Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 400 คําแนะนํา

บทที่ 400 คําแนะนํา

บทที่ 400 คําแนะนํา

หัวใจของเซี่ยวเฉินสงบราวกับน้ํานิ่ง;ไม่มีรอยกระเพื่อมแม้แต่น้อย เขาเพียงยิ้มและเมินเฉยค่าของคนเหล่านั้นไป

แต่อย่างไรก็ตาม ป่ายหลี่ซีเห็นชัดว่าขุ่นเคือง เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น,เขากลายเป็นมืดมัวยิ่งกว่าเดิม

ท้านที่สุดในตอนที่ป่ายหลี่ซีได้ยินว่าตัวเขาไม่อาจทําอะไรเซี่ยวเฉินได้,เขาก็อดทนไม่ได้อีกต่อไป เขาระเบิดความโกรธร้องตะโกนออกมา “พวกเจ้าว่าอะไร?! ยุ่งแต่เรื่องของตัวเองแล้วหุบปากซะ!”

เมื่อฝูงเช่นเห็นป่ายหลี่ซีที่ดุร้าย,พวกเขาเกรงกลัวว่าปัญหาจะมาตกที่พวกเขา พวกเขารีบหยุดพูดคุยและกลับมาสนทนากันต่อหลังจากที่เขาจากไปแล้ว

ฝูงชนไม่อาจทําอะไรกับป่ายหลี่ซีได้ พวกเขาทําได้เพียงระงับอารมณ์ของพวกเขาเอาไว้ ยิ่งพวกเขาครุ่นคิดด,พวกเขาก็ยิ่งเสียอารมณ์

หลังจากที่โรงเตี้ยมพังทลายลงมา,ป่ายหลี่ซีก็ต่อสู้กับเซี่ยวเฉินอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม,หลังจากผ่านไปสองสามร้อยกระบวณท่า,เขาก็ไม่อาจกดเซียวเฉินลงได้

ป่ายหลี่ซีไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับ,ด้วยความแข็งแรก่งของเซี่ยวเฉินในตอนนี้,เซี่ยวเฉินทัดเทียมกับเขา เขายังไม่ทางเลือกนอกจากยอมรับของเสนออีกฝ่าย

ในตอนที่เซียวเฉินพบสมบัติลับชิ้นนั้นแล้วเท่านั้นเขาจะส่งทักษะนภาเสริมกายอีกครั้งหนึ่งที่เหลือให้กับป่ายหลี่ซี ดังนั้น,ป่ายหลี่ซีจะเดินตามเขาไปเรื่อยๆ

ป่ายหลี่ซีกล่าว “ข้าขอพูด,เจ้าหน,ค่าของข้ามันไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้น? ข้าจะโกงเจ้า? เจ้าส่งตําราลับอีกครั้งหนึ่งมาเลยได้หรือไม่?”

เซี่ยวเฉินไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง เขายิ้มเบาๆและกล่าว “เชื่อเจ้า? เจ้าคิดว่าชื่อเสียงของเจ้าเป็นเช่นไร? ให้ดึงใครมาถามสักคนไหม?”

เมื่อป่ายหลี่ซีเห็นว่าเซี่ยวเฉินกําลังจะไปถามใครสักคนจริงๆ เขารีบหยุดเตี๋ยวเฉินเอาไว้ เขารู้ชัดแจ่มแจ้งว่าชื่อเสียงของเขาเป็นเช่นไร หากเขาปล่อยให้เซี่ยวเฉินไล่ถามไปทั่วไม่ใช่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้เซี่ยวเฉินลากเขาไปตบหน้า?

“แม้ว่าข้าจะสังหารคนไปมากมาย แต่ข้าไม่ได้มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเจ้า,คําพูดของข้าหยาบกระด้าง,และข้าอารมณ์แปรปรวน,แต่ข้าตรงไปตรงมาเสมอ,ขาจะไม่หลอกลวงเจ้า…”

เซี่ยวเฉินยกมือขึ้นมาหยุดป่ายหลี่ซีไม่ให้พูดต่อ เขากล่าวอย่างใจเย็น “ไม่ต้องพูดในตอนที่ข้าได้สมบัติลับระดับกลางชิ้นนั้นมาครอบครองแล้ว, ข้าจะให้ตําราลับกับเจ้ายิ่งเจ้าพูดมาก,เจ้าจะ ยิ่งน่าสงสัย”

ขณะที่ป่ายหลี่ซีกําลังเปิดปากสาปด่า,เซี่ยวเฉินรีบมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือของเกาะอย่างรวดเร็ว

ในเมื่อเซี่ยวเฉินตัดสินใจที่จะไปตามล่าสมบัติชิ้นนั้น เขาไม่รีรอและออกเดินทางในทันที

สมบัติลับไม่นอนรอเขาแต่เพียงผู้เดียว มันจะสูญเปล่าหากมีคนอื่นไดมันไปก่อน

หลังจากที่ทั้งสองออกจากเมืองไป,พวกเขาเดินไปตามถนน ตลอดทาง ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนจ่าพวกเขาได้และพูดคุยกัน

โดยเฉพาะฉายา มือกระบี่ชุดขาว” ทําให้ป่ายหลี่ซีหงุดหงิด เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเชิงเยาะเย้ย “ดูนั้นมีหลายคนที่เรียกเจ้าว่ามือกระบี่ชุดขาว เจ้าก็ดูเหมือนจะเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตาม,เจ้ามีค่าพอกับฉายามือกระบี่?”

เซียวเฉินนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย เขาถามขึ้นอย่างสนใจ “เช่นนั้น,ในความคิดของเจ้า,ทําไมข้าถึงไม่คู่ควรกับฉายามือกระบี่?”

ป่ายหลี่ซีหัวเราะเย็นชาและกล่าว “แม้ว่าเจ้าจะมีความเฉียบคมอยู่ในใจ,แต่ความเฉียบคมนี้ยังไม่ก่อตัวเข้าไปในเจตนารมณ์แห่งกระบี่ ปราศจากเจตนารมณ์กระบี่,เจ้าจะเป็นมือกระบี่ได้อย่างไร? ไปที่ดินแดนรกร้างแลกเบิกตาดูซะดูว่าสิบมือกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่เป็นเช่นไรจากนั้นเจ้าจะรู้ว่ามือกระบี่คืออะไร”

“ตามจริง,นั้นก็ออกจะไกลตัวไปหน่อยไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงพวกเขา เพียงดูอย่างมือกระบี่โลหิต,ซุนกวงฉวน เขาพยายามอย่างหนักมายี่สิบปีก่อนที่จะได้รับฉายานี้ เจ้ามันก็แค่ลูกนกแรกเกิด เจ้าน่าจะยังไม่อาจสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์กระบี่ของซนกวงฉวนได้ด้วยซ้ํา”

ดวงตาของเซี่ยวเฉินเรื่องขึ้น เขาไม่ได้กล่าวอะไรเพื่อโต้แย้ง ป่ายหลี่ซีพูดถูก;ตัวเขาไม่ใช่มือกระบี่ที่แท้จริง

ในศาลากระบี่สวรรค์ที่เขาจากมา, มีเพียงทักษะกระบี่และการเสริมสร้างจิตใจ

อย่างไรก็ตาม,เซียวเฉินไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังแห่งมือกระบี่ มันเป็นอย่างที่หยุนเข่อซินกล่าวเอาไว้ที่ศาลากระปสวรรค์ไม่มีมือกระบี่ที่แท้จริงแม้แต่คนเดียวพวกเขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะพลังที่ใช้กระบี่เท่านั้น

เมื่อป่ายหลี่ซีเห็นว่าเซี่ยวเฉินยังนิ่งเงียบ,เขากล่าวต่อ “เกิดอะไรขึ้น? หรือข้าจะไปจี้จุดเข้า? อย่ากังวลข้าเป็นสหายกับตาแก่ซุนข้าจะให้เขามาเจอเจ้าในวันหลังเพื่อให้เจ้าเรียนรู้เจตนารมณ์ กระปาของเขาข้ารับรองว่าเจ้าจะข้ามเส้นแบ่งมือกระบี่ไปได้สําเร็จ”

“อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องมอบตําราลับอีกครึ่งหนึ่งให้ข้าก่อน หรืออย่างน้อย,ขอข้าอีกสามชั้นเจ้าคิดเช่นไร?”

เซี่ยวเฉินหัวเราะเสียงแหบ ป่ายหลี่ซีผู้นี้อย่ามุมานะ เขาจดจ่อแน่วแน่อยู่กับทักษะนภาเสริมกาย ทุกอย่างที่เขากําลังพูดอยู่เขาสามารถเปลี่ยนไปเข้าเรื่องนั้นได้ในทันที

ดูเหมือนเขาจะต้องซื้อเซี่ยวเฉินตลอดการเดินทางครั้งนี้

“เจ้าหนู,อย่าเงียบ ให้ข้าบอกเจ้า,ด้วยการช่วยเหลือของมือกระบโลหิต,เวลาที่เจ้าใช้ในการสําเร็จเจตนารมณ์กระบี่จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

มองดูเซียวเฉินที่เมินเฉยเขา, ป่ายหลี่ซีตามตื้อต่อไป

เป็นเช่นนี้จนเซี่ยวเฉินเดินไปถึงท่าเรือ ถึงกระนั้น, ป่ายหลี่ซีก็ยังไม่หยุดพูด เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าชายร่างสูงใหญ่อย่างป่ายหลี่ซีจะพูดมากได้เช่นนี้

ไม่ว่าจิตใจของเซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่มี “แมลงวันยักษ์” บินซึ่งอยู่ด้านหลังของเขามันทําให้เขาหงุดหงิด ยิ่งกว่านั้น,เขายังไม่อาจตบแมลงวันตัวนนี้ได้ตายคามือได้

เซี่ยวเฉินหยุดเดินและถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ตาแก่ป่าย,พวกเรามาถึงท่าเรือแล้วเจ้าจะหยุดสักพักได้หรือไม่?”

เมื่อป่ายหลี่ซีเห็นว่าเซี่ยวเฉินเริ่มหงดหงิด,เขายิ้มอย่างมีความสุข “เป็นอะไร? หงุดหงิดใจ? ให้ข้าบอกเจ้า; นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น”

“เจ้าปอกลอกข้าที่โรงเตี้ยม,ทําให้ข้าเสียสมบัติที่สะสมมาหลายปี,โสมหิมะพันปี,และข่าวเกี่ยวกับสมบัติลับระดับกลาง ท้ายที่สุด ทั้งหมดที่ข้าได้มีเพียงตําราครึ่งเล่ม นอกจากนั้น มันยังเป็นเพียงสําเนาในเมื่อข้าสังหารเจ้าเสียไม่ได้,ข้าจะกวนประสาทเจ้าจนกว่าจะส่งตําราที่เหลือให้กับข้า”

เซี่ยวเฉินในที่สุดก็ได้รู้ว่าหน้าด้านที่แท้จริงเป็นอย่างไร นอกจากนั้นยังเป็นชายแก่ที่สอนเขาให้รู้ถึงความหมาย “แล้วแต่เจ้าข้าจะไม่ให้ตําราอีกครั้งกับเจ้าจนกว่าข้าจะได้สมบัติลับชิ้นนั้นมา”

ท่าเรือของเกาะสายลมขจีวุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง มีเรือสินค้าไม่ขาดสายจากสมาคมการค้าหลากหลายอาณาจักรมีผู้คนจํานวนมากอยู่ทั่วทั้งท่าเรือ พวกเขาเดินเบียดเสียดไปตามทางที่พวกเขาต้องการจะไป

อย่างไรก็ตาม,เรือสินค้าทั้งมีจุดหมายที่ทะเลไร้ขอบเขต เซี่ยวเฉินหาอยู่นานแต่ก็ไม่อาจหาเรือที่กลับไปยังทวีป

ป่ายหลี่ซีกล่าว “เจ้าหนู,หยุดหาได้แล้ว เรือสินค้าที่กลับมาจากทะเลไร้ขอบเขตและมุ่งหน้าสู่ทวีปจะหาได้ในตอนกลางคืนเท่านั้น”

เซี่ยวเฉินรู้สึกงุนงงและถามขึ้น “ทําไม?”

ป่ายหลี่ซีเหลียวมองเซี่ยวเฉินอย่างเหยียดหยาม เขากล่าว “ผู้เยาว์ไม่เข้าใจอะไร มันเป็นกฎของเกาะสายลมขจี มีเรือมากมายมาที่นี่ ในอดีตมีเหตุการณ์มากมายที่เรือเข้าและเรือออกชนกัน และจมลงกันทะเล ดังนั้น พวกเขาปรับเวลาให้เรือเข้ามาได้ตามโดยตามจุดหมายที่พวกมันจะไป”

เซี่ยวเฉินเหลียวมองไปที่เรือสินค้าหลายพันรับ เขาสามารถเข้าใจที่ป่ายหลี่ซีกล่าวโลกนี่ต่าง จากโลกก่อนของเขา เรือที่นี่มีขนาดใหญ่และจํานวนมาก หากไม่มีการส่งสัญญาณที่สะดวก,พวกมันจะจัดการได้ยากอย่างยิ่ง

เซี่ยวเฉินมองขึ้นไปและเห็นว่าอาทิตย์เริ่มตกดินแล้ว ในไม่ช้าก็จะมืด ดังนั้นเขาตัดสินใจที่จะรอ

เซี่ยวเฉินมองหาที่ที่มีคนน้อยและนั่งลง จากนั้น เขาหยิบเอาหนังสือจากแหวนหัวงจักรวาลออกมาอ่าน

นี้เป็นตําราสมบัติลับโบราณที่เซียวเฉินได้มาในอดีต มีคนมากมายเกินไปที่ท่าเรือ:ไม่มีทางที่เขาจะบ่มเพาะพลังได้ที่นี่ อย่างไรก็ตาม,เขาไม่อาจเสียเวลาไปเปล่าๆ

ใช้เวลาทําความเข้าใจเกี่ยวกับสมบัติลับ,พร้อมทั้งเพิ่มพูนความรู้ของเขาเกี่ยวกับสมบัติลับที่มีชื่อเสียง,มันก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์เสียทีเดียว

“เจ้าหนู,ที่กําลังอ่านอยู่มันน่าสนใจตรงไหน? มาคุยเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังกายภาพกัน ข้าบอกได้เลยว่าเจ้าได้สําเร็จการเสริมสร้างร่างกายมาบางส่วนแล้ว”

ป่ายหลี่ซีรีบติดตามมาและวางขวานของเขาลงบนพื้นก่อนที่จะทิ้งกันลงนั่งต่อจากเซียวเฉิน

เซี่ยวเฉันไม่อาจไปสนใจกับเขา ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไร, ป่ายหลี่ซีก็จะวกไปเข้าเรื่องทักษะนภาเสริมกาย เขาเจอแบบนี้มาหลายครั้งแล้วตลอดทาง

“จากที่ข้าเห็น,พลังกายเพียงอย่างเดียวของเข้าเกือบจะถึงหนึ่งแสนกิโลกรัมเท่านั้น ยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมาก เอาอย่างนี้เป็นเช่นไร? มอบทักษะนภาเสริมกายชั้นที่เจ็ดให้กับข้า,แค่ชั้นเดียวเท่านั้น ข้าจะช่วยเจ้าเพิ่มพลังกายภาพขึ้นไปอีก 25,000 กิโลกรัม

ตามนั้น หลังจากป่ายหลี่ซีพูดออกมาได้ประโยคเดียว,เขาก็วนกลับไปเข้าเรื่องทักษะนภาเสริมกาย เซี่ยวเฉินยิ้มเบาๆและไม่คิดจะตอบกลับ

แม้ว่าข้อเสนอของป่ายหลี่ซีจะน่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง,เซี่ยวเฉินก็จะเมินเฉยไป,หมกมุ่นตัวเองไปกับตําราสมบัติลับโบราณ

เวลาไหลผ่านไปอย่างช้าๆ,และความมือดก็เข้ามา,เซี่ยวเฉินพลันได้ยินเสียงใเท้าตรงมาทางเขา

คนผู้นี้ไม่ได้ปดซ่อนกระแสพลังของเขาแม้แต่น้อยพร้อมกับจ้องมองมาที่เซียวเฉิน

เซี่ยวเฉินเก็บหนังสือกลับเข้าไป เขารีบยืนขึ้นและหันไปรอบๆ ป่ายหลี่ซีก็ตอบสนองไม่ช้าเช่นกัน เขาหันไปในทิศทางเดียวกับเซี่ยวเฉิน

ผลคนผู้นั้นมีดาบแขวนอยู่ที่เอว ผมของเขายาวปลิวไหว เขาดูหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง และกระแสพลังของเขาเฉียบคมเขาแสดงออกถึงความเฉียบคมยิ่งกว่าดาบหรือกระบี่

เซียวเฉินรู้สึกสงสัยพร้อมกับจ้องมองคนที่เดินตรงมาทางเขา เขาพึมพํากับตัวเอง “ทําไมจินอจี้ถึงยังไม่กลับออกไป?”

ป่ายหลี่ซีกระซิบ “ชื่อของเขาดูเหมือนจะมาจากประตูดาบสวรรค์ เขาดูเหมือนจะเก่งดี,เป็นสหายของเจ้า?”

น้ําเสียงของป่ายหลี่ซีเห็นชัดว่ามีความเย้ยหยัน

เซียวเฉินส่ายหัวของเขาและกล่าว “ไม่ใช่”

จินอจอยู่ห่างออกไปน้อยกว่าหนึ่งร้อยเมตรแล้ว เขาสามารถได้ยินค่าของป่ายหลีซีชัดเจน แม้ว่าเขาจะขุ่นเคืองที่ค่าเยาะเย้ยของคนคนนั้น,แต่เขาก็รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใครและไม่อยากที่จะพูดอะไรออกมา

จินอจี้เหลียวมองไปที่เซี่ยวเฉินและถามขึ้นอย่างมืดมัว “เยว่เฉินซื้อยู่ที่ไหน? นางกลับออกไปหรือยัง?”

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อย ทําไมน้ําเสียงของจินอูจถึงได้ก้าวร้าวนัก? ข้าจําไม่ได้ว่าไปบาดหมางกับเขาตอนไหน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินชื่อเยว่เฉินซี,เขาก็รู้แจ้งทุกอย่าง เขาคาดเดาได้และยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ดูเหมือนปัญหาที่เกิดมาจากเยว่เฉินซีจะมาชนเข้ากับเซียวเฉินแล้ว

เซี่ยวเฉินเมินเฉยน้ําเสียงของจินอิจและกล่าวอย่างใจเย็น “หลังจากที่นางได้บุปผารุ่งอรุณไป,นางก็กลับไปพร้อมกับผู้อาวุโสระดับสูงของนิกายนภาสูง”

จินอจีสีหน้าเปลี่ยนหนัก เขาถามขึ้นอย่างตกตะลึง “เจ้าได้ช่วยเหลือนางให้ได้บุปผารุ่งอรุณ ไป?”

ให้ตาย! ข้าควรจะเป็นคนที่ช่วยนางเก็บบุปผารุ่งอรุณ เจ้าหมอนี่แบ่งบทของข้าอีกแล้ว

ผ่านไปครู่หนึ่ง,จินอุจสงบใจลง,ครุ่นคิด,เจ้าหมอนี่มีความสัมพันธ์กับซูเสียวเสี่ยว มีคนมากมายอยู่ที่นี่ข้าจะปล่อยมันไปก่อน

“จําเอาไว้,ไม่ว่าเจ้าจะทําอะไร,เยว่เฉินซีก็ไม่ใช่คนที่มือกระบี่ชุดขาวจะใฝ่ฝันถึง อย่าให้ข้าเห็นว่าเจ้าอยู่กับเยว่เฉินซีอีกครั้ง”

สีหน้าของจินอจี้กลายเป็นชั่วร้ายพร้อมกับพึมพํากับตัวเอง “มิฉะนั้น,ประตูดาบสวรรค์จะทําให้เจ้าไม่มีที่ยืนในโลกใบนี้อย่าบาดหมางกับคนที่เจ้าไม่ควรยุ่ง”

สิ้ม! เจ้าเป็นใครกัน, แย่งบทของข่าซ้ําแล้วซ้ําอีก? ชะโงกดูเงาของตัวเองเสียก่อน

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

Score 10
Status: Completed

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา

ผู้แต่ง : 月如火

Options

not work with dark mode
Reset