Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น 648

ตอนที่ 648

EG บทที่ 648 หัวขโมยในซุปเปอร์มาร์เก็ต 2

หญิงอ้วนเงียบเสียงลงทันที เธอเป็นขโมยที่มีฝีมือระดับต่ำที่สุดในแก๊งค์ หากเธอพูดอะไรออกไปไม่มีทางที่คนอื่นจะเชื่อเธอง่ายๆ หากตำรวจมาถึงเธอจะต้องถูกจับอย่างแน่นอน นอกจากนี้ประธานของไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตยังเป็นมหาเศรษฐีระดับต้นๆของเอเชีย แม้แต่ประธานาธิบดีและรัฐมนตรีหลายๆคนก็เคยพบเขาอยู่หลายครั้ง

หญิงอ้วนคนนี้เคยถูกจับมาก่อนเมื่อครั้งที่ไปก่อเหตุที่ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าเหล่านั้นต่างมีสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจท้องที่ เธอรู้ดีว่าหากเธอถูกจับกุมในครั้งนี้จะไม่มีทางปล่อยตัวหลังจากนอนในห้องขัง1-2คืนอย่างที่เคยเป็น เธออาจถูกซ้อมในสถานีตำรวจอีกด้วย

เธอเคยเห็นคนที่ก่อคดีแบบที่เธอทำถูกตำรวจซ้อมมาก่อนและเธอไม่ต้องการเผชิญชะตากรรมเช่นนั้น

“ฉันจะคืนของพวกนั้นให้กับพวกคุณ ดังนั้นพวกคุณต้องปล่อยฉันไปนะ!”

หญิงอ้วนตัดสินใจเอ่ยขึ้น

“ฝันไปเถอะ! คุณขโมยของๆเราก็เท่ากับว่าคุณได้ก่อคดีอาชญากรรมไปแล้ว มันแน่อยู่แล้วที่คุณต้องคืนของที่ขโมยไปให้กับเราแต่เรื่องอื่นๆคุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับเรา”

ผู้จัดการจ้าวตะคอกเสียงแข็ง

“ฉันสัญญาว่าจะไม่มาใกล้ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้อีกแล้วและแม้แต่ซุปเปอร์มาร์เก็ตสาขาอื่นของคุณ ฉันก็จะไม่เข้าไปยุ่งอีก!”

หญิงอ้วนอ้อนวอนด้วยความลนลาน

เฝิงหยู่จ้องเขม็งไปที่เธอด้วยสายตาเย็นชา แม้ว่าเธอจะอ้อนวอนอย่างน่าสงสารเพียงใดแต่สายตาของเธอกับวอกแวกไปมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอกำลังโกหก เธออาจไม่ย่างกรายเข้ามาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้อีกแต่มันก็ไม่แน่ที่เธอจะไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตสาขาอื่น ในปักกิ่งมีซุปเปอร์มาร์เก็ตไท้หัวอีก 3 สาขา!

“ทำไมเราต้องเชื่อคุณด้วย!”

เฝิงหยู่เอ่ยถามเสียงเรียบ

หญิงอ้วนบอกได้ทันทีว่าเฝิงหยู่ต้องใหญ่ที่สุดในห้องแน่ๆเมื่อดูจากตำแหน่งการยืนและท่าทางที่เหล่ารปภ.แสดงต่อเขา เธอจึงหันมาอ้อนวอนเฝิงหยู่ทันที

“โธ่คุณขา!! ได้โปรดสงสารฉันเถอะค่ะ! ฉันมีลูก 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู ฉันไม่มีปัญญาหางานดีๆทำ ฉันก็เลยต้องมาขโมยของๆคุณแบบนี้ ได้โปรดเถอะค่ะ! ถ้าฉันถูกจับลูกๆฉันต้องอดตายแน่!”

ให้ตายเถอะ! นี่มันโกหกชัดๆ! ลูกๆ 3 คนต้องอดตายงั้นเหรอ? นี่คุณคิดว่าตัวเองกำลังโกหกใครอยู่?

“งั้นเหรอ? คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ถ้าคุณถูกจับตัวไปเดี๋ยวตำรวจก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลลูกๆของคุณเองล่ะ”

เฝิงหยู่ตอบยิ้มๆ

มาดูกันว่าเธอจะคิดคำโกหกอย่างอื่นได้อีกหรือเปล่า?

หญิงอ้วนถึงกับตกตะลึงและยกมือขึ้นมาปิดหน้าทันที จากนั้นเธอก็ค่อยๆร้องไห้ออกมา

หากเป็นคนอื่นเมื่อถึงจุดที่เสียใจหรือสิ้นหวังในชีวิตจะต้องทรุดตัวลงร้องไห้แต่ผู้หญิงคนนี้ยังคงยืนเฉยๆและไม่ได้เซเอาหลังไปพิงผนังห้องแต่อย่างใด

“หุปปาก! หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้! แม้ว่าคุณจะร้องไห้คร่ำครวญชักดิ้นชัดงอเพียงใดก็ไร้ประโยชน์! ผมเคยเห็นคนแบบคุณมานักต่อนักแล้ว!”

ผู้จัดการจ้าวตะคอกใส่เธออีกครั้ง

เสียงร้องไห้หยุดลงทันทีก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้น เฝิงหยู่สังเกตว่าใบหน้าของเธอไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่คือการเล่นละครเท่านั้น

บ้าชะมัด! แกล้งร้องไห้งั้นหรือ? เฝิงหยู่อยากรู้จริงๆว่าผู้หญิงคนนี้ลำบากจริงหรือเปล่า? เขาไม่สนใจที่จะหางานให้เธอทำอีกแล้ว! ทั้งๆที่เขาคิดจะช่วยเหลือแล้วแท้ๆ ! เมื่อเห็นเช่นนี้เฝิงหยู่จึงตระหนักได้ว่าคนประเภทนี้ไม่สมควรที่จะได้รับการช่วยเหลือใดๆ การส่งตัวเธอให้กับตำรวจดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด นั่นอาจเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เธอกลับตัวกลับใจได้

“บอกรายชื่อสมาชิกคนอื่นๆที่อยู่ในแก๊งค์ของคุณมาและเรียกพวกเขามาพบคุณที่นี่ซะ เราจะปล่อยตัวคุณก็ต่อเมื่อพวกเขามาพบคุณที่นี่เท่านั้น”

เฝิงหยู่เอ่ยเสียงแข็ง

เธอมองเฝิงหยู่ด้วยความตกใจ แม้แต่ผู้จัดการจ้าวก็ตกใจเช่นกัน นี่ผู้จัดการเฝิงคิดจะปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ? ก่อนหน้านี้เขายังยืนกรานที่จะจับเธอส่งให้ตำรวจอยู่นี่นา? หรือว่าตอนนี้เขากำลังสงสารหัวขโมยคนนี้อยู่?

แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่สมควรได้รับความสงสารหรือความเห็นใจใดๆทั้งนั้น จากพฤติกรรมที่ผ่านๆมาของเธอนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำเช่นนี้ เธอไม่มีแม้แต่ความสำนึก!

“คุณ..คุณจะปล่อยตัวฉันไปอย่างนั้นเหรอ?”

“ผมว่าตัวเองพูดชัดแล้วนะ! คุณเลือกเอาว่าจะอยู่รอให้ตำรวจมาจับคุณที่นี่หรือจะเรียกให้หัวหน้าใหญ่ของคุณมาหาคุณแทน”

เฝิงหยู่ต้องการพูดคุยกับหัวหน้าแก๊งค์ของเธอ เขาต้องการให้พวกเขาหยุดสร้างปัญหาให้กับไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต พวกเขาไม่สามารถมาขโมยสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตและขโมยของจากลูกค้าของเขาได้!

ลูกค้าที่มาใช้บริการไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตจะต้องช้อปปิ้งได้อย่างสงบราบรื่น หากพวกเขาถูกล้วงกระเป๋าหรือข้าวของมีค่าถูกขโมยหายไป พวกเขาจะต้องรู้ว่ามีโจรอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเขาจำนวนมาก แล้วใครจะอยากมาใช้บริการในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เต็มไปด้วยหัวขโมยกันล่ะ?

“ฉันไม่มีหัวหน้า”

“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีทางเลือก! รอตำรวจให้มาจัดการกับเธอแล้วกัน ดูลักษณะของเธอไม่น่าจะอ้วนขนาดนั้น สิ่งของที่เธอขโมยไปน่าจะซ่อนอยู่ใต้กระโปรงและก็ในเสื้อคลุมของเธอ เมื่อตำรวจหญิงเดินทางมาถึงเราค่อยเอาสินค้าของเราคืน บอกตำรวจให้ขังเธอไว้สัก 2 อาทิตย์และตรวจสอบประวัติของเธอให้ครบถ้วนว่าเธอมีคดีอื่นๆอีกหรือไม่? มันคงเป็นเรื่องดีที่เธอจะได้ติดอยู่ในคุกที่เต็มไปด้วยคนมีคดี คนพวกนั้นคงช่วยสั่งสอนเธอได้ไม่น้อย”

ผู้จัดการจ้าวเห็นเฝิงหยู่ส่งสัญญาณให้เขาจึงรีบรับมุกทันที

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย!เธอจะได้รับบทเรียนที่สาสมทีเดียว! กล้าดีอย่างไรถึงมาขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเรา!?”

“นี่พวกคุณจะทำอะไรฉัน!!!”

หัวขโมยหญิงเริ่มกรีดร้องโวยวาย

เฝิงหยู่ไม่สนใจเธอและค่อยๆสาวเท้าออกจากห้อง หัวขโมยหญิงจึงปรี่เข้าไปหาเฝิงหยู่ทันทีแต่โดนเจ้าหน้าที่รปภ.ล็อกตัวไว้ก่อนเพราะกลัวเธอจะพุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายเฝิงหยู่

“คุณ! คุณค่ะ! อย่าเพิ่งไป ฉันยอมแล้ว! ฉันยอมบอกช่องทางการติดต่อของหัวหน้าฉันแล้ว!”

เฝิงหยู่แต้มยิ้มบนใบหน้าทันที

“คุณควรทำแบบนี้ตั้งแต่แรก”

หัวขโมยหญิงรีบให้เบอร์โทรศัพท์ของหัวหน้าเธอทันที เฝิงหยู่และผู้จัดการจ้าวสบตากันและพากันสบถด่าในใจ

หัวหน้าโจรมีโทรศัพท์ใช้งั้นรึ? ดูเหมือนการขโมยจะทำกันเป็นธุรกิจเลยสินะ! ดูท่าจะได้กำไรดีเชียวล่ะ?!

เฝิงหยู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและจัดการโทรออกทันที

[“ฮัลโหล? นี่ใครครับ?”]

เฝิงหยู่แนบโทรศัพท์ไปที่ใบหูของหัวขโมยหญิงและเธอก็ตะโกนใส่ปลายสายทันที

“เฮียเหอ! ฉันเอง! หยิงซี! ฉันถูกจับและพวกเขาต้องการให้เฮียมาพบที่นี่! เฮียต้องมาช่วยฉันนะ!”

เฝิงหยู่หยิบโทรศัพท์คืนและพูดกับปลายสายแทน

“เฮียเหอ ผมเป็นหัวหน้าใหญ่ของไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต! ลูกน้องของคุณถูกจับได้ว่าขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ตของผม สิ่งนี้ไม่ถูกต้องนะครับ! รีบมาเอาตัวเธอกลับไปจะดีกว่าแล้วผมจะคิดซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”

เมื่อผู้จัดการจ้าวได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูดก็ขมวดคิ้วสงสัย ทำไมผู้จัดการเฝิงจึงทำท่าเหมือนกลัวพวกหัวขโมยแก๊งค์นี้ด้วยล่ะ?

ด้วยอายุและตำแหน่งของเฝิงหยู่แล้ว เขาควรจะใจร้อนและรีบจัดการหัวขโมยเหล่านี้ให้เด็ดขาด นอกจากนี้เขายังมีธุรกิจในมืออีกจำนวนมากและไม่ควรมากลัวพวกหัวขโมยตัวเล็กๆเช่นนี้ เขายังส่งของกำนัลไปยังสถานีตำรวจในท้องที่ แม้ว่าเขาจะจัดการกับหัวขโมยเหล่านี้รุนแรงเพียงใด ตำรวจในท้องที่ก็พร้อมจะปิดตาข้างหนึ่งกันทั้งนั้น

เฮียเหอที่กำลังคุยสายกับเฝิงหยู่นั้น ในช่วงนี้เขากำลังอารมณ์ดีแบบสุดๆเมื่อจู่ๆไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เปิดกิจการขึ้นมาและมันยังเป็นแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศ แม้แต่รัฐมนตรีระดับสูงๆก็ยังเดินทางมาเยี่ยมชมซุปเปอร์มาร์เก็ตเหล่านี้และมันยังมีสินค้าต่างๆมากมายที่วางขายอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ต่างๆก็เป็นที่นิยมจากผู้บริโภคและมีผู้คนหลั่งไหลมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เขาส่งลูกน้องของเขาไปดูลาดเลาที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตมาสักพักหนึ่ง ในกรุงปักกิ่งมีทั้งหมด 3 สาขาและเขาก็จัดการส่งลูกน้องกลุ่มใหญ่ไปขโมยของที่นั่นทันที พวกเขาส่วนใหญ่จะถนัดการล้วงกระเป๋าและเขาจะได้รับเงินอย่างน้อย 200-300 หยวนต่อวัน

หยิงซีไม่ค่อยเก่งเรื่องการล้วงกระเป๋า เขาจึงตัดสินใจส่งเธอไปขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ตแทน แม้ว่าหยิงซีจะเป็นผู้หญิงของเขาแต่เธอก็ต้องทำงานเช่นกัน

แต่เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะถูกจับตัวได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางไปขโมยของในไทฮัวซุปเปอร์มาร์เก็ตและหัวหน้าไทฮัวซุปเปอร์มาร์เก็ตยังเรียกตัวเขาไปช่วยเธออีกด้วย?

ถ้าเขาไม่ไปช่วยหยิงซีที่นั่นแล้วล่ะก็? ลูกน้องคนอื่นๆก็อาจไม่เคารพเขาอีกต่อไปเพราะหยิงซีคือผู้หญิงของเขา

[“ตกลง! ผมจะไปพบคุณที่นั่นภายใน 1 ชั่วโมง! ห้ามทำอะไรหยิงซีเป็นอันขาด! ไม่อย่างนั้นคุณเจอกับผมแน่!”]

หลังจากวางสายเสร็จเฝิงหยู่ก็ต่อสายไปอีกที่หนึ่งทันทีโดยคุยต่อหน้าหยิงซีเช่นเดิม

“สวัสดีครับ นี่ใช่ตำรวจหลี่หรือเปล่าครับ? ผมเฝิงหยู่จากไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตนะครับ พอดีผมมีปัญหาเล็กน้อยเลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณนะครับ”

Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น

Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 800 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


นักลงทุนผู้ล้มเหลวจากปี พ.ศ. 2560 ดื่มจนเมามาย แล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในปี พ.ศ. 2531 ซึ่งเป็นยช่วงที่ประเทศจีนพึ่งจะเปิดประเทศและเศรษฐกิจกำลังเติบโตรุ่งเรือง ทั้งยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย, ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ไอที และวิกฤตทางการเงินอื่น ๆ เขาต้องพึ่งพาความรู้จากโลกอนาคตเพื่อสร้างอาณาจักรของเขาขึ้นอย่างช้าๆ

Options

not work with dark mode
Reset