Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 221

ตอนที่ 221
บทที่ 221
จิตสำนึกที่น่าพรั่นพรึง
ประโยชน์ของการมีสติที่น่ากลัวคืออะไร?
นั้นก็คือการได้รับข้อมูลมากมาย
สติที่น่ากลัวหมายถึงการรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินเองก็จะแข็งแกร่งขึ้น
สติที่น่ากลัวยังหมายถึงความสามารถในการคิดของหลี่ฟู่เฉินเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ความสามารถในการคิดของคนหนึ่งนั้นเกี่ยวข้องกับการรับรู้ของคนๆ หนึ่ง
เปิดดวงตาออก หลี่ฟู่เฉินตื่นขึ้นมา
“ยินดีด้วยท่านอาจารย์!”
มองเห็นหลี่ฟู่เฉินตื่นขึ้นมา ‘หลี่หวูเซี่ย’ และวิญญาณปีศาจตนอื่นๆ กล่าวขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
สภาวะพลังฉีที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของหลี่ฟู่เฉินอาจจะไม่เหมือนกับอาจารย์ของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะคิดว่าอาจารย์ของพวกเขาจะล้มเหลว
หลี่ฟู่เฉินตอบอย่างเฉยเมย “อาจารย์ของพวกเจ้าตายไปแล้ว”
“เจ้าไม่ใช่ท่านอาจารย์? นี่เป็นไปได้อย่างไร?”
‘หลี่หวูเซี่ย’ และวิญญาณปีศาจที่เหลือแสดงอาการเหลือเชื่อออกมา
ท่านอาจารย์ ตายแล้ว?
อาจารย์ของพวกเขาอาจจะจากไปและเหลือเพียงแต่วิญญาณแท้จริง และอาจจะด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับตอนจุดสูงสุดของท่านอาจารย์ แต่เพื่อยึดร่างของนักสู้ขอบเขตปฐพี มันไม่ควรมีอุบัติเหตุหรือการล้มเหลวใดๆ…​ แม้ว่ามันจะเป็นร่างของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ ด้วยความสามารถของท่านอาจารย์ มันก็ไม่ควรมีปัญหาเช่นกัน​
“ตาย!”
‘หลี่หวูเซี่ย’ และ ‘ฟูจงชาน’ พุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินในเวลาเดียวกัน
เช้ง!
ด้วยดาบที่ชักออกมาจากฝัก แสงดาบก็ได้ตวัดผ่านออกไป ราวกับว่าการโจมตีจาก ‘หลี่หวูเซี่ย’ และ ‘ฟูจงชาน’ นั้นได้จมลงไปในบึง พวกเขาไม่สามารถใช้ความแข็งแกร่งแต่เดิมของเขาได้ประมาณ 30% และการโจมตีของพวกเขาก็ถูกป้องกันอย่างง่ายดายจากหลี่ฟูเฉิน
จิตสำนึกที่น่าหวาดหวั่นทำให้หลี่ฟูเฉินสามารถกำหนดวิถีการโจมตีจาก ‘หลี่หวูเซี่ย’ และ ‘ฟูจงชาน’ ได้ในทันที หลี่ฟู่เฉินก้าวล้ำอยู่หนึ่งก้าวเสมอสำหรับการโจมตีที่เข้ามา ส่งผลทำให้พวกนั้นไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของพวกเขาได้
“สามารถป้องกันการผสานการโจมตีจากพวกเราได้จริงๆ?”
‘ฟูจงชาน’ กลายเป็นตกตะลึง เขารู้ว่าความสามารถของหลี่ฟู่เฉินนั้นด้อยกว่าเขามากในอดีต เกิดอะไรขึ้นกับความสามารถของเขาทำไมมันถึงได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้?
ปิสส ปิสส!
วิชาดาบเก้าโคจรถูกใช้ออกเพื่อป้องกันและโจมตี เมื่อดาบหมุนครบเก้าครั้งมันก็เพียงพอที่จะต่อต้านการโจมตีใดๆที่เข้ามา แล้วใช้พลังของการโจมตีเหล่านั้นเพื่อกลับไปหาศัตรูด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งหมายความว่าหากพลังของศัตรูแข็งแกร่งมาก พลังที่จะสะท้อนออกไปก็จะมากตามไปด้วย
แสงดาบสองแสงสะท้อนกลับมา มันเข้ามาเจาะ ‘หลี่หวูเซี่ย’ และ ‘ฟูจงชน’ ส่งผลทำให้ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือด
“เขากลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” หลี่หวูเซี่ย’ และ ‘ฟูจงชาน’ มึนงง
พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าหลี่ฟู่เฉินมีสติเพิ่มขึ้นมาก ทักษะดาบของเขาอาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ทักษะการต่อสู้ของเขาไม่ใช่ มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างน้อยสองเท่า เขาสามารถแปลงความสามารถส่วนหนึ่งของเขาให้เป็นมากกว่าความสามารถตามปกติ ซึ่งแปลงให้แข็งแกร่งขึ้นสองเท่าได้อย่างง่ายดาย
หลังจากต้านทานวิญญาณปีศาจทั้งสอง หลี่ฟู่เฉินเปิดตัวด้วยการเข้าไปโจมตี ‘ฟูจงชาน’​ อย่างดุเดือด ใช้วิชาดาบเพลิงดาวตก เพลิงดาวตกทุกอันราวกับมีชีวิตเป็นของตัวเอง มันดูทั้งสวยงามและดูไร้ความปราณีไปพร้อมๆ กัน เพียงไม่นานเลือดสดไหลก็ผ่านร่างของ ‘ฟูจงชาน’​
ไม่มีเสียงหรือการแสดงตนใดๆ เงาวิญญาณปีศาจที่โปร่งใส่ลอยออกมาจากร่างของ ‘ฟูจงชาน’
“ข้าสามารถเห็นมันได้?” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินสว่างขึ้น
ก่อนหน้านี้ เขาไม่สามารถเห็นวิญญาณปีศาจได้ แต่สามารถเห็นวิญญาณแท้จริงของเจ้าของสุสานนี้ อย่างไรก็ตามนี้มันเป็นเพราะเจ้าของสุสานตนนั้นตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น
เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเห็นวิญญาณปีศาจโดยตรงหลังจากเพิ่มระดับสติของเขา
เนื่องจากเขาสามารถเห็นวิญญาณปีศาจได้ งั้นแล้วทุกอย่างก็ง่ายขึ้นมาก หลี่ฟู่เฉินเฉือนวิญญาณปีศาจด้วยวิชาดาบโคจรหลั่งไหล
วิญญาณปีศาจไม่กลัวการโจมตีปกติ แต่พวกมันกลัวเจตจำนงทักษะ
เมื่อดาบโคจรหลั่งไหลของหลี่ฟู่เฉินหมุนไปที่วิญญาณปีศาจ​ มันก็ทำให้วิญญาณปีศาจดูบิดเบี้ยวทันที
เห็นได้ชัดว่าเจตจำนงแห่งดาบของหลี่ฟู่เฉินไม่สามารถสร้างอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงต่อวิญญาณปีศาจได้
ซึ่งเป็นสาเหตุ ที่หลี่ฟู่เฉินไม่สามารถทำลายวิญญาณปีศาจได้ภายในเวลาอันสั้น มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
“เนื่องจากเป็นเช่นนี้ ข้าจะลองมันด้วยจิตสำนึก”
จิตสำนึกของหลี่ฟู่เฉินพุ่งออกมาและระเบิดออกใส้วิญญาณปีศาจ
“อ๊ากก!” วิญญาณปีศาจเปล่งแสงออกมาไม่นานก็กระจายหายไป
“สำเร็จ” หลี่ฟู่เฉินแสดงออกอย่างยินดี
เขาไม่คาดหวังว่าจิตสำนึกของเขาจะสามารถโจมตีวิญญาณปีศาจได้
เมื่อวิญญาณแท้จริงของเจ้าของสุสานเข้ามาในจิตใจของเขา เขาสามารถต่อสู้ในจิตสำนึกของเขาได้ แต่เขายังไม่ได้ลองใช้มันนอกความคิดของเขาเอง
แต่เขาก็ไม่ทราบว่าจิตสำนึกของคนปกติไม่แม้แต่จะสามารถทำร้ายวิญญาณปีศาจได้ มันเป็นเพราะความดื้อรั้นและความมุ่งมั่นของเขาที่สามารถทำลายวิญญาณปีศาจ
เมื่อวิญญาณปีศาจตนอื่นเห็นหลี่ฟู่เฉินเอาชนะวิญญาณปีศาจได้จริงๆ วิญญาณปีศาจทั้งสามที่ลอยอยู่นั้นตื่นตระหนกและต้องการที่จะเข้าสู่ร่างทั้งสามที่อยู่ใกล้เคียง แต่หลี่ฟู่เฉินจะยอมให้พวกเขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
จิตสำนึกของเขาถูกกวาดออกไปและทำลายวิญญาณปีศาจทั้งสามในทันที
เหลือเพียงเฉพาะ ‘หลี่หวูเซี่ย’​ เท่านั้น
‘หลี่หวูเซี่ย’ มีความตั้งใจที่จะล่าถอย ก่อนที่ร่างของเขาจะพุ่งเข้าไปยังห้องโถงใหญ่
“นั้นกำลังจะไปไหน?” จิตสำนึกของหลี่ฟู่เฉินถูกเร่งความเร็ว
ร่างของ ‘หลี่หวูเซี่ย’​ แกว่งไปแกว่งมาอย่างต่อเนื่อง
“ดูเหมือนว่าจิตสำนึกจะสามารถแทรกแซงได้เฉพาะวิญญาณปีศาจและวิญญาณแท้จริงได้แตาเพียงเท่านั้น มันไม่สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังวิญญาณปีศาจที่ครอบครองร่างกายไว้ก่อนแล้ว” หลี่หวูเซี่ยทำความเข้าใจและเปิดใช้งานทักษะการเคลื่อนไหวของเขาเพื่อไล่ล่าตามหลัง ‘หลี่หวูเซี่ย’ ไป
หลังจากที่ ‘หลี่หวูเซี่ย’​ ออกไป ชูมู่หยู เหว่ยชานเหอ ฟานเฉียนสง และฟานเฉียนหยูก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น?” ฟานเฉียนหยูสับสน
“หลี่ฟู่เฉินอยู่ที่ไหน?” ชูมู่หยูขมวดคิ้ว
เธอจำได้แค่ว่าวิญญาณแท้จริงของเจ้าของสุสานเข้ามาในร่างกายและเธอก็พยายามต่อต้าน แต่หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้เลย
ด้านนอกของห้องโถง ‘หลี่หวูเซี่ย’ หนีออกไปด้วยความเร็วสูงสุดของเขา ซึ่งมันก็เร็วกว่าหลี่ฟู่เฉินมาก
“ใจเย็นเข้าไว้”
หลี่ฟู่เฉินใช้วิชาดาบ เพลิงดาวตก และราวกับว่าเหล่าเพลิงดาวตกมีเจตจำนงเป็นของตัวเอง มันติดตาม ‘หลี่หวูเซี่ย’ เพียงไม่นานก็มีกลิ่นเลือดที่ไหม้เกรียมโชยมา และมีแผลขนาดเท่ากับไข่ไก่อยู่บนร่างกายของเขา
“สารเลว!”
หลังจากระยะเวลาหนึ่ง ‘หลี่หวูเซี่ย’ ก็ยังไม่สามารถสลัดออกจากหลี่ฟู่เฉินได้ หากเขายังคงวิ่งต่อไป เขาจะตกเป็นเป้าหมายเอาได้
หันกลับมา ‘หลี่หวูเซี่ย’ พุ่งไปที่หลี่ฟู่เฉิน
เขาไม่กลัวที่จะได้รับความเสียหายใดๆ ไม่ว่าจะเสียเล็กเสียน้อยสำหรับร่างกายนี้ แต่ถ้าเขาสามารถทำร้ายหลี่ฟู่เฉินได้ เขาก็จะมีโอกาส
‘หลี่หวูเซี่ย’ โจมตีอย่างรุนแรงไปที่หลี่ฟู่เฉิน ใช้ชีวิตของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนชีวิตกับหลี่ฟู่เฉิน
น่าเสียดายที่ทุกการเคลื่อนไหวของเขาถูกมองออกด้วยจิตสำนึกของหลี่ฟู่เฉิน ทุกการเคลื่อนไหวที่ ‘หลี่หวูเซี่ย’ ทำ หลี่ฟู่เฉินสามารถกำหนดท่าทางสำหรับรับมือได้นับไม่ถ้วนทันที
ปิสส!
แสงดาบกระพริบออกมา หัวของ ‘หลี่หวูเซี่ย’ บินออก
เงาปีศาจโผล่ออกมาจากร่างกายในตอนนี้เอง
“ตาย!”
หลี่ฟู่เฉินรอให้วิญญาณปีศาจออกมาก่อนที่จิตสำนึกของเขาจะแผ่ขยายออกไป พร้อมๆ กับเสียง ‘ปิสส’ วิญญาณปีศาจแตกกระจายออกไป
หลังจากฆ่าวิญญาณปีศาจตัวสุดท้ายแล้ว ในที่สุดหลี่ฟูเฉินก็ปลดปล่อยความโล่งใจ
ก่อนที่จะสังหารศัตรูได้ เขาไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบสุข วิญญาณปีศาจเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 6 และถ้าเขาปล่อยให้มันเติบโต จะเป็นเขาเองที่ต้องตาย
ผายมือของเขา เขาดูดถุงเก็บของออกจากศพของ ‘หลี่หวูเซี่ย’​ หลี่ฟู่เฉินหันกลับมาและรีบกลับไปที่ห้องโถง
ในห้องโถง ชูมู่หยูและคนอื่นๆ กำลังรออยู่ที่นั่น
“หลี่ฟู่เฉิน มันเป็นเจ้า?” ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูไม่แน่ใจ
“แน่นอนมันเป็นข้าเอง” หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ
“เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้?” เป็นชูมู่หยูที่เป็นคนถาม​
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
โดยธรรมชาติแล้วเขาต้องเลือกที่จะไม่บอกความจริงแน่นอน
ชูมู่หยูขมวดคิ้วและไม่ถามต่อ สัญชาติญาณของเธอบอกเธอว่าหลี่ฟู่เฉินมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าเขาจะซ่อนความลับมากมายไว้ในร่างกายของเขา
“ไม่เป็นไรทุกอย่างดีก็ดีแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าแค่ตื่นตกใจไปเพียงแค่นั้น”
ฟานเฉียนสงรีบนั่งลงและกินยาฟื้นฟูและเริ่มไหลโคจรเทคนิคของเขาเพื่อพักฟื้น
หลี่ฟู่เฉินถอนหายใจและสำรวจจิตสำนึกของเขาอย่างต่อเนื่อง
ถ้ามันเป็นเขาก่อนหน้านี้ จิตสำนึกหรือสัมผัสของเขาจะสามารถปลดปล่อยออกมาผ่านการสนับสนุนจากพลังฉีแต่เพียงเท่านั้น แต่ตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังฉีใดๆ และสามารถปล่อยมันออกมาได้โดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีระยะค่อนข้างไกลและสามารถสำรวจพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรได้
หลังจากเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของฟานเฉียนสงก็หายไป
ทั้งห้าออกจากห้องโถงและเตรียมพร้อมที่จะหาทางออก
Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset