Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 311

ตอนที่ 311

บทที่ 311

 

จินซูตงที่พ่ายแพ้ติดต่อกัน

 

 

ชนะ 84 85 86 87 ครั้งติดต่อกัน

 

 

มีเพียงห้าคนที่รักษาชัยชนะติดต่อกันเช่นนี้ไว้ได้ พวกเขาก็คือ ราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง นายน้อยดาบมังกรฟ้า จื่อหยูเย่ เทพธิดาไตรสิกขา เจียงหรั่วหลิว และหลี่ฟู่เฉิน

 

 

ตั้งแต่เอาชนะเถิงฉิงหยุนได้ หลี่ฟู่เฉินก็ไม่พบกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวคนอื่นอีก ขณะที่จื่อหยูเย่เอาชนะทั้งเถิงฉิงหยุนและจินซูตงได้

 

 

ในนัดที่ 88 ของจื่อหยูเย่ เขาต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอีกคนหนึ่งนั้นก็คือเทพธิดาไตรสิกขา เจียงหรั่วหลิว

 

 

การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนทำให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นอีกครั้ง

 

 

ความสามารถของจื่อหยูเย่อาจจะทรงพลัง แต่ทักษะต่อสู้ภาพลวงตาของเจียงหรั่วหลิวไม่ได้มีแสดง หากจิตวิญญาณของคนผู้นั้นไม่สามารถต้านทานมันได้ มันก็ไร้ประโยชน์แม้ว่าเจ้าจะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตาม

 

 

เมื่อเผชิญหน้ากับเจียงหรั่วหลิว ในที่สุดการแสดงออกของจื่อหยูเย่ก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง

 

 

ทักษะต่อสู้ภาพลวงตาไม่สามารถปิดกั้นได้ หากไม่ได้สัมผัสกับมันเป็นการส่วนตัว ก็คงไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะต้านทานมันได้หรือไม่ หากแม้แต่จื่อหยูเย่ก็ยังหมดหนทางที่จะต่อต้านมัน มันก็คงเป็นเรื่องที่น่ายกย่องแล้วหากเขาใช้ความสามารถออกมาได้ซักเพียงครึ่งนึงนั้นหมายความว่าเขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงหรั่วหลิวอีกต่อไป

 

 

โชคยังดี จื่อหยูเย่มีมาตรการรับมือกับทักษะต่อสู้ภาพลวงตาอยู่แล้ว

 

 

บูม!

 

 

เมื่ออยู่บนเวที เจียงหรั่วหลิวก็ระเบิดพลังออกมาพร้อมกับสภาวะพลังฉีของเธอ ซึ่งมีทั้งหมอกควันและสภาวะพลังม่านลวงตา มันให้ความรู้สึกราวกับว่าพื้นที่ทั้งหมดของเวทีถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตราบใดที่คนหนึ่งอยู่บนเวที พวกเขาก็จะรู้สึกถึงผลกระทบของสภาวะพลังฉีจากทักษะภาพลวงตาได้แน่นอน

 

 

หัวใจของจื่อหยูเย่บีบรัด ทุกสิ่งที่เขาเห็นดูเหมือนจะไม่ชัดเจนและมีภาพซ้อนกันหลายภาพ

 

 

โชคดีที่ผลกระทบจากภาพลวงตาไม่ได้ร้ายแรงเท่าไหรและระหว่างที่ตกอยู่ในภาพซ้อนทับก็เป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที ขณะที่รัศมีการโจมตีของดาบมังกรฟ้าของเขาเองก็ค่อนข้างใหญ่

 

 

“ระบำนภาสวรรค์”

 

 

เผยร่างของเธอบางส่วน เจียงหรั่วหลิวเริ่มเต้นด้วยท่าทีที่สง่างาม

 

 

ท่าทางการเต้นรำของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์และสภาวะพลังที่แหลมคม

 

 

ตอนนี้เองที่ภาพซ้อนทับในดวงตาของจื่อหยูเย่เริ่มเพิ่มขึ้นมากขึ้น มันมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า ความมุ่งมั่นในจิตวิญญาณของเขากำลังประสบกับการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเขาก็รู้สึกเหมือนกำลังจมอยู่ในภาพลวงตา

 

 

“ช่างเป็นทักษะต่อสู้ภาพลวงตาที่น่ากลัว” การแสดงออกของจื่อหยูเย่เปลี่ยนไปอย่างมาก

 

 

ทักษะต่อสู้ภาพลวงตานั้นน่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้มาก หากเขาไม่มีมาตรการรับมือใดๆ เขาก็คงจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

 

 

เมื่อเก็บดาบลงฝักเสร็จ ขลุ่ยที่อยู่ข้างเอวของเขาก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือเขาทันที ขณะที่จื่อหยูเย่เริ่มเป่ามัน

 

 

เสียงของขลุ่ยนั้นน่าตื่นเต้นเร้าใจมากเนื่องจากมีความผันผวนในทำนองเพลง เมื่อทุกคนได้ยินเสียงขลุ่ย มันก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังมองไปยังสนามรบที่กำลังสู้กันอย่างดุเดือด สองกองทัพกำลังเผชิญหน้ากันขณะที่ได้ยินเสียงของการเข่นฆ่าสังหารอยู่ตลอดเวลา ด้านบนของกองศพจื่อหยูเย่ถือขลุ่ยเป่าอยู่ในมือซ้ายของเขา ในขณะที่มือขวาของเขาถือดาบยาวสีทองร่างกายของเขาปลดปล่อยสภาวะพลังฉีที่ดูเผด็จการออกมา ตอนนี้เอง เขาก็ไม่ได้เป็นเพียงราชาแห่งดาบอีกต่อไป เขาเป็นเหมือนเทพดาบสังหาร

 

 

วู้ วู้ วู้ วู้ วู้ วู้…

 

 

บนเวทีวงกลม มากกว่าครึ่งหนึ่งของสภาวะพลังฉีภาพลวงตาได้ถูกสลายไป ขณะที่ระบำนภาสวรรค์ของเจียงหรั่วหลิวเริ่มเต้นช้าลง

 

 

“ทักษะต่อสู้คลื่นเสียง?”

 

 

เจียงหรั่วหลิวมีสีหน้าไม่พอใจ

 

 

มีทักษะต่อสู้คลื่นเสียงหลายประเภท บ้างมีไว้เพื่อพลังทำลายล้าง บ้างก็เพื่อกระตุ้นเลือดและพลังฉี ทักษะป้องกันประเภทคลื่นเสียงที่จื่อหยูเย่แสดงให้เห็นอยู่นี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นทักษะต่อสู้ประเภทต่อต้านการโจมตีทางวิญญาณ มันสามารถกำจัดผลข้างเคียงของทักษะลวงตาได้ในระดับหนึ่ง

 

 

“ทำลาย!”

 

 

ระบำนภาสวรรค์เป็นท่าร่างลวงตา ไม่เพียงแค่มีสภาววะพลังฉีที่เป็นภาพลวงตาอย่างเดียวแต่เพียงเท่านั้น มันยังรวดเร็วและยืดหยุ่นมากด้วยเช่นกัน ร่างของเจียงหรั่วหลิวเอียงไปมาและมาปรากฏตัวขึ้นทางด้านซ้ายของจื่อหยูเย่ ขณะที่เธอส่งฝ่ามือออกไป

 

 

ฝ่ามือนี้ได้รับอิทธิพลมาจากสภาวะพลังฉีภาพลวงตา ซึ่งมันมีลักษณะที่ดูหม่นหมองและดูราวกับว่าเป็นของจริงและของปลอมไปในเวลาเดียวกัน

 

 

ชี่!

 

 

ถือดาบในมือขวา จื่อหยูเย่แทงทะลุฝ่ามือของเจียงหรั่วหลิว แสงดาบสีทองถูกปล่อยออกมาและบังคับให้เจียงหรั่วหลิวต้องบินถอยกลับไป จากสิ่งนี้ทำให้เธอตกไปอยู่ในสภาวะที่ดูน่าสงสาร

 

 

“เจียงหรั่วหลิว คนอื่นอาจกลัวทักษะต่อสู้ภาพลวงตาของเจ้า แต่ข้าไม่กลัวมัน ทักษะดาบมังกรฟ้า มังกรฟ้าทะยาน!”

 

 

ในขณะที่จื่อหยูเย่ลงมือ เสียงขลุ่ยเองก็ยังดังไม่หยุด เขารวบรวมแสงดาบสีทองเข้ามาและทำให้พวกมันกลายเป็นมังกรทอง ในขณะที่มันทะยานเข้าหาเจียงหรั่วหลิว

 

 

ปืส ปืส!

 

 

พลังป้องกันของเจียงหรั่วหลิวถูกกำจัดออกไป ขณะที่แสงดาบสีทองประดุจดั่งคลื่นยักษ์นั้นพุ่งเข้ากลืนกินเธอ

 

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปหลายครั้ง ท้ายที่สุดแล้วเจียงหรั่วหลิวก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ของเธอ

 

 

ระบำนภาสวรรค์ของเธอมีผลต่อจื่อหยูเย่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากจื่อหยูเย่เหนือกว่าเธอเพียงเล็กน้อย เธอก็อาจจะได้รับชัยชนะ แต่ความสามารถในการต่อสู้ซึ่งๆ หน้าของจื่อหยูเย่นั้นแข็งแกร่งเกินไปและมันก็มีกว่าเธออย่างน้อยก็หนึ่งระดับ

 

 

หลังจากเอาชนะเจียงหรั่วหลิวได้แล้ว ชื่อเสียงของจื่อหยูเย่ก็ถึงจุดสูงสุดแล้ว หากไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เขาอาจจะกลายเป็นราชาดาราในการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งนี้

 

 

ตามกฎของการแข่งขันจัดอันดับดาราเฉพาะสามอันดับแรกเท่านั้นที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นราชาดารา

 

 

ราชาดาราพวกเขาจะถูกระบุไว้ว่าเป็นราชาแห่งการแข่นขันจัดอันดับดารา ราชาแห่งอัจฉริยะ

 

 

ราชาดาราไม่หมายถึงบุคคลที่มีศักยภาพโดยกำเนิดมากที่สุดเป็นสามอันดับแรก แต่บุคคลที่มีความสามารถมากที่สุดเป็นสามอันดับแรกตั้งหาก แค่นั้นก็เกินพอแล้ว

 

 

หลังจากทั้งหมดแล้ว ผู้ที่จะสามารถเป็นราชาดาราได้ก็ไม่เคยมีใครที่มีศักยภาพโดยกำเนิดต่ำต้อย อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องอยู่ในสิบอันดับแรกสำหรับการรับตำแหน่งราชาดารา
สำหรับหลี่ฟู่เฉิน ในขณะนี้ทุกคนลืมเขาไปแล้ว

 

 

ในความเห็นของทุกคน ไม่ว่าหลี่ฟู่เฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็คงไม่สามารถต่อสู้กับเจียงหรั่วหลิวและจินซูตงได้ แต่จินซูตงและเจียงหรั่วหลิวได้พ่ายแพ้ให้กับจื่อหยูเย่ไปแล้ว

 

 

ในขณะนี้เอง การแข่งขันจัดอันดับดาราก็ได้เข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว

 

 

มันสรุปออกมาได้ๆ อย่างง่ายๆ ของความแข็งแกร่งผู้ที่แข่งขันอยู่ตอนนี้

 

 

ในบรรดาหกนายน้อย ดาบมังกร จื่อหยูเย่ เป็นอันดับ 1 หุบเขานิรันดร์ เถิงฉิงหยุน เป็นอันดับ 2 ดาบทยาน หลั่วเฟ่ยหยุนเป็นอับดับ 3 วายุ ฮั่นยี๋หมิงเป็นอันดับ 4 ต้วนหลินเซี่ยฮัวชวน เป็นอันดับ 5 และนภาดารามู่หรงตี๋เป็นอับดับ 6

 

 

ท่ามกลางสี่เทพธิดา เจียงหรั่วหลิวเอาชนะซูหลินได้ ดังนั้นเธอจึงยังคงอยู่ในจุดสูงสุดของเหล่าเทพธิดาซูหลินเองก็ยังคงเป็นที่ 2 ชูมู่หยูที่ 3 และหยานฉิงหวูที่ 4

 

 

สำหรับการจัดอันดับแบบผสมของหกนายน้อยและสี่เทพธิดา

 

 

อันดับที่ 1 : จื่อหยูเย่

 

 

ลำดับที่ 2 : เจียงหรั่วหลิว

 

 

อันดับที่ 3 : เถิงฉิงหยุน

 

 

อันดับที่ 4 : ซูหลิน

 

 

อันดับที่ 5 :หลั่วเฟ่ยหยุน

 

 

อันดับที่ 6 : ฮั่นยี๋หมิง

 

 

อันดับที่ 7 : เซี่ยฮัวชวน

 

 

อันดับที่ 8 : มู่หรงตี๋

 

 

อันดับที่ 9 : ชูมู่หยู

 

 

อันดับที่ 10 : หยานฉิงหวู

 

 

นัดต่อไปคือราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตง ปะทะกับ เจียงหรั่วหลิว

 

 

การแข่งขันนี้ถูกลากยาวออกไปเป็นระยะเวลานานมาก

 

 

ในแง่ของความสามารถในการโจมตีซึ่งๆ หน้า จินซูตงแข็งแกร่งกว่าเจียงหรั่วหลินมากนัก

 

 

แต่จินซู่ตงไม่มีทักษะต่อสู้แบบคลื่นเสียงที่สามารถต้านทานทักษะต่อสู้ภาพลวงตาของเธอได้ และท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้พ่ายแพ้ให้กับเจียงหรั่วหลิว

 

 

ในนัดที่ 95 ของหลี่ฟู่เฉิน คู่ต่อสู้ของเขาเองก็เป็นจินซูตง

 

 

จินซู่ตงมีสีหน้าที่ดูน่าหวาดกลัว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามราชาดารา เขากลับแพ้ให้กับจื่อหยูเย่าและเจียงหรั่วหลิวไปแล้วจริงๆ ซึ่งเป็นความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุด

 

 

ราชาดาราเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ มันเป็นเรื่องธรรมดาถ้าพวกเขาชนะ แต่ถ้าพวกเขาแพ้ มันก็จะเป็นเรื่องที่น่าสังเวชมากกว่าคนอื่นๆ

 

 

เขาเหมือนจะได้ยินผู้คนพูดคุยกันว่าเขาเป็นราชาดาราที่น่าผิดหวัง

 

 

“จื่อหยูเย่และเจียงหรั่วหลิวอาจจะดูแข็งแกร่ง แต่ในฐานะราชาดาราแล้ว เจ้าต้องแสดงพลังอำนาจของเจ้าออกมา ในการแข่งขันการจัดอันดับดาราครั้งก่อนจื่อหยูเย่อยู่อันดับที่ 28 แต่เพียงเท่านั้น ขณะที่เจียงหรั่วหลิวอยู่ในอันดับที่ 7 เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนประสบความสำเร็จมากกว่าจินซูตงแค่ไหน”

 

 

ดังนั้น ในระหว่างการต่อสู้กับหลี่ฟู่เฉิน จินซูตงจึงมีสีหน้าเคร่งเครียดและเอาจริงเอาจัง

 

 

เขาจะต้องไม่พ่ายแพ้อีกครั้ง ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาก็คงเป็นตัวตลกสำหรับการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งนี้เป็นแน่

 

 

“จินซูตงตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสังเวช” ฉีเหิงส่ายหัว

 

 

“เขาทำได้แค่โทษตัวเองที่อ่อนแอเกินไป มันไม่มีอะไรต้องกล่าวอีก” สือตูเหล่ยเยาะเย้ย

 

 

ฉีเหิงเงียบ

 

 

อันที่จริง ความผิดไม่ได้อยู่ที่จินซูตง เขาการมีพัฒนาการที่ดีมากแล้ว แล้วหากถ้าหากแยกจื่อหยูเย่และเจียงหรั่วหลิวออกไป เขาก็สามารถต่อสู้กับใครก็ได้ตามที่เขาต้องการ

 

 

น่าเสียดายที่ความสามารถของจื่อหยูเย่นั้นดูเหมือนจะมีมากและทักษะภาพลวงตาของเจียงหรั่วหลิวเองก็ไม่สามารถปิดกั้นได้

 

 

“มันขึ้นอยู่กับการแข่งขันครั้งนี้” ฉีเหิงจ้องมองไปที่เวทีอย่างตั้งใจ

 

 

บนเวทีวงกลม…

 

 

จินซูตงถือแส้โลหะสีทองของเขา ขณะที่เขากล่าวกับหลี่ฟู่เฉินด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าแนะนำให้เจ้ารีบยอมแพ้ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

 

 

หลี่ฟู่เฉินแข็งแกร่งกว่าเถิงฉิงหยุนเล็กน้อย และจินซูตงก็ไม่ได้คิดว่าหลี่ฟู่เฉินมีคุณสมบัติที่จะมาต่อสู้กับเขา

 

 

“จะรู้ได้อย่างไรหากไม่ได้ลองดูก่อน”

 

 

หลี่ฟู่เฉินค่อยๆ ปลดปล่อยลมหายใจ ขณะที่กระดูกของเขาเปล่งประกายออกมาด้วยลวดลายดาบเหล็กดำ

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset