Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 313

ตอนที่ 313

บทที่ 313

 

ต่อสู้กับจื่อหยูเย่

 

 

“ไม่น่าแปลกใจที่เขาได้เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก”

 

 

หัวใจของเจียงหรั่วหลิวหล่นวูบ ก็ในเมื่อเธอมีลางสังหรณ์ว่าหลี่ฟู่เฉินอาจเป็นคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด

 

 

“ระบำนภาสวรรค์”

 

 

ท่าเต้นของเจียงหรั่วหลิวรู้สึกราวกับว่ามันมีพลังวิเศษ ก็ในเมื่อแม้แต่กระทั่งมุมเสื้อผ้าของเธอก็ทำให้เกิดภาพลวงตาไม่รู้จบ ทุกครั้งที่เจียงหรั่วหลิวใช้งานระบำนภาสวรรค์ อัจฉริยะส่วนใหญ่บนเสาหินชุบสวรรค์ไม่กล้ามองเธอด้วยซ้ำ ขณะที่พวกเขากลัวว่าพวกเขาอาจหลุดเข้าไปในสถานะภาพลวงตาและเปิดเผยด้านที่น่าเกลียดของตัวเองออกมาเอาได้

 

 

ตรงข้ามกับเจียงหรั่วหลิว ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินกระจ่างชัดแจ่งและเป็นปกติ

 

 

ระบำนภาสวรรค์ของเจียงหรั่วหลิวนั้นน่าทึ่งจริงๆ เขาอาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่จิตวิญญาณของเขาก็อ่อนไหวมาก แม้จะไม่มีผลใดๆ เขาก็ยังคงสามารถเห็นได้ว่าระบำนภาสวรรค์นั้นทรงพลังเพียงใด

 

 

“เงาสังหารเพลิงปีศาจ!”

 

 

ด้วยพลังฉีดาบเหล็กดำเสริมด้วยเงาสังหารเพลิงปีศาจ พลังมันจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่ 30% เท่านั้น มีพลังฉีสีดำแดงเข้าไปห่อหุ้มเจียงหรั่วหลิว ทันทีหลังจากนั้น แสงดาบเหล็กดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็เข้าตวัดตัดกันอย่างรุนแรง ทิ้งรอยแผลเป็นจากดาบไว้บนร่างกายของเจียงหรั่วหลิว ในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างกายเจียงหรั่วหลิวก็โชกไปด้วยเลือด

 

 

เจียงหรั่วหลิวพ่ายแพ้อย่างหมดจด ตรงไปตรงมา และเป็นการแพ้ที่น่าสงสารอย่างยิ่ง

 

 

“อะไร? เขาไม่ได้รับผลกระทบจากทักษะภาพลวงตา?”

 

 

ทุกคนตกตะลึงกับความสามารถที่หลี่ฟู่เฉินแสดงออกมา แต่การที่ภาพลวงตาใช้ไม่ได้ผลกับเขานั้นทำให้ทุกคนตกใจ

 

 

มีสองสิ่งที่สามารถอธิบายได้ว่าที่ทักษะภาพลวงตาไร้ผลนั้นเป็นเพราะอะไร

 

 

หนึ่งบุคคลผู้นั้นอาจมีพรสวรรค์ที่แฝงตั้งแต่กำเนิด ซึ่งคนนั้นได้รับภูมิคุ้มกันจากทักษะภาพลวงตา หรืออย่างที่สองเจตจึวามมุ่งมั่นในจิตวิญญาณของใครคนหนึ่งมีพลังมากเกินไปจนสามารถเพิกเฉยต่อทักษะภาพลวงตาได้

 

 

คำอธิบายอย่างใดอย่างหนึ่งในนั้นน่ากลัวมาก

 

 

“หากเด็กผู้นี้พัฒนาต่อไปจนถึงอนาคตข้างหน้าได้ เขาจะเป็นตัวหายนะของวิหารไตรสิกขาข้า!” คิ้วของเจ้าวิหารไตรสิกขาถูกถักเข้าด้วยกัน

 

 

วิหารไตรสิกขาเป็นหนึ่งในสิบกลุ่มที่มีอิทธิพลและพวกเขาก็อาศัยทักษะต่อสู้ภาพลวงตาเป็นหลัก หากทักษะต่อสู้ภาพลวงตาไร้ผล เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต้องสงสัยเลยวิหารไตรสิกขาของพวกเขาจะต้องถูกเข้ามาแทนที่แน่นอน

 

 

โชคยังดีที่มีหลี่ฟู่เฉินเพียงแค่คนเดียว

 

 

หลังจากที่หลี่ฟู่เฉินเอาชนะเจียงหรั่วหลิวได้แล้ว โดยพื้นฐานแล้วเขาย่อมได้รับการยืนยันว่าเป็นหนึ่งในสี่อันดับแรกของการแข่งขันจัดอันดับดารานี้ แม้ว่าราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย และราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง อาจจะยังไม่ได้พบกับอัจฉริยะชั้นยอดเท่าใดนัก ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องแข่งขันด้วยซ้ำ

 

 

ในนัดที่ 5300 ถึงคราวของราชาดาราไร้เคลื่อนไหวฉีเหิง แล้ว และคู่ต่อสู้ของเขาก็คือเถิงฉิงหยุน

 

 

เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง…

 

 

มีประกายไฟระเบิดออก ขณะที่ไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้มของเถิงฉิงเหวี่ยงเข้าใส่ร่างของฉีเหิงอย่างรุนแรง แต่มันก็ช่างน่าประหลาดใจที่ไม่มีความเสียหายหรือบาดแผลบนร่างกายของฉีเหิงเลยแม้แต่น้อย พลังป้องกันของเขามีมากเกินไปจึงสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีทั้งหมดของเถิงฉิงหยุนได้

 

 

“ข้ายอมแพ้” เถิงฉิงหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

 

 

หากเขาไม่สามารถทำลายแนวป้องกันของคู่ต่อสู้ได้ เขาจะสู้ต่อไปได้อย่างไร?

 

 

ในนัดที่ 5468 มันถึงคราวของราชาดาราอัสนีสือตูเหล่ย สู้กับ ซูหลิน

 

 

“หมัดอัสนีคำรน!”

 

 

เผชิญหน้ากับซูหลินที่อยู่ในครึ่งก้าวขอบเขตสวรรค์ ทั้งยังมีเทคนิคบ่มเพาะอยู่ขั้นที่ 17 ราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ยก็ใช้เพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น ท้องฟ้าทั้งหมดเต็มไปด้วยสายฟ้าที่รุนแรง ซึ่งมาบรรจบกันและก่อตัวเป็นหมัดสายฟ้าขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้าใส่ร่างของซูหลิน

 

 

ปิสส!

 

 

อาเจียนออกมาเป็นเลือดสด ซูหลินบินถอยหลังกลับไป สายฟ้าเข้ามาทำลายร่างกายของเธอจนกระทั้งได้บาดเจ็บสาหัส

 

 

‘เทคนิคบ่มเพาะขั้นที่ 17’ หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้ว

 

 

เทคนิคบ่มเพาะสือตูเหล่ยไม่ใช่เทคนิคบ่มเพาะระดับลึกลับขั้นสูงสุดธรรมดาๆ มันเป็นถึงเทคนิคอันดับที่ 1 ของนิกายเทพอัสนี ซึ่งเป็นเทคนิค Thunder Lightning Divine ที่มีชื่อเสียงของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ซึ่งเป็นเทคนิคอสนีบาตคำรนที่มีชื่อเสียงของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก

 

 

มันอาจจะเป็นขั้นที่ 17 เหมือนกัน แต่พลังทำลายล้างของเทคนิคอสนีบาตคำรมเป็นอันดับ 1 ของทวีป ในแง่ของการจัดอันดับโดยรวม เทคนิคอสนีบาจคำรนอย่างน้อยๆ ก็อยู่ในสามอันดับแรก

 

 

นอกเหนือจากนี้ ความสามารถด้านทักษะต่อสู้ของสือตูเหล่ยนั้นสูงกว่าซูหลินอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ในนัดที่ 5600 ฉีเหิงขึ้นต่อสู้กับเจียงหรั่วหลิว

 

 

ถึงแม้เจียงหรั่วหลิวจะรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้สำหรับฉีเหิง แต่เธอก็อยากรู้ว่าทักษะต่อสู้ภาพลวงตา ระบำนภาสวรรค์ ของเธอจะสามารถทำร้ายฉีเหิงได้หรือเปล่า

 

 

และแล้วมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทักษะต่อสู้ภาพลวงตาเองก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แม้แต่กระทั้งราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง ก็ไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่ต้องทนทุกข์ทรมานจากภาพลวงตาเล็กน้อย

 

 

อย่างไรก็ตามช่างน่าเสียดายที่พลังป้องกันของฉีเหิงนั้นแข็งแกร่งเกินไป และพลังโจมตีของเจียงหรั่วหลิวเองก็เหมือนกับฝนที่ตกใส่สำหรับฉีเหิง หลังจากโจมตีฉีเหิงอยู่สองสามครั้ง ฉีเหิงก็คว้าโอกาสและส่งเจียงหรั่วหลิวบินออกไปด้วยหมัดเดียว

 

 

หลังจากนั้น สือตูเหล่ยก็เอาชนะเจียงหรั่วหลิวได้เช่นกัน

 

 

ในฐานะที่เป็นราชาดาราอันดับ 1 ความสามารถของสือตูเหล่ยจึงแข็งแกร่งกว่าเจียงหรั่วหลิวมากเกินไป แม้ว่าเขาจะตกอยู่ในภวังค์ของภาพลวงตา มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาแต่อย่างใด ไม่มากขั้นถึงที่ทำให้เขาหาเจียงหรั่วหลิวไม่เจอ ต่อจากนั้น เขาก็แค่ส่งหมัดออกไป ซึ่งมันก็ทำให้เกิดสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน เพียงแค่สายฟ้าที่แลบออกมาก็เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายให้เจียงหรั่วหลิวจนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสได้แล้ว จากสิ่งนี้มันก็ได้เข้าไปขัดจังหวะทักษะต่อสู้ภาพลวงตาของเธอ

 

 

ทันทีหลังจากนั้น สือตูเหล่ยก็เอาชนะราชาดาราแส้ทองคำจินซูตง

 

 

แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นราชาดารา แต่ความสามารถของจินซูตงไม่ได้ใกล้เคียงสือตูเหล่ยเลยแม้แต่น้อย

 

 

ในแง่ของเทคนิคบ่มเพาะ เทคนิคของจินซูตงก็เทียบกับเทคนิคอัสนีบาตคำรนของสือตูเหล่ยไม่ได้แล้ว ในแง่ของขั้นเทคนิคบ่มเพาะ จินซูตงอยู่แค่ขั้นที่ 16 ระดับสูงสุดแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้กับขั้นที่ 17 ของสือตูเหล่ย ในแง่ของความเร็ว สือตูเหล่ยรวดเร็วและว่องไวราวกับสายฟ้า สว่างไสวราวกับฟ้าคำรน

 

 

ดังนั้นจึงเขาเองก็ยังคงใช้เพียงหมัดเดียวเพื่อเอาชนะจินซูตง

 

 

บางที ในความคิดของสือตูเหล่ย ไม่ว่าจะเป็นจินซูตง เจียงหรั่วหลิว หรือแม้แต่กระทั้งซูหลิน พวกเขาทั้งหมดอยู่ในระดับเดียวกัน มันก็เพราะไม่มีใครสามารถต้านทานหมัดจากเขาได้แม้แต่หมัดเดียว

 

 

“ความสามารถของสือตูเหล่ยทรงพลังเกินไป”

 

 

“ฉีเหิงเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน บางที อาจมีเพียงหมัดของสือตูเหล่ยเท่านั้นที่สามารถทำลายพลังป้องกันของฉีเหิงได้ ข้าสงสัยว่าจื่อหยูเย่และหลี่ฟู่เฉินจะสามารถทำลายพลังป้องกันของฉีเหิงได้หรือไม่”

 

 

“อาจมีความเป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินตามสถานการณ์ปัจจุบัน!”

 

 

การแข่งขันจัดอันดับดารามาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว และทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ

 

 

การแข่งขันจัดอันดับดาราในปีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นปีที่ดีที่สุดหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าข่าวลือนี้เป็นความจริงและมันก็ดีที่สุดเมื่อเทียบการแข่งขันครั้งที่ผ่านๆ มา

 

 

ในการแข่งขันเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ สือตูเหล่ยและฉีเหิงอยู่อย่างไร้พ่ายและก็สะกดข่มคู่ต่อสู้ทั้งหมดเอาไว้

 

 

จินซูตงอ่อนแอกว่าและมีความสามารถแตกต่างกันช่วงใหญ่ และหากไม่ใช่เพราะว่ามันไม่มีความอัจฉริยะที่น่าทึ่งอยู่ในการแข่งขันครั้งก่อน จินซูตงก็คงจะไม่ใช่ราชาดาราคนที่สาม

 

 

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จำนวนผู้ไร้พ่ายเปลี่ยนจากสองเป็นสี่คน

 

 

ขณะนี้ จื่อหยูเย่และหลี่ฟู่เฉินเองก็ยังไม่พ่ายแพ้ และชนะทุกนัดได้อย่างหมดจดไร้ความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ

 

 

บนเสาหินชุบสวรรค์ พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ มังกรน้ำทั้งสี่ตัวจะส่งเสียงคำรามออกมาเป็นครั้งคราว เมื่อเทียบกับอัจฉริยะชั้นยอดอื่นๆ พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ทั้งสี่นี้น่ากลัวกว่ามาก เผด็จการและมีสภาวะพลังของราชา สภาวะพลังของพวกมันเริ่มควบแน่นมากขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะค่อยๆ เปลี่ยนจากมังกรน้ำเป็นมังกรที่แท้จริง

 

 

ด้วยเหตุนี้ เนื่องจากออร่าที่ไม่แน่นอนพวกมันทั้งสี่ จึงทำให้พวกเขาเหมือนเป็นราชาของเหล่าอัจฉริยะและเป็นจอมบงการในอนาคต

 

 

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าศิษย์นิกายวารีครามเราจะมาถึงขั้นนี้ได้”

 

 

จนถึงตอนนี้ จ้าวหวูจินก็ยังไม่สามารถเชื่อความเป็นจริงตรงหน้านี้ได้ เมื่อตอนที่การแข่งขันจัดอันดับดาราเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ความคาดหวังของเขาที่มีต่อหลี่ฟู่เฉินคือการไปถึง 30 อันดับแรกหรือ 20 อันดับแรก เขาไม่กล้าฝันถึง 10 อันดับแรก นับประสาอะไรกับการติด 4 อันดับแรก

 

 

แต่จากสิ่งที่ปรากฏออกมา หลี่ฟู่เฉินอาจจะกลายเป็นราชาดาราคนใหม่ได้เสียด้วยซ้ำ

 

 

“ใครมั้งที่จะรู้อนาคตล่วงหน้าได้? เราทุกคนเป็นเพียงกุ้งตัวเล็กๆ ที่ล่องลอยไปตามแม่น้ำแห่งโชคชะตาที่ทอดยาวออกไปก็เท่านั้น” โอหยางเหวินเทียนกล่าว

 

 

ด้านข้างของเขา ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวารีครามทั้งสองก็พยักหน้าเช่นกัน พวกเขาอาจจะเป็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดก็จริง แต่ต่อหน้าโชคชะตา พวกเขาก็ไม่ต่างจากแมลง มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมองผ่านโชคชะตาของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งชะตากรรมของอัจฉริยะ

 

 

ครืนน!

 

 

เมื่อเสาหินชุบสวรรค์เลื่อนต่ำลงมา การแข่งขันครั้งที่ 101 ของหลี่ฟู่เฉินก็มาถึงแล้ว

 

 

อีกด้านหนึ่ง เสาหินชุบสวรรค์ของจื่อหยูเย่เองก็จมลงเช่นกัน

 

 

ทั้งสองคนมองหน้ากัน ซึ่งเมื่อตอนที่ดวงตาของพวกเขาปะทะกันมันราวกับมีประกายไฟอยู่กลางอากาศ

 

 

มังกรน้ำใต้เท้าของพวกเขาเองก็คำรามใส่กันและกันเช่นกัน และมันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าพวกเขาทั้งสองต้องการพุ่งตัวออกจากเสา และฉีกกระชากซึ่งกันและกันเดี๋ยวนี้เลย

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset