Immortal and Martial Dual Cultivation 288 หมูถูกปล้น

ตอนที่ 288 หมูถูกปล้น

ตอนที่ 288 หมูถูกปล้น

กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าของเซียวเฉินแม้จริงแล้ว คือคนคุ้มกันของจินต้าเป่า มีคนประมาณสองร้อย คนที่ถูกเปลืองผ้า;พวกเขาเหลือเพียงกางเกงขาสั้นเอาไว้ปิดท่อนล่างของพวกเขา

ที่ตรงกลางของฝูงคนคือรถม้าที่แตกพัง เชี่ยวเฉินมองดูอยู่นานก่อนที่เขาจะพบว่ามันคือรถม้า ทองคําที่ครั้งหนึ่งเขาเคยนั่งมา อย่างไรก็ตาม,สภาพมันทรุดโทรมและพังลงในตอนนี้

ทองที่ประทับเอาไว้ทั้งภายในและภายนอกหายไป เหลือเพียงแต่เนื้อไม้ มีล้อสีทองคู่หนึ่งอยู่ที่ใต้รถ หากไม่ใช่เพราะล้อคู่นี้,เซี่ยวเฉินไม่มีทางจําได้ว่ามันคือรถม้าคันนั้น

สิ่งที่ทําให้เซี่ยวเฉินถึงกับพูดไม่ออกก็คือจินต้า เป๋าที่ห่มหนังสัตว์อสูรและกําลังนั่งหวาดระแวงอยู่บนรถม้า นอกจากนั้น คนที่กําลังลากรถม้าอยู่ก็คือลูกน้องของเขา แม้แต่ม้าก็ถูกเอาไป

กลุ่มคนกําลังเร่งรีบข้ามผ่านทุ่งหญ้า,มันราวกับว่าพวกเขากําลังหนีจากอะไรบางอย่าง จินต้าเป่าร้องออกมาเสียงดัง “เจ้าเร่งเท้าหน่อยได้หรือไม่,ท่านหมูผู้นี้ไม่ได้หนักถึงเพียงนั้น พวกเจ้าทั้งหมดอยู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธนะ”

ใบหน้าของลูกน้องแตกกร้านและพวกเขาเขาอธิบาย “นายน้อย,พวกเราวิ่งกันมาสองวันสองคืนแล้ว ให้พวกเราพักผ่อนกันสักครู่ มิฉะนั้น พวกเราจะทิ้งรถลากและให้ท่านลงมาวิ่งด้วยกันกับเราเช่นนั้น,พวกเราจะไป๋าด้เร็วขึ้น”

แนนน,พวกเราจะเบาดเรวขน”

จินต้าเป่าเกรี้ยวกราด “ท่านหมผู้นี้พยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้สองล้อนี้มา จะให้ทิ้งไปเฉยๆได้เช่นไร? หากทําเช่นนั้น ที่ข้าพยายามไปก็สูญเปล่า”

คนรับใช้ที่ตามหลังรถลากทันใดนั้นก็กล่าวขึ้น “นายน้อย,ดูเหมือนจะมีใครบางคนอยู่ตรงนั้น เขากําลังจ้องมาที่พวกเรา”

เจ้าหมูกล่าวเสียงโกรธ “ให้ตาย! เดียวข้าจะตบมันให้…ไม่เป็นไร, ไม่เป็นไร เมินเฉยเขาและรีบออกไปจากที่เฮงซวยนี่”

คนรับใช้กล่าวต่อ “ดูเหมือนเขากําลังจะเดินมาจากพวกเรา”

เจ้าหมูสีหน้าเปลี่ยนและหันหัวกลับไป เมื่อเขามองเห็นร่างคนที่กําลังเดินเข้ามา,เขาเผยรอยยิ้ม และพูดขึ้น “หยุดรถ!”

เจ้าหมูกําลังสวมกางเกงขาสั้นและห่มหนังสัตว์อสูรไว้ข้างบน เขารีบวิ่งไปหาเซียวเฉินและกล่าว “ท่านเซียว,ยินดียิ่งที่ได้พบท่าน อย่าเพิ่งได้กล่าวอะไร,ขอเสื้อผ้าให้น้องหมูได้สวมใส่ก่อน”

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นสภาพน่าอดสูของเจ้าหมู,เขาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี มีวลีดังจากในชีวิตก่อนแว่บเข้ามาในหัวของเขาก็คือ กรรมตามสนอง

เซียวเฉินมีชุดสํารองมากมายในแหวนห้วงจักรวาล แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหมูตัวอ้วนเกินกว่าที่จะสวมลงไปได้ เขาทําได้เพียงเอามาคลุมตามร่างกายเท่านั้น
แม้ว่าเจ้าหมูสภาพจะยังดูน่าอดสู,มันก็ยังดูดี กว่าเอาหนังสัตว์มาคลุมจินต้าเป่าพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยัดขาลงกางเกงที่เซียวเฉินยื่นให้ผ่านไปนาน,จินต้าเป่าก็สวมลงไปได้สําเร็จ อย่างไรก็ตาม,ในจังหวะที่เจ้าหมูเบาใจ,เสียงปริขาดดังออกและไขมันของเจ้าหมู่ก็ระเบิดออกมา กางเกงหลายเป็นเศษผ้า

จินต้าเป่าทําหน้าช่วยไม่ได้ เขาไม่ไปสนใจมันอีก และพยายามอย่างที่สุดเพื่อจัดระเบียบตัวเองจากนั้นเขาก็หันไปทางเซียวเฉินและกล่าวอย่างละอาย “อืม…ท่านเซียวจะเอาหินวิญญาณให้ข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่?”

เซี่ยวเฉินเหงื่อตกในใจ เขากล่าว “หรือเจ้าจะถูกปล้นจริงๆ?”

เจ้าหมูโบกมือขึ้นและกล่าว “ยังเห็นไม่ชัดหรอกหรือ? นอกจากแหวนมิติและฝาโลง,ข้าก็เหลือเพียงล้อทองอีกคู่หนึ่ง”

ความเป็นไปในโลกนี้ไม่แน่นอน,สวรรค์หรือปฐพีไม่อาจทํานายชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งไม่คาดฝัน,เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างขมขื่น แม้แต่เจ้าหมูก็เดินสะดุดล้มลงได้,กล่าวได้ว่าสวรรค์มีตา

เซี่ยวเฉินหยิบเอาหนึ่งพันหินวิญญาณระดับต่ํา และหนึ่งหมื่นเหรียญทองออกมา จากนั้นเขาก็ส่งให้กับจินต้าเป้าและกล่าวขึ้น “เกิดอะไรขึ้น? ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,ถึงแม่ว่าเจ้าจะเอาชนะไม่ได้,เจ้าก็น่าจะหลบหนีได้ไม่ยาก!”

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้าหมูจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ย แต่เขาก็มีของดีมากมาน แหวนและเครื่องประดับมากมายที่เขาใส่มันไม่ใช่เพียงของธรรมดา พวกมันทั้งหมดเป็นสมบัติลับสภาพสมบูรณ์ หากเซียวเฉินและเจ้าหมูเผชิญหน้าหน้ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ผู้ที่สามารถหลบหนีได้ง่ายกว่าก็เป็นเจ้าหมู

เป็นเพราะเจ้าหมอนี่มีไพ่ตายเก็บไว้มากมาย มิฉะนั้น เขาคงไม่หาญกล้าอย่าที่เคยทํา;เขามีความมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง

หากเจ้าหมูไม่ได้ไปเตะโดนตอเข้า,เขาคงไม่จบลงที่สภาพน่าอดสูเช่นนี้ เซียวเฉินสงสัยอย่างยิ่ง,ว่า ตอไม้” ที่เตะไปโดนแท้จริงคือใครกัน? เกิดอะไรขึ้นที่ทําให้เจ้าหมูเสียเปรียบถึงเพียงนี้

จินต้าเปารับหินวิญญาณและเหรียญทองไป จากนั้นเขาก็กล่าว “ขอบคุณ,พี่น้องหมูผู้นี้จะจดจําบุญคุณนี้ อย่าได้ถามข้าว่าเกิดอพไรขึ้น อย่างไรก็ตาม,อย่าได้ประมาทที่ทุ่งหญ้ามารอสูร ข้าถูกใครบางคนโกงและจะไม่กลับมาอีก”

หลังจากที่เจ้าหมูพูดจบ,เขาโบกมือและกระโดดกลับไปที่รถลาก จากนั้น ก็ค่อยๆหายลับไปจากสายตาของเซี่ยวเฉิน

ในสองวันต่อมา ความรู้สึกไม่ดีในใจของเซียวเฉินยิ่งชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เห็นความขมขื่นที่เจ้าหมูเผชิญ,เซียวเฉินระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น เขาขยายสัมผัสวิญญาณออกไปในระยะสองพันเมตรเสมอ

แม้ว่าเขาจะต้องลดความเร็วลง มันก็เป็นเรื่องดีที่จะระวังตัวเอาไว้ เซี่ยวเฉินไม่อยากจะโดนแบบเดียวกับเจ้าหมู

ในวันนี้ เซี่ยวเฉินกําลังเดินไปในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่พร้อมกับขยายสัมผัสวิญญาณออกไป

เขาพบเข้ากับพื้นที่ผิดปกติ ในระยะสองพันเมตรโดยรอบ ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย

มันเงียบสงัดเป็นอย่างมาก โดยปกติเซี่ยวเฉินจะตรวจจับสัตว์อสูรวิญญาณได้บ้างผ่านทางสัมผัสวิญญาณของเขา อย่างไรก็ตาม เขาสัมผัสอะไรตรงนี้ไม่ได้แม้แต่น้อย,เขาไม่รู้ว่าพวกมันหายไปไหนกลหมด

เซี่ยวเฉินขมวดคิ้วและหยุดเท้าลง เขากล่าวอย่างงุนงง “เกิดอพไรขึ้น? ทําไมไม่มีสัตว์อสูรวิญญาณแม่แต่ตัวเดียว? แม้แต่อากาศก็ราวกับหยุดนิ่ง”

ด้วยการนึกคิดของเซียวเฉิน,สัมผัสวิญญาณหยุดเคลื่อนไปในรูปแบบวงกลม มันกลับกลายเป็นเส้นดายและขยายออกไปข้างหน้า

หลังจากที่สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินเปลี่ยนรูปเป็นเส้นดาย,เขาสามารถสังเกตการณ์ได้ไกลถึงสิบกิโลเมตร ในที่สุด,เขาก็พบอะไรบ้างอย่าง

ที่ปลายสุดของสัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉิน,มีความมืดมิดกําลังไหลหลากมาในทิศทางของเขา

เมื่อเซี่ยวเฉินมองดูอย่างละเอียด,ความมืดที่กําลังไหลหลากเข้ามาคือกองทหารม้าที่สวมเกราะสีดํากําลังรวบไปบนหลังม้า นับจํานวนคราวๆได้ประมาณหนึ่งพัน

กระแสพลังที่รวมกันทําให้สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลแม้ว่าจะอยู่ไกลออกมา

เซี่ยวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา และสีหน้าของเขาเปลี่ยน เขาพึมพํา “จินต้าเป่า…คนพวกนี้ใช่หรือไม่ที่ปล้นเจ้าไป? ข้าควรเปลี่ยนเส้นทาง

ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะเคลื่อนไหว,ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาส่งสัมผัสวิญญาณออกไป และพบว่าทหารม้าดําที่นาากลัวเหล่านี้เข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง

ข้ากําลังถูกล้อม,เซี่ยวเฉินอดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า หากมีช่องว่าง,เขาสามารถออกไปอย่างง่ายดาย

ไม่รู้ว่าพวกเขาเข้ามาถึงตั้งแต่เมื่อไหรแต่เมื่อเซียวเฉินมองขึ้นไป มีฝูงแร้งวายุคลั่งอยู่บนแร้ง วายุคลั่งแต่ละตัวมีทหารเกราะดําขอยู่

เซี่ยวเฉินทําอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มอย่างขมขื่น เขากล่าว”นี่มัน “ไม่มีประตูสู่สวรรค์,ไม่มีทางสู่ปฐพี” อย่างแท้จริง

TL:ประมาณว่าไม่เหลือทางให้หนี

“กรุบ! กรุบ! กรุบ!“

เสียงควบม้าดังขึ้นมาให้ได้ยิน กองทหารม้าสิบกองตบฝุ่นตลบขึ้นไปในอากาศ กองทหารแม้แต่ละกองมีจํานวนหนึ่งพันนาย รวมเข้าด้วยกัน,พวกเขามีทั้งหมดหนึ่งหมื่น เซี่ยวเฉินมองไปที่สีกองสีดําระดับขอบเขตพลังที่ต่ําที่สุดในหมู่หนึ่งหมื่นนายร้อนะดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ มีระดับขอบเขตนักบุญอย่างน้อยหนึ่งพันนาย
เมื่อกระแสพลังจากทั้งหนึ่งหมื่นรวมเข้าด้วยกัน,แม้แต่อากาศก็หยุดเดิน มันทําให้ลําบากที่จะสูดหายใจ

นี่มันไม่ใช่กองโจรอีกต่อไปแล้ว น่าจะมีเพียงกองทหารแห่งอาณาจักรต้าฉินที่จะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้

ผู้นําของแต่ละกอง มีทั้งหมดสิบคน,พวกเขากําลังขอยู่บนหลังม้าสีดํา พวกเขาสวมหน้ากากที่เผยครึ่งหน้า พวกเขาขี่ม้าเคลื่อนมาตรงหน้าของเซี่ยวเฉิน

ผู้ที่อยู่ตรงกลางน่าจะเป็นผู้นําของพวกเขา เขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด เพียงแค่เหลียวมองก็ทําให้เซียวเฉินหวาดกลัวจนไม่อาจจะจินตนาการ

เมื่อคนผู้นั้นเห็นใบหน้าอันนิ่งสงบของเซียวเฉิน,เขาเผยรอยยิ้มออกมาที่ให้หน้ากาก เขากล่าว”เย่เฉินแห่งยอดขเฉิงหยุนใช่หรือไม่? ไม่มีใครบอกเจ้านี้ว่าอย่าได้เหิมเกริมเกินไปนักในทุ่งหญ้ามารอสูร?” “ส่งห้าแสนหินวิญญาณระดับต่ํา และห้าพันหินวิญญาณระดับกลางมาและเจ้ากลับออกไปได้ เจ้าไม่มีสิทธิที่จะมาเหยียบที่ทุ่งหญ้า มารอสูรแห่งนี้อีก” คนที่เป็นผู้นํากล่าว

เซียวเฉินสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว,ข้อเสนอนี้มันมากเกินไปและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมรับ เขากล่าวเสียงมืดมัว”หากข้าไม่?”

ผู้นําไม่แปลกใจกับคําตอบของเซี่ยวเฉิน เขายิ้มและกล่าว”เจ้าพบกับจินต้าเป่าแล้วใช่หรือไม่? ตอนแรกเขาก็ตอบกลับเช่นเดียวกับเจ้า”

เช่นนั้นเจ้าหมูได้ถูกคนกลุ่มนี้หมายหัว ทุ่งหญ้ามารอสูรมีเบื้องหลังลึกยิ่งกว่าที่เซียวเฉินจินตนาการ ไม่สงสัยว่าทําไมตอนที่สามตระกูลชั้นสูงผนึก กําลังกันมากวาดล้างกองโจร,พวกเขาถึงได้กลับไปมือเปล่า

เมื่อคนผู้นั้นเห็นเซียวเฉินยังคงนิ่งเงียบ,เขากล่าว”เจ้าแตกต่างกับเจ้าหมูนั้น เจ้ายังไม่ได้ทําอะไรเหิมเกริ่มเกินไปนัก ไม่เป็นไรที่เจ้าจะไม่ต้องจ่ายหินวิญญาณ เจ้าจะต้องทนรับฝ่ามือของข้าให้ได้สามฝ่ามือ ข้าจะให้หนึ่งแสนหินวิญญาณระดับน้ําและหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลางกับเจ้า หลังจากนั้น อย่างไรก็ตามเหมือนก่อนหน้านี้เจ้าไม่มีสิทธิเข้ามาเหยียบที่ทุ่งหญ้ามารอสูรอีกต่อไป”

เซียวเฉินไม่เร่งรีบตอบกลับ นอกจากเขาจะไม่ต้องจ่ายหินวิญญาณ,เขายังได้รับกลับมาอีก อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือจากระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุดไม่ง่ายที่จะรับมือ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่เขาจะบาดเจ็บหนัก

น่าเสียดาย,สถานการณ์ตอนนี้อยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม เซียวเฉินไม่มีไพ่ตายให้หยิบออกมาใช้มากนัก หากเขาเดาไม่ผิดฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงตัวตนสานุศิษย์ศาบากระบี่สวรรค์ของเขา ดังนั้น พวกเขาจะไม่เร่งรีบลงมือ

มิฉะนั้น,พวกเขาคงไม่เสียเวลามากมายมาคุยกับเขา เขาน่าจะพบจุดจบเดียวกับจินต้าเป้า

“ไม่ตอบอะไร? เช่นนั้น,ข้าจะถือว่าเจ้าเลือกข้อเสนอที่สอง ชายชุดดํากล่าวอย่างเฉยเมย
ในจังหวะที่เขาพูดจบลง,ชายชุดดําก็ได้ลงจาก หลังม้าเข้าประชิดตัวเซียวเฉินแล้ว เขาส่งฝ่ามือเข้าใส่เซียวเฉิน,มีเสียงกรดชิดดังขึ้นและอากาศแยกออกราวกับสายน้ํา
สีหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นจริงจัง,เขาไม่มีทางเลือกอื่น สลักร่างพยัคฆ์มังกร
หมุนเวียนอย่างรวดเร็วและกระดูกในร่างของเขาส่งเสียงกราว ภาพพยัคฆ์ร้ายปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา

เกิดเสียงดังขึ้นพร้อมกับพยัคฆ์ดุร้ายผสานเข้าไปในแขนของเขาที่ส่งบินไปหาฝ่ามือของชายชุดดํา เซียวเฉินไม่ได้อ้อมแรงและมันมีพลังกว่าเก้าพันกิโลกรัม

“ปัง!”

ฝ่ามือและกําปั้นปะทะกันส่งเสียงดังออกมา คลี่นกระแทกที่มองไม่เห็นขยายไปทั่วทุกทิศทาง,ทิ้งเป็นระลอกคลื่นไปในอากาศ

พลังมหาศาลเข้าไปในร่างของเซียวเฉินผ่านทางแขนของเขา เซียวเฉินรู้สึกได้ว่าอวัยวะภายในของเขาปั่นป่วนขณะที่พลังฉีและโลหิตของเขาพลุ่งพล่าน เขาสามารถรู้สึกเลือดที่ขึ้นมาถึงลําคอ

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

Score 10
Status: Completed

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา

ผู้แต่ง : 月如火

Options

not work with dark mode
Reset