Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 276

ตอนที่ 276

บทที่ 276

ชัยชนะติดต่อกัน

 

ในนัดแรกของรอบที่ห้า หลี่ฟู่เฉินพบหลิวหวูหวง หลังจากการที่เพิ่งประลองกับหยูเหวินเทียนมา

มันเห็นได้ชัดจากการแข่งขันก่อนหน้านี้ ว่าความสามารถของหลิวหวูหวงนั้นเหนือกว่าหยูเหวินเทียนมาก

 

หลังจากทั้งหมดแล้ว หลิวหวูหวงก็อายุมากกว่าหยูเหวินเทียนสองปี ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีเวลาฝึกฝนเพิ่มขึ้นอีกสองปี

 

โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งพลังฝึกฝนเพิ่มขึ้นทรัพยากรที่ต้องใช้ก็เพิ่มขึ้น แต่ทว่าการเติบโตของเต๋าแห่งดาบนั้นกลับพึ่งทรัพยากรเพียงแค่เล็กน้อย และไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก หลิวหวูหวงแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียว ขณะที่หยูเหวินเทียนแพ้ไปแล้วสาม

 

บนเวทีการแข่งขัน หลิวหวูหวงมีสีหน้าเคร่งเครียด

 

เขารู้ว่าหลี่ฟู่เฉินได้ผ่านชั้นที่สามของหอคอยสืบทอดแล้ว ในขณะที่เขายังไม่มีความสามารถในการผ่านชั้นสาม

 

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องยอมรับความพ่ายแพ้

 

เขาสามารถทนอยู่บนชั้นสามของหอคอยได้เป็นเวลาพอสมควร และเขาก็คิดว่าเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่ฟู่เฉินที่เพิ่งผ่านชั้นสามของหอคอยสืบทอดมา

 

นอกจากนี้ หอคอยสืบทอดส่วนใหญ่ก็ทดสอบพลังโจมตีของคนผู้หนึ่ง หากมีพลังโจมตีไม่เพียงพอ ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจจากค่ายกลได้

 

แต่นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างนักสู้และพลังโจมตีก็ไม่ใช่ปัจจัยเพียงอย่างเดียว ความเชี่ยวชาญด้านดาบมีความสำคัญสูงกว่า

 

“ลงมือเลย!”

 

หลิวหวูหวงพุ่งตัวขณะที่เขายกดาบทองดำในมือขึ้น ดาบพลังฉีที่งดงามแยกออกจากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่ สี่เป็นแปด… ในชั่วพริบตา ก็มีดาบพลังฉีดำรงอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งดูเหมือนฝูงตั๊กแตนที่พุ่งเข้ามายังหลี่ฟู่เฉิน

 

หนาแน่น ไร้ขอบเขต โดดเด่น นี่คือความรู้สึกที่ทักษะดาบของหลิหวูหวงมอบให้

 

และทักษะดาบนี้เป็นสิ่งที่ศิษย์หลักของนิกายวารีครามหลายคนรู้จัก มันเป็นทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลาง – ทักษะดาบแยกเงา

 

ยิ่งไปกว่านั้น เจตจำนงดาบแยกเงาของหลิวหวูหวงเห็นได้ชัดว่าอยู่ในขั้นที่โตเต็มวัยและไม่วัดหยั่งความสามารถที่แท้จริงได้

 

“ข้าสงสัยว่าเขาจะสลายมันได้อย่างไร?”

 

ศิษย์หลักระดับทองบางคนที่ผ่านชั้นสามของหอคอยสืบทอดกำลังจ้องมองไปที่หลี่ฟู่เฉิน

 

“เขาสมกับที่เป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาว ทว่าน่าเสียดายที่เขาต้องเจอกับข้า”

 

หลี่ฟู่เฉินลงมือและใบดาบก็ทำให้เกิดประกายไฟในท้องฟ้า ดาบพลังฉีแยกเงาของหลิวหวูหวงถูกกวาดล้างหายไปทั้งหมด

 

ปิสส!

 

ทำลายเกราะพลังฉี หนึ่งในประกายไฟของดาบดาวตกก็ได้พุ่งเข้าทำลายหลิวหวูหวง เข้าเผาเสื้อผ้าของเขา

 

มันเป็นทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลางเช่นเดียวกัน แต่ทักษะดาบดาวตกของหลี่ฟู่เฉินนั้นลึกซึ้งกว่าทักษะดาบของหลิวหวูหวงมากถึงสองเท่า หากหลี่ฟู่เฉินต้องการ เขาก็สามารถทำให้การลงดาบครั้งนี้เปลี่ยนหลิวหวูหวงให้เป็นเถ้ากระดูกได้

 

“สุดยอด!”

 

สายตาของศิษย์หลักทั้งหมดเบิกกว้างขึ้น

 

กระบวนดาบเพียงดาบเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับหลี่ฟู่เฉิน ในการต่อต้านทักษะแยกเงาได้อย่างง่ายดาย

 

โดยไม่รู้ตัว การแข่งขันคัดเลือกก็อยู่ในรอบที่เก้าแล้ว

 

จนถึงตอนนี้ หลังจากคัดทิ้งคนที่หมดสิทธิ์ทั้งหมดก็มีผู้เข้าร่วมเพียง 16 คน

 

หยูเหวินเทียนถูกกำจัดไปแล้วและหลิวหวูหวงตอนนี้แพ้ไปแล้วสามครั้ง

 

ในระหว่างรอบทั้งหมดนั้น หลี่ฟู่เฉินเอาชนะศิษย์หลักระดับทองหลายคนที่ผ่านชั้นสามของหอคอยสืบทอด ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินนั้นเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคน

 

ในนัดที่เจ็ดของรอบที่เก้า หลี่ฟู่เฉินขึ้นเวทีอีกครั้ง

 

คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาคือศิษย์หลักอันดับ 5 ของนิกายวารีคราม หลิวหยวนที่อยู่ในระดับที่ 9 ของขอบเขตปฐพี หลิวหยวนได้ผ่านชั้นที่สามของหอคอยสืบทอดมาแล้วหนึ่งปี เขาเผชิญหน้ากับหลี่ฟู่เฉินด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “แน่แล้วว่าหลี่ชิตี๋ย่อมมีทักษะที่ดี มีความสามารถเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย บางทีในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้า ข้าอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิตี๋อีกต่อไป”

 

ความสามารถของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเซี่ยเฟิง และสิ่งเดียวที่เขาขาดก็คือการสร้างท่าสังหารระดับลึกลับขั้นกลาง

 

“ลงมือเถอะ!” หลี่ฟู่เฉินกล่าวเสียงดัง

 

“ถ้างั้นแล้ว หลี่ชิตี๋ ระวังตัวด้วย!”

 

ดาบทองดำในมือของหลิวหยวนสั่น และบุปผาแห่งดาบนับไม่ถ้วนก็เบ่งบาน

 

ทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลาง – ทักษะดาบไหมทอง

 

ใช้งานทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลางด้วยการฝึกฝนขอบเขตปฐพีระดับที่ 9 ทักษะดาบนี้ย่อมแข็งแกร่งกว่าทักษะดาบแยกเงาของหลิวหวูหวงมาก

 

เมื่อเทียบกันแล้ว หลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่ 6 ของขอบเขตปฐพี และมีระดับต่ำกว่าหลิวหยวนสามระดับ

 

ตอนนี้ เทคนิคลับระดับ 3 ดาว เทคนิคลับมังกรเร้นลับ และฝ่ามือกระจ่างแรกเริ่มไม่ถือว่าเป็นไพ่ตายอีกต่อไป เพราะโดยพื้นฐานแล้วคนส่วนใหญ่ที่นี่ย้อมมีเทคนิคลับระดับสามดาว

 

แต่หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้บทดาบไร้สมบูรณ์บทดาบเหล็กดำ และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้ทักษะดาบที่แข็งแกร่งหรือท่าสังหาร ด้วยความตระหนักรู้ที่น่าตื่นตะลึงใจของเขา เขาสามารถมองทะลุข้อบกพร่องในทักษะดาบของหลิวหยวนได้ทันที ตราบใดที่เขากำหนดเป้าหมายไปที่ข้อบกพร่อง หลี่ฟู่เฉินก็จะสามารถเอาชนะพลังได้ด้วยทักษะ

 

เขายังคงใช้ทักษะดาบดาวตกเช่นเดิม แต่คราวนี้มันอลังการและงดงามกว่าเดิมมาก

 

ราวกับว่ามีใครบางคนกระจายกองไฟด้วยการตวัดมือแรงๆ ประกายไฟนับหมื่นพวยพุ่งออกมาจากกองไฟ มันวนอยู่บนท้องฟ้าและดูสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่ความเป็นอันตรายเองก็มีมากอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน

 

“เจตจำนงระดับลึกลับขั้นกลางสมบูรณ์แบบ?” จ้าวหวูจินโพลงออกมา

 

เจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นกลางสมบูรณ์แบบนั้นก็หมายความว่ามันใกล้เคียงกับระดับของเจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นสูง

 

เพื่อที่จะเข้าถึงขั้นนี้ได้ มันย่อมหมายความว่าหลี่ฟู่เฉินได้ยกระดับทักษะดาบระดับลึกลับกลางขึ้นสุดขั้ว และต่อไปก็จะเปลี่ยนมันเป็นทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูง

 

“นั้นคือการรับรู้ของเขา?”

 

วิสัยทัศน์ของโอหยางเหวินเทียนนั้นเฉียบคมมาก เพราะเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ฟู่เฉินได้เห็นข้อบกพร่องจากทักษะดาบของหลิวหยวนแล้ว

 

ฟู ฟู!

 

ทักษะดาบของหลิวหยวนนั้นยอดเยี่ยม แต่ทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉินนั้นยอดเยี่ยมกว่าหลายเท่า

 

ราวกับว่าฟองอากาศกำลังถูกเจาะ ทักษะดาบของหลิวหยวนพังทลายลงเมื่อได้สัมผัสกับทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉิน มันไม่สามารถแม้แต่จะคุกคามหลี่ฟู่เฉินได้

 

“ห้ะ?” ดวงตาของหลิวหยวนหดลง

 

“ชุมนุมบุปผาไหมทอง!”

 

หลิวหยวนระเบิดพลังออกมาพร้อมกับการทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของทักษะไหมทอง ชั้นของบุปผาแห่งดาบนั้นราวกับกับทะเลดอกไม้ที่พุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน

 

“โคจรหลั่งไหลไร้สิ้นสุด!”

 

หลี่ฟู่เฉินเปลี่ยนทักษะดาบของเขาจากทักษะดาบดาวตกเป็นทักษะโคจรหลั่งไหล

 

แสงดาบหมุนวนราวกับกระแสน้ำเชี่ยวสีแดงเข้มซึ่งได้ไหลเข้าท่วมทะเลดอกไม้ก่อนที่จะระเบิดตัวออกด้วยความดุร้าย

 

ครืนน!

 

หลิวหยวนบินถอยหลังออกไปอย่างไม่เต็มใจ และร่อนลงนอกเวทีการประลอง

 

“ข้าชนะแล้ว” หลี่ฟู่เฉินกล่าว

 

การแสดงออกของหลิวหยวนเปลี่ยนไปนับครั้งไม่ถ้วนและในที่สุดดวงตาของเขาก็หรี่ลง

 

เขาพ่ายแพ้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความสามารถทักษะดาบของคู่ต่อสู้สูงเกินไป

 

สิ่งที่น่ากลัวคือหลี่ฟู่เฉินเพิ่งอายุ 20 ปีเท่านั้น

 

การมีทักษะดาบเช่นนี้เมื่ออายุ 20 ปีเป็นสิ่งที่แม้แต่ดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู ก็เทียบไม่ได้

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก หลี่ฟู่เฉินเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตัวหลิวหยวนเองไม่สามารถตั้งสมมติฐานใดๆ ได้

 

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”

 

ศิษย์หลักระดับทองที่ผ่านชั้นสามของหอคอยสืบทอดที่เหลือต่างก็ส่ายหัวและค่อนข้างสลดใจ

 

เดิมทีพวกเขาคิดว่าพวกเขามีความหวังในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสี่อันดับแรก แต่ตอนนี้ ความหวังทั้งหมดนั้นหายไป

 

จากสิ่งที่ได้เห็น เฉพาะดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู ดาบพยัคฆ์ เฉินหยวนหู ดาบไร้อารมณ์ เซี่ยเฟิง บูฉิงสงและหลี่ฟู่เฉินเท่านั้น ที่มีความเป็นไปได้ในการผ่านเข้ารอบ และคนอื่นๆ ก็ไม่มีโอกาสใดๆ เลยด้วยซ้ำ

 

“เขามีความสามารถ” การแสดงออกของบูฉิงสงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

 

ความสามารถในการใช้ดาบของหลี่ฟู่เฉินนั้นสูงเกินไปและมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะสร้างท่าสังหารระดับลึกลับขั้นกลาง หากเป็นเช่นนั้น มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะเอาชนะหลี่ฟู่เฉิน

 

ในนัดที่แปดของรอบเก้า เฉินหยวนหู่ต่อสู้กับเซี่ยเฟิง

 

หลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่า เฉินหยวนหูก็สามารถเอาชนะเซี่ยเฟิงได้

 

ในนัดแรกของรอบที่สิบ ดาบคลั่ง หลี่เซียงหรูต่อสู้กับเฉินหยวนหู เฉินหยวนหูพ่ายแพ้ในสามดาบ

 

ในนัดที่สามของรอบที่สิบ หลี่ฟู่เฉินต่อสู้กับบูฉิงสง

 

“ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกันแล้ว”

 

ทุกคนเบิกตากว้าง

 

คนหนึ่งเป็นศิษย์หลักที่มีประสบการณ์และในช่วงสูงสุดของเขา เขาเป็นถึงศิษย์หลักอันดับ 1 ในนิกายวารีคราม แม้ว่าเขาจะถูกแย่งชิงตำแหน่งไปโดยดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู ความสามารถของบูฉิงสงก็ยังไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้าม ยิ่งไปกว่านั้น พลังฝึกฝนของเขาก็สูงที่สุดในบรรดาผู้เข้าร่วมทั้งหมด ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพี

 

อีกคนเป็นอัจฉริยะที่น่าตื่นตาที่สุดในนิกายวารีคราม นอกเหนือจากระดับบ่มเพาะปลูกที่ต่ำกว่าของเขาแล้ว เขาก็เป็นคนที่เก่งที่สุดในบรรดาปัจจัยอื่นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

 

การต่อสู้ระหว่างพวกเขาสองคนจะเป็นประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน

 

มันเป็นลูกคลื่นเก่าที่ยังคงดุร้าย หรืออาจเป็นลูกคลื่นใหม่ที่จะผลักลูกคลื่นเก่าออกไป

 

 

 

ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ indynovels

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset