Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 197

ตอนที่ 197

บทที่ 197

เศษซากอาวุธ


(น้องสาวของเด็กชายอาจเป็นได้ทั้งพี่สาวหรือน้องสาวนะในส่วนนี้แอดยังไม่แน่ใจ)

 

 

 

ถนนโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบ 丰 มันมีถนนสายหลักและหกตรอกซอกซอย

(หมายเหตุ TL:  = มันเป็นลักษณะของถนน)

 

เดินไปตามถนนสายหลัก หลี่ฟูเฉินเดินเข้าไปร้านขายของโบราณเพื่อดูเป็นบางครั้ง

 

ทุกอย่างถูกขายในร้านขายของเก่า รายการส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่แปลก

 

เช่นแร่ที่ดูพิเศษ เศษชิ้นส่วนของอาวุธ หรือแม้แต่กระทั่งพืชที่เหี่ยวเฉา ยังมีร้านขายของโบราณที่จัดวางกระดูกสัตว์ปีศาจระดับ 5 ไว้ด้วยเช่นกัน หากมันหล่อเลี้ยงได้อย่างถูกวิธี มันอาจกลายเป็นระดับ 6 ได้

 

หลี่ฟู่เฉินใช้สัมผัสธ์ของเขาในการตรวจสอบและตระหนักว่ากระดูกปีศาจชิ้นนี้ปรากฏขึ้นเป็นพิเศษเนื่องจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

 

“เดินเล่นและดูก่อน ร้านค้านี้ขายเศษซากอาวุธและพวกมันทั้งหมดก็น่าจะมาจากอนุสาวรีย์อันตรายนั้น บางทีอาจมีอาวุธระดับสูงอยู่ในมัน!” ร้านขายของเก่าที่ชื่อว่า ‘ศาลาชั้นเครื่องมือ’ มีพนักงานหลายคนกำลังเร่ขาย

 

“ท่านนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ โปรดอย่าเพิ่งเข้าไป ร้านนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการหลอกลวงผู้คน” เด็กชายเตือนหลี่ฟูเฉิน

 

หลี่ฟู่เฉินลดหัวลงและถาม “ใช่แล้ว ข้ายังไม่รู้ชื่อของเจ้าเลย เจ้าชื่ออะไร?”

 

“ข้าเซียวกง” เด็กชายตอบอย่างกระดากอาย

 

“เซียวกง… นั่นเป็นชื่อที่ดี ครอบครัวของเจ้า มีเฉพาะแค่ตัวเจ้า?”

 

“ข้ามีน้องสาวอีกหนึ่งคน”

 

“และพ่อแม่ของเจ้า?”

 

“พ่อแม่ของข้าเป็นนักสู้ที่น่าเกรงขามเหมือนกับท่าน แต่พวกเขาตายแล้ว ตอนนี้เลยเหลือแค่ข้าและน้องสาวของข้า” ดวงตาของเซียวกงดูสงบ แต่หลี่ฟู่เฉินมองเห็นร่องรอยแห่งความโศกเศร้า

 

หลี่ฟู่เฉินถอนหายใจ สถานการณ์อย่างเซียวกงไม่ได้เกิดขึ้นแค่เขาคนเดียว ในโลกนี้ ทุกคนมีโอกาสฝึกฝนตนเอง ในครัวเรือนส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยแล้ว พ่อแม่ส่วนใหญ่จะเป็นนักสู้ขอบเขตพลังฉี เมื่อเด็กๆ โตขึ้น พวกเขาก็จะกลายเป็นนักสู้ขอบเขตพลังฉีเช่นกัน และในฐานะที่เป็นนักสู้ พวกเขาย่อมต้องออกไปแสวงหาวิธีชีวิตที่เป็นของตนเอง ซึ่งเป็นที่ที่คนส่วนใหญ่จะพบจุดจบ

 

“น้องสาวของเจ้าอยู่บ้านคนเดียว? มันปลอดภัยหรือไม่? ทำไมเจ้าไม่กลับไปก่อน” หลี่ฟู่เฉินถาม

 

เซียวกงส่ายหัว “ท่านโปรดอย่าได้เป็นห่วง ข้าล็อคประตูไว้แล้วและข้าต้องรักษาสัญญา ข้ารับเหรียญทองของท่านมา ดังนั้นข้าต้องทำงานให้เสร็จลุล่วงก่อน” เขาเป็นกังวลเพราะเขาไม่เคยให้คำแนะนำใดๆ เลย ยกเว้นแต่เพียงการนำหลี่ฟู่เฉินมาที่นี่

 

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะ “เจ้าควรกลับไป พาน้องสาวของเจ้ามาที่นี่ก็ไม่เป็นไร ให้ข้าพาพวกเจ้าทั้งสองทานอาหาร”

 

เซียวกงกล่าว “น้องสาวข้าป่วย ปกติเธอเป็นคนที่ออกมาที่นี่” จบคำพูดของเขา เซียวกงลดหัวของเขาและรู้สึกละอายใจ

 

“หากเจ้ารักน้องสาวของเจ้า เจ้าก็กลับไปซะตอนนี้ น้องสาวของเจ้าต้องได้รับการดูแล ยิ่งไปกว่านั้น ข้าจะอยู่ที่เมืองคมดาบเหินเป็นเวลาสามวัน ให้ที่อยู่ของเจ้ากับข้า ข้าจะไปหาเจ้าและขอให้เจ้าพาข้าไป” หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ

 

“บ้านของข้าอยู่ทางเหนือของเมืองคมดาบเหิน เลข 952 ที่เป็นมีบานประตูเป็นโพรง ท่าน ท่านช่างเป็นคนดียิ่งนัก ข้าจะพาท่านไปทั่วเมืองคมดาบเหินในอีกสองวันข้างหน้า”

 

เซียวกงรู้สึกไม่ดีที่ออกมาจากบ้านที่มีน้องสาวของเขาป่วยอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่มีเงินซื้อยาให้น้องสาวของเขา เขาจะคงอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลเธอ

 

‘หือ เป็นคนดี?’ หลี่ฟู่เฉินไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะออกมา

 

“แน่นอน ทางเหนือของเมืองคมดาบเหิน เลข 952 ประตูเป็นโพรง ข้าจำได้ และข้าจะไปหาเจ้าในคืนนี้”

 

หลี่ฟู่เฉินไม่ได้มีความสามารถในการช่วยเหลือทุกคน แต่เท่าที่เขาทำได้ เขาก็อยากจะช่วยเหลือทุกคนอย่างแท้จริง

 

การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ไม่ควรมีแต่แค่การฝึกฝน

 

“ท่าน ข้าขอตัวก่อน” เซียวกงกำลังคิดถึงสิ่งที่เขาสามารถซื้อได้ด้วยเหรียญทองเหรียญนี้ เขาคิดเกี่ยวกับการซื้อยา ซื้อขนมปังนุ่ม และขนมปังกรอบ

 

“ไปได้เลย!” หลี่ฟู่เฉินโบกมือของเขา

 

หลังจากที่เซียวกงจากไป หลี่ฟู่เฉินเดินเข้าไปในศาลาชั้นเครื่องมือ แน่แท้ว่าเขาต้องการดูร้านขายของเก่านี้ ว่ามันจะหลอกลวงผู้คนอย่างไร

 

“เรียนท่านที่น่าเคารพ โปรดเชิญทางนี้” เมื่อเห็นว่าลูกค้าเข้ามา พนักงานร้านร่าเริง

 

“ของเหล่านี้เป็นเศษซากอาวุธที่ถูกทิ้งจากอนุสาวรีย์อันตรายหรือไม่?” หลี่ฟู่เฉินชี้ไปที่ตะกร้าอาวุธและถาม

 

พนักงานร้านตอบ “ใช่ขอรับ พวกมันมาจากที่นั้น เศษซากอาวุธแต่ละชิ้นจะขายที่ 100 เหรียญทองต่อชิ้น ซื้อเมื่อสิบและจะรับฟรีได้อีกหนึ่ง ยิ่งเท่าซื้อมากเท่าไหร่ เราก็ให้มากเท่านั้น”

 

“เอาหล่ะ ให้ข้าดู”

 

หลี่ฟู่เฉินหยิบเศษซากอาวุธขึ้นมาแล้ววิเคราะห์

 

สาเหตุที่มันถูกเรียกว่าเศษซากอาวุธ เป็นเพราะลวดลายที่อยู่บนมัน

 

ยิ่งระดับอาวุธสูงมากเท่าไหร่ ลวดลายรูปแบบก็ยิ่งมีความลึกลับซับซ้อนมากเท่านั้น

 

ยกตัวอย่างเช่นดาบทองดำของหลี่ฟู่เฉิน มันมีลวดลายระดับลึกลับขั้นกลาง

 

ลวดลายรูปแบบสามารถสร้างความแตกต่างให้กับน้ำหนักและความคมของอาวุธได้

 

วัสดุที่ใช้ในการตีดาบทองดำเป็นโลหะสีดำอย่างเห็นได้ชัด ตามขนาดของดาบทองดำ และตามขนาดของก้อนโลหะทองดำ ดาบของหลี่ฟู่เฉินควรมีน้ำหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัม

 

เมื่อจับคู่กับมูลค่าของก้อนโลหะทองดำ แต่ละกิโลกรัมมีค่าไม่กี่พันเหรียญทองเท่านั้น หนึ่งกิโลกรัมกิโลกรัมหมายความว่าดาบนี้มีมูลค่าอย่างน้อยแค่ 50,000 เหรียญทอง

 

แต่หลังจากประทับลวดลายรูปแบบระดับลึกลับขั้นกลางลงไป ตอนนี้ดาบทองดำกลายเป็นดาบที่หนักกว่า 50 กิโลกรัมและสามารถปลดปล่อยดาบพลังฉีได้ มูลค่าของมันตอนนี้สูงขึ้นสองเท่าและจะมีมูลค่า 200,000 เหรียญทองในโลกภายนอก

 

ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ช่างทำอาวุธที่สามารถดาบระดับลึกลับขั้นสูงขึ้นมาได้จะได้รับการพิจารณาให้เป็นปรามาจารย์ช่างทำอาวุธ ผู้ที่สามารถประทับลวดลายรูปแบบระดับลึกลับขั้นสูงสุดได้จะเป็นปรามาจารย์ช่างทำอาวุธหัวกะทิ พวกเขาเป็นสินทรัพย์ประเภทที่นิกายต้องการ

 

สำหรับผู้ที่ประทับระดับปฐพีได้ พวกเขาจะไม่ได้เป็นปรามาจารย์หัวกะทิ แต่เค้าจะเป็นสุดยอดปรามาจารย์แทน

 

น่าเสียดายที่มีสุดยอดปรามาจารย์เพียงหนึ่งหรือสองคนในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกเท่านั้น

 

และบางทีทันอาจไม่มีแม้แต่คนเดียว

 

อย่างน้อยที่สุด นิกายวารีครามก็มีปรามาจารย์ช่างทำอาวุธคนหนึ่งอยู่ในนิกาย

 

เศษซากอาวุธระดับปฐพีไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากสำหรับนักสู้ แต่มันเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับช่างทำอาวุธอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ช่างทำอาวุธที่สามารถถอดรูปแบบลวดลายทั้งหมดขอเศษซากอาวุธระดับปฐพีได้ เช่นนั้นคนผู้นั้นก็สามารถยกระดับการประทับลวดลายของตนเองไปอีกขั้นได้

 

ถืออาวุธชิ้นนี้ หลี่ฟูเฉินใช้สัมผัสธ์ในการตรวจสอบ

 

เขาไม่สามารทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะ

 

นี้คือเศษซากอาวุธสีเหลืองขั้นสูงสุด แกนหลักของลวดลายรูปแบบเป็นการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ร้านนี้ได้ทำการดัดแปลงและเพิ่มลวดลายรูปแบบที่สลับซับซ้อนลงไป เมื่อรวมสองลวดลายรูปแบบเข้าด้วยกัน มันทำให้เกิดมุมมองที่ซับซ้อน

 

สำหรับนักสู้ที่อ่อนประสบการณ์หน่อย ซับซ้อนหมายถึงลึกลับ หลังจากทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถถอดรหัสได้ใช่หรือไม่?

 

แต่จิตสำนึกของหลี่ฟู่เฉินถอดมันได้ หลังจากเข้ามายังขอบเขตปฐพี จิตสำนึกของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่านักสู้ขอบเขตสวรรค์ หลี่ฟูเฉินไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความสามารถของมัน ก็ในเมื่อเขาไม่มีข้อมูลอ้างอิงเพื่อตรวจสอบมัน

 

ใช้จิตสำนึกของเขาตรวจสอบ เขาเห็นความแตกต่างระหว่างลวดลายรูปแบบทั้งสองทันทีและเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

 

วางอาวุธชิ้นนี้ลง หลี่ฟู่เฉินหยิบขึ้นมาอีกชิ้น

 

ครั้งนี้ มันเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม มันเป็นแค่อาวุธระดับสีเหลืองขั้นสูงเท่านั้น แต่ลวดลายรูปแบบที่ประทับอยู่ก็มีมากกว่าก่อนเช่นกัน

 

โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก หลี่ฟู่เฉินมองผ่านเศษซากอาวุธหลายสิบอันและไม่พบเศษซากอาวุธลึกลับระดับแต่อย่างใด

 

“ควรดูอีกหน่อย”

 

หลี่ฟู่เฉินสุ่มหยิบเศษซากอาวุธที่เคลือบด้วยฝุ่นและตรวจสอบด้วยจิตสำนึกของเขา

 

“หืม? ดูเหมือนว่านี้จะเป็นอาวุธระดับลึกลับ”

 

ลวดลายรูปแบบไม่ได้ประทับอยู่บนตัวอาวุธ กลับกันมาอยู่ภายในอาวุธ โดยปกติแล้วนักสู้มักจะใช้พลังฉีเพื่อรับรู้ถึงลวดลายรูปแบบ แต่หลี่ฟู่เฉินใช้พลังฉีของเขาควบคู่ไปกับจิตสำนึก เขาสามารถสัมผัสลวดลายรูปแบบลึกลับภายในเศษซากอาวุธชิ้นนี้ได้ มันไม่ได้รู้สึกดูแปลกปลอมดังเช่นอาวุธก่อนหน้า

 

ลึกเข้าไปในจิตสำนึกของเขา หลี่ฟู่เฉินรื้อฟื้นประสบการณ์ในอดีตทั้งหมดของเขา นี่ไม่ใช่อาวุธลึกลับระดับลึกลับสามัญธรรมดา  แม้แต่ลวดลายรูปแบบของดาบทองดำก็ไม่ได้ซับซ้อนและลึกลับเช่นนี้

 

“นี้อาจเป็นเศษซากอาวุธระดับลึกลับขั้นสูง หรือแม้แต่กระทั่งสูงสุด?” หลี่ฟูเฉินก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset