Eternal Martial Sovereign 59 – ตัวต่อตัว

ตอนที่ 59 – ตัวต่อตัว

Chapter 59 – ตัวต่อตัว

 

“ถูกต้อง” สายตาของผู้นำคนก่อนตระกูลฝางกวาดไปรอบขณะที่กล่าวด้วยเสียงต่ำ “นายน้อยฉินได้นำเม็ดยาระบายลึกลับจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์มา ซึ่งช่วยให้ชายชราคนนี้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ ฮ่าฮ่า เม็ดยาเม็ดนี้จะมอบให้โดยคนที่จะเป็นปรมาจารย์ของฮ่าวเอ๋อในเร็วๆนี้เพื่อให้เขาสามารถจากไปได้โดยไร้ความกังวลใดๆและบ่มเพาะขยันขันแข็ง มันเป็นพรสำหรับฮ่าวเอ๋ออย่างแท้จริงที่มีปรมาจารย์เช่นนี้!”

 

ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางพูดด้วยรอยยิ้มกว้างใหญ่แต่ความหมายเบื้องหลัวคำพูดของเขานั้นช่างชัดเจน เขาได้แสดงให้เห็นความจริงที่ถึงแม้ว่าฝางเฮ่าจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่สามารถถูกดูถูกได้

 

การแสดงออกที่จริงจังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ฝึกตนจากตระกูลต่างๆ ผู้ซึ่งยิ้มให้กับผู้นำคนก่อนของตระกูลฝาง

 

“ขอแสดงความยินดีกับพี่ฝาง”

 

“ตอนนี้พี่ฝางได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว เขาได้กลายเป็นคนที่น่าเกรงขามมากกว่าเดิมและสามารถเป็นผู้มีอำนาจเหนือผู้อื่นได้แล้ว!”

 

“ข้าจะติดตามพี่ฝางอย่างตรงไปตรงมานับแต่นี้เป็นต้นไป”

 

“เขตเมฆาม่วงของพวกเขาได้มีเซียนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้อีกคราแล้ว!”

 

ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆทั้งหมดลุกขึ้นเพื่อแสดงความยินดีกับผู้นำคนก่อน แม้แต่ทั่วทั้งภายในราชอาณาจักรจันทราวายุ เซียนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ก็เป็นเซียนที่หาได้ยากยิ่ง ใครจะกล้าไปดูหมิ่นพวกเขากัน?

 

“ท่าน วันนี้ข้าต้องการแสวงหาความยุติธรรมให้กับหลานชายข้า ดังนั้นได้โปรดเห็นแก่หน้าของชายชราคนนี้และอย่าเข้ามาแทรกแซง” ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางมองไปรอบๆขณะที่เขาพูดอย่างสงบ อย่างไรก็ตาม ท่าทีอันหนาวเย็นที่เขาปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ผู้คนที่รู้สึกต้องสั่นสะท้านเบาๆ มันเห็นได้ชัดว่าถ้าใครกล้าขัดขืนคำขอของเขาจะต้องถูกโจมตีด้วยการตอบโต้ราวกับอสนีบาต

 

เซียนสูงสุดของตระกูลต่างๆปัจจุบันได้อยู่แค่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงเท่านั้น และบางคนของพวกเขาก็แค่ขั้นต้นของขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงเท่านั้น พวกเขาจะไปกล้าต่อต้านผู้นำคนก่อนคนนี้ได้อย่างไร?

 

แม้แต่ดยุคหยานก็ต้องขมวดคิ้วแน่น

 

“ดยุคหยาน ข้าเชื่อว่าท่านจะไม่มีข้อคัดค้านใดๆใช่ไหม?” สายตาของผู้นำตระกูลฝางเปลี่ยนไปที่ดยุคหยาน

 

“นี่…” ดยุคหยานขมวดคิ้วแน่น แต่ไม่ได้ตอบ ในท้ายที่สุดเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาหันหลังให้กับเวที เผยให้เห็นการแสดงออกที่ขุ่นมัว แม้ว่าเขาจะทำแบบนั้น เขาก็ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ และจะได้รับก็แต่ความโมโหจากผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางก็เท่านั้น

 

ด้วยนิกายต้นกำเนิดสวรรค์สนับสนุนตระกูลของเขาอยู่ ตาแก่วิตถารคนนี้ก็กล้าที่จะทำอะไรก็ได้!

 

“ท่านพ่อ! หยานซือเฟยพูดด้วยการแสดงออกที่เสียขวัญ

 

“ตั้งแต่ที่สถานการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่พ่อจะทำได้” ดยุคหยานกล่าวขณะที่เขาถอนหายใจ

 

ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางกล่าวด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยม “ฮ่าฮ่า เนื่องจากเป็นเช่นนี้แล้ว ซุนเอ๋อเจ้าลงมือได้เลย”

 

“ขอรับ!” ฝางหยุนยิ้มเย้ยขณะที่เขาวิ่งขึ้นไปบนเวที

 

แก่นแท้แห่งปราณของผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงมีความหนาแน่นอนอย่างไม่น่าเชื่อ และหลังจากที่เปลี่ยนเป็นแก่นแท้ที่แท้จริงแล้ว มันก็จะทำให้ผู้คนเหาะเหินได้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ

 

เวลาเพียงแค่หายใจสั้นๆ ฝางซุนก็ได้เดินทางไปกว่า 100 เมตรแล้ว

 

“อย่าขยับ!” การแสดงออกของเซี่ยวไห่มืดลงขณะที่เขาเตรียมตัวโจมตี

 

เซี่ยวหงก็ยังปลดปล่อยพลังของขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงออกมาเช่นกัน

 

“ไสหัวไป!” ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางก็หน้าคว่ำขณะที่เขาพูด “ฮึ่ม เจ้าทั้งหมดจะตายในวันนี้!” ขณะที่เขาพูด มือของผู้นำคนก่อนก็เคลื่อนไหนขณะที่ตราประทับควบแน่นแล้วยิงออกไปยังเซี่ยวไห่และเซี่ยวหง

 

สิ่งนี้คือตราประทับภูเขาหนัก ด้วยผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้เป็นผู้ใช้มัน อำนาจของมันนั้นไร้ซึ่งผู้ต้าน ทำให้อากาศเหนือเวทีต้องสั่นสะเทือน ผู้ฝึกตนจากตระกูลต่างๆต้องถอยกลับไป ไม่กล้าที่จะอยู่ใต้ตราประทับ อากาศที่ตราบประทับปลดปล่อยออกมาทำให้มันดูราวกับว่าสามารถสะกดข่มทุกสิ่งได้

 

“ไอ้แก่วิตถารคนนี้ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้วจริงด้วย!” ไม่ไกลจากบนเวที การแสดงออกของเซี่ยวหยุนลดลงขณะที่ความร้ายแรงได้ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขา สิ่งนี้ไปไกลกว่าการคาดการณ์ของเขา และสถานการณ์ในตอนนี้ก็เสียเปรียบอย่างมากสำหรับตระกูลเซี่ยว

 

ตราประทับวิเศษขนาดยักษ์ได้ปลดปล่อยอากาศที่ทำให้เซี่ยวหยุนรู้สึกกลัวออกมา – ผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้นั้นทรงพลังจนเกินไป

 

“ฮ่าฮ่า เซี่ยวหยุน แล้วจะมีอะไรถ้าเจ้าฟื้นคืนพรสวรรค์และเอาชนะข้าได้? ไม่ใช่แค่เจ้าเท่านั้น แต่ตระกูลเซี่ยวทั้งหมดต้องย่อยยับในวันนี้” บนเวที ฝางเฮ่าคลานขึ้นแล้วโน้มไปข้างหลัง แล้วหัวเราะอย่างโหดเหี้ยมเมื่อเขาเห็นปู่ของเขากำลังโจมตี

 

ได้ยินคำพูดของฝางเฮ่า ดวงตาของเซี่ยวหยุนได้กลายเป็นสีแดงเลือด

 

ในระยะไกลตราประทับภูเขาหนักได้ตกลงมา มันส่งเซี่ยวไห่และเซี่ยวหงต้องไปนอนแผ่ก่อนที่จะแตะต้องพวกเขาด้วยซ้ำ เพียงแค่กลิ่นอายของมันอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ปราณและเลือดภายในร่างกายของเขาต้องตีกลับ พวกเขารู้สึกราวกับว่าภูเขาจริงๆกำลังตกลงมาที่พวกเขา และการโจมตีเช่นนี้ก็ไม่ใช่บางสิ่งที่ผู้ฝึกตนแค่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงจะปกป้องตนเองจากมันได้

 

มันไม่ได้ยากที่จะจินตนาการเลยว่าถ้าตราประทับภูเขาหนักกระทบลงบนร่างกายของพวกเขา ร่างกายของพวกเขาต้องถูกบดขยี้และสังหารพวกเขาไปในทันทีแน่

 

“ตระกูลเซี่ยวจบสิ้นแล้ว!” ผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้เมื่อต้องเห็นสองพี่น้องต้องก้าวถอยหลังขณะที่พวกเขาถอยกลับ

 

100,000 หรือมากกว่านั้นของผู้ชมก็รับชมได้ด้วยความเงียบเท่านั้น

 

การเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์นี้มันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป

 

“ถ้าเข้ากล้าทำลายตระกูลของข้า ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นตัวแรก” เซี่ยวหยุนรู้สึกราวกับว่าดวงตาของเขากำลังจะระเบิด และสิ่งที่เห็นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เขาดูเหมือนกับเทพแห่งความตายเมื่อเขาจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ฝางเฮ่า เนื่องจากตระกูลฝางบังคับให้พวกเขาต้องตกอยู่ในสถานะเช่นนี้ เขาก็จะไม่ถอยกลับ

 

เซี่ยวหยุนก้าวออกไปทางฝางเฮ่าขณะที่อากาศอันเหี้ยมโหดได้เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา

 

ฝางเฮ่าตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ เด็กหนุ่มตรงหน้าเขาดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาในตอนนี้ดูเหมือนกับพยัคฆ์ที่กำลังโกรธาซึ่งได้มีสายตากระหายเลือดและบรรยากาศอันป่าเถื่อน กลิ่นอายจากร่างกายของเซี่ยวหยุนทำให้เขารู้สึกเต็มไปด้วยความกลัวเป็นพิเศษ

 

“เจ้า…” ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฝางเฮ่าขณะที่เขารีบถอยหลัง

 

สายตาของเซี่ยวเริ่มรุนแรงขึ้นขณะที่พลังวิญญาณอันทรงพลังของเขาถูกยิงออกไป ทำให้จิตใจของฝางเฮ่าสั่นสะท้านและทำให้เขาถูกตรึงไว้กับที่

 

พลังวิญญาณในปัจจุบันของเซี่ยวหยุนไม่ใช่บางสิ่งที่ฝางเฮ่า ผู้ที่อยู่ขั้นกลางของขอบเขตต้นกำเนิดจะสามารถป้องกันได้

 

ฝางเฮ่ามีความว่างเปล่าบนใบหน้าของเขาและก็ยืนโดยไร้การเคลื่อนไหว ในตอนนี้ เซี่ยวหยุนได้ก้าวออกไปและยิงฝ่ามือไปยังเขา

 

“เก็บมือของเจ้าไป!” ไม่ไกลเกินไป ฝางซุนเห็นเซี่ยวหยุนกำลังจะโจมตีฝางเฮ่าก็รีบตะโกนออกมา

 

“หยุดมือของเจ้า มิเช่นนั้นนายน้อยผู้นี้จะเข่นฆ่าไอ้ลูกชายสารเลวของเจ้าเอง” ดวงตาของเซี่ยวหยุนส่องประกายเย็นชาขณะที่เขาคว้าคอเสื้อของฝางเฮ่าด้วยมือของเขา ภายใต้ผลกระทบจากพลังวิญญาณอันกล้าแกร่งของเขา ฝางเฮ่าได้เป็นโง่งมและไม่ได้มีโอกาสใดๆที่จะใช้ต่อต้านเลย

 

ฝางซุนขมวดคิ้วและรีบหยุดการเคลื่อนไหว

 

“เซี่ยวหยุนกล้ากระทำต่อฝางเฮ่า?”

 

“ช่างกล้าหาญ!” จีนมุงจำนวนมากเฝ้าดูด้วยความตกใจ

 

“ไอ้เด็กเหลือขอ เจ้าไม่กล้าหรอก!” เจตนาสังหารแผ่รังสีออกมาจากผู้นำคนก่อนของตระกูลฝาง แต่เขาไม่ได้กระทำต่อเพราะว่ากลัวว่าหลานชายของเขาจะถูกสังหารไป เช่นนี้เขาจึงได้หยุดตราประทับภูเขาหนักของเขาที่กำลังกดทับลงบนสองพี่น้องตระกูลเซี่ยวอย่าฉับพลัน ผลสะท้อนกลับทำให้ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย

 

เฉพาะหลังจากที่สองพี่น้องตระกูลเซี่ยวสามารถทำให้ร่างกายของพวกเขามั่นคงแล้วเท่านั้น จึงค่อยถอยกลับไปด้วยสภาพเปียกโชกด้วยเหงื่อเย็น

 

ถ้าเซี่ยวหยุนไม่ได้ควบคุมฝางเฮ่าไว้ พวกเขาอาจจะเสียชีวิตในอีกสักครู่ก็ได้

 

“ปล่อยเฮ่าเอ๋อ หรือจะให้คนตระกูลเซี่ยวของเจ้าไปพร้อมกับเขา” ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางกล่าวด้วยเสียงต่ำขณะที่ดวงตาของเขาประกายด้วยความเย็นราวกับน้ำแข็ง เสียงของเขาระเบิดออกมาเหมอืนกันฟ้าร้องและปลดปล่อยกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ออกมา แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่กล้าที่จะโจมตี – เนื่องจากถ้าหากฝางเฮ่าตาย ตระกูลฝางของพวกเขาก็จะอ่อนแอลงอย่างมา

 

“หยุนเอ๋อ ฆ่าไอ้ลูกหมาสารเลวนั่นซะ บัดซบเอ้ย เจ้ากล้ารังแกตระกูลเซี่ยวของข้าขณะที่ตาแก่คนนี้ไม่อยู่รึ? ไอ้ผีแก่ฝางคุน เจ้าเริ่มเบื่อหน่ายจะใช้ชีวิตแล้วรึ?” ในขณะนี้ เสียงแข็งแกร่งได้สั่นสะเทือนอากาศข้างบนของเขา มีร่างกระพริบอยู่ในระยะไกลขณะที่ชายชราคนหนึ่งเดินบนอากาศและมาลงที่เวที

 

ชายชราได้มาลงอยู่ตรงหน้าของเซี่ยวไห่และคนอื่น ดวงตาของเขากำลังเผาไหม้ขณะที่เขามองไปรอบๆ ปลดปล่อยบรรยากาศแห่งราชาออกมา

 

“ท่านพ่อ!” พี่น้องตระกูลเซี่ยวกลายเป็นคุ้มคลั่งด้วยความปิติยินดี เป็นเรื่องธรรมดาที่ชายชราคนนี้จะเป็นผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยว

 

ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวมองไปรอบๆ และอาภรณ์ของเขาก็กระพือแม้ว่าจะไร้ซึ่งลม เขาดูเหนือกว่าทุกสิ่งอย่างมากและทันทีที่เขาปรากฏตัว กลิ่นอายรอบๆเวทีก็กลายเป็นแปลกประหลาดอย่างมาก นี่ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกอันเบาบางแห่งการสะกดข่มที่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

 

“เป็นไปได้ไหมว่าเขาก็ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้เช่นกัน?” เมื่อพวกเขาเห็นชายชราคนนี้ ผู้อาวุโสแห่งตระกูลต่างๆทั้งหมดก็จ้องไปด้วยความประหลาดใจ

 

ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงสามารถเหินไปได้เพียง 100 เมตรเท่านั้น แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้จะสามารถเดินผ่านอากาศได้ราวกับพวกเขากำลังเดินเล่น

 

ชายชราคนนี้มาถึงโดยการเดินในอากาศ!

 

เซี่ยวไห่ดูประหลาดใจและตื่นเต้นเหลือเชื่อขณะที่เขาถาม “ท่านพ่อ ท่านทะลวงผ่านเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว?” เพียงชั่วครู่เท่านั้น สายตานับไม่ถ้วนก็ตกลงบนร่างของชายชรา

 

“อืม” ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวพยักหน้า และดวงตาของเขาก็กลายเป็นหนาวเย็นขณะที่เขามองไปยังผู้นำคนก่อนของตระกูลฝาง

 

“เจ้าก้าวเข้าไปในขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ได้อย่างไรกัน?” ดวงตาของผู้นำคนก่อนตระกูลฝางกระพริบขณะที่เขาเปิดเผยการแสดงออกที่ตกใจอย่างลึกล้ำ เขาทะลวงผ่านไปขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ได้ก็เพราะนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ให้เม็ดยาระบายลึกลับเป็นของขวัญกับเขาก็เท่านั้น แต่ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวทะลวงผ่านได้อย่างไร?

 

ไม่เพียงแต่ตัวเขาเท่านั้น แต่ทั้งหมดของผู้ฝึกตนจากตระกูลอื่นๆก็ยังสับสนอย่างเหลือเชื่อ ด่านล่างของเวที ทั้งหมดของผู้ฝึกตนปกติตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้หาได้ยากมากภายในเขตเมฆาม่วง และตอนนี้ก็ปรากฏขึ้นถึง 2 คนอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อและรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในฝัน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหมาย – ตอนนี้ตระกูลเซี่ยวได้มีเซียนเช่นนี้แล้วเหมือนกัน ตระกูลฝางจะทำอะไรได้อีก?

 

“มันมีอะไรน่าแปลกใจกับการที่ชายชราคนนี้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้กัน?” ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางจ้องไปด้วยความโกรธขณะที่เขากล่าวว่า  “แต่เจ้า ไอ้ผีแก่ พยายามที่ทำร้ายตระกูลเซี่ยวของข้าหลังจากที่เจ้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ โชคดีที่ชายชราคนนี้ก็เข้าสู่ขอบเขตเดียวกันแล้ว ดังนั้นข้าจะเล่นกับเจ้าเอง” ชายชราพูดด้วยวิธีที่เหนือกว่าอย่างมาก ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่าเลือดของพวกเขากำลังเดือดพล่าน

 

นี่แหละคือบุรุษที่แท้จริง!

 

ทุกคนในตระกูลเซี่ยวรู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ

 

ฝางคุนขมวดคิ้วแน่นลึกเมื่อเขาได้ยินวิธีพูดที่เอาแต่ใจของผู้นำคนก่อนตระกูลเซี่ยว ตอนนี้ไอ้แก่สัตว์ประหลาดตัวนี้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว สถานการณ์ใตอนนี้จึงดูเลวร้ายสำหรับเขา

 

“ฮึ่ม เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้ารึ?” ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางตอบกลับเย็นชา  “พี่โจว ช่วยข้าทำลายผู้ฝึกตนของตระกูลเซี่ยว และเมื่อเฮ่าเอ๋อเข้าสู่นิกายต้นกำเนิดสวรรค์ ข้าจะขอให้เขาร้องขอเม็ดยาระบายลึกลับให้ท่าน เพื่อให้ท่านสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ได้เช่กัน”

 

“แน่นอนว่าทุกคนที่อยากให้สมาชิกตระกูลของตนเองก้าวเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงก็สามารถช่วยชายชราคนนี้ทำลายตระกูลเซี่ยวได้เช่นกัน” สายตาของผู้นำคนก่อนตระกูลฝางดูน่ากลัวและชั่วร้าย ขณะที่เขาให้เหยื่อล้อที่จูงใจกับผู้อาวุโสจากตระกูลอื่นๆ

 

เขาสามารถจัดการเซี่ยวหยวนฉานได้ แต่ถ้าเขาต้องการทำลายตระกูลเซี่ยว เขาจำเป็นต้องยืมมือคนอื่นด้วย เนื่องจากเซี่ยวไห่และเซี่ยวหงได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงทั้งคู่แล้ว แต่มีเพียงเฉพาะฝางซุนเท่านั้นที่อยู่ในขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงในตระกูลฝาง

 

ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากผู้นำคนก่อนของตระกูลฝาง ทุกคนก็เริ่มหวั่นไหว

 

“ฝางเฮ่าเป็นคนที่ลุงของข้าปรารถนาจะได้มาเป็นศิษย์ และจะมีอนาคตอันไร้ขีดจำกัด” ฉินหยูเฉิน ผู้ที่เงียบมาตลอดจนถึงเวลานี้ ทันใดนั้นก็กล่าวออกมา

 

ฉินหยูเฉินพูดอย่างใจเย็น แต่เจตนาของเขานั้นชัดเจน – เขาได้ยืนยันคำพูดของผู้คนก่อนของตระกูลฝาง ทำให้คนอื่นจะกระทำได้โดยไร้ซึ่งความกังวล

 

“สังหารคนตระกูลเซี่ยว!” ผู้นำคนก่อนของตระกูลโจวพูดด้วยสายตากระหายเลือด ตระกูลโจวได้วางแผนช่วยเหลือตระกูลฝางมานานแล้ว และเมื่อได้ยินสัญญานี้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกต่อไปแล้ว

 

บางส่วนของผู้อาวุโสจากตระกูลอื่นก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน

 

“น่ารังเกียจ!” การแสดงออกของคนจากตระกูลเซี่ยวกลายเป็นรุนแรง

 

มันดูเหมือนว่าผู้ฝึกตนจากตระกูลอื่นๆกำลังเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน! ถ้ามันเกิดขึ้น ตระกูลเซี่ยวจะถึงคราวเคราะห์อย่างแท้จริง

 

“ฮ่าฮ่า เข้าสู่นิกายต้นกำเนิดสวรรค์?”

 

บนเวทีในระยะไกล ความหนาวเย็นปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวหยุนขณะที่เขาพูดว่า “เจ้าคิดจริงๆ รึว่าฝางเฮ่ามันจะยังมีโอกาสได้เข้าสู่นิกายต้นกำเนิดสวรรค์? นายน้อยคนนี้จะฆ่ามันทิ้งเสียตอนนี้ ถ้าไม่มีฝางเฮ่า พวกเจ้าทุกตัวจะพึ่งพาอะไรกัน? เจ้าควรจะคิดถึงเรื่องนี้ให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะกระทำแบบนี้กับตระกูลเซี่ยวของข้า”

 

หลังจากกล่าวเช่นนี้ มือของเซี่ยวหยุนก็เคลื่อนไหวเพื่อก่อตัวเป็นกรงเล็บขณะที่เขาเตรียมบดขยี้ลำคอของฝางเฮ่า นี่เป็นทางเลือกเดียวของเขา – ถ้าผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงจากตระกูลต่างๆเข้าร่วมกัน เขาจะไปปกป้องตระกูลเซี่ยวจากพวกมันได้อย่างไรกัน?

Eternal Martial Sovereign

Eternal Martial Sovereign

Score 10
Status: Completed

เนื้อเรื่องโดยย่อ เซี่ยวหยุนซึ่งเป็นอัจฉริยะผู้ปลุกจิตสำนึกของจิตวิญญาณการต่อสู้ ถูกระบุว่าเป็นคนธรรมดาหลังจากการบ่มเพาะของเขาหยุดลง อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาคือจิตวิญญาณการต่อสู้แห่งชีวิต ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 จิตวิญญาณการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ ในสมัยโบราณ หลังจิตวิญญาณการต่อสู้แห่งชีวิตได้รับการพัฒนา มันสามารถดูดซับแก่นแท้ปราณของสวรรค์และโลกได้ รวมทั้งรักษาบาดแผลและแก้พิษที่รุนแรงได้

 

ด้วยศิลปะกลืนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ที่พ่อของเค้าทิ้งไว้ให้ ทำให้เซี่ยวหยุนสามารถรวบรวมจิตวิญญาณการต่อสู้ไว้ใช้ได้เป็นจำนวนมาก เด็กหนุ่มผู้สิ้นหวังได้ท้าทายชะตากรรมและล้างความอัปยศอดสูของตนเอง แล้วก้าวไปบนโลกที่ไร้จุดสิ้นสุดด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้แห่งชีวิตของเค้า เพื่อกลายเป็นราชันการต่อสู้อมตะ แล้วมีอำนาจเหนือเก้าสวรรค์และเก้าโลก!!!

Options

not work with dark mode
Reset