Jun Jiu Ling หวนชะตารักภาค 3 บทที่ 85 ต้องการความช่วยเหลือไหม

ภาค 3 บทที่ 85 ต้องการความช่วยเหลือไหม

 

จูจั้นสะบัดมือซื่อเฟิ่งออก ก้าวยาวๆ ไปทางเหล่าทหารที่รักษาระเบียบของฝูงชนอยู่

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เขาตะโกนเสียงดัง

บรรดาทหารฉับพลันได้ยินเสียงถามไถ่ใกล้ๆ อดไม่ได้เคร่งเครียด รอมองเห็นคนที่มาเป็นจูจั้นสีหน้าก็ผ่อนคลายลง แต่จากนั้นก็คิดขึ้นได้ว่าในที่เกิดเหตุลู่อวิ๋นฉียืนอยู่ ฉับพลันสีหน้ายิ่งเคร่งเครียด

เวลานี้ย่อมมิอาจก่อเรื่องอะไรอีกได้

“ท่านชาย ท่านโปรดหยุด” พวกเขารีบตะโกนบอก

จูจั้นยักไหล่หยุดยืนนิ่ง

“ข้าเพียงจะลองดูว่าช่วยงานได้หรือไม่?” เขาเอ่ย

ท่านช่วยงาน? ไม่วุ่นวายเพิ่มก็ขอบคุณฟ้าขอบคุณดินแล้ว แม่ทัพคนหนึ่งเอ่ยในใจ พลางทำท่าเชิญจูจั้นไปอีกด้านหนึ่ง

“ไม่ต้องไม่ต้อง ไม่เป็นไรไม่เป็นไร” เขาเอ่ยเสียงเบา “ขอบคุณท่านชายมาก”

จูจั้นเบะปาก

“ใต้เท้าน้อยหวงได้รับบาดเจ็บหรือ?” เขาเอ่ยพลาง “ไม่ต้องช่วยจริงหรือ?”

แม่ทัพก้าวเข้ามากดเสียงเบาเอ่ย

“ก็เพราะใต้เท้าน้อยหวงได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นท่านชายท่านยังไงก็หลบไปหน่อยดีกว่า” เขาเอ่ยเสียงเบา

ใต้เท้าน้อยหวงไม่พอใจเฉิงกั๋วกงเป็นเรื่องที่คนมากมายต่างรู้

“ข้าก็ไม่ได้เป็นโจร หลบทำอะไร?” เขาเอ่ย แต่ยังคงเดินไปยังด้านข้างตรงที่จอดม้าอยู่

มองเห็นเขาหมุนตัวเดินไป แม่ทัพรวมถึงซื่อเฟิ่ง จางเป่าถังที่ไล่ตามมาไกลๆ ล้วนผ่อนลมหายใจ

จูจั้นยืนอยู่ตรงหน้าม้าตัวหนึ่ง ม้าตัวนี้กำยำสง่างาม กำลังพ่นลมหายใจออกจมูกยืนอยู่อย่างเชื่อฟัง

“ม้าพักนี้ไม่เลวเลยนะ ไม่ใช่ม้าขนยาวพวกนั้นที่ผอมกะหร่องก่อนหน้านี้” เขาเอ่ย

แม้เวลานี้พูดถึงม้าไม่เหมาะกาลเทศะ แต่อย่างไรก็เหมาะกว่าพูดถึงใต้เท้าน้อยหวง

แม่ทัพพยักหน้า

“ใช่แล้ว กรมปศุสัตว์ในที่สุดก็ยอมใจกว้างให้พวกเราครั้งหนึ่ง…” เขาเอ่ย

คำพูดเพิ่งออกจากปากก็เห็นจูจั้นยกมือลูบบนหลังม้า

มองเห็นการกระทำนี้ ซื่อเฟิ่งที่กำลังเดินเข้ามาก็ฉุกคิดขึ้นได้

แย่แล้ว!

เขากำลังจะอ้าปากตะโกนโดยไม่ทันรู้ตัว แต่ยังสายไปก้าวหนึ่ง ได้ยินเพียงม้าส่งเสียงร้องทีหนึ่ง ก็เห็นม้าสีดำที่เดิมยืนสงบเชื่อฟังอยู่ตัวนี้ยกกีบเท้า สะบัดหัวหาง กระโดด ร่วงลงมาอีกครั้งก็โจนไปห่างหลายก้าว ส่งเสียงร้องพุ่งตรงไปยังใต้เท้าน้อยหวงด้านนั้น

บนถนนใหญ่เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันที

คุณหนูจวินที่กำลังเดินด้วยท่าทางแน่วแน่อยู่บ้างไปทางใต้เท้าน้อยหวงไม่ทันรู้ตัวหยุดเท้า ยังไม่ทันมองชัดก็ถูกหลิ่วเอ๋อร์กอดหมับดึงไปด้านหลัง

“อันตราย!” หลิ่วเอ๋อร์กรีดร้องเสียงแหลม

พร้อมกับเสียงกรีดร้อง ม้าสีดำก็ชนเข้ามาหาทหารที่ล้อมที่นี่อยู่

ผู้คนตระกูลหวงที่ยืนกระจายอยู่ประหนึ่งเมล็ดข้าวเอนล้มกลางสายลม

เผชิญหน้ากับม้าตื่น คนไม่ทันรู้ตัวปฏิกิริยาแรกกคือหนีกระจิง

ใต้เท้าเฒ่าหวงก็ถูกข้ารับใช้พยุงกระโจนไปด้านข้าง ม้าสีดำเผ่นผ่านข้างกายพวกเขาไปหวุดหวิด ส่ายหัวสะบัดหางร้องฮี่ย่ำกีบเท้า

เพราะบรรดาข้ารับใช้ของตระกูลหวงฉับพลันกระจายตัวออก ใต้เท้าถังที่เดิมทียืนอยู่หลังผู้คนจึงกลายเป็นยืนอยู่ด้านหน้าสุด ไม่รู้ว่าตกใจนิ่งอึ้งหรือตื่นตะลึงอยู่ ยืนนิ่งไม่ขยับมองม้าสีดำเข้ามาใกล้

ม้าสีดำเผ่นโจน ม้าสีดำยกกีบเท้า ม้าสีดำย่ำลงมา

สายตาของเขากวาดมองขึ้นลงตามม้าสีดำ หลังจากนั้นมองเห็นกีบเท้าของม้าสีดำบังเอิญโชคไม่ดีย่ำลงบนร่างใต้เท้าน้อยหวงที่นอนอยู่บนพื้น

สายตาของเขาพริบตาแข็งค้าง ทุกสิ่งตรงหน้าประหนึ่งกลายเป็นภาพช้า ในหูเสียงกรีดร้องเอะอะหายไป

เขามองเห็นกีบเท้าย่ำลงบนร่างใต้เท้าน้อยหวง ใต้เท้าน้อยหวงถูกเหยียบตัวงอประหนึ่งกุ้ง หลังจากนั้นพลิกหงายบนพื้น แล้วล้มคว่ำลงอีกครั้ง กริชที่แทงทะลุฝ่ามือเข้าไปในลำคอเหลือแต่ด้ามเล่มนั้นกระแทกบนพื้นทีหนึ่ง

เสียงฉึกดังขึ้น

กริชในที่สุดก็เคลื่อนเข้าไปหนึ่งส่วนอีกครั้ง

หนึ่งส่วนนี้ตัดสินชีวิต

ศีรษะของใต้เท้าน้อยหวงเอนตกทีหนึ่ง จากนั้นนิ่งไม่ขยับ

และในเวลาเดียวกันนี้เสียงกระฉูดก็ดังขึ้น มีเลือดกระเซ็นข้ามมา ใต้เท้าถังไม่ทันป้องกันถูกสาดทั้งหน้าทั้งตัวอีกครั้ง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปกรีดร้องเสียงหลงออกมา คนก็ล้มคุกเข่าดังตึกลงไปบนพื้น

อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงตึกทีหนึ่งเช่นกัน ม้าสีดำที่เหยียบใต้เท้าน้อยหวงตัวนั้นล้มอยู่บนพื้น พัดฝุ่นฟุ้งตลบ

เงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งถูกหมอกฝุ่นและเลือดสาดพรม เขาหันหลังให้ผู้คน ในมือกำดาบโค้งไว้ ใต้เท้าเหยียบหัวม้าที่ถูกตัดลงหล่นกลิ้งหัวหนึ่ง

ภาพนี้ทั้งประหลาดทั้งน่าสะพรึง

จนกระทั่งเขายกดาบในมือขึ้น ส่งเสียงกรีดร้องประหนึ่งเด็กสาวตื่นตระหนกทีหนึ่งออกมา

“ม้าตื่น” เขาตะโกนเสียดัง “ม้าตื่น น่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวเหลืนเกิน”

น่ากลัวเหลือเกิน

น่ากลัวเหลือเกินจริงๆ

ทุกสิ่งนี้ประหนึ่งเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว

เร็วจนผู้คนตอบสนองไม่ทันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

คุณหนูจวินเพียงรู้สึกว่าหัวใจประหนึ่งตีกลอง ทุกสิ่งตรงหน้าพร่ามัวอยู่บ้าง ข้างหูยิ่งเอะอะ ราวกับสิ่งใดล้วนไม่ได้ยิน แต่ก็ได้ยินเสียงร้องไห้เสียงตะโกน แล้วมองเห็นมีคนวิ่งมีคนล้มกลิ้งบนพื้น

“นายท่าน!”

“ใครมานี่เร็วสิ!”

“นายท่านผู้เฒ่า!”

“นายท่านตายแล้ว!”

สายตาของคุณหนูจวินจับภาพ

ตายแล้วหรือ

นางมองผ่านฝูงชนวุ่นวายเห็นใต้เท้าน้อยหวงที่คว่ำอยู่บนพื้น

ไม่ต้องไปดูนางก็รู้ ใต้เท้าน้อยหวงเมื่อครู่ไม่อาจกระเทือนได้สักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกลิ้งหลุนๆ หมอบคว่ำกับพื้นเช่นนี้

กริชนั้นเอาชีวิตเขาแล้ว

“เขาตายแล้วหรือ?”

ท่ามกลางเสียงเอะอะนี้มีเสียงสตรีแผ่วเบาดังมาจากบนพื้น

คุณหนูจวินหันกลับมา มองเห็นเด็กสาวกำลังออกแรงยกศีรษะมองไปทางด้านนั้น

บนหน้านางเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“เขาตายแล้วหรือ?” นางเอ่ยอีกครั้งราวกับอยากคลานเข้าไปดู

“เขาตายแล้ว” คุณหนูจวินเอ่ย

เด็กสาวคนนั้นเงยหน้ามองนาง ในดวงตาดวงไฟลุกโชน

“ข้าบอกว่าเขาตายแล้ว เขาย่อมตายแล้ว” คุณหนูจวินเอ่ยเสียงเบาอีกครั้ง “ข้าคือจวินจิ่วหลิง เจ้าเชื่อคำพูดของข้าได้”

เด็กสาวมองนางพลันหัวเราะเสียงดัง เพียงแต่นางไม่มีกำลังส่งเสียงหัวเราะแล้ว หัวเราะๆ อยู่น้ำตาก็ไหลออกมา ศีรษะโขกกับพื้น

คุณหนูจวินมองนาง

“ต้องการความช่วยเหลือของข้าไหม?” นางเอ่ยเสียงเบา

เด็กสาวคนนั้นมองไปทางนาง ราวกับไม่เข้าใจ

คุณหนูจวินมองนาง เท้ายกขึ้น เมื่อครู่หลบหลีกม้าตื่นไม่รู้ข้ารับใช้คนไหนทำมีดเล่มหนึ่งหล่นจึงเหยียบไว้

นางออกแรงเหยียบตรงที่จับมีด ด้ามมีดกระดกขึ้นมา ใต้แสงตะวันส่องประกายวิบวับ

เด็กสาวมองนาง แล้วมองมีดที่กระดกขึ้นมาเบื้องหน้าพลันแย้มยิ้ม

ใต้เท้าน้อยหวงตายแล้ว คนตระกูลหวงต้องไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ แน่ ต้องให้นางเป็นไม่สู้ตาย

แค้นใหญ่หลวงชำระแล้ว ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว ได้ตายไปอย่างขาวสะอาดฉับไวเป็นโชคใหญ่หลวง

“ขอบคุณ” นางเอ่ย

นางประหนึ่งอยากพูดอะไรเพิ่ม แต่ขยับริมฝีปากไปมาสุดท้ายสิ่งใดก็ไม่ได้เอ่ย ดวงตาปิดลง ยืดคอเอื้อมไปด้านหน้า

คุณหนูจวินก็ไม่ได้เอ่ยวาจาอีก นางเงยหน้ามองไปอีกด้านหนึ่ง เท้าเหมือนจะโซเซไม่มั่นคงถูทีหนึ่ง

เสียงพรืดดังหนึ่งครั้ง ชายกระโปรงกับรองเท้าของนางเปื้อนเลือดแล้ว

เลือดร้อน ดั่งไฟเผาไหม้อยู่บนเท้า

……………………………………….

Jun Jiu Ling  หวนชะตารัก

Jun Jiu Ling หวนชะตารัก

Score 10
Status: Completed

ภาคที่ 2 อ่านนิยาย (ภาค 2 ตอนที่ 1 – 90)  อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


ฤดูหนาวปีที่สามแห่งรัชสมัยไท่คัง

มีเด็กสาวผู้หนึ่งมาทวงสัญญาแต่งงานจากตระกูลหนิงแห่งอำเภอเป่ยหลิวเมืองหยางเฉิงถึงหน้าจวน

หลังถูกปฏิเสธการแต่งงงาน เด็กสาวตัดสินใจผูกคอตายเพื่อแสดงจุดยืนของตน

เมื่อเด็กสาวผู้หมดลมหายใจไปลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

นับแต่นั้นชะตาชีวิตของคนมากมายก็ถึงคราวพลิกผัน


Options

not work with dark mode
Reset