Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตาบทที่ 118 เมืองเทียนเป่ย (1)

บทที่ 118 เมืองเทียนเป่ย (1)

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ยืน​ดู​อยู่​ด้าน​ข้าง​ และ​ทันใดนั้น​เธอ​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงกลิ่นอาย​เย็นยะเยือก​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง โดยเฉพาะ​จาก​ขา​ขวา​ที่​เขา​ใช้เหยียบ​ร่าง​ของ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ เป็น​ความรู้สึก​ที่​ทำให้​หนาวสั่น​ไป​ถึงกระดูกสันหลัง​ หลังจากนั้น​ไม่นาน​ บรรยากาศ​รอบ​ๆ ตัว​ของ​พวกเขา​ก็​ดูเหมือน​จะแปรปรวน​ จักรพรรดิ​สีเงิน​ที่​แต่เดิม​มีสีขาว​เงิน​ก็​ กระพริบ​วูบวาบ​เปลี่ยนสี​สลับ​ไปมา​อย่าง​รวดเร็ว​

จักรพรรดิ​สีเงิน​ที่​หมดสติ​รู้สึกตัว​ตื่นขึ้น​มาทันที​ แต่​มัน​ก็​ไม่มีพลัง​เหลือ​จะต่อต้าน​ได้​แล้ว​ นก​ปีศาจ​ทำได้​เพียง​สั่นสะท้าน​อย่าง​รุนแรง​ขณะที่​แสง 3 ดวง​กำลัง​หมุน​วน​เกี่ยวพัน​อยู่​รอบตัว​ของ​มัน​ สีดำ​ สีเทา​ และ​สีน้ำเงิน​ กระทั่ง​มัน​สามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​ชีวิต​ที่​ถูก​สูบ​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

เดิมที​มัน​ก็​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​อยู่​ก่อนหน้า​ และ​การ​โจมตี​ครั้ง​ใหม่​นี้​ก็​ทำให้​มัน​รู้​ว่า​ชีวิต​ตัวเอง​เกือบจะ​มาถึงจุดสิ้นสุด​แล้ว​

ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​สิ่งที่​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​ใช้กับ​มัน​คือ​สายฟ้า​เทพเจ้า​อสูร​มืด​รวม​กับ​ทักษะ​ก่อกวน​เวลา​ที่​เขา​เคย​ใช้ก่อนหน้านี้​ นั่น​จึงเป็นผล​ให้​พิษ​ไตร​ธาตุ​หลั่งไหล​เข้าสู่​ร่าง​ของ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ทันที​

ไม่ว่า​จะเป็น​สิ่งมีชีวิต​ใด​ เมื่อ​พบ​กับ​ภัย​คุกคาม​ระดับ​ถึงชีวิต​ มัน​ก็​มักจะ​ต้อง​รู้สึก​ตื่นตระหนก​แม้ว่า​ตัวเอง​จะทรงพลัง​แค่​ไหน​ก็ตาม​ จักรพรรดิ​สีเงิน​เอง​ก็​ไม่ใช่ข้อยกเว้น​ โดยเฉพาะ​พิษ​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​เช่นนี้​ มัน​เป็น​สิ่งแปลกประหลาด​อย่าง​ที่​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​ เศษเสี้ยว​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ที่​เหลือ​ของ​มัน​อยู่​ใน​ระดับ​ต่ำ​มาก​ และ​ไม่ว่า​จะพยายาม​อย่างไร​ก็​ไม่มีผลต่อ​พิษ​นั้น​เลย​

พิษ​ไตร​ธาตุ​ของ​สายฟ้า​เทพเจ้า​อสูร​มืด​นั้น​ยาก​ที่​ใคร​จะต่อกร​ได้​อย่าง​แท้จริง​ กระทั่ง​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ที่​แข็งแกร่ง​ก็​ยัง​ไม่อาจ​บังคับ​ขับไล่​มัน​ออก​ไป​ได้​จาก​ร่างกาย​ผู้​ต้อง​พิษ​ได้​ ดังนั้น​ก่อนหน้านี้​ แม้แต่​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​ราชา​อย่าง​หลง​หยิน​ก็​ยัง​หมดปัญญา​จะขจัด​พิษร้าย​นี้​เช่นกัน​

โจว​เหว่​ย​ชิงแสยะ​ยิ้ม​และ​กด​เท้า​ลง​ไป​ที่​จักรพรรดิ​สีเงิน​ให้​หนัก​ขึ้น​ในขณะที่​กล่าวว่า​ “เจ้าตัว​น้อย​ ตอนนี้​เจ้าคง​สามารถ​สัมผัส​ภัย​คุกคาม​ถึงชีวิต​ได้​แล้ว​ หาก​เจ้าต้องการ​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​ก็​ให้​ร่วมมือ​กับ​บิดา​เสีย​ดี​ๆ เมื่อ​ข้า​เริ่ม​ผนึก​เจ้า เจ้าห้าม​ฝืน​ต่อต้าน​ มิฉะนั้น​เจ้าก็​รอ​ความตาย​มาเยือน​ได้​เลย​ พิษ​ไตร​ธาตุ​ของ​ข้า​นี้​…เจ้าคงจะ​รู้สึก​ไม่ค่อย​ดี​ใช่มั้ย​?”

นี่​ไม่ใช่ครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​ลอง​ใช้พิษ​ไตร​ธาตุ​ และ​มัน​ไม่เพียงแต่​จะให้​ผลลัพธ์​ถึงแก่ชีวิต​ ทว่า​ก็​ยัง​กัดกร่อน​ภายใน​อย่าง​ช้าๆ และ​ทำให้​ผู้​ต้อง​พิษ​เจ็บปวด​ทุกข์​ทรมาณ​มาก​อีกด้วย​ ก่อนหน้านี้​กระทั่ง​ปีศาจ​น้อย​เซิน​ก็​ไม่อาจจะ​ต้านทาน​ไหว​ แม้จะมียอด​ฝีมือ​ระดับ​ราชา​อย่าง​หลง​หยิน​คอย​ช่วย​บรรเทา​ความเจ็บปวด​ด้วย​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ของ​เขา​ก็ตาม​ น่าเสียดาย​ จักรพรรดิ​สีเงิน​นี้​ไม่ได้รับ​ความช่วยเหลือ​เช่นนั้น​

บางครั้ง​ความตาย​ไม่ใช่สิ่งที่​น่ากลัว​ที่สุด​ ทว่า​เป็น​ความเจ็บปวด​ที่​ไม่สามารถ​พรรณนา​ได้​ต่างหาก​ มัน​สามารถ​ทำให้​ใครๆ​ ล้วน​อยาก​ร้องขอ​ความตาย​ทว่า​กลับ​ตาย​ไม่ได้​…และ​นั่น​…ก็​คือ​สิ่งที่​น่ากลัว​ที่สุด​

ในขณะที่​เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ไม่ลืม​ที่จะ​วาง​มือบน​ร่าง​ของ​จักรพรรดิ​สีเงิน​และ​กลืน​กิน​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ของ​มัน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ หลังจากนั้น​ไม่นาน​ เขา​ก็​กัดฟัน​บีบ​เลือด​ออกมา​หนึ่ง​หยด​ก่อนที่จะ​เริ่ม​ร่าย​พิธี​เลือด​ตราประทับ​ธาตุ​มืด​ลง​บน​ตัว​มัน​

ภายใต้​สถานะ​ปีศาจ​กลายร่าง​ โจว​เหว่​ย​ชิงสามารถ​ปลดปล่อย​กลิ่นอาย​ของ​พยัคฆ์​เทพ​อสูร​มืด​ได้​อย่าง​แท้จริง​ โดยเฉพาะ​จาก​ขา​ขวา​ปีศาจ​ของ​เขา​ การ​ใช้ขา​ขวา​เหยียบ​จักรพรรดิ​สีเงิน​จึงไม่ได้​เป็น​เพียง​การปลดปล่อย​สายฟ้า​เทพเจ้า​อสูร​มืด​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ทำ​เพื่อให้​จักรพรรดิ​สีเงิน​สัมผัส​ถึงกลิ่นอาย​เหล่านั้น​ได้​ด้ว​

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​และ​มองดู​เหตุการณ์​ทั้งหมด​นั้น​ เดิมที​เธอ​คิด​ว่า​ตัวเอง​คุ้นเคย​กับ​ความสามารถ​ทั้งหมด​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงเป็น​อย่าง​ดี​ แต่​ตอนนี้​เมื่อ​ได้​เห็น​เด็กหนุ่ม​กำลัง​ข่มขู่​จักรพรรดิ​สีเงิน​ เธอ​ก็​รู้สึก​ว่า​อารมณ์​ของ​ตัวเอง​กำลัง​ผสม​ปนเป​กัน​ไป​หมด​ ในแง่​หนึ่ง​ เฟยเอ๋อร์พบ​ว่า​การกระทำ​ที่​ไร้ประโยชน์​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงเป็นเรื่อง​ที่​น่า​ตลกขบขัน​มาก​ แต่​ในทางกลับกัน​ เธอ​ก็​มีความรู้สึก​แปลก​ๆ ราวกับว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​ทำ​อะไร​บางอย่าง​กับ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ เป็น​ความสามารถพิเศษ​ที่​เขา​ซุกซ่อน​เอาไว้​และ​เธอ​ก็​ไม่เคย​รู้​มาก่อน​

“หยุด​ฝันกลางวัน​ได้​แล้ว​ ข่มขู่​จักรพรรดิ​สีเงิน​งั้น​รึ​…เจ้าถึงกับ​คิด​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​ เจ้าตัว​จ้อย​นี่​ไม่ใช่แค่​ดุร้าย​ แต่​มัน​ยัง​ดื้อรั้น​มาก​ หาก​เจ้าไม่มีพลัง​ที่​เหนือกว่า​มัน​ เมื่อ​บังคับ​ปิดผนึก​ลง​ไป​ เจ้าก็​จะไม่มีวัน​ประสบความสำเร็จ​ รอ​ก่อน​เถอะ​ ไม่ช้าเจ้าก็​จะได้​กลายเป็น​ม้าของ​ข้า​แน่​!”

แม้ว่า​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​จะมาจาก​วัง​สวรรค์​ไพศาล​ แต่​ถึงอย่างไร​เธอ​ก็​ไม่ใช่อสูร​สวรรค์​และ​ไม่อาจ​สัมผัส​ได้​ถึงแรงกดดัน​อัน​ทรงพลัง​และ​รุนแรง​ซึ่งมีเพียง​อสูร​สวรรค์​เท่านั้น​ที่​สามารถ​รับรู้​ได้​ ถ้าจักรพรรดิ​สีเงิน​ตัว​นี้​อยู่​ใน​ระดับ​ราชา​ มัน​ก็​คงจะ​ไม่หวั่นไหว​ต่อ​แรงกดดัน​ในเวลานี้​ น่าเสียดาย​ที่​มัน​ยัง​วิวัฒน์​ไม่สำเร็จ​

สายเลือด​ของ​พยัคฆ์​เทพ​อสูร​มืด​นั้น​ทรงพลัง​ไม่น้อย​ไป​กว่า​พยัคฆ์​วิญญาณ​สวรรค์​ศักดิ์สิทธิ์​ซึ่งเป็นหนึ่ง​ใน​สายเลือด​อันดับ​ต้น​ๆของ​เหล่า​อสูร​สวรรค์​ ใน​มุมมอง​ของ​อสูร​สวรรค์​เช่น​จักรพรรดิ​สีเงิน​ตัว​น้อย​นี้​ มัน​จะยอมจำนน​ต่อ​อสูร​สวรรค์​ที่​ทรงพลัง​เท่านั้น​ สัตว์​ที่​มีสายเลือด​ยิ่งใหญ่​กว่า​ตนเอง​ ไม่ใช่มนุษย์​ทั่วๆ ไป​

สุดท้าย​มัน​ก็​หยุด​ดิ้นรน​ พิธี​เลือด​ตราประทับ​ธาตุ​มืด​ผนึก​ลง​บน​หน้าผาก​ของ​มัน​ แน่นิ่ง​อยู่​ภายใต้​หยด​เลือด​ของ​ โจว​เหว่​ย​ชิง ร่างกาย​ของ​มัน​เริ่ม​สั่นเทา​อย่าง​รุนแรง​อีกครั้ง​ ราวกับว่า​ต้องการ​จะดิ้นรน​ขัดขืน​แต่​ก็​ไม่กล้า​ทำ​เช่นนั้น​ ตา​ดวง​เล็ก​ๆ ของ​มัน​คล้าย​จะเหลือบมอง​เข้าไป​ใน​ดวงตา​แดงก่ำ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง

ณ เวลานี้​ ใน​สายตา​ของ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ใช่มนุษย์​อีกต่อไป​แล้ว​ ตาม​กฎ​ความอยู่รอด​ใน​โลก​อสูร​สวรรค์​ ผู้อ่อนแอ​กว่า​ย่อม​ตกเป็น​เหยื่อ​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ เมื่อ​รวม​กับ​พิษ​ไตร​ธาตุ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ความทุกข์ทรมาน​ที่​เกิดขึ้น​ ในที่สุด​สิ่งนี้​ก็​ทำให้​มัน​ยอมจำนน​ ตาม​หลัก​เหตุผล​ทั่วๆ ไป​แล้ว​ ย่อม​ไม่มีใคร​อยาก​จะยอม​สละ​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​

รัศมี​กดดัน​จาก​สายเลือด​จาก​พยัคฆ์​เทพ​อสูร​มืด​เป็น​ระดับ​ที่​สูงส่งถึงขั้น​ทำให้​จักรพรรดิ​สีเงิน​ต้อง​เงยหน้า​มอง​ขึ้นไป​ แม้ว่า​มัน​จะรู้​ว่า​ระดับ​พลัง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงยังอยู่​ห่าง​จาก​ตัว​มัน​มาก​ก็ตาม​ ก็​เหมือนกับ​ตัว​มัน​เอง​ที่​ยัง​ไม่ได้​ทะลุ​ไป​ถึงระดับ​ราชา​

อย่างไรก็ตาม​ ความ​กด​ข่ม​ทาง​สายเลือด​ก็​มีความสำคัญ​อย่างยิ่ง​ต่อ​โจว​เหว่​ย​ชิง และ​อย่าง​น้อย​ก็​ทำให้​มัน​ต้อง​ก้มหน้า​ยอมรับ​ตัวตน​ของ​เด็กหนุ่ม​ตรงหน้า​ หาก​เปลี่ยนเป็น​มนุษย์​คนใด​ก็ตาม​ทำ​เช่นนี้​ ถ้าไม่มีระดับ​พลัง​ที่​แตก​ต่างกัน​ถึงขั้น​ฟ้ากับ​เหว​ มัน​จะไม่เลือก​ยอมจำนน​แน่นอน​ ไม่ว่า​จะต้อง​ทน​ทรมาน​หรือ​ตาย​ก็ตาม​

ในที่สุด​พลัง​ปราณ​สวรรค์​เศษเสี้ยว​สุดท้าย​ก็​ถูกระบาย​ออก​ไป​พร้อมกับ​พิษ​ 3 ธาตุ​ที่​แสน​ทรมาน​ นก​ปีศาจ​ยัง​คงตัว​สั่นเทา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ทว่า​ตอนนี้​อาการ​ก็​บรรเทา​ลง​อย่าง​มาก​เนื่องจาก​พิษ​ทั้งหมด​ได้​ถูก​ขับ​ออก​ไป​แล้ว​ สัญลักษณ์​สีแดงเข้ม​บน​หน้าผาก​สว่าง​วาบ​หนึ่ง​ครั้ง​ จากนั้น​ก็​หาย​ลับ​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​มัน​

ศีรษะ​ของ​มัน​ร่วงหล่น​ลง​ไป​ด้าน​ข้าง​ และ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ก็​หมดสติ​กลับ​เข้าสู่​ห้วง​นิทรา​ โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ได้​ใส่เจ้าตัว​จ้อย​ลง​ไป​ใน​แหวน​มิติ​ของ​เขา​ ในทางตรงกันข้าม​ เด็กหนุ่ม​กลับ​กอด​มัน​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ด้วย​ใบ​หน้าที่​ดู​อ่อนโยน​

เมื่อ​สัญลักษณ์​สีแดงเข้ม​กระพริบ​บน​หน้าผาก​ของ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ตกตะลึง​ไป​โดยสิ้นเชิง​ เธอ​แทบจะ​ไม่อยาก​จะเชื่อ​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ต่อหน้า​ จักรพรรดิ​สีเงิน​ตัว​นี้​ยินยอม​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​? อ้วน​น้อย​โจว​คน​นี้​อยู่​ใน​ระดับ​มณี 4 ชุด​เท่านั้น​! โจว​เหว่​ย​ชิงมีเหตุผล​อะไร​ถึงทำให้​อสูร​สวรรค์​ระดับ​เท​วะ​ที่​ดื้อรั้น​เช่นนี้​ยอมจำนน​ต่อ​เขา​ได้​? เป็นไปได้​อย่างไร​? เป็นไปได้​อย่างไร​กัน​แน่​?!

“เฮ้อ​ ข้า​รู้​ว่า​ตัวเอง​หล่อเหลา​และ​สง่างามมาก​ แต่​ถ้าเจ้ามัวแต่​จ้อง​ข้า​แบบ​นั้น​ ข้า​ก็​จะเขินอาย​เอา​ได้​น้า​” โจว​เหว่​ย​ชิงยิ้ม​ล้อเลียน​ให้​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ขณะที่​เอ่ย​เช่นนั้น​ ในขณะเดียวกัน​ สายตา​ของ​เขา​ก็​โฉบ​ลง​ไป​ที่​บั้นท้าย​ของ​เธอ​อีกครั้ง​

“เจ้าเนี่ย​นะ​? เขินอาย​?” ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​โมโห​กับ​คำพูด​ของ​เขา​จน​เกือบจะ​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​ “ผิวหน้า​ของ​เจ้าหนา​จน​แทบจะ​ฟัน​แทง​ไม่เข้า​อยู่แล้ว​ด้วยซ้ำ​!”

โจว​เหว่​ย​ชิงถอนหายใจ​และ​พูดว่า​ “เฮ้อ​ๆๆๆๆ แม้เจ้าจะมาจาก​วัง​สวรรค์​ไพศาล​ แต่​เจ้าก็​เป็น​เด็กผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ การ​เดิมพัน​ของ​เรา​ได้​ถูก​กำหนด​ไว้​แล้ว​ ถ้าเจ้ากลับคำ​จริงๆ​ ข้า​ก็​จะไม่รู้สึก​แปลกใจ​นัก​ แต่​แค่​รู้สึก​ผิดหวัง​เกี่ยวกับ​วัง​สวรรค์​ไพศาล​เล็กน้อย​”

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​มอง​ไป​ยัง​ร่าง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง กระพริบตา​ที่​งดงาม​ของ​เธอ​ช้าๆ ทันใดนั้น​หญิงสาว​ก็​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​ “อ้วน​น้อย​โจว​ เจ้ากำลัง​พยายาม​จะยั่วยุ​ข้า​หรือ​? ไม่มีวัน​ซะหรอก​! ผู้​ที่​ต้อง​รักษาหน้า​ของ​วัง​สวรรค์​ไพศาล​คือ​พี่สาว​ของ​ข้า​ ไม่ใช่ข้า​ เจ้าพูด​ถูก​ ผู้หญิง​มีสิทธิ์​เปลี่ยนใจ​เสมอ​ และ​นั่น​ก็​คือ​สิ่งที่​ข้า​จะทำ​ เจ้าจะทำ​อะไร​ได้​? หือ​ มีใคร​เห็น​ว่า​ข้า​พนัน​กับ​เจ้าไหม​? ใคร​จะพิสูจน์​ได้​? ไม่มีใคร​ใช่ไหม​? ฮิๆ กล่าวคือ​เรา​ไม่เคย​วางเดิมพัน​เช่นนี้​มาก่อน​เลย​น่ะ​สิ”

“ห๊ะ?”​ โจว​เหว่​ย​ชิงจ้องมอง​ไป​ที่​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​พลาง​อ้าปากค้าง​ ตอนแรก​เขา​คิด​ว่า​การยั่วยุ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ชื่อเสียง​ของ​วัง​สวรรค์​ไพศาล​จะทำให้​เธอ​ไม่มีทาง​กลับ​คำพูด​แน่นอน​ ใคร​จะจินตนาการ​ได้​ว่า​ปีศาจ​น้อย​แห่ง​วัง​สวรรค์​ไพศาล​คน​นี้​จะรับมือ​ด้วย​ยาก​ขนาด​นี้​ แถมเธอ​ยัง​ทำ​ใน​สิ่งที่​ตรงกันข้าม​กัน​อีก​ต่างหาก​ ยิ่งไปกว่านั้น​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​เอง​ก็​ไม่อาจ​เทียบ​ได้​สำหรับ​เฟยเอ๋อร์…​โจว​เหว่​ย​ชิงรู้สึก​หงุดหงิด​ขึ้น​มาทันที​

เมื่อ​มองเห็น​ท่าทาง​หดหู่​ของ​เขา​ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​หัวเราะ​และ​กระโดด​หนี​กลับ​ไป​ที่​ค่าย​อย่าง​มีความสุข​ “ฮ้าาาา วันนี้​อากาศ​ดี​จัง รู้สึก​ดีมาก​ที่​ได้​ทำให้​ใคร​บางคน​โกรธ​ได้​ วันนี้​ข้า​ตัดสินใจ​จะให้รางวัล​ตัวเอง​ด้วย​การ​กิน​ให้​มากขึ้น​!”

เมื่อ​มองดู​ร่าง​ที่​กำลัง​ถอยห่าง​ออก​ไป​ของ​หญิงสาว​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คัน​ยุบยิบ​ใน​ใจพลาง​คิด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ ทั้งคู่​มาจาก​แม่คน​เดียวกัน​ แต่​ทำไม​ถึงมีนิสัย​แตก​ต่างกัน​มาก​ขนาด​นี้​? ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​และ​ปิง​เอ๋อร์​ของ​ข้า​ พวก​นาง​แตก​ต่างกัน​มากเกินไป​ เมื่อ​นึกย้อน​ไป​ถึงตอนที่​เขา​แกล้ง​ปิง​เอ๋อร์​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ วิธี​ที่​เธอ​ตอบสนอง​อย่าง​ไร้เดียงสา​และ​ทำตัว​ไม่ถูก​ สายตา​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เหม่อลอย​ไป​ใน​ระยะ​ไกลๆ​ จะดี​แค่​ไหน​ถ้าปิง​เอ๋อร์​อยู่​ที่นี่​กับ​เขา​!

ไม่ว่า​จะเป็นครั้งแรก​ที่​ซ่างกวน​ปิง​เอ๋อร์​กลายเป็น​ผู้​ถูก​สังเวย​ใน​การ​ตื่นขึ้น​ของ​สถานะ​ปีศาจ​กลายร่าง​ครั้งแรก​ หรือ​ ‘พิธี​เปลี่ยน​ผ่าน​สู่วัยผู้ใหญ่​’ ของ​เขา​ใน​เกาะ​มณีสวรรค์​…ทั้งสอง​เหตุการณ์​ล้วน​เป็น​ความทรงจำ​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงไม่มีวัน​ลืม​ ทั้ง​ยัง​หยั่งราก​ลึก​อยู่​ใน​ใจของ​เขา​ไม่เสื่อมคลาย​ นี่​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​ภายในใจ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงไม่มีใคร​สำคัญ​ไป​กว่า​ซ่างกวน​ปิง​เอ๋อร์​อีกแล้ว​

พี่น้อง​ซ่างกวน​นั้น​หน้าตา​เหมือนกัน​มากเกินไป​ และ​แม้ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะไม่ต้องการ​ให้​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ติดตาม​เขา​ แต่​ใน​ใจลึก​ๆ แล้ว​การ​ได้​เห็น​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ทุกวัน​ก็​เหมือนกับ​การ​ได้​เห็น​ปิง​เอ๋อร์​เช่นกัน​ และ​มัน​ก็​กลายเป็น​ความคิด​ที่​ขัดแย้ง​กัน​อย่าง​ลึกล้ำ​ นั่น​รวมถึง​เรื่อง​ที่​เขา​กลัว​ว่า​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​อาจจะ​นำ​เรื่อง​ไม่ดี​ของ​ตน​ไป​เอ่ย​ต่อหน้า​ปิง​เอ๋อร์​ ทั้งหมด​นี้​จึงทำให้​เขา​ต้อง​เก็บ​อีก​ฝ่าย​ไว้​ข้าง​กาย​ก่อน​

ความแตกต่าง​ใน​ด้าน​ลักษณะนิสัย​ไม่ได้​ลดทอน​ความงาม​ของ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์ลง​ แต่​มัน​กลับ​เผย​ให้​เห็น​ความงาม​ใน​แบบฉบับ​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​ มีชีวิตชีวา​ อ่อนเยาว์​ เต็มไปด้วย​จิตวิญญาณ​ นั่น​คือ​สิ่งที่​ซ่างกวน​ปิง​เอ๋อร์​ไม่ได้​แสดง​ ออกมา​ ในขณะที่​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ไม่มีความงาม​ที่​แสน​นุ่มนวล​และ​เงียบสงบ​ของ​ปิง​เอ๋อร์​ พี่น้อง​สอง​คน​นี้​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​แตกต่าง​ แต่​ก็​ถือว่า​เท่าเทียมกัน​

เสียง​นก​และ​แมลง​ใน​ป่า​ก่อให้เกิด​ทำนอง​บทเพลง​สอด​ประสาน​ ชีวิต​ใน​ป่า​ล้วน​ไม่เคย​เงียบสงบ​

เนื่องจาก​การ​ซุ่มโจมตี​อย่าง​กะทันหัน​ของ​จักรพรรดิ​สีเงิน​ โจว​เหว่​ย​ชิงจึงขอให้​หลิน​เทียน​อ้าว​จัด​ตาราง​เวร​ยาม​ใน​คืนนี้​ โดย​ทั้ง​ 21 คน​จะแบ่ง​ออก​เป็น​กลุ่ม​ยาม​เพื่อ​ตรวจตรา​เฝ้าระวัง​ โดย​ให้​สมาชิก​กลุ่ม​นักรบ​เฟยห​ลี่​แต่ละคน​เป็น​ผู้นำ​ใน​แต่ละ​กลุ่ม​

ความจริง​ได้รับ​การพิสูจน์​แล้ว​ว่า​จักรพรรดิ​สีเงิน​นี้​เป็น​ข้อยกเว้น​เดียว​ที่​เกิดขึ้น​ ตลอด​ทั้งคืน​ นอกจาก​อสูร​สวรรค์​ที่​อ่อนแอ​เพียง​ไม่กี่​ตัว​ที่​เข้ามา​รบกวน​พวกเขา​แล้ว​ ทั้ง​กลุ่ม​ก็​ไม่พบ​กับ​ปัญหา​อื่น​ใด​อีก​

ตอน​รุ่งเช้า​ พวกเขา​รับประทาน​อาหารแห้ง​ง่ายๆ​ ก่อน​จะรวบรวม​ข้าวของ​และ​ออกเดินทาง​อีกครั้ง​ ยิ่งไปกว่านั้น​ คราวนี้​กลุ่ม​ 12 คน​ของ​ซ่างหลา​งก็ได้​แสดง​ทักษะ​ความสามารถ​และ​ความ​เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน​ของ​พวกเขา​ออกมา​เช่นเคย​ โดย​ทั้งหมด​ใช้เวลา​เพียง​ 15 นาที​ใน​การ​จัดการ​ทุกอย่าง​ให้​เสร็จสิ้น​อย่าง​รวดเร็ว​

ขณะที่​พวกเขา​เดินทาง​ต่อไป​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ถามซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ “เฟยเอ๋อร์​ เจ้าแน่ใจ​หรือไม่​ว่า​ที่นี่​มีม้าปีศาจ​ผี​อยู่​จริงๆ​?”

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​มอง​เขา​พลาง​พูดว่า​ “ข้า​ก็​ไม่แน่ใจ​เหมือนกัน​ พวก​มัน​อาศัย​อยู่​ที่นี่​อย่าง​แน่นอน​ แต่​ใน​ช่วง​หลาย​สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​ พวก​มัน​ถูก​ตามล่า​จน​ข้า​ไม่แน่ใจ​ว่า​พวกเรา​จะหา​ฝูงที่​ยัง​อาศัย​อยู่​ใน​ป่า​ได้​อีก​หรือไม่​”

โจว​เหว่​ย​ชิงเบิกตา​กว้าง​ “นี่​เจ้าล้อ​ข้า​เล่น​หรือ​?! หาก​ไม่ใช่เพราะ​เจ้าบอก​เรา​ว่า​มีม้าปีศาจ​ผี​อยู่​ที่นี่​ พวกเรา​ก็​คง​ไม่ใช้เส้นทาง​นี้​แต่แรก​!”

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​พยักหน้า​หงึกหงัก​อย่าง​รุนแรง​และ​กล่าวว่า​ “พวก​มัน​อาศัย​อยู่​ที่ไหน​สัก​แห่ง​ใน​ป่า​นี้​แน่นอน​ แต่​การ​ที่​เรา​จะพบ​กับ​พวก​มัน​ก็​ขึ้นอยู่กับ​โชค​ทั้งนั้น​ ถึงอย่างไร​ป่า​นี้​ก็​มีขนาดใหญ่​มาก​ และ​ตอนนี้​ม้าปีศาจ​ผี​หา​ยาก​ขึ้น​เช่นกัน​ พวกเรา​อาจจะ​ไม่เจอ​พวก​มัน​ก็ได้​”

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Score 10
Status: Completed

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ

มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์

ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม

ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล

ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?

ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…

หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!

ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา

ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา

มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!

สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…

แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?

ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา

สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร

Options

not work with dark mode
Reset