Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี 303

ตอนที่ 303

บทที่ 303 – ฉันคือพ่อของพวกนาย (4)

“ยังติดต่ออิลฮานไม่ได้อีกหรอ!?”
“ไม่เลย อาร์ติแฟคไม่ทำงานเลย…!”
“มิตินี่เกิดอะไรบางอย่างขึ้น…!”

นักเวทย์ทุกๆคนได้พยายามที่จะใช้เวทย์ของพวกเธอ แต่ว่ามันไม่มีทางเลยที่จะจัดการตัวที่เหมือนกันกับตัวที่ต้อนพวกเธอจบมุมได้ แถมพวกมันในตอนนี้ยังมีถึงสามตัว

[กำจัด]
[กำจัด]
[กำจัด]
[นี่มันทำให้ฉันจะบ้า… หว่าาาา!]

มิสทิคที่กำลังฟื้นฟูป้อมปราการอยู่ได้ร้องออกมาทันที การโจมตีของพวกมันทั้งหมดได้เล็งมาที่ป้อมปราการ

[พวกมันกำลังพยายามจะลบร่องรอยทุกๆอย่างนั่นเพราะว่าที่รักจะเก็บบันทึกของพวกมันได้!]
“อ่า ใช่แล้ว! ถ้าเรารอดกลับไปที่รักก็จะเข้าใจในทุกๆอย่างรวมไปถึงตัวตนที่อยู่เบื้องหลังของเจ้าพวกนี้ด้วย”
[แต่ระหว่างเรากำลังพูดถึงเบื้องหลังนี่เราทั้งหมดจะตายกันแล้ว]

เลียร่ารู้สึกเหมือนว่าหากเธอไม่เล่นมุกออกมาเธอก็คงจะประหม่าจนหอกหลุดมือแน่ ทุกๆคนก็ยังรู้เหมือนกันว่าเลียร่ากำลังพยามทำให้ทุกๆคนใจเย็นลงแทนที่ยูอิลฮาน แต่ว่าเธอก็แทนที่ยูอิลฮานได้แค่ในด้านการเล่นมุก เธอไม่อาจจะมีพลังการต่อสู้แบบเขาได้ เฮเรียน่าได้สิ้นหวังกับความรู้สึกไร้พลังของเธอ

[ฉันน่าจะเพิ่มความสามารถอื่นๆนอกจากเสน่ห์ด้วย…]
[ความมั่นใจที่เธอสามารถจะทำให้สิ่งมีชีวิตทุกๆคนตกอยู่ในเสน่ห์ได้นอกจากนายท่านมันหายไปไหนแล้วล่ะ?]
[ถ้าฉันอยูู่คลาส 7 ล่ะก็ แต่ว่าในตอนนี้… ไม่ไหวแน่]

เฮเรียน่าได้พูดออกมาโดยไม่สนใจมิสทิคที่ตะโกนใส่เธอพร้อมทั้งหลบลำแสงทั้งหมดจากศัตรูทั้งสามคนอย่างวุ่นวาย เธอได้ตบแก้มของเธอ

[ไม่สิ ถึงแบบนั้นก็ไม่เป็นไร ฉันจะไม่ตายที่นี่ ต่อให้พวกนี้มันจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเลยก็เถอะ แต่ตราบใดที่พวกมันยังมีสติปัญญาแล้วก็เคลื่อนไหวได้ล่ะก็…!]
“เฮเรียน่าอย่ากดดันตัวเอง… อ๊าาา!”

เลียร่าที่กำลังจะบอกให้เฮเรียน่าอย่ากดดันตัวเองเกินไป เธอได้ถูกโจมตีจนเกิดเป็นแผลร้ายแรงจากลำแสงของหนึ่งในศัตรู หากว่าพลังของเธอยังมีเต็มที่อยู่เธอก็จะหักเหวิถีลำแสงได้แน่ แต่ว่ามานาของเธอไม่ได่มีไม่จำกัด

โอโรจิก็ยังกลับไปที่แนวหน้าหลังจากทำการรักษากระดูกทั้งสองของเขาที่ได้จัดการทำให้ศัตรูคนแรกตายไป แต่ว่าที่โอโรจิทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่ยื้อเวลาได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น และการทำแบบนี้ก็มีแต่ทำให้พวกมันได้รับบันทึกบางส่วนมาด้วย

พีทที่มีความสามารถในการควบคุมอันเดตสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็กำลังปกป้องคนอื่นๆอยู่ แต่ว่าเขาไม่มีโอกาสได้โจมตีเลย เพราะแบบนี้หากเฮเรียน่าไม่ทำอะไรซักอย่าง อีกไม่นานพวกเขาก็จะต้องถูกกำจัดไปจริงๆแน่

[เลียร่าสลับกัน]
[ความสามารถของเธอใช้ไม่ได้ผลนะ อย่ากดดันตัวเองเกินไปสิ แค่ตั้งใจกับการควบคุมพันนัยน์… อ๊ะ]
[กำจัด]
[กำจัด]

สิ่งมีชีวิตที่ระบุไม่ได้ทั้งสองตัวได้เข้ามาใกล้เลียร่าหลังจากที่เห็นเธอบาดเจ็บขึ้นมา หลังจากเห็นแบบนี้เฮเรียน่าได้เม้มริมฝีปากตะโกนใส่นายูนา

[ให้พรเร็ว!]
“แต่ไม่ใช่เธอได้บอกว่าเธอไม่ต้องการพรจากบันทึกเทพนี่นา~?”
[แต่ในตอนนี้ฉันต้องการมัน! นี่เป็นพรจากเทพธิดาแห่งความงามนี่นา? นั่นจะทำให้ฉันมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นอีก! มากไปจนถึงจุดที่จะส่งผลต่อสิ่งที่ไม่มีชีวิตได้!]
“อ๊า ไม่คิดเลยว่าวันที่ฉันจะต้องใช้พรนี้นอกจากตัวฉันเองจะมาถึง…”

แต่ถึงแม้นายูนาดูจะไม่เต็มใจร่ายพร แต่ว่าเธอก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลามาเล่นอีกแล้ว เธอได้เริ่มร่ายพรในทันที

แม้ว่าเธอจะไม่ได้ชอบเฮเรียน่ามากนัก แต่ว่าเธอก็ไม่อยากจะให้เลียร่าบาดเจ็บไปมากกว่านี้อีก

“ผุดผ่องยิ่งกว่าแสงจันทร์ โปร่งใสยิ่งกว่าหยดน้ำค้าง สดชื่นยิ่งกว่าสายลมยามเช้า สูงส่งยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ ท่านเทพธิดาแห่งความงาม! ได้โปรดมอบความงดงามของท่านให้แก่ผู้ที่ต้องการด้วยเถิด!”
“คำร่ายที่ดูครบถ้วนนี่มันอะไรกัน!?”

เมื่อไหร่ก็ตามที่เนื้อหาการร่ายเป็นแบบนี้ผลของมันก็จะยอดเยี่ยมเสมอ! ออร่าสีชมพูได้ลอยออกมาจากนายูนาและเข้าไปปกคลุมทั้งตัวของเฮเรียน่าก็ที่จะเพิ่มเสน่ห์ให้กับเธออย่างมหาศาล การเปลื่ยนแปลงนั้นมีมากมายมาก มากจนถึงขนาดที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเฮเรียน่าคือร่างจำแรงของเทพธิดาแห่งความงามเอง

เฮเรียน่าได้หลับตาของเธอลงและเปิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกเหมือนราวกับว่ามีไอน้ำสีชมพูออกมาจากรอบๆตัวเธอ

[ฟู่…ฮ่าห์… เยี่ยมไปเลย นี่แหละ]
“อ๊าาา”
“มะ ไม่นะ นี่คือคนของท่านจักรพรรดิ…!”

เนื่องจากความสวยงามของเธอได้ถูกพรเสริมขึ้นไปอีกทำให้ตอนนี้คนที่มองไปที่เฮเรียน่าก็ยากจะยืนอยู่แล้ว หลังจากเห็นแบบนี้คังฮาจินก็รู้ได้ถึงบางอย่า

“ยูนานี่เธอ… ฉันเห็นเธอเข้าไปหาอิลฮานหลังจากร่ายพรนี้เป็นบางครั้ง…”
“พี่ฮาจิน ชู่วววว”
[ด้วยสิ่งนี้]

เฮเรียน่าได้เห็นเลียร่าถูกกดดันจนถอยมาอย่างต่อเนื่อง เธอได้พุ่งเข้าไปช่วยในทันทีโดยไม่ลังเล พลังเวทย์ที่ทรงพลังได้ปะทุออกมาจากร่างของเธอ

[ทำไมแกไม่ลองต้านทานมันอีกครั้งดูล่ะ! ในตอนนี้ฉันมันใจว่าเสน่ห์ของฉันมีผลต่อแม้กระทั่งหิน ลมหรือดวงอาทิตย์แล้ว!]
[กำลังระบุความสำคัญในการกำจัดเป้าหมาย… ปะ เป้า… หมาย…]

พรใช้ได้ผลจริงๆ ในตอนนี้หนึ่งในพวกมันที่กำลังโจตีเลียร่าได้หยุดเคลื่อนไหวลงหลังจากโดนเวทย์ของเฮเรียน่า เฮเรียน่าได้เพิ่มพลังเวทย์ขึ้นอีกโดยไม่ประมาทเพื่อที่จะเอาชนะความสามารถในการต้านทานของมันซึ่งเธอทำสำเร็จ! นี่เป็นอีกข้อพิสูจน์หนึ่งคือพวกมันไม่ได้มีการต้านทานเวทย์ที่สมบูรณ์แบบ

“เฮเรียน่า”
[เลียร่าถอยกลับไปรวมกลุ่มซะ! เฮ้ แกน่ะมองมาที่ฉันนี่]
[กำจัด เป้าหมาย… ลำดำความสำคัญ… กำจัด… ระบุเป้าหมาย เล็ง…]

แม้ว่าเธอจะล่อลวงได้ตัวหนึ่งแล้ว แต่เฮเรียน่าก็ยังกระจายมานาเข้าไปใส่อีกตัวในทันที! เธอจะไม่เคลื่อนไหวด้วยความกลัวอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าบาดแผลที่ท้องของเธอจะยังไม่หายดี แต่ว่าเธอก็เคลื่อนไหวออกมาโดยไม่ลังเลซักนิดเดียว

หากว่าเธอจะตายแค่เพราะบาดแผลเดียว ถ้างั้นเธอก็คงไม่อาจจะอยู่ได้ถึงตอนนี้แน่! ในตอนนี้พลังเสน่ห์และความสวยงามของเธอได้ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลัง! สิ่งที่เธอทำในตอนนี้มันเหมือนกับว่าเธอกำลังฝ่าหัวใจที่ไม่สั่นคลอนของยูอิลฮาน

[…โอ้ พอมาคิดดูแล้วถ้าฉันจู่โจมที่รักในตอนได้พรนี้ นั่นจะไม่สำเร็จในทันทีเลยหรอกหรอ? ฉันคิดว่าฉันน่าจะต้องคิดชื่อลูกได้แล้วสินะ?]
“ฉันไม่ยอมให้เธอทำหรอกนะ! ไม่มีวันนน!”
[เล็งเป้าหมาย ละ ล้มแหลม กำจัดปะ เป้าหมาย คะ ความสำคัญ คะ เคลื่อนไหว]
[ชาร์จพะ พลังงาน อะ อันตรา… วิเคราะห์ล้มเหลใ ไม่อาจจะวิเคราะห์ได้อีก มะ โหมดชาร์จ]

น้ำเสียงของพวกมันได้ขาดออกเป็นช่วงๆ การกระทำของพวกมันก็ยิ่งผิดปกติยิ่งขึ้น และแม้กระทั่งลำแสงที่โจมตีกลุ่มของพวกเลียร่าอยู่ตลอดเวลาก็ได้หยุดลงไปแล้ว การสั่นสะเทือนที่โลวงแหวนก็หยุดลงเช่นกัน

“…อ่า”
“มานาของฉัน!”

ยังไงก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือทั้งกลุ่มสามารถจะใช้มานาได้อิสระมากยิ่งขึ้น นี่มันพิสูจน์ได้เลยว่าวงแหวนและปีกของพวกมันมีผลอย่างมากกับมานาในโลกใบนี้!

[คุณผู้หญิง เมื่อไหร่เธอจะร่ายเวทย์โจมตีซักทีล่ะ? พี่สาวคนนี้ยื้อมันเอาไว้ได้ไม่นานนะ!]
“เธอทำได้ดีมากซัคคิวบัส…! นี่เป็นผลงานใหญ่เลย!”

ในตอนนี้คนอื่นๆทุกคนได้ฟื้นคืนการควบคุมมานากลับมาแล้ว เอิลต้าได้กัดฟันแน่นและสร้างวงเวทย์ขนาดใหญ่ขึ้นกลางอากาศ

[เพิ่มการประเมินความอันตรายของศัตรู]
[นั่นมันบ้าอะไรกัน!]
“ที่ฉันทำก็แค่บีบอัดมานาและเปลื่ยนความแข็งของมานาไป! ต่อให้พวกมันจะมีความต้านทานต่อมานา พวกมันก็ไม่อาจจะต้านพลังทำลายได้แน่!”

กระสุนเวทย์ขนาดยักษ์ได้พุ่งเข้าโจมตีพวกมันและระเบิดออกมา เมื่อกระสุนเวทย์ได้โดนตัวพวกมัน เวทย์ทั้งหมดก็ถูกยับยั้งทำให้กระสุนเวทย์หายไป แต่เพราะแบบนี้ก็ทำให้มานาปั่นป่วนไปเช่นกัน! เอิลต้าได้ใช้โอกาสนี้ควบคุมมานาที่ปั่นป่วนเพื่อที่จะสร้างความเสียหายกับวงแหวนและปีกของมัน

[ติดคริติคอล!]

และเธอก็คำนวนไม่คิด กระสุนเวทย์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อที่จะสร้างแรงระเบิดกลับใส่คนที่ทำการยกเลิกเวทย์ มันได้ทำหน้าที่ทำลายปีกและวงแหวนได้เป็นอย่างดี

[ความเสียหายร้ายแรง เป็นไปไม่ได้ที่จะยับยั้งพลังงานของโลกเก่าอีก]
[ถอย หรือ ตะ ต้องการกำลังเสริม]
“วงจรมานากลับมาเป็นปกติแล้ว”
“ทำได้ดีมากเอิลต้า!”

คิมเยซอลที่ได้ฝึกมาหลายต่อหลายปีก็ไม่มีทางจะพลาดโอกาสสำคัญนี้

“พื้นที่มิติและเวลา! จงกลายเป็นคมเขี้ยวขจัดเหล่าผู้มาทำร้ายเรา!”

สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นมาแล้ว ในโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้มีแค่มอนสเตอร์ทั้งสามตัวนี้เท่านั้นที่ถูกหยุดอยู่กับที่

“ทุกๆคนนอกจากมิเรย์ พวกเราต้องฆ่าพวกมันในตอนนี้! ในเมื่อพวกมันพูดถึงกำลังเสริมออกมาเพราะงั้นมิเรย์จะต้องเตรียมเวทย์สำหรับหลบหนี! พวกเราจำเป็นต้องไปมิติที่พวกมันเข้ามาไม่ได้!”
“ได้ค่ะแม่!”
[ฮ่าห์!]

โอโรจิที่ได้ฟื้นตัวพอสำหรับใช้ไพท์บังเกอร์อีกครั้งแล้วก็ได้ยิงหอกกระดูกออกมาจากแขนทั้งสองข้างฆ่าหนึ่งในพวกมันไป โอโรจิทำได้ตามที่ยูอิลฮานคาดหวังเอาไว้อย่างไม่มีผิด

คนที่เล็งโอกาสนี้เช่นเดียวกันก็คือพีทด้วยเช่นกัน เขาได้กระจายคำสาปเพื่อกัดกร่อยหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูและให้อันเดตพุ่งเข้าใส่หนึ่งในพวกมัน

“บรรเลงเพลงสู่นรก!”
[ก๊าซซซซซซซ!]
[มาอยู่เดียวกันเถอะ!]

การระเบิดครั้งนี้ยิ่งกว่ากระสุนเวทย์ซะอีก พีทได้ให้ศพสิ่งมีชีวิตชั้นสูงระเบิดออกมาด้วยการใช้พลังจากพรแห่งเทพ เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยในเรื่องพลังโจมตีเลย! หากยูอิลฮานได้รู้เรื่องนี้ก็คงจะเศร้าแน่ แต่ถึงแบบนั้นการเอาชีวิตรอดก็คือสิ่งสำคัญที่สุด

เมื่อการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ถูกการระเบิดของพีทขัดเข้าไปอีกทำให้คนอื่นๆก็ตามเข้าไปโจมตีเช่นกัน ไม่มีทางที่คนๆเดียวจะเอาชนะคนจำนวนมากได้อยู่แล้ว! เพราะแบบนี้ในท้ายที่สุดพวกมันก็ถูกทำลายลง

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[เลเวล??? ?????????]

“ฉันเข้าใจแล้วว่าเจ้าตัวบ้าพวกนี้อย่างน้อยก็เลเวล 500!”
“นี่มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย! คังมิเรย์แล้วประตูมิติล่ะ!?”
“พร้อมแล้ว!”

ปัญหาไม่ใช่เรื่องการได้รับความช่วยเหลือจากยูอิลฮานหรือไม่แล้ว แต่ว่าหากพวกเธอไม่รีบออกไปจากที่นี้ในทันที พวกเธอจะต้องถูกกำจัดแน่นอน…!

[กำจัด]
[กำจัดศัตรู]

ยังไงก็ตามคังมิเรย์ช้าไปนิด ดูเหมือนกับว่าพวกมันจะมีความสามารถในการฝืนเรียกพรรคพวกออกมาได้ในตอนที่พวกมันถูกกำจัด และตอนนี้ได้มีพวกมันถึงเก้าตัวโผล่ออกมาจากประตูมิติ

“นี่พวกมันทั้งหมดมาจากไหนกัน!?”
[เป้าหมายที่อันตรายที่สุด]
[กำลังเปลื่ยนลำดับความสำคัญเป็นลำดับสอง]
[กำจัดเป้าหมาย ไม่ทราบองค์ประกอบ]
[พรรคพวกของยูอิลฮาน จำเป็นต้องกำจัด]
“เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน…”

ไม่ต้องสงสัยในคำพูดของพวกมันแล้ว เบื้องหลังของเจ้าพวกนี้เป็นสิ่งที่ยูอิลฮานจะต้องได้เผชิญหน้าอย่างแน่นอน!

พวกเธอเพิ่งจะฝืนเอาชนะพวกมันสามตัวมาได้ แต่ในตอนนี้กลับมีพวกมันโผล่ขึ้นมาอีกเก้าตัว เพราะแบบนี้ทำให้ทั้งกลุ่มสิ้นหวัง

“…ฉันคิดว่าฉันทำมันได้”

ยังไงก็ตามเมื่อเห็นแบบนี้คังมิเรย์ได้เม้มปากของเธอ คังมิเรย์ก็คิดเหมือนกันกับที่เลียร่าและเฮเรียน่าคิด เธอคิดว่ายูอิลฮานได้ฝากกลุ่มไว้กับเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เธอเป็นคนดูแลความปลอดภัยของทุกๆคนด้วยเวทย์มิติของเธอ เธอไม่อาจจะปล่อยให้ใครบาดเจ็บได้อีกแล้ว

“ได้โปรดช่วยฉันด้วยนะ”

ในเมื่อพวกมันทั้งเก้าได้ยับยั้งการไหลของมานาไปอีกครั้งทำให้คังมิเรย์ได้รวมพลังทุกๆอย่างไปที่รัดเกล้าระดับเทพ มงกุฏแห่งปัญญา และได้ปลุกมานาของเธอ นอกจากนี้เธอยังได้กินคุกกี้ยัดไส้เวทมนต์ลงไป รวมทั้งดื่มโพชั่นทั้งหมดที่มีด้วย!

แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ

“ฉันทำได้ ฉันทำมันได้แน่ ฉันจะทำให้ได้…!”
[กำจัด]
[กำจัด]
[กำ…]

ยังไงก็ตามถึงเธอจะดึงมานาออกมาได้ แต่ว่าเธอก็ไม่อาจจะสร้างประตูมิติที่ใหญ่พอจะให้คนผ่านไปได้เพราะแรงกดดันจากภายนอก ถ้าเป็นแบบนี้เธอจะต้องหาวิธีใช้ประตูมิติเล็กๆนี่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยลองมาก่อน แต่เธอจะต้องทำสำเร็จแน่

“เฮเรียน่า หยุดการเคลื่อนไหวพวกมันที!”
[พลังของพรกับมานาใกล้จะหมดแล้ว… อ๊า ฉันยื้อพวกมันได้แค่แป๊บเดียวนะ!]
“ฉันต้องการแค่แป๊บเดียวนั่นแหละ”

เฮเรียน่าได้ทำตามคำขอของคังมิเรย์ทันที เมื่อศัตรูได้แข็งทื่ออยู่กับที ประตูมิติที่พอแค่ให้ปากกาผ่านไปก็ได้ปรากฏขึ้นบนร่างของหนึ่งในพวกมันก่อนจะหายไป

[ติดคริติคอล!]

พร้อมๆกับประตูมิติที่หายไป ร่างกายส่วนนั้นของพวกมันก็หายไปด้วย

[ชิ้นส่วนร่างกายหายไป ไม่อาจต้านทานได้]
“!?”
“นั่นมันบ้าอะไรกัน!”
“นี่มันเพิ่งเริ่มเท่านั้น!”

มันยังไม่จบลง ประตูมิตินับสิบ นับร้อยได้ปรากฏขึ้นมาในทันทีก่อนที่จะหายไปและศัตรูทั้งเก้าก็ไม่อาจจะทนกับการกลายเป็นรังผึ้งไปในทันทีได้

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับ…]

พวกมันทั้งเก้าตัวได้ล้มตายลงไปทั้งแบบนี้ บางทีอาจจะเพราะพวกมันไม่มีเวลาให้เรียกกำลังเสริมทำให้ไม่มีอะไรเข้ามาในโลกนี้อีก

“ฮ่าห์… อ๊า”
“มิเรย์”

หลังจากได้สร้างปาฏิหาริย์ที่เกินกำลังเธอไป คังเรย์ได้ล้มไปในัทนที นายูนาได้รีบเข้าไปรับเธอเอาไว้ แต่คังมิเรย์ก็หมดสติไปแล้ว

“…นั่นคังมิเรย์ทำอะไรไปน่ะ?”
“ดูเหมือนว่านั่นจะนับเป็นปาฏิหาริย์ พลังศักดิ์สิทธิ์ของฉันถูกใช้ไปอย่างมาก”

เมื่อเลียร่าได้ถามออกมาอย่างสับสนโดยไม่สนใจแผลของตัวเองเลย นายูนาก็ตอบกลับมาอย่างสับสนเช่นกัน และในตอนนี้เอง

[ตอนนี้ดาเรย์ปลอดภัยแล้วนะ ทุกๆคนกลับมาในทันทีที่มาได้เลยนะ]

ในจังหวะที่เหมาะเจาะนี้เสียงของยูอิลฮานก็ได้ดังขึ้น เน่องจากว่าองค์ประกอบภายนอกทั้งหมดที่ปิดกันโลกใบนี้หายไปแล้วทำให้การเชื่อมต่อเกิดความเสถียรขึ้นมาในที่สุด เลียร่าได้มองไปที่คังมิเรย์ที่หมดสติอยู่ก่อนจะส่งเสียงที่ดูตกใจเล็งน้อยออกมา

“อิลฮาน คือว่า…”

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 260 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


ถูกทิ้งจากการเข้าค่ายในมัธยมต้น

ถูกทิ้งจากการเข้าท่องเที่ยวในมัธยมปลาย

ในท้ายที่สุดแล้วฉันก็กลายมาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้วยังไงล่ะ? ฉันก็ยังถูกมนุษยชาติทิ้งเอาไว้อีกงั้นหรอ? ถูกพระเจ้าเมินจนทำให้ยูอิลฮานต้องฝึกฝนทักษะของตัวเองเป็นเวลาถึงหนึ่งพันปี เฝ้ามองดูโลกอย่างอ้างว้างในขณะที่ทุกๆคนต่างก็ไปอยู่ในโลกอื่นกัน

ตำนานของเขาได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่มนุษยชาติได้กลับมาและเจอกับหายนะครั้งยิ่งใหญ่


 

Options

not work with dark mode
Reset