Goblin Kingdom 6

ตอนที่ 6

Ch.6 – ค่าสถานะ

Translator : Koel / Author

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 14

[คลาส] ชนชั้นสูง, ราชาของกลุ่ม

[ทักษะ] <<บัญชาการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ C->> <<โลภะ>>

[การคุ้มครองของพระเจ้า] ไม่มี

▲▽△

ขณะที่ดำดิ่งในจิตใต้สำนึก ผมรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของค่าสถานะ

ได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกจากก็อบลินอาวุโสในหมู่บ้าน ผมค่อนข้างงุนงงในตอนแรก แต่ก็เข้าใจได้ว่านี่เป็นสิ่งสำคัญแค่ไหนที่จะเข้าใจถึงความสามารถของตัวเอง

ตามที่ก็อบลินอาวุโสบอกคือให้เพ่งสมาธิกับตนเอง จะทำให้ค่าสถานะแสดงออกมา

นอกจากนี้…สิ่งที่เขียนอยู่ยังมีเลเวล ทักษะ…แม้กระทั่งการคุ้มครองของพระเจ้า?

นี่เป็นโลกแฟนตาซีอย่างแท้จริง นอกจากเลเวล การวิวัฒนาการก่อนหน้าคือการเลื่อนคลาส

ผมเข้าใจได้โดยดูค่าสถานะเหล่านี้ เลเวลที่แสดงอยู่คือเลเวลของคลาสนั้นๆ…

[เผ่า] ก็อบลิน

[คลาส] ชนชั้นสูง,ราชาของกลุ่ม

แต่มากกว่านั้นคือการดูความสามารถของทักษะที่มี

▽▲▽

<<ราชาของกลุ่ม>> ความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

<<ปฏิปักษ์>> ความต้านทานต่อเผ่าพันธุ์ที่สูงกว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

<<คำรามอย่างรุนแรง>> หากใช้กับสิ่งมีชีวิตระดับต่ำกว่า จะถูกบังคับให้ทำตามคำสั่ง

<<ความชำนาญการใช้ดาบ C- >> ความสามารถการใช้ดาบ

<<โลภะ>> จำนวนผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณเพิ่มมากขึ้น

…แต่ละคนจะเรียนรู้ทักษะได้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ส่วนผมที่เกิดในพื้นที่รกร้าง จึงไม่มีใครที่มีความสามารถในการบังคับบัญชามากพอเหมือนกับผม

ตามที่ก็อบลินอาวุโสบอก ทักษะคือสิ่งที่เพิ่มขึ้นหลังการวิวัฒนาการและเคลียร์เงื่อนไขต่างๆ

<<บัญชาการ>> และ <<โลภะ>> สกิลเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งในการทำความต้องการของผมให้เป็นจริง

ส่วน <<ปฏิปักษ์>> …

ทักษะนี้น่าจะได้มาจากการต่อสู้กับออร์ค ตอนที่ผมต่อต้านกับระดับคลาสที่สูงกว่า จึงได้เรียนรู้ทักษะนี้

ก็อบลินทั่วไปจะชะงักและไม่สามารถขยับได้หลังจากได้ยินเสียงคำรามของมัน เขาต้องมีความกล้าและจิตต่อสู้มากพอที่จะต่อต้าน

ผมสงสัยว่าหัวหน้าก็อบลินตัวก่อนมีทักษะนี้มั้ย

สำหรับความชำนาญการใช้ดาบระดับ C- ผมไม่รู้ว่ามันดีแค่ไหน

<<คำรามอย่างรุนแรง>> ดูเป็นทักษะที่ใช้ในวงกว้าง ผมจะใช้เพื่อบังคับก็อบลินแรร์ให้ยอมแพ้

△▽▲

หลังจากที่เสร็จสิ้นการวิเคราะห์แล้ว

สิ่งแรกการจัดการกับก็อบลินทั้ง 50 ตัว …พวกมันยังคงอ่อนแอเกินไป

ความจริงผมคิดหาทางออกได้ แต่…

ตอนผมถามก็อบลินอาวุโส ยังมีปัญหาเกี่ยวกับคลาส

พวกก็อบลินธรรมดาจะถูกข่มจนขยับตัวไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าออร์ค เหมือนก็อบลินแรร์ที่สยบตรงหน้าผม

พวกมันเปลี่ยนหัวหน้ามาแล้วถึง 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่ามันอ่อนแอแค่ไหน

ผมอาจจะพูดเรื่องนี้มากหน่อย แต่เมื่อผมตั้งชื่อก็อบลินแรร์หัวหน้าหมู่บ้านตัวเก่าว่า กิกูว ดูเหมือนมันจะมีความรู้สึกผูกพันกับผมอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนก็อบลินอีกตัวที่พึ่งเลื่อนคลาสเป็นก็อบลินแรร์ชื่อ กิก้า

ตอนแรกผมจะตั้งชื่อให้เขาว่า มาทาซะ แต่มันดูดีมากเกินไปสำหรับเขา

โอ้? คุณอยากจะรู้ว่าผมตั้งชื่อเขายังไง?

ไม่มีอะไรมาก แค่ตั้งตามเสียงร้องของพวกมัน

ผมตั้งกฎว่าจะตั้งชื่อให้ก็อบลินตัวใดก็ตามที่เลื่อนคลาสเป็นก็อบลินแรร์ จากนั้นผมก็ไปตรวจคลังแสง

มันเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆ จึงมีสิ่งของไม่มากนัก

ส่วนเสบียงสำรองที่เหลืออยู่ตอนนี้ เท่ากับศูนย์

พวกมันไม่รู้วิธีการถนอมอาหาร ของที่หามาคือทุกอย่างในวันนั้น ถ้ามันอดต้องหาอาหารในวันถัดไปแทน

▲▼△

พวกของอย่างโล่และหมวกป้องกันไม่มีเลยสักชิ้น

มีของใช้บ้างอยู่บ้าง เช่นขวานและกรรไกรตัดหญ้าที่มนุษย์ใช้ในการเกษตร เพียงแต่สิ่งของเหล่านี้มีไม่มากพอ บางตัวจึงต้องใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ทำให้พวกมันบาดเจ็บและได้รับความเสียหายอย่างมากให้การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

เพื่อที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ผมบอกให้กิก้าสอนก็อบลินตัวอื่นๆในการใช้กับดักและการเก็บอาหาร จากนั้นผมก็สั่งให้กิกูวสอดแนมและตรวจสอบเส้นทางของออร์คและจำนวนของมัน เหมือนครั้งก่อนเงื่อนไขคือต้องมีชีวิตรอดกลับมา

จะพูดกับก็อบลินที่ไม่เคยต่อสู้ว่ายังไงดี?

มีนักล่าประมาณ 20 ตัวในขณะที่คนแก่ เด็กและก็อบลินที่บาดเจ็บอีกประมาณ 30 ตัว

พวกเด็กๆจะเติบโตและความสามารถต่อสู้ในเร็วๆนี้

หลังจากที่เรียนรู้วิธีการใช้กับดัก ผมห้ความรู้กับเด็กๆเหล่านั้นทันที

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มจำนวนประชากร ในหมู่บ้านมีก็อบลินตัวเมียประมาณ 10 ตัว  3 ตัวยังคงเด็กอยู่ ในขณะที่อีก 7 ตัวโตเต็มวัยแล้ว นอกจากนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ถูกลักพาตัวมาและถูกขังอยู่ มีหญิงสาวเผ่ามนุษย์ทั้งที่ยังเป็นวัยรุ่นและบางคนกำลังตั้งครรภ์

น่าแปลกที่ผมเห็นสาวๆเหล่านั้น ผมซึ่งกลายเป็นมอนสเตอร์แล้ว ก็ยังรู้สึกตงิดใจ ผมยิ้มให้กับตัวเองและไล่ความคิดเหล่านั้นเมื่อนึกถึงคุณค่าของพวกเขา

ตอนนี้ทุกอย่างยังขาดแคลน ถ้าผมให้ความช่วยเหลือมนุษย์ กองทัพคงไม่มีทางที่จะเติบโตไปได้มากกว่านี้?

มองลงไปที่พวกเขา

“…พวกเจ้า”

ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ไม่มีร่องรอยการชีวิตในสายตาของพวกเธอ เหมือนกับหลุมที่ว่างเปล่า … สายตาที่กระซิบร้องขอความตาย เมื่อเห็นอย่างนั้น…

มนุษย์ที่ถูกปล้นอิสรภาพ …ไม่อาจตายได้ มีเพียงวัตถุประสงค์เดียวคือให้กำเนิด

“…ข้ารู้แล้ว”

ผมหักคอพวกเขาทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาณอีก หนึ่งในผู้หญิงเหล่านี้อาจจะเป็นแม่ที่ให้กำเนิดผมก็ได้

ก็อบลินอาวุโสบ่น แต่ผมเงียบ …จากนั้นก็เดินไปรอบๆและเก็บซากไม้แห้งเพื่อวางไว้

ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยเปลวเพลิง…ร่างกายพวกเขาถูกเผาจนเกรียม

เมื่อเปลวเพลิงดับลงลูกน้องของผมก็กลับมา จบจากการตรวจสอบของที่ล่าได้ ผมจึงกลับไปนอน

◇◆◆◇◇◆◆◇

[ทักษะ] ที่ได้รับ << การจ้องมองของปีศาจ >>

มันเป็นสกิลที่ไม่มีใครรู้จัก การเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุณ

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] คุณได้รับความคุ้มครองจากเทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

เพิ่มความสามารถความมืดและความตายให้กับคุณ

Options

not work with dark mode
Reset