ตอนที่ 366 อันตรายยิ่ง
“ช่างน่าแปลก;ไม่มีคนบาดเจ็บหรือล้มตาย นี่เป็นครั้งแรกที่เป็นเช่นนี้แม้ว่าจะผ่านหุบเขาจักรพรรดิอัสนีมาแล้ว” กษัตริย์ยุทธสูงอายุคนหนึ่งบนดาดฟ้ากล่าวขึ้น
ชายชราคนอื่นๆกล่าวในทํานองเดียวกัน “ใช่,ข้าก็รู้สึกแปลกเช่นกัน มันดูเหมือนว่าจักรพรรดิ อัสนีสงบลงมากกว่าปกติ ข้ารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางคนที่ต่อต้านเจตจํานง แต่อย่างไรก็ตาม,จักรพรรดิอัสนี้ไม่ลงทัณฑ์พวกเขา”
เซี่ยวเฉินตกตะลึง หรือมันอาจจะเป็นเพราะตัวเขาหรืออ่าวเจียว?
มีผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเยาว์งุนงง;พวกเขาถามขึ้น “ผู้อาวุโส,เกิดอะไรขึ้น? ท่านอธิบายให้ฟังได้หรือไม่?
ชายชราคนแรกกล่าวออกมา “หุบเขาจักรพรรดิอัสนี้ยังมีชื่อเรียกว่าหุบเขาแห่งชีวิตและความตาย ทุกครั้งที่มีเรือแล่นผ่านหุบเขานี้จะมีผู้บ่มเพาะพลังตกตายหรือบาดเจ็บสาหัส หายากมากที่จะออกมาโดยไม่มีอะไร”
“ทําไม?”
ชายชรายิ้มเบาๆ “นี่เป็นเพราะมักจะมีคนที่ต่อต้านเจตจํานงแห่งสาย ในอดีต,มีแม้กระทั่งระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธที่จะพยายามจะฉกเอาเจตจํานงแห่งสายฟ้านี้ไป มีเพียงผลลัพธ์เดียวสําหรับทุกคน:ความตาย!”
“ตรายใดที่มีคนมีความคิดหรือตั้งใจจะต่อต้าน
เจตจํานงแห่งสายฟ้าอย่างน้อยที่สุดก็จะทําร้ายพวกเขา หากต่อต้านอย่างแข็งขึ้น,พวกเขาต้องตายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะระดับการบ่มเพาะพลังสูงส่งเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ บางทีอาจจะมีเพียงปราชญ์ยุทธที่สามารถทําได้”
เมื่อผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าที่ต่อต้านเจตจํานงแห่งสายฟ้าได้ยินดังนี้,พวกเขาหงาดกลัว
“จักรพรรดิอัสนี้แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น? เขาได้ตกตายไปนับพันปีแล้วทําไมเจตจํานงแห่งสายฟ้าของเขายังไม่จางหายไป? นอกจากนั้น,มันยังทรงพลังเป็นอย่างมาก” ผู้บ่มเพาะพลังหนุ่มถามขึ้น: คําของชายชราทําให้พวกเขาตื่นเต้น
ชายชราลูบเคราของเขาและหัวเราะขึ้น เขากล่าว “มีพลังงานอยู่เจ็ดประเภท พลังงานธาตุ สายฟ้าที่กดข่มบ้าคลั่งและและมีพลังโจมตีสูงที่สุด และมันยากที่จะบ่มเพาะ นี่เป็นเพราะสายฟ้า เป็นตัวแทนการลงทัณฑ์ของเตสวรรค์แห่งธรรมชาติ”
“ตามหลัการเดียวกัน,สภาวะและเจตจํานงแห่งสายฟ้ายากที่สุดที่จะบรรลุ จักรพรรดิอัสนี้บรรลุเจตจํานงแห่งสายฟ้าจนกลายเป็นเจตจํานงสายฟ้าอมตะ มันไม่ได้ด้อยไปกว่าเต่าสวรรค์อีกต่อ
“ด้วยพลังโจมตีที่แข็งแกร่งเพียงนี้ แม้แต่จักรพรรดิยุทธผู้เชี่ยวชาญที่ระดับพลังสูงกว่าจักรพรรดิอัสนีก็ไม่กล้าลบคม ฮ่าฮ่า! การปะทะกับเขาก็เหมือนกับวิ่งไปให้ฟ้าผ่า จะมีใครที่คิดจะแหย่เท้าไปหาปัญหาเช่นนั้น”
ชายชรากล่าวอย่างตรงไปตรงมาด้วยความมั่นใจ เห็นชัดว่าเขาได้เดินทางท่องโลกกว้างและได้เห็นมาหลายสิ่ง เขากล่าวถึงความสําเร็จทั้งหมดที่จักรพรรดิอัสนีทิ้งเอาไว้ในทวีปแห่งนี้
นี่ทําให้ผู้บ่มเพาะพลังบนดาดฟ้าปราถนาถึงพลังนี้ พวกเขาจินตนาการถึงตัวเองที่ได้เป็นจักรพรรดิอัสนี,ลงทัณฑ์เทพและขจัดมาร,เหยียบย่ําเหล่าอัจฉริยะและปีนขึ้นไปสู่สุดยอดสุดของโลก
“แล้วรูปสลักบนหุบเขาคืออะไร? มันใหญ่โตมาก;มันเกือบจะวนรอบทั้งหุบเขา นี่ไม่มีทางทําให้เสร็จได้ด้วยคนต่ํากว่าพันคน แต่อย่างไรก็ตาม,หากมันผ่านมาหลายพันปีแล้ว,พวกเขารวมมือกันสร้างรูปสลักที่สมบูรณ์แลบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร?”
ในที่สุดก็มีคนยกเรื่องรูปสลักขึ้นมาพูด,ชายชรายิ้ม “หากข้าบอกเจ้าว่ารูปสลักนี้มันเกิดขึ้นมา เอง,เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่?”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร?” ผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเยาว์ทั้งหมดส่ายหัว
เมื่อชายชราได้ยินดังนั้น,เขาหัวเราะ “พวกเจ้าทั้งหมดเป็นรุ่นเยาว์มีพรสวรรค์ พวกเจ้าอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดตั้งแต่อายุยี่สิบกลางๆ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าทั้งหมดยังอ่อนแอเกินไปที่จะเอื้อมมือไปแตะสมบัติชิ้นนี้”
ชายช่อีกคนหนึ่งที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง,กล่าวอย่างเฉยเมย “ในอนาคต,หากเจ้ามีโอกาสไปที่ดินแดนรกร้างโบราณ,เจ้าน่าจะไปชมรูปสลักของจักรพรรดิเทียนหว่รุ่นแรก จากนั้น,เจ้าจะเข้าใจความจริง”
“ใช่แล้ว,พวกเจ้าคนหนุ่มสาวยังขาดผระสบการณ์ เจ้าจะพบกับผู้เชี่ยวชาญมากมายจากหลายอาณาจักรในการล่าสมบัติครั้งนี้ ถึงตอนนั้น,แม้แต่การเอาชีวิตให้รอดก็เป็นเรื่องท้าทายสําหรับพวกเจ้า” ชายชรากษัตริย์ยุทธอีกครกล่าว
“แล้วก็อย่าคิดว่าแต่งตัวเช่นนั้นแล้ว,เจ้าจะกลายเป็นมือกระบี่ชุดขาว พวกลูกนก!” มีคนหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
มือกระบี่ที่แต่งตัวชุดคลุมขาวและผ้าพันหัวสีน้ําเงินรู้สึกอับอายเล็กน้อย ในตอนที่พวกเขาได้ยินเช่นนั้นพวกเขาไม่รู้จะกล่าวเช่นไร
เรื่องพูดคุยค่อยๆกลับมาที่จุดหมายของทุกคน ผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเก่าเล่าหลายสิ่งเพื่อตัดกําลังใจรุ่นเยาว์
ที่จริง,แม้คนเหล่านี้จะเตือนถึงผู้เชี่ยวชาญจากอาณาจักรอื่น,พวกเขาก็ยังคงร้อนรน พวกเขาอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว
แต่อย่างไรก็ตาม,ชายชราผู้นี้มีความตั้งใจที่ดี สําหรับผู้เยาว์กลุ่มนี้ มีน้อยคนที่จะรักษาจิตใจให้สงบได้ ชายชราผู้นี้ได้ทําสิ่งที่เขาควรทําแล้ว:พวกเขาไม่ไปกังวลเกี่ยวกับเหล่าผู้เยาว์พวกนี้อีก
คําของเหล่าผู้อาวุโสเปิดหูเปิดตาให้กับเซี่ยวเฉิน โดยเฉพาะเรื่องเล่าของจักรพรรดิอัสนี มันทําให้เขาเข้าใจในบุคคลในตํานานผู้นี้ยิ่งขึ้น
ขณะที่อยู่บนดาดฟ้าเรือ,เซี่ยวเฉินแบ่งความสนใจขอบเขาไปที่กษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดที่กาลังปิดซ่อนกระแสพลังของตัวเองอยู่
มีผู้บ่มเพาะพลังมากมายนั่งอยู่บนดาดฟ้า;พวกเขากําลังชื่นชมเจตจํานงแห่งสายฟ้าที่พวกเขาได้ไปประสบมาอย่างเงียบๆ
คนเหล่านี้คือผู้บ่มเพาะพลังธาตุสายฟ้า เจตจํานงแห่งสายฟ้าอมตะที่จักรพรรดิอัสนีทิ้งเอาไว้ สามารถเป็นประโยชน์กับผู้บ่มเพาะพลังธาตุวายฟ้าอย่างใหญ่หลวง
ไม่มากก็น้อยมันจะช่วยพวกเขาในการเลื่อนระดับสภาวภของพวกเขา, หรือสามารถช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงสภาวะแห่งสายฟ้า
หนึ่งในผู้บ่มเพาะพลังเหล่านี้ มีชายชราที่แต่งชุดคลุมสีเทา เขามองดูเหมือนผู้สูงอายุทั่วไป
กระแสพลังของเขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูง มีชายชราเช่นนี้มากมาย มันไม่น่าประหลาดใจที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงที่อายุประมาณเขา
แต่อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าคนผู้นี้อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด เหลือเพียงครึ่งก้าวที่จะขึ้นสู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง
คนผู้นี้ไม่นิ่งเงียบหรือแสดงตัวจนเกินไป ในตอนที่มีหัวข้อที่เขารู้สึกสนใจโผล่ขึ้นมา,เขาจะแนะออกไปแบบธรรมดาๆ,ไม่ให้เป็นจุดสนใจของคนอื่น
หากสัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินไม่เฉียบคมพอ,เขาจะไม่มีทางพบตัวเขา ในตอนที่มองไปยังใบหน้า,เขาไม่คิดว่าคือระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุด
“คนผู้นี้อันตรายอย่างยิ่ง” เซียวเฉินจับตาดูเขาเอาไว้ สุนัขกัดมักจะเห่าไม่ดัง
ในตอนนี้ เรือสินค้าได้ออกจากทวีปเทียนหวู่แล้ว หุบเขาจักรพรรดิอัสนี้ค่อยๆหายไปจากสายตาของพวกเขา;พวกเขาค่อยๆห่างออกไปจากทวีปแห่งนี้
มีเรือสินค้ามากมายค่อยๆปรากฏออกมาจากทางเข้าหุบเขา
เซียวเฉินถอนสายตาของเขากลับมาและเมินเฉยฝูงชนที่กําลังพูดคุยบนดาดฟ้าเรือ เขาตรงไปที่หัวเรือและมองไกลไปในทะเล
เมื่อเซี่ยวเฉินมองออกไป,ทั้งหมดที่เขาเห็นก็คือทะเลอันไร้ขอบเขต ทะเลสงบ,ปราศจากคลื่นท้องฟ้าสดใส มีฝูงนกบินผ่านไปเป็นบางครั้ง ทะเลในตอนนี้อ่อนโยนเป็นอย่างมาก
ในตอนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของทะเลที่สงบ,มันดูกว้างใหญ่,เปิดใจของทุกคน
เรือล่มหึมาแล่นไปอย่างรวดเร็วบนทะเล ทะเลในตอนนี้,ไม่มีสิ่งใดให้เป็นกังวล;พวกเขาสามารถเคลื่อนที่เต็มกําลัง
เซี่ยวเฉินพึมพํา “นี่หรือทะเลไร้ขอบเขต?หรือมันจะไร่ขอบเขตจริงๆก็เป็นไปได้ แม้ว่าจะใช้เวลาไปทั้งชีวิต,พวกเขาก็ไม่อาจสํารวจมันได้ทุกตารางนิ้ว”
“ฮ่าฮ่า! นี่ไม่ใช่ทะเลไร้ขอบเขต ที่นี่มันเป็นเพียงทะเลใกล้กับอ่าวทวีปเทียนหวี่ หลังจากผ่านเกาะสายลมขจีไปเท่านั้นถึงจะถึงชายขอบของทะเลไร้ขอบเขต ถึงกระนั้น มันก็เป็นเพียงทะเลน้ำตื้น ส่วนลึกของทะเลอยู่ไกลออกไปอีก”
ทันใดนั้นมีเสียงเข้ามาในหูของเซี่ยวเฉิน เมื่อเซี่ยวเฉินหันกลับไป,เขาพบว่านั้นคือกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดที่เขาให้ความสนใจ เขาเดินเข้ามาโดยที่เซี่ยวเฉันไม่รู้ตัว
เซี่ยวเฉินตกใจไปเล็กน้อย สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลงพร้อมกับยิ้มบางๆ “ผู้อาวุโส,ท่านดูมีประสบการณ์โชกโชน ท่านจะต้องมีความเข้าใจเกรายวกับมะเลไร้ขอบเขตเป็นอย่างดี ท่านจะเล่าให้ผู้น้อยได้ฟังได้หรือไม่?”
ชายชรายิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “ข้าไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าผู้อาวุโส โลกแห่งการบ่มเพาะ พลังนับถือความแข็งแกร่งมากกว่าอายุ ผู้เฒ่านี้ชื่ออซ่างเฉียน หากน้องชายไม่ว่าอะไร,เจ้าสามาร ถเรียกข้าผู้เฒ่าอ”
“ผู้เฒ่าอ,โปรดอธิบายให้ข้าได้ฟัง” เซียวเฉินขออย่างนอบน้อม เขาอยากรู้เกี่ยวกับทะเลไร้ขอบเขตจริงๆ ดังนั้น,เขาไม่เกี่ยงที่จะพูดคย
อซ่างเฉียนมองไปยังทะเลอันกว้างใหญ่และกล่าวอย่างมัวหมอง “มีทั้งหมดสี่ภูมิภาคในทะเลไร้ขอบเขตทะเลตะวันออก, ทะเลตะวันตก,ทะเลเหนือ,และทะเลใต้ เรือสินค้าลํานี้กําลังจะไปทะเลตะวันออก”
“ทะเลไร้ขอบเขตที่แท้จริงก็ถูกแบ่งออกเป็นทะเลลึกและทะเลอื่น สถานที่ที่มนุษย์มีความเข้าใจมีเพียงทะเลตื้น สําหรับทะเลลึก,มันลึกลับจนเกินไป ผู้เฒ่าผู้นี้มีความเข้าใจไม่มากนัก”
“ในทะเลตื้นของทุกภูมิภาค,มีเกาะน้อยใหญ่และนิกายที่แข็งแกร่งมากมาย นอกจากทะเลตะวันออก, ทะเลตื้นของอีกแต่ละสามภูมิภาคมนิกายปกครอง ดังนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงมั่นคง”
เซี่ยวเฉินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามขึ้น “เช่นนั้นความแข็งแกร่งของเหล่านิกายในทะเลไร้ขอบเขตเป็นเช่นไรเมื่อเทียบกับอาณาจักรต้าฉินของข้า”
“หากเทียบกับทะเลตื้นของภูมิภาคตะวันออก,เจ้าสามารถเทียบอาณาจักรต้าฉันได้กับชุมอํา นาจชั้นสอง ศาลากระบี่สวรรค์นับได้ว่าเป็นขุมอํานาจชั้นหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม มันเกือบจะเป็นขุมอำนาจชั้นรองแล้วในตอนนี้ บางทีหากเจ้ารวมหมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์เข้าไปด้วย,จุดยืนของมันอาจจะดีขึ้น”
เซียวเฉินค่อนข้างประหลาดใจ,หมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์หลอมอาวุธ, พวกเขาจะแข็งแกร่งไปกว่าศาลากระปสวรรค์ได้อย่างไร? “ท่านหมายความเช่นไร?”
“ฮ่าฮ่า หากเจ้าได้ท่องโลก,เจ้าจะพบว่าหมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์ได้หลอมอาวุธมากมายที่มีใช้อยู่ในทวีปแห่งนี้ ยิ่งเห็นชัดในอาณาจักรต่าจิน”
“นับด้านชื่อเสียง,สามนิกายใหญ่ไม่โด่งดังเท่ากับหมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์ คิดดูให้ละเอียด หากนิกายที่ทําเงินได้อย่างมหาศาลขนาดนั้นไม่มีพลังที่มั่นคง,ทําไมสํานักหลวงและนิกายอื่นๆ ถึงไม่พยายามจะกลืนกินพวกเขา?”
เซี่ยวเฉินไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ หากพวกเขาไม่มีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่ง ก็มีอีกเพียงเหตุผลเดียว: หมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์มีพลังที่ปิดซ่อนเอาไว้
อซ่างเฉียนหยุดพักลง จากนั้นเขาก็กล่าวขึ้น “มือกระบี่ชุดขาว,เจ้าสนใจในอํานาจของทะเลไร้ขอบเขต เป็นไปได้ว่า นอกจากจะไปที่เกาะสายลมขจีแล้ว,เจ้าก็สนใจที่จะไปยังทะเลไร้ขอบเขต?”
เซี่ยวเฉินนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย เขายิ้มและกล่าวขึ้น “ผู้เฒ่า ท่านต้องล้อเล่น มือกระบี่ชุดขาวอะไรกัน? ข้าเพียงแค่แต่งชุดสีขาวเท่านั้น”
“อย่าได้ปฏิเสธ ขณะที่เจ้าตรวจสอบข้า,ทําไมข้าจะไม่ตรวจสอบเจ้า?” อูซ่างเฉียนกล่าวอย่างสงบขณะที่เขามองออกไปไกล
หัวใจของเซี่ยวเฉินจมลึก ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะพบตัวตนของเขา มิฉะนั้น,เขาคงไม่เข้ามาหา และเริ่มสนทนาโดยไม่มีเหตุผล
อูซ่างเฉียนกล่าวต่อ “เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ผู้เฒ่ามาหาเจ้าก็เพราะข้าอยากจะพูดคุยเกี่ยวกับสมบัติของราชาทุ่งหญ้ามารอสูร ข้าเคยไปที่เกาะนั้นแล้วสองครั้ง และนี่เป็นครั้งที่สามของข้า”