Goblin Kingdom 79.3

ตอนที่ 79.3

[ชื่อ] กิเดะ

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 34

[คลาส] แรร์

[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ดาบ C->> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<กินไม่เลือก>> <<ความรู้สึกของมอนสเตอร์>> <<เลี้ยงสัตว์>> <<สัญชาตญาณ>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ไม่มี

[แอตทริบิวต์] ไม่มี

◇◆◇

มีดวงอาทิตย์ส่องสว่างบนท้องฟ้า

กิก้าเองก็ซ้อมหนักเช่นเคย แต่ตอนนี้เขาดีขึ้นมาก เขาแทบไม่หลุดจากสัตว์ขี่และยังสามารถสั่งการให้มันไปตามทิศทางที่ต้องการได้

แม้ขาข้างหนึ่งจะเป็นของปลอม แต่เขาก็สามารถขึ้นสัตว์อสูรและเหวี่ยงหอก แม้ตอนนี้มันจะอ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับการเดินเท้า

กิก้าขี่เสือดำที่รู้จักกันในชื่อฮาคุโอะ

เจอแล้ว

กิก้าเข้าไปหาเหยื่ออย่างช้า ๆ เขามองไปที่ดับเบิ้ลเฮดตัวหนึ่งก่อนจะดึงสายบังเหียนและเตะเสือดำเบา ๆ พวกเขาก็พุ่งเข้าไปหาเหยื่อและเมื่อดับเบิ้ลเฮดเห็นการชาร์จของพวกเขา มันก็วิ่งหนีไปเพื่อเอาชีวิตรอด

ดับเบิ้ลเฮดวิ่งผ่านต้นไม้อย่างสุดชีวิต แม้เส้นทางจะเต็มไปด้วยหินที่ขรุขระ แต่เสือดำที่เกิดมาเพื่อล่าและยังมีก็อบลินผู้เชี่ยวชาญอยู่ด้านหลัง พวกเขาทั้งคู่จึงตามมันได้ในเวลาไม่นาน กิก้ายืดแขนยาวที่ผิดปกติของเขาเพื่อโจมตีและสั่งให้เสือดำปิดฉาก

เช่นเดียวกันนี้ เกมสั้น ๆ ระหว่างแมวกับหนูก็สิ้นสุด

“ท่านเชี่ยวชาญในการขี่ฮาคุโอะแล้ว” ก็อบลินเผ่าพาราดัวที่มาในฐานะผู้ส่งสาร อลาชพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“เป็นเพราะคำสอนที่ยอดเยี่ยมของท่านด้วยเช่นกัน ลอร์ดอลาช” กิก้ากล่าวอย่างซาบซึ้ง ขณะที่เสียบหอกเข้าไปในปลอกอาน

“ถ้าตอนนี้ท่านดีขึ้นแล้ว ข้าคงกลับไปได้อย่างสบายใจ”

“ท่านจะออกเดินทางเมื่อไหร่?”

“พรุ่งนี้เย็น ด้วยเสือดำของเผ่าเราคงใช้เวลาไม่ถึงห้าวัน แต่จะดีที่สุดหากข้ากลับไปเร็ว ๆ นี้”

“มันคงเงียบเหงาเพราะท่านจากไป อย่างน้อยที่สุดขอให้เราจัดงานเลี้ยงให้” กิก้าชี้ไปที่ดับเบิ้ลเฮดที่เขาเพิ่งล่า

“ถ้าเช่นนั้นข้าชอบเนื้อแห้ง ๆ ของท่านมากกว่า”

“ข้ายินดี”

อลาชขึ้นไปบนหลังสัตว์ขี่ และทั้งสองก็กลับไปที่หมู่บ้านกิ

◇◆◇

ผู้ฝึกสัตว์อสูรกิเดะกำลังกังวลมากขึ้น เนื่องจากโคโบลไม่ได้ติดต่อเขามาตั้งแต่เมื่อวานช

“เกิดอะไรขึ้น? ” ดรูอิดน้ำ กิโซถามเมื่อสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของกิเดะ เขาเก่งในเรื่องเวทมนตร์น้ำ แม้แต่ในหมู่ดรูอิดด้วยกันเอง ดังนั้นกิซาร์และราชาจึงคาดหวังกับเขามาก

กิก้า แรกซ์และกิโซเป็นก็อบลินสองตัวที่ดูแลหมู่บ้านกิ ดังนั้นเมื่อกิโซสอบถาม กิเดะเองก็พร้อมที่จะรายงาน

“ข้ากังวลเพราะยังไม่มีการติดต่อจากพวกโคโบล”

แม้แต่สัตว์เลี้ยงของราชาที่ต้องคอยให้อาหาร ก็ยังไม่แสดงตัวในสองสามวันที่ผ่านมา

“หรือพวกเขาจะหาอาหารด้วยตัวเองได้แล้ว?”

มันยากที่จะเชื่อว่าโคโบลผู้ตะกละจะจากไป ต้องมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น กิเดะคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ข้าว่าจะไปดูสักหน่อย”

“ได้ ข้าจะไปบอกกับลอร์ดกิก้าให้”

“ขอบคุณ”

กิโซรู้ดีว่าการเฝ้าระวังของโคโบลเป็นสิ่งที่ราชาทิ้งไว้ เป็นแนวป้องกันที่สำคัญสำหรับออร์คและมนุษย์ กิเดะเองก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้นัก แต่เขารู้โดยสัญชาตญาณว่าการขาดการติดต่อไปของโคโบลไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกพร้อมกับก็อบลินอีกสามตัว

ในขณะเดียวกันกิโซเองก็ใช้ความคิด

“พวกออร์คก่อกบฏเหรอ?”

แทนที่จะเป็นการรุกรานของมนุษย์ สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือการกบฏของพวกออร์ค หลังจากที่พวกเขาเป็นศัตรูกันเมื่อไม่นานมานี้ ช่วงเวลาอันสั้นไม่เพียงพอที่จะชะล้างความทรงจำเกี่ยวกับการจู่โจมของราชาออร์คโกลโกล

“ทำไมเจ้าทำหน้าแบบนั้น? มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น? ” ก็อบลินที่เกือบจะเป็นเหมือนสาวกของกิก้า กิด้าถามเขา

“ที่จริง…”

กิด้าเกาหัวเมื่อได้ยินเรื่องราวของกิโซ

“ข้าคิดว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่นึกไม่ถึงว่าพวกออร์คเหล่านั้นจะก่อกบฏ”

แต่ว่าตอนนี้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เขากล่าวเสริม

“ไม่ว่ายังไง เจ้าช่วยไปบอกให้ก็อบลินมารวมตัวกันที่หมู่บ้าน เรามีอาหารเก็บไว้มากมาย ดังนั้นเราจะหยุดล่าและเน้นไปที่การเฝ้าระวัง จนกว่าพวกโคโบลจะกลับมา “

หลังจากกิด้าโค้งคำนับ กิโซจึงไปที่บ้านพักของราชา เขาต้องอธิบายสถานการณ์ให้กับสมบัติเผ่ามนุษย์ของราชา กิก้าเป็นคนที่ดูแลหมู่บ้านอย่างแท้จริง แต่ตอนที่เขาออกไปข้างนอก ความรับผิดชอบนี้จึงตกอยู่กับกิโซ

“ข้าหวังว่าจะไม่มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น”

ในขณะที่ลางสังหรณ์อันหนาวเหน็บมาถึง เขาก็มองไปยังท้องฟ้าทางทิศตะวันออกอย่างน่ากลัว

◇◆◇

ด้วยทริปเปิ้ลบอร์ที่นำทาง กิเดะเดินไปยังหมู่บ้านของโคโบลพร้อมกับก็อบลินและสุนัขป่าของเขา

ครึ่งวันผ่านไปจนในที่สุดเขาก็เข้าใกล้หมู่บ้านของโคโบล ความไม่สบายใจที่เขารู้สึกก็ปั่นป่วนมากขึ้น จากนั้นทริปเปิ้ลบอร์และสุนัขป่าก็เริ่มคำราม

“มีใครอยู่ตรงนั้น?”

กิเดะเดินอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่สุนัขถูกวางไว้ทั้งสี่ทิศทาง จากนั้นเมื่อสุนัขป่าตัวหนึ่งพบบางสิ่งและเริ่มคำราม ลูกน้องคนหนึ่งของกิเดะก็ตะโกนไล่สุนัข ขณะมองไปที่การค้นพบของมัน จากนั้นเขาก็วิ่งไปหากิเดะด้วยสีหน้าตกใจ

” เกิดอะไรขึ้น? “

“พวกมนุษย์ มนุษย์มากมาย”

กิเดะเดินผ่านก็อบลินที่ตัวสั่นเพื่อยืนยันผ่านพุ่มไม้ และเมื่อเขาทำ …เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“…อะไรของพวกมันกัน…”

กลุ่มของชายในชุดเกราะกำลังตัดต้นไม้และขุดพื้นดินเพื่อทำลายป่าที่ขวางทาง กิเดะไม่เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นี่ แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือพวกมันกำลังทำลายบ้านของพวกเขา

แต่การต่อสู้ในตอนนี้เป็นสิ่งที่โง่เขลา พวกมันมีจำนวนมากเกินไป ในความเป็นจริงพวกมันมีจำนวนมากกว่าพวกออร์คด้วยซ้ำ

“เราต้องแจ้งให้ลอร์ดกิก้าทราบ …”

กิเดะกัดฟัน

“จะไปแล้วเหรอ?”

แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของเขา น้ำเสียงเยือกเย็นที่ไม่เหมาะกับสถานการณ์ทำให้กิเดะรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เป็นเคยมาก่อน เจ้าของเสียงนั้นปรากฏตัวต่อหน้าเขา

“ต้องขอบคุณกัลแลนด์ ความวุ่นวายนั้นดึงดูดเหยื่อได้ดีจริง ๆ”

“แค่ฆ่าพวกมันแล้วเราไปฉลองกันเถอะ”

“ความโกรธทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้จะต้องระบายที่ไหนสักแห่ง แต่พวกมันก็สามารถแทนไอ้พวกออร์คบ้านั่นได้”

นักผจญภัยสามคนเข้ามาหาเขาพร้อมกัน

“กูรูวรูวรูว…”

นักผจญภัยคนหนึ่งเริ่มนึกถึงคำรามของกิเดะ

“เจ้านี่เป็นหัวหน้าฝูงเหรอ? มันเป็นเรื่องยากนะที่จะพบสัตว์อสูรที่เป็นผู้นำ” นักผจญภัยคนหนึ่งกล่าว

“เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเราเจอแต่สัตว์แปลก ๆ มากมาย จากโคโบลไปจนถึงออร์ค นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป” นักผจญภัยอีกคนกล่าว

“ใครจะสนล่ะ ก็แค่ฆ่าพวกมันก็พอ ถ้าเจ้าไม่รีบทีมอื่นจะได้คะแนนไป ” นักผจญภัยคนที่สามของกลุ่มกล่าว

นั่นเป็นความจริง นักผจญภัยคนอื่นๆ จึงพยักหน้า จากนั้นทั้งสามคนก็เตรียมเผชิญหน้ากับกิเดะ

กิเดะเองเป็นเพียงก็อบลินแรร์ แต่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะยอมแพ้ต่อดรูอิดน้ำ กิโซหรือผู้ใช้หอกอย่างกิด้า

โดยธรรมชาติผู้ฝึกสัตว์มักจะพัฒนาสัมผัสที่หกของตัวเอง สิ่งที่กิเดะรู้สึกได้คือความแตกต่างระหว่างเขากับศัตรู เพราะสัญชาตญาณนั้นกรีดร้องจากภายในว่าเขาไม่สามารถชนะ นี่คือความแตกต่างที่ไม่อาจโต้แย้งได้ระหว่างผู้ล่ากับผู้ถูกล่า นั่นเป็นเหตุผลที่กิเดะไม่ได้โจมตีเมื่อนักผจญภัยทั้งสามคุยกัน

ไม่มีทางอื่น

“…ถ้าเป็นอย่างนั้น นี่จะไม่ถือว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวอีกต่อไป” ไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง เบลแลนที่ไม่ได้พูดอะไรเลยจนถึงตอนนี้ได้ประกาศขึ้น

“กระจายตัว!!”

เมื่อไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง เบลแลนก้าวไปข้างหน้า กิเดะพุ่งเข้าหาเขาด้วยทริปเปิ้ลบอร์

“นูว”

“เชอะ!?”

ทริปเปิ้ลบอร์พุ่งเข้าใส่เบลแลนและเขาพุ่งเข้าหานักผจญภัยคนอื่น เพื่อให้ก็อบลินที่เหลือจะใช้โอกาสนี้เพื่อหนีกลับไปที่หมู่บ้าน

“วิ่ง!”

“พวกมันจะไปไหน!”

นักผจญภัยอีกสองคนไล่ตามก็อบลินธรรมดาไป แต่ก็อบลินเร็วกว่ามากเมื่อเคลื่อนไหวผ่านป่า เวทมนตร์ที่ยิงมาจากด้านหลังทำให้ก็อบลินหนึ่งตัวเสียชีวิต แต่ก็อบลินที่เหลือสามารถหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย

“…เจ้าใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อปล่อยให้ก็อบลินตัวอื่นไป” เบลแลนส่งกิเดะกระเด็นไปหลังจากที่พุ่งเข้าใส่เขา และเมื่อเห็นก็อบลินที่หลบหนี เขาก็มองพวกมันด้วยสายตาอาฆาต

“กูรูววว …”

“นี่เป็นแผนการที่น่านับถือสำหรับก็อบลิน แต่มันไม่มีความหมาย”

ทริปเปิ้ลบอร์ตายแล้ว

“ส่งข้อความไปหาฮอร์กอาย ตามหาและโจมตีหมู่บ้านของก็อบลิน!! “

นักผจญภัยที่เหลือหยิบอัญมณีออกมาและเริ่มพูดคุย ในขณะที่กิเดะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า”

แสงสีแดงส่องจากไม้กายสิทธิ์ของเบลแลน

“จากเปลวเพลิงก่อเกิดดาบ Fire Sword”

มีไฟปะทุขึ้นจากอัญมณีสีแดงที่ฝังอยู่ที่ขอบของคทา มันมีรูปร่างเป็นใบดาบไฟที่ยื่นออกมาจากไม้คทาของเบลแลน และได้เปลี่ยนเป็นนางินาตะ (คล้ายๆ กับทวนของสามก๊ก) ในขณะที่เขาจับนางินาตะแน่น เขาก็ตะโกนอย่างดุเดือด

“จงลิ้มรสพลังของไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง!”

ขณะที่เบลแลนหมุนนางินาตะขึ้นเหนือศีรษะ มันพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่ากลัวไปยังกิเดะ

กิเดะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้า เขาจึงพยายามซื้อเวลาให้ได้มากที่สุด กิเดะกระโดดถอยหลัง ขณะที่เขาล้มลงกับพื้นขอบของนางินาตะที่กำลังลุกเป็นไฟของเบลแลนก็พุ่งเข้าใส่เขา

“ไร้เดียงสา!”

ไฟที่พุ่งออกมาเปลี่ยนรูปร่าง กิเดะพยายามบิดตัวหลบ แต่แขนข้างหนึ่งยังคงถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์

“กูวกิ๊!?”

กิเดะร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เบลแลนไล่ตามเพื่อโจมตีเขาอีกครั้ง

กิเดะพยายามดึงตัวเองกลับมา แต่แขนข้างหนึ่งที่หายไป ทำให้เขาต้องต่อสู้ด้วยดาบเพียงมือเดียว

“ข้าส่งคำขอไปแล้ว ให้ช่วยไหม?”

“ไม่ ความช่วยเหลือนั้นไม่จำเป็นสำหรับการต่อสู้ของอัศวิน”

” งั้นก็ได้” นักผจญภัยยักไหล่ แต่เบลแลนไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา

แม้เขาจะไม่ใช่อัศวินอีกต่อไป แต่เบลแลนยังถือว่าการต่อสู้เป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นพิธีที่นักรบสองคนจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงทุกสิ่งไปจากกัน

“…ถ้าเจ้าไม่เข้ามา ข้าก็จะไปเอง”

หลังจากยืนยันตำแหน่งของกิเดะเบลแลนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพียงก้าวเดียวเขาก็ฟาดนางินาตะที่ลุกไหม้ กิเดะพยายามหลบหนีภายใต้การโจมตีนั้น แต่ดาบเปลวเพลิงพุ่งเข้าใส่เขาจากด้านหลัง เมื่อกิเดะดิ้นด้วยความเจ็บปวด เบลแลนก็เตรียมที่จะปิดฉาก

“กูรูวอา!”

“…”

ในขณะนั้นกิเดะได้ออกแรงเฮือกสุดท้ายเพื่อเสี่ยง เขาจะใช้ร่างกายของตัวเองแลกกับจัดการเบลแลน ในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังจะปิดฉากย เขางอตัวเพื่อการพนันครั้งสุดท้าย แต่…

“…ดูเหมือนเจ้าจะช้าลง”

นางินาตะที่ลุกไหม้รวดเร็วขึ้น ขณะร่างกายของกิเดะก็ขาดครึ่ง

“อืม…”

” มีอะไรบางอย่างผิดปกติ? “

นักผจญภัยที่เฝ้าดูการต่อสู้ถาม เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคิดของเบลแลน

“… ดูเหมือนว่าก็อบลินตัวนี้จะไม่ใช่หัวหน้าฝูงที่นี่”

“อย่ามาล้อเล่นน่า ก็อบลินแรร์นั้นมากเกินพอสำหรับการเป็นผู้นำในพื้นที่นี้”

“…ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่สมเหตุผล ทำไมมันถึงปล่อยก็อบลินตัวอื่นหนีไป”

“นั่นมัน…”

“ถ้ามันเป็นหัวหน้าฝูง มันจะจัดลำดับความสำคัญในการปกป้องตัวเองก่อน แม้จะใช้ก็อบลินตัวอื่นเป็นโล่ก็ตาม”

นั่นคือลักษณะของหัวหน้าฝูง เขาอยากจะปกป้องตัวเองมากกว่าที่จะแต่งตั้งคนอื่นให้เป็นผู้นำหรือปล่อยให้คนที่เหลือหลบหนีไป

“เจ้ากำลังบอกว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าก็อบลินตัวนั้น? นั่นเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่จะมีก็อบลินชั้นสูงหรือก็อบลินดยุคในพื้นที่นี้”

ขณะที่นักผจญภัยพูดอย่างนั้น นักผจญภัยอีกสองคนก็กลับมา

“บ้าเอ๊ย! พวกมันหนีไปแล้ว”

“แต่เรารู้ว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน ดังนั้นถ้าเราไป เราจะไปถึงก่อนคนอื่น ๆ ”

“ไปได้…”

หลังจากรวมกลุ่มกับนักผจญภัยอีกสองคนแล้ว เบลแลนก็เข้าไปในป่าลึก

ในสายตาของเขามีความปรารถนาที่จะต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้น

◇◆◇◆◇◆◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset