Goblin Kingdom 25

ตอนที่ 25

Ch.25 – การดวล II

Translator : Koel / Author

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 22

[คลาส] ดยุค, ราชันของกลุ่ม

[ทักษะ] <<บัญชาการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<โลภะที่ไม่สิ้นสุด>><< การจ้องมองจากปีศาจ >> << จิตวิญญาณของราชัน >><<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>><<การเต้นรำแห่งความตาย>><< ดวงตาของงูสีชาด >><<นักรบคลั่ง>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[คุณลักษณะ] ความมืด, ความตาย

[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9)

[สถานะผิดปกติ] เสน่ห์ของนักบุญ

◇◆◇

เตะไปที่พื้นเพื่อเร่งความเร็ว

ในเวลาเดียวกันผมก็ยก Iron Second (ชื่อดาบใหญ่) และเหวี่ยงมันเพื่อฟันใส่ดรูอิด

น่าประหลาดใจที่เขาหลบได้

แต่ยังไร้เดียงสาเกินไป

เขาคิดว่าผมจะไม่สามารถไล่ตามการถอยที่เชื่องช้านั่นได้?

Iron Second ชนกับพื้น ก่อนจะใช้แรงถีบของมันเหวี่ยงดาบไปที่เขาอีกครั้ง

[ทักษะ] << ความชำนาญการใช้ดาบ B->>  ทำให้ผมใช้ดาบอย่างคล่องแคล่ว

ด้วยความต่างของพละกำลัง เขาคงไม่สามารถรอดจากการโจมตีนี้ได้

แต่เมื่อดาบกำลังจะฟันไปที่เขา

“ขับเคลื่อนสายลม (Accel)!”

ทันใดนั้นก็อบลินตรงหน้าก็หายตัวไป เหลือเพียงดาบฟันไปที่ความว่างเปล่า

“เป็นดาบที่ไม่เลว” มีเสียงจากด้านหลัง

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า ผมกล่าวว่า“ ฝีเท้าของเจ้าก็ไม่เบาเหมือนกัน” ผมจึงหันกลับไปด้านหลัง

แต่ในเวลาเดียวกันใบมีดสายลมก็พัดมา ทำให้ผมหมุนดาบเพื่อตอบโต้อย่างรวดเร็ว

อย่างที่คิดผมไม่สามารถจัดการเขาด้วยวิธีปกติ

[ทักษะ] <<ดวงตามรกตของงู>>เปิดใช้งาน

จุดอ่อน: ศีรษะ หัวใจ ไม้เท้า อืม…ไม้เท้า

ขณะที่ผมกำลังคิดอย่างเงียบๆ เขาตะโกนว่า “ถ้าเจ้ายืนอยู่เฉยๆล่ะก็!”

เขาใช้ไม้เท้าแทงลงไปที่พื้น

“เคลื่อนวายุ (Windea)”

ทันทีที่เขาร่ายเวทย์ บรรยากาศรอบๆก็สั่นสะเทือนและมีพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก 4 ลูกปรากฎขึ้น

เขาวางแผนจะโจมตีผมด้วยไอนั่น??

“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (enchant)”

เมื่อเห็นเขาใช้เวทย์สร้างพายุ ผมจึงใช้เวทย์ห่อหุ้มดาบด้วยเปลวเพลิงแห่งความมืด

“GURUuAAAA!”

ผมฟันพายุขนาดเล็กเหล่านั้นด้วยดาบ แต่พายุลูกหนึ่งพุ่งผ่านมาสร้างบาดแผลให้ผม

เป็นบาดแผลทำให้ผมรู้สึกเร่าร้อน แต่ตรงกันข้ามกันเขากลับดูมีความสุข

“เจ้าก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้เช่นกัน!”

จากนั้นดรูอิดก็เริ่มร่ายเวทย์ที่มีพลังโจมตีรุนแรงขึ้น

” ขอให้ปีกแห่งสายลม —”

ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้เขาร่ายจบ ผมพุ่งเข้าไปฟันด้วยดาบเพลิงทมิฬอีกครั้ง ดรูอิดจึงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากการหนี

“ขับเคลื่อนสายลม (Accel)!”

ผมถือดาบไว้ข้างๆและพยายามผลักดันดรูอิดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เขาร่ายเวทย์ได้

แต่เขาก็ยังเร็วกว่า

ทันทีที่เขาหายไป ผมตอบโต้ด้วยการฟันดาบไปด้านหลัง แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงปะทะใดๆ

ผมพลาด?

มีเสียงดังขึ้นตอบคำถามนั้น

“วายุจงหมุนวน (Wind Cutter) ”

ในไม่ช้าใบมีดสายลม 2 สายก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ว เบื้องหลังใบมีดทั้งสอง ดรูอิดก็เริ่มที่จะรายเวทมนตร์อีกครั้ง

ผมก้าวไปข้างหน้า เป็นก้าวที่มีพลังมากพอที่จะสร้างหลุมลึกขึ้นบนพื้น “GURUUuUAA!”

ผมหวี่ยงดาบไปยังใบมีดสายลมที่เข้ามาใกล้ ขณะที่ใบมีดหายไปผมก็รีบพุ่งไปหาก็อบลินตัวนั้น

แทนที่เขาจะถอย คราวนี้เขากลับก้าวมาข้างหน้าแทน

เป็นการตอบโต้ที่ดี!

แต่ดาบของผมยังคงเร็วกว่า ผมเหวี่ยงดาบลงด้วยพลังที่สามารถบดขยี้ได้แม้กระทั่งเหล็กกล้า แต่แล้วดรูอิดก็ร่ายเวทย์บทใหม่

“อำนาจของเทพแห่งสายลม (Boost)”

มีสายลมโผล่ขึ้นมารอบๆตัวเขาทำให้การโจมตีของผมแฉลบไปด้านข้าง ขณะที่การโจมตีของเขาเองยังมุ่งเป้าเข้าสู่หน้าอกของผม

” ร่างกายที่มิอาจถูกล่วงล้ำ (shield)”

” เสียงขับขานของวิหควายุ (slash)”

บทร่ายของเราทับซ้อนกัน ในขณะที่ร่างกายของผมถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำปะทะกับเคียวแห่งสายลม

แรงปะทะทำให้ผมลอยขึ้นเล็กน้อย แต่ยังสามารถยืนได้

ผมยันตัวเองเพื่อเตรียมรับโจมตีต่อไป แต่สิ่งที่มากลับเสียงของดรูอิดตัวนั้น

“ไม่เลว” เขากล่าว

เขาดูเหมือนจะสนุกกับการต่อสู้จากก้นบึ้งของหัวใจ

นั่นเป็นเพราะความมั่นใจของเขา? แต่ก็ไม่ลืมมารยาท “เจ้าก็เช่นกัน”

หลังจากการพักผ่อนสั้นๆ ผมก็วิ่งเพื่อลดระยะอีกครั้ง

เขาเป็นแค่ก็อบลินแรร์อาจจะไม่ทราบเรื่องนี้ แต่วิสัยทัศน์ที่พัฒนาขึ้นจากการกลายเป็นดยุคก็อบลินเป็นสิ่งแตกต่างจากก็อบลินแรร์อย่างสิ้นเชิง ผมไม่ได้พลาดจุดอ่อนเล็กน้อยที่เขาแสดงให้เห็น ดูจากขาที่กำลังสั่น…หลักฐานของความเหนื่อยล้า

โดยไม่หยุดพัก ผมเหวี่ยงดาบและร่ายเวทย์อีกครั้ง

“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (enchant)”

เปลวไฟสีดำปกคลุมรอบใบดาบขณะเหวี่ยงมัน ความสามารถทางกายภาพของผมอยู่ไกลเกินกว่าขอบเขตของก็อบลินแรร์มาก

สภาพดรูอิดค่อยๆเหนื่อยล้ามากขึ้นทุกครั้งที่เขาร่ายเวทย์

“ขับเคลื่อนสายลม (Accel)!”

ถ้าการต่อสู้เป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะจบลงด้วยชัยชนะของผม เขารู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงต้องเสี่ยงร่ายเวทย์ที่มีพลังโจมตีที่มากสุด มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ได้รับชัยชนะ

แต่ผมก็ไม่ได้ใจดีพอที่จะให้เขาทำเช่นนั้นง่ายๆ

ถ้าเขาตอบโต้ได้ไม่ดีพอ ผมคงจะฆ่าเขาลงที่นี่!

การฟาดฟันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง…ผมไล่ตามดรูอิดที่เพิ่งหายไปอีกครั้ง

“มีอะไรผิดปกติ!? การเคลื่อนไหวของเจ้าดูช้าลงนะ! “ผมล้อเลียนและพยายามยั่วยุดรูอิดที่อยู่ท่ามกลางการโจมตี แต่เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

— ดูจากความมั่นใจนั่น ผมคงยังไม่สามารถผ่อนคลายได้!

“วายุจงหมุนวน (Wind Cutter) ”

เขาพยายามโจมตีผมด้วยใบมีดสายลมและผมก็หลบมันโดยการขยับตัวเพียงครึ่งนึง ในเวลาเดียวกันเขาก็เร่งความเร็วอีกครั้ง

“ขับเคลื่อนสายลม (Accel)!”

ทันทีที่เขาก็หายไปจากสายตา ผมฟันดาบไปที่ด้านหลัง ถึงแม้คราวนี้เขาจะหลบการโจมตีนี้ได้อย่างหวุดหวิด แต่ดูจากสภาพที่หอบหายใจนั่น…เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหมดแรง

“เจ้าจะยอมจำนนรึยัง?” ผมถามขณะที่จับดาบไว้แน่น

เขาเพียงแค่หัวเราะเท่านั้น ก่อนจะยกไม้เท้าชี้มาทางผม

— ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ ผมคงไม่มีทางเลือก!

คงต้องเอาไม้เท้านั่นออกไปก่อน ดังนั้นผมจึงรวบรวมกำลังไปที่ฝ่าเท้าเพื่อพุ่งไปข้างหน้า แต่แล้วในขณะนั้นผมเห็นดรูอิดกำลังเอาบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุม

ไม่ดีแน่! สัญชาตญาณกำลังเตือนผม

สิ่งที่เขาหยิบออกมาคือ อัญมณีสีเงินระยิบระยับ

“ด้วยนามอันสูงส่ง โปรดรับฟังเสียงเรียกของข้า (Kryz) ”

ทันทีที่ได้ยิน ผมรีดเร้นกำลังทั้งหมดเพื่อถีบตัวหลบถอยไปด้านหลัง แต่ดรูอิดยังคงใช้ไม้เท้าชี้ไปที่พื้น

“ด้วยนามของท่าน …เทพเจ้าแห่งสายลม (castor)! ”

ทันใดนั้นก็มีพายุทอร์นาโดที่มีขนาด 4 เมตรก่อตัวขึ้นโดยมีดรูอิดเป็นศูนย์กลาง พายุที่มีรูปร่างเป็นมังกรลอยปกคลุมทั่วท้องฟ้า

เมื่อเห็นการโจมตีนี้ ผมรู้สึกถึงเหงื่อเย็นแทรกซึมที่ด้านหลัง

ขณะที่มังกรสายลมมองลงมา มีพลังไหลบ่าออกมาจากรอยสักรูปงู ทำให้ร่างกายผมเต็มไปด้วยพลังเวทย์ ราวกับว่ามันกำลังกระตุ้นให้ผมตอบโต้กับพลังที่อยู่ตรงหน้า

“คงต้องฟันมันทิ้งซะ” ผมพูดกับตัวเอง

— มันเป็นแค่ลมใช่มั้ย?

ผมก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าและพาดดาบไว้ที่ไหล่ จากนั้นรวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมดส่งไปยังดาบ

มังกรสายลมเปิดปากของมันเพื่อโจมตีมาที่ผม

“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (enchant)”

นี่เป็นครั้งที่สามที่ผมร่ายเวทย์นี้ แต่คราวนี้ผมใช้พลังที่มีทั้งหมดจากทุกส่วนของร่างกาย

“I OOOOOOOOOOooO!”

ผลจาการการปะทะ …ผมฟันมังกรสายลมขาดเป็นสองท่อน

แต่พายุลูกใหญ่พัดก้อนหินปลิวขึ้นไปปกคลุมวิสัยทัศน์ของผม

มีเสียงของสายลมสะท้อนอยู่ด้านหลังเมฆฝุ่นปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ ก่อนผมจะวาดดาบเพื่อปัดฝุ่นทั้งหมดทิ้ง

ผมจับดาบอีกครั้งและเฝ้ารอ

” เสียงขับขานของวิหควายุ (slash)”

นี่คงเป็นพลังเวทย์เฮือกสุดท้ายที่เขาเหลืออยู่

…แต่เขาพลาด

ผมตอบโต้การโจมตีสุดท้ายของเขาอย่างใจเย็น ตาของดรูอิดเปิดกว้างในขณะที่ผมฟันมัน

เขาไม่เหลือความแข็งแรงใดๆที่จะหลบและกระเด็นลอยไปในอากาศ

ดรูอิดจ้องมองท้องฟ้าขณะล้มลงกับพื้น ก่อนผมจะเอาดาบพาดไว้ที่คอ

“ข้าไม่นึกว่าการโจมตีสุดท้ายของข้าจะพลาด” เขากล่าว

“ข้าแค่โชคดี” ฉันพูด

“ห้ะ โชค?” ดรูอิดดูเหมือนจะไม่พอใจ

“ถ้าเจ้าไม่สามารถยอมรับได้ งั้นที่เจ้าแพ้คงเป็นเพราะความแตกต่างของเป้าหมาย” ผมกล่าว

“เจ้ามีเป้าหมายอะไร?” เขาถาม

“ความปรารถนาหรืออีกนัยหนึ่ง”

“คงเป็นความทะเยอทะยาน”

ผมรู้ว่าพวกก็อบลินในหมู่บ้านยังฟังอยู่ ผมเลยพูดออกมาดังๆ

” ข้ากำลังจะสร้างอาณาจักร อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของก็อบลิน  ข้าจะรวบรวมก็อบลินทั้งหมดและสร้างประเทศที่ไม่มีก็อบลินตัวใดถูกกดขี่ ถูกล่า ถูกหมายหัว จงตามข้ามา! ข้าต้องการพลังของพวกเจ้า! ”

เขาเพียงแค่หัวเราะ

“อาณาจักรของก็อบลิน นั่นคือเป้าหมายที่เจ้าพูดถึง? ฮ่าฮ่า … ไม่แปลกใจเลยที่ข้าแพ้ ”

ดรูอิดปิดตาเงียบๆก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ

“เอาล่ะ จากนี้ต่อไปทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของเจ้าแล้ว ”

ผมเดินไปหาเรเชีย เธอบุ้ยแก้มของเธอ แต่ผมไม่สนใจและกล่าวว่า

“รักษาเขาซะ”

เมื่อดรูอิดค่อยๆเปิดตาช้าๆและถามว่า

“ทำไมเจ้าไว้ชีวิตข้า?”

ผมตอบว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าว่า …ไม่รวมถึงเจ้าด้วย?”

ดรูอิดที่จ้องมองที่ผมอย่างไม่เต็มใจแล้วก็หัวเราะออกมา

◆◇◇

มีการจัดการกับเวทมนตร์ขั้นสูง [ทักษะ]<< Third Impact >> ได้รับ

ระดับของคุณเพิ่มขึ้น

[เลเวล] 22 -> 26

Options

not work with dark mode
Reset