Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 179

ตอนที่ 179

บทที่ 179

จิตวิญญาณสีฟ้าอ่อน

 

 

“สมุนไพรนี้เป็นองุ่นเจ็ดสีเคลือบเงาระดับปฐพีขั้นต่ำ หากนักสู้ที่มีโครงกระดูกระดับ 3 ดาวหรือต่ำกว่าจะสามารถใช้มันได้ พวกท่านจะสามารถยกระดับโครงกระดูกได้ 1 ดาว พ่อ ท่านโครงกระดูกระดับ 1 ดาว ดังนั้นหลังจากที่ท่านทานเข้าไปแล้ว ท่านจะกลายเป็นโครงกระดูกระดับ 2 ดาว แม่ ท่านเองก็เช่นกัน โครงกระดูกปกติ ท่านสามารถยกระดับโครงกระดูกของท่านให้เป็นโครงกระดูกระดับ 1 ดาวได้หลังจากที่ทานองุ่นลงไปแล้ว”

 

หลี่ฟูเฉินกล่าวขณะที่ชี้ไปยังองุ่นเจ็ดสีเคลือบเงา

 

มองไปที่องุ่นเจ็ดสีซึ่งกำลังเปล่งประกาย หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานมองหน้ากัน หลี่เทียนฮานกล่าวถาม “ฟู่เฉิน จะเป็นอย่างไรถ้าท่านกินองุ่นเจ็ดสีเข้าไปสองลูก?”

 

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะและตอบว่า “ผลที่สองจะไร้ซึ่งผลลัพธ์ใดๆ หนึ่งคนจะทานได้เพียงแต่ผลเดียว”

 

“เป็นเช่นนั้น”

 

แม้ว่ามันจะน่าเสียดาย แต่หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานก็อยู่ในสภาวะที่ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

 

โครงกระดูกเป็นรากฐานของคนๆ หนึ่ง ยาและทรัพยากรอื่นๆ เป็นเพียงผลลัพธ์ที่มาชั่วคราว แต่โครงกระดูกกับคงอยู่ด้วยชีวิตและสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

 

การยกระดับโครงกระดูกเป็นสิ่งที่แม้แต่กระทั่งนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกก็ไม่สามารถทำได้ มันมีความลึกลับของโลกซ่อนอยู่

 

“นี่คือองุ่นเจ็ดสีเคลือบเงาสามผล พ่อและแม่สามารถทานมันคนละหนึ่งอันได้ อีกอันหนึ่งข้าอยากจะให้หลี่เซี่ยวตี้” มันมีทั้งหมดเจ็ดอัน เขาใช้เพื่อตัวเขาเอง ในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นของหลี่เทียนชี หลี่จินซิ่ว และหลี่เซียนถู่ สามคนนี้เป็นคนที่มีศักยภาพมากที่สุดในตระกูลหลี่นอกเหนือจากตัวเขาเอง

 

สุดท้าย หลี่ฟู่เฉินชี้ไปที่เทคนิค “นี่เป็นเทคนิคระดับสีเหลืองขั้นสูงสุด ทั้งหมด 3 เทคนิค ข้าได้รับมันมาในระหว่างการปฏิบัติภารกิจนิกาย มันไม่ใช่เทคนิคของนิกาย”

 

“เทคนิคสีเหลืองขั้นสูงสุด?”

 

ปฏิกิริยาของหลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานไม่รุนแรงอีกต่อไป เพราะตอนนี้พวกเขาดูมึนงง

 

แต่เมื่อหลี่ฟู่เฉินบอกพวกเขาว่าเป็นเทคนิคสีเหลืองขั้นสูงสุด ดวงตาของพวกเขาก็ยังคงสว่างขึ้น

 

แม้ว่าจะเป็นโครงกระดูกระดับ 2 ดาวก็ตาม หากไม่มีเทคนิคบ่มเพาะที่ดี มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวไปสู่ขอบเขตปฐพีในชีวิตนี้ ความสำคัญของเทคนิคคือที่สองรองลงมาจากโครงกระดูก

 

คืนนี้ หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานรู้สึกตื่นเต้นมาก กว่าจะหลับได้ก็ดึกแล้ว

 

สามวันต่อมา ด้วยความช่วยเหลือจากสมุนไพรหวนคืนกำเนิด หลี่เทียนฮานก้าวเข้าสู่ระดับที่ 9 ของขอบเขตต้นกำเนิด

 

เฉินหยูหยานก้าวเข้าสู่ระดับที่ 5 ของขอบเขตต้นกำเนิด

 

พวกเขาทั้งสองสามารถเห็นจิตวิญญาณต่อสู้ที่รุนแรงในสายตาของกันและกันได้

 

หากใครคนนึงได้เป็นนักสู้แล้ว พวกเขามักจะมีความปรารถนาที่จะแสวงหาขอบเขตที่สูงกว่าอยู่เสมอ ตราบใดที่มีร่องรอยแห่งความหวังพวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้

 

ตอนนี้ ต่อหน้าพวกเขาไม่ใช่ร่องรอยแห่งความหวัง แต่มันคือสิ่งที่เป็นไปได้แน่นอน หากพวกเขายังไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ งั้นแล้วพวกเขาก็คงเป็นเพียงแค่กองโคลนกันแล้ว

 

***

 

ตระกูลหลี่มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ มันเป็นไปไม่ได้ที่หลี่เทียนฮานจะถอนตัวออกห่างจากกิจการที่วุ่นวายโดยสิ้นเชิง เขายังคงเป็นผู้นำตระกูลหลี่และในเวลาเดียวกันก็เป็นเจ้าเมืองชั่วคราวของเมืองหมอกเมฆา หากเจ้าเมืองที่แท้จริงอยู่ที่นี่ หลี่เทียนฮานก็สามารถผ่อนคลายได้เล็กน้อย

 

2 สัปดาห์ต่อมา เจ้าเมืองคนใหม่ของเมืองก็มาถึง

 

เจ้าเมืองผู้นี้ชื่อเหลียนจินชุ่ย ผู้ดูแลชั้นในของนิกานวารีคราม เนื่องจากตำแหน่งเจ้าเมืองว่างในเมืองหมอกเมฆา เขาจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากให้เป็นเจ้าเมือง ซึ่งเป็นสถานะเดียวกับผู้อาวุโสชั้นนอก

 

เมื่อเหลียนจินชุ่ยมาถึงเมืองหมอกเมฆา เขาไม่ได้มุ่งหน้าไปยังที่พักของเจ้าเมือง แต่ไปที่ตระกูลหลี่ก่อนอันดับแรก

 

มันชัดเจนอยู่ในใจของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าเมืองของเมืองหมอกเมฆา ตระกูลหลี่ก็ยังคงเป็นผู้ปกครองเมืองหมอกเมฆาที่แท้จริงอยู่ดี

 

สำหรับการที่หลี่ฟู่เฉินได้สนับสนุนตระกูลหลี่ แม้แต่กระทั่งผู้อาวุโสชั้นนอกก็ต้องเคารพการดำรงอยู่ของเขา

 

ตระกูลหลี่บริการหลี่จินชุ่นอย่างกระตืนรือร้น หลี่ฟู่เฉินพร้อมที่จะทักทายเขาเช่นกัน

 

ไม่ว่าอะไรก็ตาม เหลียนจินชุ่ยก็ยังคงเป็นเจ้าเมืองของเมืองหมอกเมฆาและเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างตระกูลหลี่และนิกายวารีคราม เมื่อเขาไม่อยู่ใกล้ๆ ตระกูลหลี่ก็จะไม่สามารถติดต่อคนระดับสูงจากนิกายวารีครามผ่านเหลียนจินชุ่ยได้

 

เมื่อเห็นว่าตระกูลหลี่กำลังรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วและเมืองหมอกเมฆาตอนนี้ก็มีเจ้าเมืองคนใหม่แล้ว หลี่ฟู่เฉินวางแผนที่จะกลับไปยังนิกาย

 

***

 

เมื่อกลับมาที่นิกายวารีคราม หลี่ฟู่เฉินก็เริ่มทำการบ่มเพาะทันที

 

ในช่วงสองเดือนที่เขาจากไป หลี่ฟู่เฉินไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นิดเดียว วิชาดาบเรืองรองอยู่ในขั้นดีเลิศเรียบร้อยแล้ว และอยู่ห่างจากขั้นภวังค์ไปเพียงก้าวเดียว เขาก็จะสามารถเข้าใจเจตนจำนงแห่งดาบเรืองรองได้

 

ในเวลาเดียวกัน หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขากำลังจะพัฒนาขึ้นอีกครั้ง

 

หนึ่งเดือนก่อน จิตวิญญาณของหลี่ฟู่เฉินนั้นเป็นสีฟ้าอ่อนแล้ว 99% มันยังขาดส่วนสุดท้ายที่จะพัฒนาอยู่

 

เพียงเพราะส่วนเล็กๆ นี้ มันจึงทำให้วิวัฒนาการทั้งหมดเป็นเรื่องยาก หากไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่เพียงเล็กน้อยจากจิตวิญญาณของเขาในสองสามวัน หลี่ฟูเฉินจะคิดว่ามันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่มันจะพัฒนา

 

ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะรอให้จิตวิญญาณวิวัฒนาการ หลี่ฟูเฉินทำในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ

 

เขาไปที่ห้องโถงทักษะเพื่อแลกวิชาดาบสีเหลืองขั้นกลางจำนวนมาก

 

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มการฝึกฝน

 

สองสัปดาห์ผ่านไป

 

ในลานกว้าง แสงเปล่งออกมา

 

เนื่องจากรากฐานดาบแห่งเต๋าของเขามั่นคงแล้ว ทำยังมีความเข้าใจต่อเจตจำนงดาวตก และเพราะเจตจำนงดาบดาวตกและเจตจำนงเรืองรองมีความคล้ายคลึงกันเล็กน้อย หลี่ฟูเฉินจึงใช้เวลาน้อยกว่าสามเดือนในการทำความเข้าใจเจตจำนงดาบเรืองรอง

 

ด้วยความช่วยเหลือของเจตจำนงดาบเรืองรอง วิชาดาบเรืองรองจึงกลายเป็นรวดเร็วขึ้นมาก เร็วกว่าวิชาดาบดาวตกมาก ขณะที่เขากวัดแกว่งดาบของเขา เขาไม่รู้สึกถึงแรงต้านทานใดๆ

 

“มันเร็วเกินไป” หลี่ฟู่เฉินอ้าปากค้าง

 

ในฐานะที่เขาเพิ่งเข้าใจเจตจำนงดาบเรืองรอง เขาจึงไม่สามารถควบคุมมันได้ เมื่อเจตจำนงแห่งดาบถูกปลดปล่อยออกมา เขาจำเป็นต้องเคลื่อนไหวดาบออกไปก่อน หากไม่เช่นนั้น มันจะลำบากที่ใช้ออก

 

ความรู้สึกนี้ไม่เหมือนมนุษย์ที่ควบคุมพลังจากดาบ แต่ดาบนั้นควบคุมพลังของมนุษย์

 

‘ข้ายังไม่สามารถควบคุมได้เหมือนตามที่ข้าต้องการ ดูเหมือนว่าข้ายังจำเป็นต้องฝึกฝนมากกว่านี้’ หลี่ฟู่เฉินคิด

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อหลี่ฟู่เฉินเตรียมพร้อมที่จะฝึกฝนทักษะดาบของเขา ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นชะงักงัน ทันใดนั้นดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเขาก็ปลดปล่อยแสงสีฟ้าอ่อนๆ ออกมา

 

ภายในจิตใต้สำนึกของเขา จิตวิญญาณของเขามีการพัฒนาเป็นสีฟ้าอ่อนอย่างสมบูรณ์

 

ขณะจิตวิญญาณสีน้ำฟ้าอ่อนกำลังก่อตัวขึ้น จิตใจของหลี่ฟู่เฉินถูกส่งเข้าสู่จิตใต้สำนึกของเขาทันที

 

จิตวิญญาณสีฟ้าอ่อนเป็นเหมือนลูกบอลคริสตัลสีฟ้าอ่อน วิเศษและงดงาม ไม่มีสิ่งสกปรกหรือตำหนิใดๆ

 

ตอนนี้จิตสำนึกที่ว่างเปล่าและไร้รูปร่างมีเส้นปรากฏสุ่มขึ้นมากมาย เส้นเหล่านี้ก่อตัวเป็นชุดๆ อยู่อย่างยุ่งเหยิง ไม่ทราบว่าเชื่อมต่อเส้นใดเป็นเส้นใด มีเพียงไม่กี่เส้นทางเท่านั้นที่เชื่อมต่อและสร้างเส้นทางที่สมบูรณ์ขึ้น

 

แคร๊ก! ปั๊ง!

 

กระแสสีฟ้าอ่อนระเบิดขึ้น และเส้นทั้งหมดนั้นถูกกระแสไหลผ่าน

 

กระแสนั้นดุร้ายและรุนแรง สร้างจุดเชื่อมต่อเพิ่มเติม เส้นทางถูกสร้างมากขึ้น

 

หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่งกระแสก็กระจายตัวออกไป เส้นเริ่มจางหายไป ราวกับว่าพวกมันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

 

“ดังนั้นแล้วนี่คือจิตวิญญาณสีฟ้าอ่อน?” ขณะนั้นเองที่หลี่ฟู่เฉินมีสติขึ้นมา

 

มองไปยังลูกบอลจิตวิญญาณสีฟ้าอ่อนที่สมบูรณ์แบบ หลี่ฟู่เฉินไม่มีคำใดที่จะบรรยายความงดงามของมัน

 

ฮูว!

 

หายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟู่เฉินได้สติคืนมาอย่างสมบรูณ์

 

“ข้าสงสัยว่าการรับรู้ของข้าตอนนี้เป็นเช่นไร?”

 

วาดดาบของเขา หลี่ฟู่เฉินดำเนินการใช้วิชาดาบเรืองรอง

 

เขาตกตะลึง

 

เจตจำนงดาบเรืองรองที่เขาไม่สามารถใช้ออกได้ตามต้องการ ตอนนี้อ่อนโยนราวกับสายน้ำ ระดับความเข้ากันได้มาถึงระดับเดียวกับเจตจำนงดาบดาวตกของเขาทันที

 

ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างแรงกล้า ขณะที่หลี่ฟู่เฉินเริ่มทำความเข้าใจทักษะดาบระดับกลางที่เหลือ

 

ใน 1 ชั่วโมง ทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางอยู่ในขั้นภวังค์

 

ใน 2 ชั่วโมง ทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางสามเล่มอยู่ในขั้นภวังค์

 

ใน 4 ชั่วโมง ทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางเจ็ดเล่มอยู่ในขั้นภวังค์

 

การไหลของความคิดของหลี่ฟู่เฉินไม่เคยติดขัด ทันทีที่ความคิดพุ่งเข้ามา แรงบันดาลใจมากมายก็จะพรั่งพรูออกมา แม้แต่กระทั่งในสิ่งของในชีวิตประจำวันที่หลี่ฟู่เฉินเห็น ได้ยิน หรือสัมผัสก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า หลี่ฟู่เฉินยังสามารถค้นพบเต๋าแห่งดาบที่ลอยอยู่ในหมู่เมฆได้

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset