บทที่ 297
การต่อสู้ของอัจฉริยะชั้นยอด
‘ข้าควรเผยความสามารถอื่นอีก’
ในความเป็นจริงแล้ว หลี่ฟู่เฉินมีความมั่นใจที่จะเอาชนะเซี่ยฮัวชือได้โดยไม่ต้องใช้งานเทคนิคลับระดับ 4 ดาว
แต่เขาจะต้องใช้ความสามารถของทักษะดาบเพลิงปีศาจจนถึงขีดสุด และต้องผลักดันความตระหนักรู้ด้านการต่อสู้ของเขาจนถึงระดับที่มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้ หากเขาทำถึงเช่นนั้นมันก็คงเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากจนถึงขั้นที่ทุกคนอาจจะไม่สามารถยอมรับมันได้
เขาจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกมองออกอย่างง่ายๆ ฉะนั้นเขาจึงต้องซ่อนงำไพ่ตายต่างๆ ของเขาไว้
เปิดใช้งานพลังฉีหยางบริสุทธิ์ พลังฉีเพลิงโลกันต์แท้จริงถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังฉีหยางบริสุทธิ์ ในช่วงเดียวกันนี้ ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินเรืองแสงสีเหลืองบริสุทธิ์สดใสและทั้งสิ่งนี้ยังปล่อยแรงกดดันออกมา แม้แต่กระทั้งดาบดำในมือของเขาก็ยังเคลือบไปด้วยแสงสีเหลืองสดใส ราวกับว่ามันกลายเป็นดาบผลึกสีเหลืองขนาดใหญ่
บูม!
เมื่อเขาตวัดดาบ อากาศข้างหน้าเขาก็สั่นสะเทือนและครึ่งเวทีแห่งนี้ก็ก็เต็มไปด้วยแสงสีเหลืองนวลนอง ดุงดั่งคลื่นที่ถูกระเบิดอออกมาจากดวงอาทิตย์
“เทคนิคลับระดับ 4 ดาว?”
เซี่ยฮัวชือรู้สึกตกตะลึง เขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง ขณะที่เลือดของเขาจึงพุ่งขึ้นกระจายอยู่บนอากาศ
เทคนิคลับระดับ 4 ดาวขั้นสมบรูณแบบเทียบเท่ากับเทคนิคลับระดับ 3 ดาวที่ฝึกเสร็จแล้ว งั้นแล้ว มันย่อมมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างเทคนิคลับระดับ 4 ดาวและ 3 ดาว
หลังจากเปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 4 ดาวแล้ว พลังต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉินจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเซี่ยฮัวชือเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
“อัจฉริยะชั้นยอด ตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนี้เป็นต้นไป หลี่ฟู่เฉินจะกลายเป็นอัจฉริยะชั้นยอด”
หลังจากที่หลี่ฟู่เฉินใช้ดาบเดียวเพื่อเอาชนะเซี่ยฮัวชือ คนส่วนใหญ่ก็เริ่มเชื่อมั่นในความคิดนี้
พวกเขามีแต่ต้องเชื่อเช่นนี้เท่านั้น
เซี่ยฮัวชือเป็นโครงกระดูก 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์ แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานดาบจากหลี่ฟู่เฉินได้แม้แต่ครั้งเดียว? มีใครอีกบ้างที่สามารถบรรลุสิ่งนี้ได้นอกเหนือจากอัจฉริยะชั้นยอด?
หลังจากทั้งหมดแล้ว หลี่ฟู่เฉินก็เป็นอัจฉริยะที่เพิ่งโผ่ลขึ้นมาในปีนี้ ซึ่งอายุน้อยกว่าเซี่ยฮัวชือเล็กน้อย
“อับอายอะไรเช่นนี้” นายน้อยต้วนหลิน เซี่ยฮัวชวนแสดงออกอย่างเฉยชา
ตระกูลและนิกายที่แตกต่าง ในฐานะตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ลูกหลานของตระกูลตวนหลินจึงต่างก็ให้ความสำคัญกับเกียรติภูมิในสายเลือดของพวกเขา ในสายตาของตระกูลตวนหลิน เซี่ยฮัวชือไม่เพียงแต่ทำให้ตระกูลตวนหลินต้องเสียหน้าเท่านั้น
‘นั่นเป็นเทคนิคลับที่เขาได้รับมางั้นหรือ?’ ชูมู่หยูขมวดคิ้ว
สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่าเทคนิคลับที่หลี่ฟู่เฉินได้รับในสุสานไม่ใช่สิ่งที่เขาเพิ่งใช้ออกมา มันสมควรที่จะแข็งแกร่งและน่ากลัวกว่านี้มาก
เมื่อเปรียบเทียบการการรับรู้ ชูมูหยู่เชื่อว่าเธอด้อยกว่าหลี่ฟู่เฉิน
เนื่องจากเธอสามารถฝึกฝนเทคนิคลับระดับ 6 ดาวได้ จนกระทั้งพลังฉีถูกหลอมรวมเป็นสีแดง หลี่ฟู่เฉินก็สมควรก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเธอ
‘ข้าสงสัยว่าเขาจะเล็งอันดับที่เท่าไหร่ไว้?’ ถ้าชูมูหยูรู้เป้าหมายของหลี่ฟู่เฉิน เช่นนั้นแล้วเธอก็จะรู้ได้อย่างคร่าวๆ ว่าความสามารถของหลี่ฟู่เฉินนั้นอยู่ลำดับใด
ชนะ 16 นัดต่อเนื่อง 17 …
โดยที่ไม่รู้ตัว หลี่ฟู่เฉินก็ชนะติดต่อกันมาแล้วกว่า 20 ครั้ง
ฟู่ ฟู่ ฟู่…
พลังฉีชุบสวรรค์ที่หมุนรอบวนอยู่เสาหินในที่สุดก็กลายเป็นงูสีเหลืองยักษ์ งูกำลังหมุนวนอยู่รอบเสาหินและส่งเสียงดังลั่น
ในนัดที่ 1100 ชูมูหยู่ถูกกำหนดให้ต่อสู้กับนายน้อยนภาดารา มู่หรงตี๋
นี่เป็นการต่อสู้ของยอดอัจฉริยะครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันการจัดอันดับดารา
นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างเทพธิดาและนายน้อย
ทุกคนไม่แม้แต่จะกระพริบตาและจ้องไปที่นักสู้ทั้งสองคนบนเวทีวงกลม
“ชูมูหยู่อายุเพียง 20 ปี แต่มู่หรงตี๋อายุ 23 แล้ว! เธอมีข้อเสียเปรียบอยู่บ้าง!”
“การแข่งขันการจัดอันดับดาราเกี่ยวกับความสามารถเท่านั้น ไม่เกี่ยวว่าใครจะอายุเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องปกติที่เธอจะเสียเปรียบ มาดูกันว่าชูมู่หยูจะสามารถต้านทานกระบวนท่าของมู่หรงตี๋ได้ซักกี่ท่า”
ทุกคนคิดว่าชูมู่หยูไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่หรงตี๋
ทั้งคู่เป็นโครงกระดูกระดับ 6 ดาวและยังเป็นอัจฉริยะชั้นยอดอีกด้วย พลังฝึกฝนที่ห่างกันถึงสามปีแตกต่างกันยิ่งนัก
และถ้าหากว่าจะถามว่าใครเสียเปรียบได้เปรียบ มันก็ไม่มีใครแย่ไปกว่าหยานฉิงหวูแล้ว
เธอได้ทำลายสถิติของการแข่งขันการจัดอันดับดารา เนื่องจากเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดและมาเข้าร่วมการแข่งขัน เธออายุเพียง 18 ปีเท่านั้น
“ชูมูหยู ข้าแนะนำให้เจ้ายอมแพ้! เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะสู้กับข้าได้”
เขาไม่ชอบการต่อสู้ที่ไร้ความหมาย
ชูมู่หยูกล่าว “ข้าจะรู้ได้อย่างไรหากไม่ลองมันก่อน”
เธอไม่มีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับมู่หรงตี๋ แต่การยอมแพ้ในทันทีก็ไม่ใช่วิธีทางของเธอ อย่างน้อยเธอก็ต้องลองสักตั้ง
“เนื่องจากเจ้าต้องการเช่นนั้นแล้ว ข้าก็จะสนองความต้องการของเจ้าให้”
พัดโลหะในมือของมู่หรงตี๋ถูกครี่ออก ขณะที่สภาวะพัลงพลังฉีที่ไร้ขอบเขตกระจายออกจากพัด
หวืด!
แสงกระพริบผ่าน มู่หรงตี๋ระเบิดพลังขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่พัดเหล็กถูกกวัดแกว่งไปในอากาศ เงาพัดโลหะขนาดยักษ์ถูกกวาดไปทางชูมูหยู่ ดูแล้วคล้ายกับพายุหมุนยักษ์ที่กำลังหมุนวน
“พลังโจมตีรุนแรงอะไรเช่นนี้!”
เสาหินด้านตรงกันข้ามต้นหนึ่ง หนึ่งในอัจฉริยะชั้นยอดรู้สึกประหลาดใจ ก็ในเมื่อแม้แต่เขาเองก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังเสียสมดุล เขาเกือบจะปลิวไปตามแรงลมที่มาจากเงาพัดโลหะ
นี่เป็นเพียงแรงกดดันที่เล็ดรอดออกมาเท่านั้น หากอัจฉริยะคนนี้ต้องเผชิญหน้ากับมู่หรงตี๋ในการต่อสู้ เขาต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจากพัดไม่ช้าก็เร็ว
‘เขาคู่ควรกับการเป็นโครงกระดูกระดับ 6 ดาวอย่างแท้จริง’ คิ้วของหลี่ฟู่เฉินเลิกขึ้น
มันยากมากที่โครงกระดูกระดับ 5 ดาวจะต่อกรกับโครงกระดูกระดับ 6 ดาว แม้แต่กระทั้งโครงกระดูก 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์ก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่เทียบเคียงไม่ได้ การที่พวกเขาจะสู้กับโครงกระดูกระดับ 6 ดาวได้หรือไม่นั้น มันไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
แน่นอน เขาเป็นข้อยกเว้น
จิตวิญญาณสีฟ้าของเขาทำให้การรับรู้ของเขาดูแคลนโครงกระดูกระดับ 6 ดาวได้ทั้งหมด ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ ซึ่งสามารถเสริมได้ด้วยขั้นเทคนิคบ่มเพาะของเขา
‘เขาใช้ความสามารถออกมา 60% หรือ 70 %?’
ชูมูหยู่หายใจเข้าลึกๆ และระเบิดพลังฉี ระดับฝึกฝนและเทคนิคลับของเธอออกมา พลังฉีสมัชชาหลอมรวม ในชั่วพริบตา เคียวของเธอก็เต็มไปด้วยประกายสีแดงเข้ม
เธอฟันเคียวของเธอลงและต่อสู้กับมู่หรงตี๋
บูมม!
ในขณะที่พลังฉีถูกระเบิดออกไปยังเสาหินชุบสวรรค์ เสื้อผ้าของทุกคนกระพือพัดตามแรงลม ผู้ที่อยู่ใกล้สูญเสียความสมดุลเล็กน้อยและต้องโคจรพลังฉีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเอง
หนึ่งก้าว สองก้าว…
ชูมูหยู่ถอนหลังไปสามก้าว
“ไม่เลว เจ้าทนกระบวนท่าจากข้าได้และไม่พ่ายแพ้ไปในกระบวนท่าเดียว”
พัดโลหะในมือของมู่หรงตี๋ถูกพลิก ในขณะที่เงาพัดโลหะขนาดมหึมาเข้าปกคลุมชูมูหยู่
เขาเองก็มีเทคนิคลับระดับ 4 ดาวเช่นกัน แต่เขาไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน หากเพราะแค่ต้องจัดการกับชูมู่หยู
ไม่ว่าจะเป็นระดับการฝึกฝนหรือพื้นฐานทักษะต่อสู้ เขาเหนือกว่าชูมูหยู่ทั้งหมด
“ระบำเคียวแดง!”
ชูมูหยู่ส่งเสียงครวญครางเบาๆ และระเบิดพลังออกมาพร้อมกับท่าไม้ตายของเธอ
ภายในรัศมี 100 ฟุต เคียวสีแดงแดงกำลังสอดประสานกัน ราวกับว่ามีชูมูหยู่หลายคนกำลังแกว่งเคียวของเธออยู่
“พัดรวมฝัน!”
มู่หรงตี๋หัวเราะออกมาขณะที่ควงพัดโลหะของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้ พลังฉีของเขาควบแน่นมากขึ้นขณะที่เงาพัดโลหะของเขากลายเป็นสีโปร่งแสง
ปั๊ง!
ชูมู่หยูถูกส่งออกไปด้วยพัด ขณะที่เลือดไหลออกจากมุมปากของเธอ
มู่หรงตี๋แข็งแกร่งเกินไปและพัดของเขาก็สามารถระเบิดพลังฉีที่ถูกเคลือบออกมาได้ด้วย ในช่วงเวลานึ่ง พลังฉีจากการเคลือบนั้นเหนือกว่าพลังฉีปกติมาก
หลังจากพ่ายแพ้ให้กับมู่หรงตี๋ ชูมู่หยูก็ยังไม่สูญเสียความหวังใดๆ เป้าหมายสูงสุดของเธอในครั้งนี้คือการไปให้ถึงสิบอันดับแรก แต่เป้าหมายขั้นต่ำของเธอคือการอยู่ในยี่สิบอันดับแรก เธอยังคงมีโอกาสที่จะบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้นอย่างแน่นอน
การต่อสู้ของอัจฉริยะชั้นยอดเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากและในมุมมองของทุกคน ชูมูหยู่อาจจะพ่ายแพ้ แต่เธอก็ยังคงน่ายกย่อง ก็ในเมื่อเธออายุน้อยกว่าคู่ต่อสู้ตั้งสามปี
ในนัดที่ 1400 หลี่ฟู่เฉินที่ชนะติดต่อกัน 25 ครั้ง ก็พบเข้ากับศัตรูที่น่ากลัว
อย่างน้อยก็ในความเห็นของทุกคน คู่ต่อสู้ของเขาเป็นคนที่น่ากลัว
เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นอันดับที่ 17 เมื่อแข่งขันครั้งก่อนหน้านี้ เฉินเฟิง
เขาอาจไม่ใช่อัจฉริยะชั้นยอด แต่เขาก็อยู่ในอันดับที่ 17 ของการแข่งขันครั้งก่อน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้เลย สามปีผ่านไป แม้แต่กระทั้งหมูก็ยังมีการพัฒนา นับประสาอะไรกับเฉินเฟิงที่อยู่ต่ำกว่าอัจฉริยะชั้นยอดแค่ขั้นหนึ่ง
ฮุฟ ฮุฟ ฮุฟ…
บนเวทีวงกลม กระแสพลังฉีกระจายออกจากจุดศูนย์กลาง
เฉินเฟิงยืนอยู่ตรงกลางเวที ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งการต่อสู้ สภาวะพลังฉีที่พุ่งออกมาจากร่างกายของเขานั้นช่างน่าประหลาดใจ มันทรงพลังเสียยิ่งกว่ามู่หรงตี๋และชูมู่หยูเสียอีก
แน่นอนว่า เทียบตอนที่มู่หรงตี๋ยังไม่ใช่พลังออกมาอย่างเต็มที่ อย่างน้อยๆ เขาก็ยังไม่ได้เปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 4 ดาวของเขา
อั่นแน่กำลังสนุกใช่ไหม ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอนที่ 316แล้วนะ สนใจล่ะก็สมัครที่เพจ Indynovel ได้เล้ย
![เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]](https://i2.wp.com/www.xn--q3cmiag1gmn.com/wp-content/uploads/2022/08/bmn54u2yvhx9x9it.jpeg?resize=60,85 "เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]")
