Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 238

ตอนที่ 238

บทที่ 238

โม้ไร้ยางอาย?

 

‘คู่ควรกับการถูกจัดอันดับในการจัดอันดับดารา!’ ตาของหลี่ฟู่เฉินหรี่แคบลง

เห็นได้ชัดจากความสามารถที่น่าเกรงขามของเสี่ยวไบ๋นี้ เทคนิคบ่มเพาะของเขาอยู่ในขั้นที่ 15 แน่นอน เจตจำนงฝ่ามือลึกลับระดับกลางนั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

 

การรับรู้และเซ้นในด้านการต่อสู้ของเสี่ยวไบ๋ไม่ได้เป็นสิ่งที่หูหมิ๋งสามารถเปรียบเทียบได้ มุมและจังหวะการโจมตีของฝ่ามือนี้เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ ขณะเป็นหลี่ฟู่เฉินเองก็มองเห็นข้อบกพร่องเพียงสามข้อเท่านั้น

 

“ช่างน่าเสียดาย เขาคิดว่าจะไล่ต้อนข้าได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคลับ เขามีความมั่นใจมากเกินไป”

 

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะเยาะ ในขณะที่เขาใช้ทักษะดาบดาวตกเป็นครั้งแรก เร็วดุจดาวตก แสงดาบจุดหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ขึ้นไปต่อต้ามฝ่ามือพลังฉีของเสี่ยวไบ๋

 

“ฝ่ามือปีศาจอาชูร่า!”

 

เสี่ยวไบ๋เลิกคิ้วขึ้น ในขณะที่เจตจำนงสังหารในสายตาของเขานั้นเพิ่มพูนขึ้น ขณะที่ปล่อมฝ่ามือที่สองตามไปอย่างใกล้ชิด

 

เห็นได้ชัดว่าฝ่ามือนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยการเปิดใช้งานเทคนิคลับ ซึ่งเพิ่มพลังได้มากกว่าเดิมสองเท่า ฝ่ามือพลังฉีสีดำขนาดใหญ่ขยายใหญ่ขึ้นราวกับเป็นเปลวเพลิงสีดำที่พร้อมจะทำให้ทุกอย่างระเหย

 

“เสี่ยวเซียง อย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องยากสำหรับข้า”

 

ภาพของหญิงสาวที่งดงามปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนราง และทันใดนั้นเองฉินเคอชือก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของหลี่ฟู่เฉิน เธอใช้ร้อยประทับดอกไม้ร้อยของเธอ เพื่อสลายฝ่ามือปีศาจอาชูร่าของเสี่ยวไบ๋

 

เสี่ยวไป๋ดูเบาเกินไปและเริ่มเสียใจอยู่ในใจของเขา

 

เขาไม่ได้คาดไว้เลยว่าหลี่ฟูเฉินจะสามารถรับฝ่ามือแรกของเขาได้ หากเขารู้มันก่อน เขาจะเปิดใช้งานเทคนิคลับตั้งแต่เริ่มต้น

 

“เจ้าโชคดีไป แต่เจ้าสมควรจำไว้ว่าหญิงสาวผู้นี้จะไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ทุกครั้ง ครั้งต่อไปที่ข้าลงมือ นั้นก็จะเป็นเวลาที่เจ้าต้องตาย หวนช่วงเวลาชีวิตสั้นๆ นี้ของเจ้าไว้เสียเถอะ!” เสี่ยวไป๋หัวเราะด้วยอาการดูถูกและเหยียดหยาม ขณะที่เขาช่วยหูหมิ๋งขึ้นมา และกลับไปที่ศาลา

 

หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “กฎมีไว้แหก บางทีเจ้าสมควรชื่นชมยินดี ที่เจ้าสามารถรักษาสถานะอันดับดาราเอาไว้อยู่ได้”

 

ที่ชั้นบนของศาลา การแสดงออกของเสี่ยวไบ๋เปลี่ยนไปและดวงตาของเขาก็ระเบิดเจตนาสังหารที่น่าตกใจออกมา “หลี่ฟู่เฉิน เจ้ากำลังถามหาความตาย”

 

ไม่เพียงแต่เสี่ยวไบ๋ คนที่เหลือก็โกรธแค้นเช่นกัน

 

“หลี่ฟู่เฉินผู้นี้ไม่ใช่ว่าอวดดีเกินไปหรือ! หากไม่ใช่เพราะว่าฉินเค่อชือเข้ามาขัดขวางการโจมตีของเสี่ยวไบ๋เอาไว้ ตอนนี้เขาอาจจะตายไปแล้ว ตอนนี้เขากลับกล้าโอ้อวดอย่างไร้ยางอายเช่นนี้ได้จริงๆ?”

 

“ฉินเค่อชือไม่ควรขัดขวางเสี่ยวไบ๋เลย น่าจะปล่อยให้เขาตาย”

 

“บุคคลผู้นี้น่ารังเกียจเกินไป เขารู้ดีว่าเสี่ยวไบ๋ไม่สามารถลงมือได้ ดังนั้นเขาจึงพูดเรื่องไร้สาระทั้งหมดเหล่านี้ หากข้าเป็นเสี่ยวไบ๋ ข้าจะไม่ปล่อยเขาไปแบบนี้”

 

“ข้าอยู่ที่แคว้นร้อยเทพยุทธ์มาแล้วก็ตั้งหลายปี แต่ข้ายังไม่เห็นคนไร้ยางอายเท่าคนผู้นี้มาก่อน ในที่สุดข้าก็นับว่าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ”

 

เกือบทุกคนเยาะเย้ยและเย้ยหยันความไร้ยางอายและความมั่นใจของหลี่ฟู่เฉิน

 

ในความเห็นของพวกเขา หลี่ฟู่เฉินใช้ประโยชน์จากการปกป้องของฉินเคอชืออย่างโจงแจ้ง

 

ดังนั้น ในขณะที่พวกเขากำลังเยาะเย้ยกัน พวกเขาก็กลายเป็นรู้สึกโกรธอยู่ในใจ

 

ในแง่ของการพิจารณาความสามารถ พวกเขาไม่คิดว่าหลี่ฟู่เฉินจะมีความสามารถเกินกว่าเสี่ยวไบ๋

 

เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง

 

“หลี่ฟู่เฉินผู้นี้หุนหันพลันแล่นเกินไป ฟานชิตี๋และฟานชิเหม่ย มันจะดีกว่าหากไม่ต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลผู้นี้มากเกินไป เขาจะนำปัญหามาให้เจ้าไม่ช้าก็เร็ว” ฮวงหยูเซียงขมวดคิ้วและกล่าวกับฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยู

 

ฟานเฉียนสงลังเลและตอบกลับ “ฮวงชิเซียง บางทีหลี่ฟู่เฉินก็อาจไม่ได้กล่าวไร้สาระก็เป็นได้ ความสามารถของเขาแข็งแกร่งอย่างแท้จริง”

 

ฮวงหยูเซียงหัวเราะเยาะ “ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะแข่งขันกับเสี่ยวไป๋ที่อยู่ในอันดับ 101 ถ้าเขาอยู่ในระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพี ข้าอาจจะเต็มใจที่จะเชื่อ แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้”

 

ฟานเฉียนสงขมวดคิ้วและกล่าว “ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ ข้าเชื่อในตัวหลี่ฟู่เฉิน”

 

มันไม่สำคัญว่าหลี่ฟู่เฉินจะเพิ่งคุยโม้หรือไม่ หลี่ฟู่เฉินช่วยชีวิตน้องสาวและชีวิตของเขาไว้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ฟานเฉียนสงจะฟังคำพูดของฮวงหยูเซียงและออกห่างจากหลี่ฟู่เฉิน มันไม่ใช่วิธีการดำเนินชีวิตในแบบของเขา

 

“เฮ้อ พวกเจ้าสองคนจะต้องเสียใจในไม่ช้าก็เร็ว” ฮวงหยูเซียงส่ายหัวและไม่ชักชวนอีกต่อไป

 

บนศาลาของเจ้าภาพ หรันเฉียนฉิวไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนว่าข้าประเมินเขาสูงเกินไป บุคคลเช่นนั้นจะบรรลุความสำเร็จได้อย่างไร? เขาเป็นแค่ตัวตลกที่คอยสร้างปัญหา ฉินเคอชือ เจ้าไม่ควรขัดขวางเสี่ยวไบ๋”

 

บนเวทีศิลปะการต่อสู้ ฉินเคอชือรู้สึกเสียใจจริงๆ

 

เธอต้องยอมรับว่าหลี่ฟู่เฉินมีศักยภาพสูง แต่ศักยภาพก็เป็นเพียงแค่ศักยภาพ ก่อนที่จะมีโอกาสจะกลายเป็นความสามารถที่แท้จริง มันเป็นการดีที่สุดที่จะไม่แสดงออกมากเกินไป หากเขาประพฤติตัวราวกับอันธพาลตัวน้อย เขาจะนำ

 

มาได้แค่ความเกลียดชังเท่านั้น และจะไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆ

 

เธอมั่นใจว่าเมื่อเธอจากไป เซียวไป่ยจะลงมืออีกครั้งเพื่อสังหารหลี่ฟูเฉิน

 

เธออาจจะรังเกียจหลี่ฟู่เฉินนิดหน่อย แต่เธอไม่สามารถตบหน้าตัวเองได้ งานเลี้ยงน้ำชานี้มีกฎเหล็กที่ห้ามการสังหารใดๆ เนื่องจากเธอได้เป็นเจ้าภาพงานนี้เป็นครั้งแรก มันเป็นกฎที่จะต้องไม่ถูกทำลาย แม้ว่าฉินเคอชือจะต้องฝืนตัวเอง เธอก็จะไม่อนุญาตให้เสี่ยวไป๋เข้ามาสังหารหลี่ฟุเฉิน

 

“ข้าหวังว่าจะไม่มีหลี่ฟู่เฉินอีกในงานเลี้ยงน้ำชานี่” ฉินเคอชืออธิษฐานอยู่ในใจของเธอ

 

“เจ้าสามารถกลับไปก่อนได้ จากนั้นก็ไปกับข้า ข้าจะรับรองความปลอดภัยของเจ้า” ฉินเคอชือทำท่าให้หลี่ฟู่เฉินกลับไป

 

หลี่ฟู่เฉินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

 

“ฉินเคอชือ เสี่ยวไป๋ได้รับการจัดอันดับในการจัดอันดับดารา แต่ข้าไม่ ข้าคงไม่มีปัญหาอะไรที่จะท้าทายหลี่ฟู่เฉินใช่มั้ย?” ร่างหนึ่งบินขึ้นไปบนเวทีแล้วชี้ไปที่ หลี่ฟู่เฉินขณะที่กล่าวกับฉินเคอชือ

 

ฉินเคอชือพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”

 

“เช่นนั้นก็ดี หลี่ฟู่เฉิน เจ้าควรคุกเข่าและขอความเมตตา เมื่อตอนที่เจ้ายังทำได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ข้า ซินหวูหยวนจะตบปากของเจ้า และดูว่าเจ้าจะโอ้อวดตนต่อไปได้อย่างไร”

 

ซินหวูหยวนไม่อนุญาตให้หลี่ฟู่เฉินจากไป และเนื่องจากเสี่ยวไบ๋ไม่สามารถลงมือได้ เขาจำมันแทนในนามของเสี่ยวไบ๋ เขาต้องการที่จะดูหลังจากที่เขาตีปากของหลี่ฟู่เฉินแล้ว เขาจะสามารถกล่าวคำอวดดีออกมาได้อีกหรือไม่

 

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเจ้าต้องการออกมาแทยเสี่ยวไบ๋?” หลี่ฟู่เฉินหรี่ตา ขณะที่แสงอันเย็นชาเริ่มวาดผ่าน

 

ไม่ว่าอารมณ์ของเขาจะสงบแค่ไหนก็ตาม หลังจากถูกเยาะเย้ยจากคนอื่น ภายในก็ย่อมมีประกายไฟแห่งโทสะครุกครุ่นอยู่ภายใน

 

“เสี่ยวไป๋เป็นบุคคลที่อยู่ในอันดับดารา ข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวแทนในนามของเขา แต่เจ้า… ข้าต้องสอนบมเรียนให้กับเจ้า” ซินหวู่หยวนดึงกระบี่ยาวสีดำเงินออกมา ชี้ปลายดาบไปที่หลี่ฟู่เฉิน

 

บนศาลา เสี่ยวไป๋กล่าวออกมา “ซินหวู่หยวน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าเสี่ยวไบ๋เป็นหนี้บุญคุณเจ้า”

 

“เสี่ยวเซียงสุภาพเกินไปแล้ว” ซินหวูหยวนยิ้มออกมาเล็กน้อย การได้รับความโปรดปรานจากบุคคลสำคัญที่ถูกจัดอยู่ในอันดับดาราเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เขาสามารถคาดหวังได้

 

เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินสิ่งที่เสี่ยวไบ๋กล่าว พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างเงียบๆ ซินหวู่หยวนผู้นี้ตอบสนองเร็วเกินไปและหากพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะได้รับความโปรดปรานของเสี่ยวไบ๋ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ พวกเขาจะคว้าโอกาสในการขึ้นไปบนเวทีแทน

 

“ซินหวูหยวนเป็นหนึ่งในห้าศิษย์หลักระดับทองจากนิกายกระบี่ยาว ความสามารถของเขาเหนือกว่าหูหมิ๋งเป็นอย่างยิ่ง หากความสามารถของหลี่ฟู่เฉินมีแค่นี้ เขาจะต้องพ่ายแพ้โดยซินหวูหยวนแน่นอน” ฮวงหยูเซียงบอกฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยู

 

ฟานเฉียนสงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ซินหวูหยวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉิน”

 

ถ้ามันเป็นเสี่ยวไป๋ ฟานเฉียนสงอาจจะลังเล แต่ถ้ามันเป็นเพียงแค่ซินหวูเซียง เขาเชื่อมั่นว่าหลี่ฟู่เฉินจะได้รับชัยชนะ

 

“ข้ามีความเห็นเช่นเดียวกันกับพี่ชายของข้า ข้าเชื่อว่าหลี่ฟู่เฉินจะเป็นผู้ชนะ” ฟานเฉียนหยูเองก็กล่าวความคิดเห็นของเธออกมาเช่นกัน

 

“ดูเหมือนพวกเจ้าสองคนจะอยู่ภายใต้มนตร์สะกดของหลี่ฟู่เฉิน” ฮวงหยูเซียงรู้สึกปั่นป่วน เขาไม่รู้ว่ายาที่หลี่ฟู่เฉินใช้รักษาทั้งสองเป็นแบบใด ถึงได้ทำให้พวกเขาอยู่ข้างเขาได้ทุกครั้งไป

 

ฟานเฉียนสงกล่าวอย่างจริงจัง “ฮวงชิเซียง เจ้าไม่เคยไปไหนมาไหนกับเขามาก่อน ดังนั้นเจ้าจึงไม่ทราบศักยภาพที่น่าประหลาดใจของเขา ฉันเข้าใจในสิ่งที่เจ้ากล่าว แต่เจ้าก็ไม่ควรพูดเช่นนั้นออกมา”

 

“เอาล่ะ ข้าอยากเห็นความประหลาดใจที่เขาจะนำมาให้เรา”

 

ฮวงหยูเซียงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อระงับความรำคาญและความโกรธของเขาเอาไว้ เขาจับจ้องไปที่เวทีศิลปะการต่อสู้

 

ยืนห่างจากซินหวูหยวนสิบเมตร หลี่ฟู่เฉินกล่าว “ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจ!”

 

ริมฝีปากของหลี่ฟู่เฉินขมุบขมิบ ระเบิดพลังของเทคนิคลับมังกรเร้นลับออกมา และเปิดใช้งานฝ่ามือกระจ่างแรกเริ่ม

 

“เสียใจ? ไม่มีคำเสียใจอยู่ในพจนานุกรมของข้า” ซินหวูหยวนหัวเราะออกมา ขณะเขาตวัดกระบี่ไปที่หลี่ฟู่เฉินด้วยความเร็วสูง

 

ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset