I Don’t Want To Defy The Heavens 90 ข้าจริงจัง

ตอนที่ 90 ข้าจริงจัง

นิยาย | Don’t Want To Defy The Heavens

DTH ตอนที่ 90 ข้าจริงจัง

“ฟานเอ๋อร์ เจ้ากําลังคุยเรื่องอะไรกัน อยู่?” หลิน วนยื่ถาม
หลินฟานกล่าว “ก็ไม่มีอะไรมาก ท่านแม่ยายถามข้าเกี่ยวกับสิ่งที่ข้ามักจะทํา และข้าก็แค่ตอบนางเรื่องงานอดิเรกตามปกติของข้า”

หลิน วานยี่พอใจมาก

เป็นเรื่องดีที่ลูกชายของเขาได้คุยกับแม่ยาย อย่างไรก็ตามเขาต้องช่วยให้ลูกชายของเขาได้แต่งงานภายในเวลาที่มีอยู่จํากัดนี้

ถ้าเขารู้ว่าหลิน ฟานพูดอะไรกับหลี่หมิง ไม่ว่าจะเรื่องทุบตีหรือฆ่าคน เขา คงจับหลิน ฟานลากไปกับพื้นอย่างแน่นอน

“ดีแล้ว ทําความรู้จักกันเอาไว้ ยังไงซะ หลังจากนี้คงเจอกันบ่อยมากขึ้น” หลินวานยกล่าว

ห้องรับแขกตกอยู่ในความเงียบ

หลี่ หมิงทําได้เพียงยิ้มอย่างไม่เต็มใจ นางไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับลูกเขยคนนี้ที่ ซึ่งเดิมควรจะถูกตัดสินแล้วอย่างไรดี

มันมีเสียงในใจกําลังบอกนางตลอดเวลาไม่จริง

ทั้งหมดนี้ต้องไม่ใช่เรื่องจริง ลูกเขยคนนี้แค่ล้อนางเล่นเท่านั้น

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้

หลิน วานยี่จะปล่อยให้บรรยากาศแบบนี้ดําเนินต่อไปได้อย่างไร? มันต้องคึกคักสิถึงจะถูก ดังนั้นเขาจึงให้เจ้าเด็กไม่เอาไหนพาภรรยาและแม่ของนางไปเดินดูรอบๆ

หลิน ฟานต้องการออกจากที่นี่มานานแล้ว

เขารู้สึกว่าการอยู่ที่นี่มันน่าเบื่อเกินไปโคตรน่าเบื่อ

ไม่รู้ว่าทําไมจู่พ่อของเขาถึงอยากให้ เขาพาพวกนางไปเดินดูรอบๆ? หรือเขาต้องการเสดงด้านดีของตระกูลหลิน? มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่

แต่ยังไงซะเขาก็ไม่มีทางเลือก เนื่องจากพ่อของเขาพูดอย่างนั้น เขาจึงต้องไว้หน้าเขา

ภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิน

หลี่ หมิงมองดูสภาพแวดล้อมของ คฤหาสน์ มันค่อนข้างดี แต่เมื่อนํามา เทียบกับของตระกูลหลี่แล้วมันยังมีช่อง ว่างขนาดใหญ่ แน่นอนว่าสําหรับสถาน ที่ห่างไกลอย่างเมืองโหย่ว คฤหาสน์ ของตระกูลหลินหลังนี้นับว่าดีมากแล้ว

“ท่านแม่ยาย เมื่อเมื่อเทียบกับตระกูล ของท่านแล้ว คฤหาสน์หลังนี้คงจะเล็ก เกินไปและไม่มีอะไรให้ดูนัก” หลิน ฟานกล่าว

เขาบอกใบ้ไปหลายครั้งแล้ว ว่าได้โปร ดพาลูกสาวของท่านกลับไปเสียที

คฤหาสน์ตระกูลหลินมันอันตรายมาก

การอยู่ที่นี่มีแต่จะทําให้ทุกข์เสียเปล่าๆ ดังนั้นรีบไปซะ

ระหว่างเดินต่อไปไม่นานพวกเขาก็มาถึงลานด้านหลัง

นี่เป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ เขาแค่อยากให้หลี่หมิงเห็นความจริงที่อยู่ลานด้านหลัง

“ท่านแม่ยาย ข้าอาศัยอยู่ที่นี่ เดี๋ยวข้าจะพาท่านไปดูของเล่นของข้า” หลินฟานกล่าวอย่างใจเย็นและเดินนําไป

มันมีเสาไม่สามต้นตั้งอยู่ตรงนั้น

ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้รับความโกรธเลยแม้แต่แต้มเดียว เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ชายสองคนที่เหลือไม่คิดจะโกรธกันบ้างเลยรึไง?

หลี่ หมิงมองไปยังเสาไม้ที่ร่างของชายทั้งสามถูกผูกติดไว้

ซุยหลานหดร่างของนางด้วยความกลัว นางไม่กล้าเดินเข้าไป

โกวชิยืนอยู่หน้าเสาด้วยท่าทางซับซ้อน เมื่อเห็นนายน้อยเขาก็รีบวิ่งมาหา ก่อนจะกล่าว “นายน้อยพวกเขาตายแล้ว”

“ใครตาย?” หลินฟานขมวดคิ้วและถามด้วยสังหรณ์ไม่ดี

โกวชิไม่พูด แต่ชี้ไปทางเสา สิ่งที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจน พวกเขาตายหมดแล้ว

หลิน ฟานรู้สึกไม่ดี ดังนั้นเขาจึงเดินไปข้างหน้าก่อนจะตกตะลึง เขาเอามือปิดปากแล้วหายใจเข้าลึกๆ หัวใจของเขาเต้นรัว
เมื่อคืนนี้พวกเขายังมีชีวิตอยู่

ทําไมตอนนี้พวกเขาถึงตายแบบนั้น?

เขายังไม่ทันได้รีดตวามโกรธออกมามากนัก แล้วพวกเขาก็ดันมาตายจากไปก่อนใครทํา?

เขาพบว่าคอของชายทั้งสองมีรอยมือยุบลงไป ดูเหมือนคอพวกเขาจะถูกบด

เป็นพ่อของเขางั้นเหรอ?

ความเป็นไปได้ที่เขาจะทํานั้นสูงมาก

ยังไงซะในที่นี้มันก็ไม่มีใครอื่นที่กล้าทําลายของเล่นของเขาตาม
หลิน ฟานก้าวไปข้างหน้าและตบหน้าพวกเขา หัวของพวกเขาชยับไปมาตามแรงตบ มันไม่มีแรงต้านเลยแม้แต่นิดแดียว
“พวกเขาตายง่ายเกินไป” หลินฟานกล่าว

ม่านตาของหลี่หมิงหดตัว

มันเป็นความจริง

เขาไม่ได้โกหก คนพวกนั้นตายจริงๆ

“ท่านแม่ยาย นี่ท่านกําลังกลัวข้างั้นหรือ?” หลินฟานหันกลับมาถามด้วยรอยยิ้ม

การแสดงออกของเขาค่อนข้างสงบ แต่นั่นกลับทําให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกหนาวไปจนถึงกระดูก

“ไม่….ไม่” หลี่หมิงจะไม่กลัวได้อย่างไร นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กที่กําลังจะมาเป็นลูกเขยของนางคนนี้จะผิดปกติมากเสียจนคิดว่าการฆ่าเป็นเรื่องน่ายินดี

หากจอเซียวติดตามเขา อนาคตของนางจะเป็นอย่างไร?

“ลูกพี่ลูกน้อง เราควรฝังพวกเขาไหม?” โจวเชียงเหมาถาม

หลิน ฟานกล่าว “ลากพวกมันออกไปโยนให้สุนัขกิน”

โจว เชียงเหมาพบว่ามันแปลก ตระกูลหลินของเราไม่มีสุนัขสักหน่อย แล้วจะไปให้อาหารมันได้ยังไง? แต่ไม่นานเขาก็พบว่าสายตาของลูกพี่ลูกน้องของเขากําลังส่งซิก

เขาเข้าใจสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาจะสื่อในทันที “ร่างของพวกเขาใหญ่เกินไป สงสัยข้าคงต้องแยกส่วนพวกเขา ก่อนเอาไปให้สุนัข แต่รสชาติคงไม่ดีน

หลิน ฟานกล่าว “นั่นยุ่งยากเกินไป แค่เอาไปบดให้เข้ากันและนําพวกเขาไปทําไส้กรอกก็พอแล้ว”

อีก!

ใบหน้าของหลี่หมิงซีดเผือด นางหันศีรษะไปด้านข้างราวกับกําลังจะอาเจียน

“เกิดอะไรขึ้นท่านแม่ยาย? ท่านไม่สบายรึไม่? ท่านต้องการพักสักหน่อยไหม?” หลินฟานทําที่เหมือนห่วงใย ขณะที่ถามออกมา

“งานแต่งของข้ากับเซียวเอ๋อร์กําลังจะถูกจัดขึ้นในเร็วนี้ ถ้าท่านเป็นอะไรไปใครจะมาเป็นประธานในงานแต่ง?”
หลี่จือเซียวกําหมัดแน่น นางกัดฟันจนเกิดเสียง นางรู้ว่าเขากําลังทําให้แม่ของนางกลัว

น่ารังเกียจนัก

ซุยหลานก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก ใบหน้าของนางขาวมากจนเกือบจะโปร่งใส

ให้อาหารสุนัข!

บด!

ทําไส้กรอก!

เมื่อคําเหล่านี้มาอยู่รวมกันมันจะเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก!

“ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไร ข้าว่าจะไปพักสักหน่อย” หลี่หมิงรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย และไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป “เซียวเอ๋อร์ ลูกช่วยพาแม่กลับไปหน่อย”

“ค่ะ ท่านแม่”

เมื่อหลี่คือเซียวจากไป นางก็จ้องไปยังหลินฟานด้วยอารมณ์ที่นางเก็บไว้เป็นเวลานานและใกล้จะระเบิดเต็มที่

มันไม่มีที่ให้นางระบายออกมา

“หึหึ” หลินฟานยิ้ม ในเมื่อเจ้าอยากจะเล่นนัก งั้นข้าจะทําให้เจ้าพังทลาย เขาคิดจะทําตัวราวกับอยู่ในเส้นทางแห่งความวิปริตนี้ต่อไปจนกว่าจะกําจัดผู้หญิงนางนี้ออกไปได้

เมื่อมองไปยังศพทั้งสามหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทําไมถึงต้องฆ่าพวกเขาด้วย?

หรือว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถปล่อยให้เขาจัดการด้วยตัวเองได้?

เฮ้อ!

สวรรค์คงไม่ชอบเขา และโชคของเขาก็แย่เล็กน้อย

เขารู้สึกเสมอว่าพ่อของเขาต้องการให้เขาแต่งงานราวกับเขากําลังวางแผนบางอย่างไว้กลางคืน

ใบหน้าของหลี่ หมิงดูดีขึ้นมาก มันไม่ ซีดเหมือนเมื่อตอนกลางวัน “สามี เราไม่สามารถปล่อยให้เซียวเอ๋อร์แต่งงานกับเขาได้”

ในฐานะแม่ นางจะไม่ผลักลูกสาวของนางลงไปในกองเพลิง

ยิ่งเห็นฉากวันนี้นางยิ่งใจสั่น มันทั้งสยองและโหดเหี้ยม มันมีคนที่โหดร้ายขนาดนี้อยู่บนโลกได้อย่างไร?

“ภรรยา ไม่ใช่ว่าเป็นเจ้างั้นหรือที่ต้องการหาสามีให้กับเซียวเอ๋อร์มาตลอด? แล้วทําไมตอนนี้เจ้าถึงไม่เห็นด้วย?” หัวหน้าตระกูลหลี่ถาม

หลี่หมิงส่ายหัว “ถ้าเขาปกติ แม้ว่าเขาจะไม่มีดีอะไรเลยข้าก็คงไม่ติดใจอะไร แต่วันนี้ฯ

นางไม่รู้จะพูดอย่างไร

แม้กระทั่งตอนนี้ภาพนั้นก็ยังคงติดตาของนางอยู่

ก่อนหน้านี้ได้มีภิกษุรูปหนึ่งช่วยชีวิตนางไว้ ต่อมามันจึงทําให้นางกลายเป็นชาวพุทธที่เคร่งศาสนา ดังนั้นจะให้นางทนเห็นฉากที่เต็มไปด้วยเลือดเช่นนี้ได้อย่างไร?

“เฮ้อ” หัวหน้าตระกูลหลื่ถอนหายใจ “ภรรยา มันมีบางอย่างที่เจ้าไม่รู้ ความจริงแล้วเรื่องของเซียวเอ๋อร์นั้นถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเรื่องราชาหวี่ทง ดูเหมือนว่าเมื่อเร็วๆนี้เขาจะพยายามดึงตัวหลินวานไปเข้าร่วมด้วย แต่เขาปฏิเสธและตั้งตัวเป็นศัตรู หากข้าเดาไม่ผิด เขาคงจะส่งคนมาเยี่ยมเราที่เมืองหลงด้วยแน่ ข้าไม่รู้เลยว่าควรจะทําอย่างไรต่อไปดี”

“สามี หากเราตกลงคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

หัวหน้าตระกูลหลี่ส่ายหัว “นั่นจะถือว่า เรากบฎส่งผลให้ถูกประหารเก้าชั่วโคตร แต่ถ้าเราไม่เห็นด้วยผลที่ตามมาคงไม่ดีกว่ากันมากนัก

“แล้วหัวหน้าตระกูลหลินล่ะ เขาว่าอย่างไรบ้าง?” หลี่หมิงไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด แต่นางสัมผัสได้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจริงจัง

“เขา?” หัวหน้าตระกูลหลี่กล่าวอย่าง ช่วยไม่ได้ “จนถึงตอนนี้เขาเอาแต่ถาม ข้าว่าข้าเห็นด้วยเรื่องแต่งงานรีไม่ ส่วนเรื่องราชาหว่ทงระเหรอ? มันไม่ได้อยู่ในหัวของเขาเลยแม้แต่น้อย”

เขาหมดคําพูด

ความคิดของพี่หลินเป็นสิ่งที่คนธรรมดายากจะอ่าน ราชาหรูทงส่งคนมาหาเขา หากเขาไม่เห็นด้วยเขาก็ควรจะปล่อยไป แต่ทําไมเขาถึงลงเอยด้วยการฆ่าพวกเขา? ทําให้ตอนนี้มันไม่เหลือที่ว่าสําหรับเจรจา

ณ ลานด้านหลัง ภายในบ้านของหลินฟาน

ขณะนี้หลิน ฟานกําลังตรวจดูระบบสนับสนุนขนาดเล็กของเขา

ร่างกาย : 150 (เส้นทางต่อสู้ขั้นห้า)
กําลังภายใน : 150 (เส้นทางต่อสู้ขั้นห้า)

เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นสาม)
เทคนิคบ่มเพาะ : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (กลับสู่ความจริง) เทคนิคควบคุมแมลง (พื้นฐาน) กายราชันที่มิอาจสั่นคลอน (ยังไม่ได้เรียน) ทักษะดาบสายฟ้า สี่รูปแบบ (รอบรู้) หัตถ์เศษหยกรวมศูนย์ (ยังไม่ได้เรียน)

แต้มความโกรธ : 6,238

ในช่วงสั้นๆที่ผ่านมาเขาได้สะสมแต้ม ความโกรธเอาไว้มากมาย
ทั้งหมดนี้เขาต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อแลกมันมา

ชีวิตในแบบนายน้อยของตระกูลที่ร่ํารวยนั้นจะต้องขี้เกียจ แต่ดูเหมือนตัวเขา ในตอนนี้จะห่างไกลจากจุดหมายที่เขาวางไว้มากนัก

เพิ่มแต้มลงไป

ไม่นานร่างกายและกําลังภายในของเขาก็เพิ่มขึ้น

เขาไม่ได้ต้องการเปิดเผยระดับฝึกฝนของเขาต่อหน้าผู้อื่น และอยากจะเป็นแค่นายน้อยผู้ร่ํารวย

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีไอโง่สักคนมาพยายามเขย่าตําแหน่งของเขาในฐานะนายน้อยจากตระกูลที่ร่ํารวย เขาก็ไม่รังเกียจเลยที่จะเป่าหัวสุนัขของมันผู้นั้น

ร่างกาย : 180 (เส้นทางต่อสู้ขั้นหก)

กําลังภายใน : 180 (เส้นทางต่อสู้ขั้นหก)

ตอนนี้ทั้งร่างกายและกําลังภายในของเขามาถึงเส้นทางต่อสู้ขั้นหกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยระดับปัจจุบันเขาสามารถเทียบได้กับคนที่ฝึกมานับสิบปีและที่กล่าวถึงนี้เป็นกรณีที่มีพรสวรรค์ หากไม่มีพรสวรรค์เกรงว่ามันคงเป็นไม่ได้ แม้จะใช้เวลาสองสามทศวรรษก็ตาม

ตึก ตึก!

ทันใดนั้นหลิน ฟานก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น ความหนาแน่นของกําลังภายในที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นสูงเกินกว่าที่ผู้บ่มเพาะระดับเส้นทางต่อสู้ขั้น5จะเทียบได้

นี่ก็นานมากแล้วที่เขาไม่ได้สู้กับใคร

ทําให้ตอนนี้เขาจึงไม่รู้ว่าเขานั้นแข็งแกร่งขนาดไหน

ทําไมมือสังหารคนนั้นถึงไม่มาสักที?

มันช่างน่าเสียดายจริงๆ

ก่อนหน้านี้พ่อเคยบอกกับเขาว่ามือสังหารคนนั้นเป็นอดีตศัตรูของเขา แต่ในความเห็นของเขา จากประสบการณ์เมื่อไม่นานมานี้ มีโอกาสสูงที่มือสังหารคนนั้นจะรับบทโดยพ่อของเขาเอง

“ข้าจะค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นอย่างช้าๆ และเมื่อนายน้อยผู้นี้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ ระดับ12เมื่อไหร่ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะสู้กับข้าอย่างไร”
เขาถูกบังคับ

เขาไม่มีทางเลือกและทําได้เพียงลงไปเล่นด้วยเท่านั้น

บางที่ระบบสนับสนุนขนาดเล็กอาจรู้ว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมการฝึกฝนถึงเป็นเรื่องง่าย

Options

not work with dark mode
Reset