Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 302

ตอนที่ 302

บทที่ 302

 

ต่อสู้กับนายน้อยอีกคน

 

 

ในนัดที่ 1677 มู่หรงตี๋ต่อสู้กับเซี่ยฮัวชวน

 

 

การที่พ่ายแพ้หลี่ฟู่เฉินมามันจึงส่งผลกระทบต่อมู่หรงตี๋อย่างมาก เขาทนได้เพียง 20 กระบวนท่าก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยฮัวชวน

 

 

แต่นี่ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเซี่ยฮัวชวนนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง

 

 

ระหว่างการต่อสู้กับนายน้อยดาบทยานหลั่วเฟ่ยหยุน เซี่ยฮัวชวนเหนือกว่าได้อยู่ช่วงนึง แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับเทคนิคลับดาบบิน เซี่ยฮัวชวนก็ยังสามารถอดทนได้ถึงระยะหนึ่ง ในขณะที่เขาต่อสู้กับมู่หรงตี๋ เซี่ยฮัวชวนมีถือำนาจอยู่เหนือกว่าตลอดเวลา ทักษะฝ่ามือของเขาเป็นเหมือนกับหินโม่ขนาดใหญ่ และไม่ว่ามู่หรงตี๋จะโจมตีเขาอย่างไร มันก็จะถูกทำให้หายไป

 

 

‘ใช้ความนิ่งเพื่อจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ การทำเช่นนี้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่พูด มันต้องถูกสั่งสมขึ้นจากการใช้ร่างกายแทนความคิด เพื่อให้สิ่งนี้มาเป็นส่วนนึงของนิสัย’

 

 

หลี่ฟู่เฉินเข้าใจรูปแบบการต่อสู้ของเซี่ยฮัวชวนได้อย่างชัดเจน

 

 

เมื่อต้องรับมือกับคู่ต่อสู้เช่นนี้ ประสิทธิผลเทคนิคตัวเบาของคนผู้นึงจะลดลงอย่างมาก เว้นแต่เจ้าจะมีความเร็วที่ในขั้นที่เหนือกว่าอย่างมากจนเท่าให้ศัตรูของเจ้าไม่สามารถตอบสนองได้ ไม่งั้นแล้ว เทคนิคตัวเบาก็คงไม่มีประโยชน์มากนัก แต่แน่นอนว่าหลี่ฟู่เฉินย่อมไม่ใช่คนธรรมดาและเขาก็มีวิธีจัดการกับรูปแบบการต่อสู้เช่นนี้

 

 

“ฮ่าฮ่า มู่หรงบ๋าเทียน ดูเหมือนว่าลูกชายของเจ้า มู่หรงตี๋ ชื่อเสียงที่ได้ยินสงสัยจะเกินจริงไปหน่อยหรือไม่?” หัวหน้าตระกูลต้วนหลิน เซี่ยฮัวชานหัวเราะเยาะ

 

 

มู่หรงบ๋าเทียนเย้ยหยัน “ในปีนี้ลูกชายของข้าอายุได้แค่ 23 ปี ในขณะที่เซี่ยฮัวชวนจากตระกูลต้วนหลินเจ้าอายุได้ 26 ปีแล้ว มันยังจะต้องสู้อะไรอีก? อย่าเพิ่งดีใจเกินไป หากลูกชายข้าไม่สามารถสู้กับเด็กคนนั้นได้ เซี่ยฮัวชวนจากตระกูลต้วนหลินเจ้าก็อาจสู้เขาไม่ได้เช่นกัน”

 

 

เซี่ยฮัวชานถากถาง “นั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องกังวล เด็กคนนั้นแข็งแกร่งกว่าลูกชายของเจ้าเล็กน้อย เมื่อเขาพบกับชวนเอ๋อ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะชนะ ไม่ว่าการรับรู้ด้านการต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งมากเพียงใด มันก็ไม่สำคัญใดๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชวนเอ๋อ เทคนิคต่อสู้ธารภูเขาของชวนเอ๋ออยู่ขั้นสมบรูณ์แบบแล้วและทักษะต่อสู้ของเขาก็มีความสามารถมาก”

 

 

“ไม่มีอะไรแน่นอนในโลกนี้ รอดูเถอะ” มู่หรงบ๋าเทียนเงียบไป

 

 

ในใจของเขา เขาต้องการให้หลี่ฟู่เฉินเอาชนะเซี่ยฮัวชวน นี่ก็เพื่อให้ความมั่นใจของตระกูลต้วนหลินถูกทำลายลง

 

 

ชัยชนะติดต่อกัน 35 ครั้ง

 

 

ชัยชนะติดต่อกัน 38 ครั้ง

 

 

ชัยชนะติดต่อกัน 39 ครั้ง

 

 

หลี่ฟู่เฉินอยู่ในกระแสของการชนะติดต่อกันและก็ไม่ได้หลุดพ้นจากสถิตินี้ไป ระหว่างการแข่งขันทั้งหมดนี้ คนที่อยู่ในอันดับสูงสุดที่เขาเอาชนะมาได้อยู่ในที่อันดับ 14 ของการแข่งขันครั้งก่อน ความสามารถที่หวั่นเกรงของหลี่ฟู่เฉินทำให้ผู้คนจำนวนมากตกตะลึง

 

 

ตอนนี้ พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ที่อยู่ใต้ขาของหลี่ฟู่เฉินได้พัฒนาจนกลายเป็นงูหลามยักษ์แล้ว

 

 

เมื่อเทียบกับรูปร่างของงูยักษ์เมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้งูหลามยักษ์ตัวนี้ตัวหนากว่ามาก บำบึนกว่า และทรงพลังมากกว่า มันขดตัวอยู่รอบเสาหินอยู่อย่างโดดเด่นสะดุดตาและก็ปล่อยแรงกดดันที่ดูเย่อหยิ่งออกมา

 

 

เมื่อถึงเวลาที่ร่างของหลี่ฟู่เฉินปรากฏตัวขึ้นบนเวทีครั้งที่ 40 ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ

 

 

เนื่องจากหลี่ฟู่เฉินได้พบกับนายน้อยอีกคนเข้าแล้ว… มันคือนายน้อยต้วนหลิน เซี่ยฮัวชวน

 

 

“ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกัน แต่ข้าสงสัยว่าเซี่ยฮัวชวนเหนือกว่าหรือว่าหลี่ฟู่เฉินจะเหนือกว่าเขากันแน่?”

 

 

“หลี่ฟู่เฉินใช้กระบวนท่ามากกว่าร้อยกระบวนท่าเพื่อเอาชนะมู่หรงตี๋ ในขณะที่เซี่ยฮัวชวนใช้กระบวนท่าน้อยกว่ายี่สิบเพื่อเอาชนะเขา เหนือกว่าหรือไม่มันได้ถูกตัดสินแล้ว”

 

 

“นั่นอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อมู่หรงตี๋ระเบิดพลังออกมาพร้อมกับความสามารถที่แท้จริงของเขา มันก็ถูกทำให้เป็นกลางโดยหลี่ฟู่เฉินด้วยดาบๆ เดียว เห็นได้ชัดว่าหลี่ฟู่เฉินยังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดออกมา”

 

 

“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเซี่ยฮัวชวนจะใช้ความสามารถทั้งหมดออกมาแล้ว? นอกจากนี้ ดาบสุดท้ายของหลี่ฟู่เฉินค่อนข้างเลือนรางและเราก็ไม่รู้ว่ามันมีข้อจำกัดหรือไม่”

 

 

ทุกคนแสดงความคิดเห็นของตัวเอง แต่คนส่วนใหญ่ก็เอนเอียนไปทางเซี่ยฮัวชวน

 

 

บนเวทีวงกลม…

 

 

เซี่ยฮัวชวนไม่เสียแรงไปกับการพูดคุย เขาส่งเสียงเฮอะ ก่อนจะเข้าไปโจมตีทันที

 

 

เมื่อฝ่ามือของเขาถูกส่งออกไป สภาวะพลังของฝ่ามือนี้ไร้ขอบเขต และครอบคลุมเกือบครึ่งเวที เมื่อถูกโอบล้อมด้วยสภาวะพลังของฝ่ามือนี้ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกกดลงไปใต้*หินโม่ที่กำลังหมุนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นพลังฉีหรือเลือดของเขา พวกมันทั้งหมดสั่นสะเทือนไปชั่วขณะนึง

 

(*เสริมความรู้* โม่ ความหมาย เครื่องบดชนิดหนึ่งทําด้วยหิน รูปร่างคล้ายที่สีข้าว มี ๒ ส่วน ส่วนบนซึ่งเรียกว่าลูกโม่นั้น มีมือถือสำหรับหมุน และมีรูสำหรับกรอกเมล็ดพืช เมื่อหมุนลูกโม่จะบดเมล็ดพืชให้ละเอียดและไหลลงสู่ส่วนล่างซึ่งมีลักษณะเป็นรางสำหรับรองรับอยู่เกือบรอบลูกโม่ ด้านหนึ่งของส่วนล่างมีช่องเปิดให้สิ่งที่โม่แล้วไหลลงสู่ภาชนะที่รองรับได้. ก. บดให้ละเอียดด้วยโม่.)

 

 

เมื่อเทียบกับมู่หรงตี๋ ความสามารถของเซี่ยฮัวชวนนั้นเหนือกว่ามาก ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทักษะฝ่ามือของเขาถูกบีบอัดไว้อย่างแน่นหนาและเมื่อเสริมด้วยเทคนิคลับระดับ 4 ดาว เทคนิคต่อสู้ธารภูเขา มันเหมือนกับการติดปีกให้เสือ มันทำให้เซี่ยฮัวชวนสามารถควบคุมการต่อสู้ทั้งหมดได้อย่างมั่นคงราวกับภูเขา

 

 

หากเป็นคนอื่นที่ต้องมาแทนที่หลี่ฟู่เฉินในตอนนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของความสามารถที่แท้จริงของพวกเขาจะหมดลงก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือ เนื่องจากไม่มีทางที่จะต่อสู้กับพลังฉีและฝ่ามือเช่นนี้อยู่แล้ว

 

 

แน่นอนว่าหลี่ฟู่เฉินเป็นข้อยกเว้น

 

 

เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือแน่นหนาและแรงกดดัน หลี่ฟู่เฉินใช้ท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูง มังกรเพลิง ออกมาทันที

 

 

ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา แสงดาบกลายเป็นมังกรสีแดงและมันก็บินออกไป มันพุ่งทะลวงไปยังฝ่ามือและก็ปะทะเข้ากับทักษะฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวน

 

 

บนเวทีวงกลม มีการปะทะกันของขุมพลังฉี พลังฉีครึ่งหนึ่งเป็นแสงสีแดงในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งพลังฉีที่กระเพื่อมเป็นระลอกคลื่น พวกมันแบ่งฝั่งไว้เท่าๆ กัน

 

 

“เฮอะ!”

 

 

อาการเยาะเย้ยบนใบหน้าของเซี่ยฮัวชวนทวีความรุนแรงมากขึ้น การปะทะกันเป็นวิธีการต่อสู้ที่เขาชอบมาโดยตลอด ก็ในเมื่อเขาสามารถใช้ทักษะฝ่ามือที่หนาแน่นของเขาเพื่อทำลายคู่ต่อสู้ไปโดยตรงได้

 

 

ทุกคนเห็นว่าระยะการโจมตีด้วยฝ่ามือเดียวเพียงพอที่จะครอบคลุมพื้นที่ครึ่งเวทีแล้ว

 

 

“ไม่น่าแปลกใจที่มู่หรงตี๋จะพ่ายแพ้!”

 

 

มีความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างการชมการแข่งขันและการต่อสู้ในการแข่งขัน

 

 

เมื่อต่อสู้กับเซี่ยฮัวชวน มันเหมือนกับการเผชิญหน้ากับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่หรือภูเขาสูงตระหง่าน มันต้องเผชิญกับสภาวะพลังฉีที่ดำรงอยู่ทั่วทุกที่และแรงกดดันจากสภาวะพลังของฝ่ามือ เทคนิคตัวเบาไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง

 

 

เนื่องจากการตีด้วยฝ่ามือเพียงครั้งเดียวของเซี่ยฮัวชวนก็เพียงพอที่จะครอบคลุมครึ่งเวทีแล้ว

 

 

‘หากข้าเข้าใจเจตจำนงเทคนิคตัวเบาระดับลึกลับขั้นสูง ข้าอาจจะสามารถทำลายสภาวะพลังจากพลังฉีและฝ่ามือของเขาได้’

 

 

หลี่ฟู่เฉินใช้ความพยายามกัลเทคนิคตัวเบาของเขาไปไม่น้อยเลย

 

 

แต่เขาก็มีพลังงานอยู่อย่างจำกัดและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำให้ตัวเองมีพลังในทุกด้าน แต่เขารู้สึกว่าหลังจากการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งนี้ มันคงเป็นการดีที่จะได้ศึกษาเทคนิคตัวเบาเพิ่มเติม

 

 

เมื่อระดับพลังฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้น เขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วในการเข้าใจทักษะต่อสู้ของเขาเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อโคจรพลังฉี สิ่งกีดขวางบางอย่างที่เป็นอุปสวรรค์ต่อการทำความเข้าใจทักษะต่อสู้ก็จะหายไปได้โดยธรรมชาติ

 

 

เช่นเดียวกับลำธารและแม่น้ำขนาดใหญ่ ลำธารต้องการร่องน้ำที่ดีเพื่อที่จะไหลไปยังที่ต่อไป แต่เมื่อระยะทางไกลเกินไป มันก็จะแห้งเหือด รากฐานของแม่น้ำต้องลึกให้มากๆ และต้องมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งสิ่งมันก็จะช่วยให้แม่น้ำขยายออกไปได้ไกล

 

(หมายเหตุ TL: ผู้เขียนหมายความว่าหากระดับการฝึกฝนของผู้หนึ่งสูงขึ้น รากฐานของผู้หนึ่งก็จะยิ่งลึกลงไป)

 

 

‘ตั้งแต่ที่มันเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าคงต้องเปิดเผยการรับรู้ด้านการต่อสู้ที่เหนือกว่ายิ่งกว่าเดิม’

 

 

ในสายตาของหลี่ฟู่เฉิน เซี่ยฮัวชวนมีข้อบกพร่อง และนั่นจะก็เป็นที่สภาวะพลังของฝ่ามือเขานั้นกว้างเกินไป

 

 

ยิ่งช่วงระยะกว้างเท่าไหร่ โอกาสที่จะต้องควบคุมมันก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

 

 

การควบคุมนี้สามารถเสริมได้ด้วยสภาวะพลังฝ่ามือที่ดูไร้ขอบเขตนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับน้ำท่วม ใครจะมีอารมณ์อยากไปหาส่วนที่ตื้นที่สุดของน้ำท่วม? แม้ว่าพวกเขาจะมีอารมณ์ แต่ก็ไม่มีเวลาแน่นอน

 

 

แต่หลี่ฟู่เฉินมีเวลาที่ว่านั้น

 

 

สังเกตด้วยความตระหนักรู้ของเขา สภาวะพลังฉีฝ่ามือที่กระจัดกระจายของเซี่ยฮัวชวนอยู่ในสายตาของเขา มันก็เหมือนกับใยแมงมุม มันจะต้องมีบางใยที่แข็งแกร่ง และบางใยที่อ่อนแอ

 

 

สิ่งที่หลี่ฟู่เฉินต้องทำ ก็คือการเจาะผ่านใยหล่านั้น

 

 

“เขาเพลิงปีศาจ”

 

 

เมื่อเอ่ยถึงท่าดาบที่ทรงพลังที่สุดของหลี่ฟู่เฉิน นอกเหนือจากมังกรเพลิงแล้ว มันก็คงเป็นเขาเพลิงปีศาจ

 

 

มังกรเพลิงทรงพลัง แต่เขาเพลิงปีศาจทะลุทะลวงได้ดีกว่า

 

 

เมื่อเขาสีแดงสดปรากฏขึ้น หลี่ฟู่เฉินก็พุ่งตัวออกไป

 

 

ดาบเล่มนี้ทั้งอุกอาจ รวบรัด และรุนแรง

 

 

แต่มันก็มีประสิทธิภาพมาก สภาวะพลังฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวนเป็นเหมือนกับโถน้ำที่ถูกเจาะ ขณะที่ฝ่ามืออ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว

 

 

“อะไรนะ?”

 

 

ดวงตาของเซี่ยฮัวชวนเป็นประกายด้วยความสงสัยและสับสน

 

 

หลังจากเจาะทะลุพลังฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวนได้ด้วยดาบเดียว ร่างของหลี่ฟู่เฉินก็กระพริบและใช้เงาสังหารเพลิงปีศาจต่อ

 

 

ทันใดนั้นเอง แสงสีแดงเข้มก็เข้ามาห่อหุ้มเซี่ยฮัวชวน

 

 

ถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงเข้ม เซี่ยฮัวชวนก็รู้สึกเหมือกับว่าเขากำลังถูกล้อมรอบดาบเคลือบพลังอยู่อย่างไรอย่างนั้น

 

 

เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง!

 

 

ทันใดนั้นเองร่างของเขาก็ใหญ่ขึ้นมา เขามีสามหัวและหกแขน เซี่ยฮัวชวนระเบิดพลังออกมาพร้อมกับประกายเพลิงในระยะสามฟุตรอบตัวของเขา

 

 

ดาบเคลือบพลังฉีที่ฟาดฟันมาจากทุกทิศทางล้วนแล้วแต่แตกสลายไปด้วยทักษะฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวน ดาบเคลือบพลังฉีที่เหลืออยู่เองก็ถูกหักเหออกไปด้วยแสงสีน้ำตาล ซึ่งซึมออกมาจากร่างของเซี่ยฮัวชวน

 

 

เทคนิคลับระดับ 4 ดาว เทคนิคต่อสู้ธารภูเขา มันประกอบไปด้วยรูปแบบการรุกและรูปแบบการป้องกัน เมื่อเสริมด้วยทักษะฝ่ามือของเขา มันก็แทบจะไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้และก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้ มีเพียงเทคนิคลับดาบบินของหลั่วเฟ่ยหยุนเท่านั้นที่สามารถทำให้เซี่ยฮัวชวนเผยข้อบกพร่องของเทคนิคนี้ออกมาได้

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset