Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 152

ตอนที่ 152

บทที่ 152

ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 8

 

 

ทั้งสองฝ่ายต่างสำรวจกันและกัน แต่ก็ยังไม่มีใครริเริ่มโจมตี

 

แม้ว่านิกายโหมกระบี่จะมีเพียงสองคนแต่เพียง แต่ศิษย์ทั้งสองคนนี้ก็เป็นศิษย์จากนิกายโหมกระบี่ที่อาวุโสใหญ่บอกให้พวกเขาระวัง

 

เหตุผลที่หลิงหวงและเฉินเฟ่ยไห่ไม่ได้เคลื่อนไหวบุ่มบ่าม เป็นเพราะนิกายวารีครามมีสมาชิกอยู่ถึงสี่คนและสองคนในนั้นเป็นระดับต้นๆ ของขอบเขตต้นกำเนิดอยู่ถึงสองคน แม้ว่าหนึ่งในแยกย่อยนั้นจะเป็นเพียงนักสู้ระดับที่ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิด เขาก็เป็นถึงศิษย์ลำดับสูงสุดในนิกายวารีครามและยังเป็นผู้รับที่ทำให้หลิงหวงได้รับบาดเจ็บ

 

ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตจำนงสังหาร เฉินเฟ่ยไห่พร้อมที่จะเคลื่อนไหว

 

“คี่คี่ ดูเหมือนว่าจะมีความสนุกมากมายเกิดขึ้นที่นี่!”

 

บนต้นไม้ไม่ไกล เป็นหญิงที่มีเสน่ห์มากล้นปรากฏออกมาอย่างไร้ร่องรอยใดๆ

 

อาภรณ์ของเธอเริงระบำไปตามสายลม ร่างของเธอเหมือนฉากในภาพลวงตา ซึ่งดูคล้ายกับจะเป็นจริง แต่ก็ดูเลือนลางในเวลาเดียวกัน

 

วิญญาณสาว เย่ฮัว

 

เมื่อรวมกับกระบี่โลหิตหลิงหวง ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง

 

ทักษะภาพลวงตาเป็นขอบเขตที่พวกเขาไม่รู้จัก หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความลังเลต่อสิ่งที่ไม่รู้จัก เมื่อท่านรู้สึกได้ว่าเป็นภาพลวงตา มันก็สายเกินไปแล้ว

 

“อย่ามองเธอ” หลี่ฟู่เฉินเตือนเฉินฟางหัวและคนอื่นๆ

 

หลี่ฟู่เฉินผู้ซึ่งมีจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าในร่างของวิญญาณสาวเย่ฮัว มันมีคลื่นพลังบางอย่างแปลกๆ ถูกปล่อยออกมา คลื่นพวกนั้นแหกคอกเกินไป และจะทำให้คนตกอยู่ในภาพลวงตา หากมีคนมองเธอเป็นระยะเวลาหนึ่ง

 

ขณะนั้นเองร่างของเธอก็แตกออกคล้ายกับสายหมอก เมื่อเธอปรากฏตัวอีกครั้ง วิญญาณสาวเย่ฮัวก็อยู่ใกล้พวกเขาแล้ว เธอยื่นมือขึ้นมาเพื่อสะบัดผมยาวๆ ของเธอ เสน่ห์เช่นนี้มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะ ‘คี่คี่’ ของเธอข้างๆ หูพวกเขา

 

“หลิงหวง เฉินเฟ่ยไห่ เหตุใดพวกเราทั้งสามถึงไม่ร่วมมือกันเพื่อกำจัดนิกานวารีคราม?” เย่ฮัวเสนอ

 

เฉินเฟ่ยไห่ขมวดคิ้ว “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรือไร?”

 

การร่วมมือกับคนที่เชี่ยวชาญทักษะภาพลวงตานั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนั้นคล้ายกับทำงานร่วมกับพยัคฆ์ เมื่อพวกมันตัดสินใจที่จะทรยศ ก็ไม่มีวิธีพลิกหวนคืนแล้ว

 

ในระยะสั้น เขาไม่เชื่อใจเย่ฮัว

 

“นับว่าเจ้าโชคดี ไปกันเถอะ” หลิงหวงเองก็ไม่เชื่อใจเย่ฮัวเช่นกัน เขาได้รับบาดเจ็บทั้งกายและวิญญาณ มันจึงไม่ปลอดภัยหากจะต้องต่อสู้กับเย่ฮัว หากไม่เป็นเช่นนี้ เขาจะพิจารณาข้อเสนอของเธอ

 

จบคำพูดของเขา หลิงหวงและเฉินเฟ่ยไห่หันไปจาก

 

เย่ฮัวแบมือของเธอด้วยใบหน้าที่ไม่สามารถทำอย่างไรได้ “ตั้งแต่ที่พวกเขาไม่ต้องการเล่นด้วย งั้นทำไมพวกเราจะต้องเล่นด้วย!”

 

แม้ว่าเธอจะอยู่คนเดียว แต่เธอก็ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าบ้าน โดยไม่เกรงกลัวศิษย์ทั้งสี่จากนิกายวารีครามที่มีหลี่ฟู่เฉินแม้แต่น้อย

 

“ไปซะ!”

 

ดวงตาของลี่ฟู่เฉินเปล่งประกายสีเขียวอมน้ำเงิน สภาวะพลังฉีที่แข็งแกร่งรุกรานไปยังวิญญาณสาวเย่ฮัว

 

หน้าของเธอขาวซีด วิญญาณสาวเย่ฮัวหันกลับไปมองหลี่ฟู่เฉินด้วยท่าทางแปลก ๆ

 

“น่าสนใจ…” การแสดงออกของเธอจริงจังขึ้นมาก

 

เห็นได้ชัดว่าจิตวิญญาณของหลี่ฟู่เฉินแข็งแกร่งมาก และสภาวะพลังฉีที่ปรากฏออกมาก็เต็มไปด้วยความรุนแรงที่มากพอจะทำลายเจตจำนงของเธอ

 

เมื่อวิญญาณของเธอจะหยุดชะงัก พลังทักษะลวงตาของเธอจึงลดลงอย่างมาก

 

“เราจะได้พบกันอีกในเร็วๆ นี้”

 

สายลมพัดผ่านกลุ่มพวกเขา และวิญญาณสาวเย่ฮัวก็หายไปพร้อมกับสายลม

 

นี่ไม่ใช่เทคนิคตัวเบาที่เหนือกว่า แต่เป็นภาพลวงตาที่มีต่อสายตา

 

แต่ในสายตาของหลี่ฟู่เฉิน วิญญาณสาวเย่ฮัวเพียงแค่ใช้วิธีการเบี่ยงเบนความสนใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ร่างกายที่แท้จริงของเธอจากหายไปนานแล้ว

 

“ทักษะลวงตาน่าเกรงขามอะไรเช่นนี้!” เซี่ยวหลี่ไบ๋กล่าวด้วยน้ำเสียงล้ำลึก

 

ในบรรดาสี่นิกาย นิกายปีศาจสวรรค์นั้นแข็งแกร่งสุด นิกายเร้นวิญญาณเจ้าเล่ห์มากที่สุด และนิกายโหมกระบี่ก็ดุร้ายที่สุด

 

แต่เมื่อเอามาเปรียบเทียบกัน นิกายวารีครามนั้นเอาแต่กังวลอยู่กับนิกายปีศาจสวรรค์และนิกายโหมกระบี่

 

“เธอจากไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวล!”

 

ทำให้เมื่อของเขาเป็นสูญญากาศ หลี่ฟู่เฉินดึงสมุนไพรหวนคืนกำเนิดมาไว้ในมือของเขา

 

“หลี่ชิตี๋ เราสามคนจะให้ความคุ้มครองเอง เจ้าปรับแต่งและดูดซับสมุนไพรหวนคืนกำเนิดให้เร็วไว หลังจากนั้น เจ้าก็สามารถก้าวเข้าสู่ระดับที่ 8 ของขอบเขตต้นกำเนิดได้” เซี่ยวหลี่ไบ๋เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าวิญญาณสาวเย่ฮัวออกไปเพราะเธอกลัวหลี่ฟู่เฉิน หากไม่ได้หลี่ฟู่เฉินช่วยไว้ พวกเขาทั้งสามคนก็จะไม่สามารถหลุดออกจากทักษะลวงตาของวิญญาณสาวเย่ฮัวได้ ความสำคัญสูงสุดของพวกเขาคือการให้หลี่ฟู่เฉินก้าวหน้าในระดับการฝึกฝนของเขา

 

“อือ”

 

หลี่ฟู่เฉินพยักหน้าและนั่งลงทันที เขาเริ่มโคจรเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับหลายครั้งก่อนที่จะบริโภคสมุนไพรหวนคืนกำเนิดเข้าไป

 

สมุนไพรหวนคืนกำเนิดละลายทันทีเมื่อบริโภคเข้าไป ขณะที่พลังงานบริสุทธิ์ก็เข้าไปบรรเทาแขนขาและกระดูกของเขาทั้งหมด

 

‘ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใช้สามารถเลื่อนหนึ่งระดับโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ’ หลี่ฟู่เฉินเข้าใจทันที

 

พลังงานอันยอดเยี่ยมและบริสุทธิ์จากสมุนไพรหวนคืนกำเนิดไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังฉีเพลิงแดงของเขา แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ก่อเกิดพลังลึกลับที่สามารถหล่อเลี้ยงวิญญาณได้ มันจะไม่มีผลกระทบในด้านความก้าวหน้า หรือก่อให้เกิดช่องว่างในการฝึกฝน

 

ระดับที่ 7 ระยะหลัง ระดับที่ 7 ระดับสูงสุด

 

ระดับที่ 8 ขอบเขตต้นกำเนิด!

 

บูม!

 

พลังงานไร้ขอบเขตวิ่งเข้ามาจากทั่วทุกมุมและมารวมตัวกันที่ที่หลี่ฟู่เฉินอยู่

 

“ช่างเป็นคลื่นพลังวิญญาณที่น่าทึ่ง”

 

เฉินฟางหัวตกใจ เมื่อเธอก้าวไปสู่ขอบเขตปฐพีระดับที่ 1 ก็มีเหตุการณ์ที่คล้ายกัน แต่มันก็ยอดเยี่ยมกว่าหลี่ฟู่เฉินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

เธอไม่ได้คาดหวังว่าเมื่อหลี่ฟู่เฉินทะลุผ่านจากขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 7 ไประดับที่ 8 จะทำให้เกิดคลื่นวิญญาณขนาดใหญ่เช่นนี้

 

รอจนกว่าเขาจะผ่านไปสู่ระดับที่ 1 ของขอบเขตปฐพี มันจะเป็นฉากแบบไหนกัน

 

“พลังการรับรู้ของหลี่ชิตี๋แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์ เจ้ามาถึงระดับ 15 สูงสุดของเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับได้อย่างรวดเร็ว”

 

ก่อนหน้านี้เซี่ยหลี่ไบ๋รู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับความสามารถอันแข็งแกร่งของหลี่ฟู่เฉิน

 

ในที่สุดเขาก็รู้ความลับว่าทำไมหลี่ฟูเฉินถึงแข็งแกร่ง

 

เจตจำนงเพลิงแดงของหลี่ฟู่เฉินเป็นเจตจำนงระดับลึกลับขั้นกลาง ไม่ทราบว่ามันจะยอดเยี่ยมขนาดไหนเมื่อรวมกับกับเจตจำนงระดับลึกลับขั้นต่ำอันอื่น หรือกับเจตจำนงดาบดาวตกขั้นภวังค์ของหลี่ฟู่เฉิน มันไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยว่านี่คล้ายกับการตกปีกให้กับพยัคฆ์

 

แตกต่างจากเฉินฟางหัวและเซี่ยวหลี่ไบ๋ หยูเหวินเทียนมีความรู้สึกซับซ้อนมากกว่านั้น

 

หากเขายังคงปฏิบัติต่อหลี่ฟู่เฉินเป็นเหมือนมนุษย์ธรรมดาเขาก็คงเป็นคนงี่เง่าคนนึง

 

หลี่ฟู่เฉินอาจมีโครงกระดูกระดับธรรมดา แต่เขาได้ผ่านพ้นตัวอย่างของบุคคลปกติไปแล้ว บางทีพรสวรรค์ของเขาคือสิ่งที่การทดสอบโครงกระดูกปกติไม่สามารถตรวจจับได้

 

หลังจากทั้งหมดแล้ว โลกใบนี้ก็กว้างใหญ่และเป็นเรื่องปกติที่จะมีความผิดปกติซึ่งไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้น เมื่อคนหนึ่งไปถึงจุดสิ้นสุดของถนนแห่งการต่อสู้ มันก็สามารถอธิบายได้ว่านั้นคือตำนาน

 

“ช่างเป็นความรู้สึกที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง”

 

ด้วยระดับการฝึกฝนของเขาตอนนี้ซึ่งอยู่ในระดับที่ 8 ของขอบเขตต้นกำเนิด แต่เมื่อเทียบหลี่ฟู่เฉินพลังฉีภายในของเขาแข็งแกร่งและบริสุทธิ์กว่ามาก พลังมันเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30%

 

หากรากฐานของใครเพิ่มขึ้น 30% มันจะหมายถึงความสามารถโดยรวมของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น 30% เช่นกัน

 

มันเป็นเหมือนบางสิ่งที่ซ้อนกัน และยังมีความสามารถที่ถูกส่งเสริมจากเทคนิคลับระดับ 2 ดาวอีก ความสามารถจะเหนือกว่ามาก

 

ฮูววว!

 

ส่งฝ่ามืออกไป พลังฝ่ามือที่มั่นคงและรุนแรงคล้ายกับอสรพิษที่กำลังพิโรธ  เลื่อนตัวไปข้างหน้าและฉีกกระชากพื้นผิวดิน

 

‘ตอนนี้หากข้าได้พบกับกระบี่โลหิตหลิงหวงอีกครั้ง ข้าจะสามารถต่อกรกับเขาได้โดยตรง’ หลี่ฟูเฉินคิดกับตัวเอง

 

“หลี่ชิตี๋ ยินดีด้วย”

 

เซี่ยวหลี่ไบ๋เดินไปแสดงความยินดีกับหลี่ฟู่เฉิน

 

หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “ขอบคุณท่านที่ให้การคุ้มครองแก่ข้า”

 

หากไม่มีพวกเขาสามคนปกป้อง เขาจะไม่กล้าตัดผ่านระดับการฝึกฝนของเขา

 

“หลี่ชิตี๋ ตั้งแต่ที่เจ้าก้าวหน้าแล้ว งั้นเราไปค้นหาสมุนไพรต่อ! บางทีเราอาจพบผลตัดปฐพีอีกลูกหนึ่ง” เฉินฟางหัวกล่าวว่า

 

ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินที่แข็งแกร่งขึ้น นั้นก็หมายความว่าศิษย์นิกายวารีครามอย่างพวกเธอเองก็ปลอดภัยขึ้น ใครๆ ก็จินตนาการช่วงสองวันที่จะถึงต่อจากนี้ภายในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับได้ มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ความขัดแย้งระหว่างนิกายจะยิ่งโหดร้าย นิกายวารีครามของพวกเธอต้องการผู้นำ

 

และผู้นำคนนั้นก็จะต้องเป็นหลี่ฟู่เฉิน ไม่ใช่ใครอื่นอีก

 

“สิ่งที่เฉินชิเหม๋ยกล่าวเป็นเรื่องที่ควรแล้ว ความสำคัญสูงสุดของเราก็คือการค้นหาสมุนไพรหวนคืนกำเนิดและผลตัดปฐพีให้มากขึ้น” เซี่ยวหลี่ไบ๋พยักหน้า

 

สำหรับหยูเหวินเทียน เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะให้คำแนะนำใดๆ ในเขตแดนร้องพฤกษาเร้นลับ เว้นแต่ว่าเขาจะไปถึงระดับที่ 1 ของขอบเขตปฐพี

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่หลี่ฟู่เฉินสูญเสีย “พรสวรรค์” ไป ชีวิตเขาดุจดั่งคนไร้ค่า ถูกข่มเหงและถูกโจมตีโดยผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเขา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้สูญเสียทุกสิ่งอย่างไป ก็ในเมื่อเขาได้หมั้นหมายกับหญิงงามที่แข็งแกร่งจากตระกูลทรงพลังยุทธ แต่ทว่า…ท้ายสุดแล้ว การแต่งงานก็ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน มันได้นำพาความอับยศมาสู่ตระกูล และชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืดหมองหม่น และช่วงเวลานั้นเองที่แสงแห่งความหวังทะลวงสาดส่องมาจากฟากฟ้า..


Options

not work with dark mode
Reset