณ์ 4 วง ที่ลอยส่องสว่างอยู่ข้างบนหัว

 

「…..ซ」

 

ไม่ผิดแน่ คนที่สร้างแผลฉกรรให้กับไซกะ แทงทะลุหน้าอกมุชิกิ และวันนี้ ก็จู่โจมรูริ ร่างกายของจอมเวทย์ที่น่ารังเกียจ

 

「อะ────อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  !」

 

มุชิกิจำรูปลักษณ์นั้นได้อย่างรวดเร็ว ยื่นแขนสองข้างออกไปข้างหน้า

บนหัวมุชิกิ มีตราสัญลักษณ์เหมือนฐานหมวกแม่มดส่องสว่างขึ้น รูปร่างหน้าตาราวกับวงแหวนนางฟ้า 1 วง

วิวรณ์บทที่ 1 การนำปรากฏการณ์ในโลกของตัวเองมาเปิดเผย หนึ่งในศาสตร์เวทย์วิวรณ์

แม้ในห้องเรียนเมื่อหลายวันก่อนจะยังควบคุมได้ไม่คล่อง ตอนนี้กลับใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ

บริเวณโดยรอบมุชิกิ มีบอลแสงปรากฏขึ้นจำนวนมาก

แล้วมุชิกิก็สะบัดมือสุดแรง ส่งลูกบอลแสงบินออกไปด้วยความเร็วมหาศาล เป้าหมายคือจอมเวทย์

 

「────」

 

แต่ว่า──วินาทีที่บอลแสงจะไปถึง ก็ปรับเปลี่ยนทิศทางราวกับหลบเลี่ยงร่างกายของจอมเวทย์ ลอยผ่านไปด้านหลัง

แล้วกระสุนเวทย์ของมุชิกิ ก็ระเบิดเป็นดอกไม้ไฟที่ข้างหลังจอมเวทย์

 

「น่ะ…..」

 

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้มุชิกิตาเบิกโพลง

ใช่แล้ว ไม่มีหลบหลีกหรือป้องกันตัวเอง แต่การโจมตีกลับเปลี่ยนทิศทางขัดกับความตั้งใจของมุชิกิ ──ราวกับว่า กำลังปฏิเสธที่จะทำอันตรายกับจอมเวทย์

พอเห็นมุชิกิที่กำลังยืนอึ้งกับปรากฏการณ์แปลกประหลาด จอมเวทย์ก็เผยยิ้มจากริมฝีปากที่โผล่มาจากใต้ฮู้ด

 

「──เปล่าประโยชน์น่า ในพื้นที่แห่งนี้ คนที่ชนะฉันได้ไม่มีตัวตนอยู่หรอก」

 

「──────、เอ๊ะ──?」

 

มุชิกิ กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

เหตุผลนั้นชัดเจนอย่างถึงที่สุด

เสียงของจอมเวทย์ เป็นเสียงที่เคยได้ยิน

แต่ว่า เรื่องแบบนั้นเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด มุชิกิขมวดคิ้วด้วยความสับสน แล้วจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย

พอเห็นการตอบสนองของมุชิกิ จอมเวทย์ก็ตัวสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังขบขัน แล้วค่อยๆถอนฮู้ดที่ปิดบังใบหน้า

พอทำแบบนั้น เส้นผมยาวสลวยที่ถูกเก็บไว้ใต้ฮู้ดก็ถูกแสดงออกมา รับแสงจากตราสัญลักษณ์ 4 วงส่องประกายระยิบระยับ

 

「──────」

 

พอมองดูรูปร่างที่ถูกเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจน

คราวนี้ ร่างกายของมุชิกิหยุดเคลื่อนไหวโดยสมบูรณ์

เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะยังไง คนที่อยู่ตรงนั้นก็คือ──

 

「คุณไซ…..กะ?」

 

──คนที่มีรูปร่างแบบเดียวกับมุชิกิ、คุโอซากิ ไซกะคนนั้นยังไงล่ะ

Options

not work with dark mode
Reset