Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 354

ตอนที่ 354

บทที่ 354 : ล้างบางเมืองจิงฉู (3)

ทันทีที่ได้ยินเสียงของหลิงหยุน ร่างของหนิงหลิงยู่ก็สั่นอย่างรุนแรง มือที่กำลังยื่นออกไปเพื่อเช็ดตัวให้กับเหยาลู่นั้นชะงักทันที ใบหน้าที่นิ่งอย่างคนเลื่อนลอยค่อยๆหันกลับมา และหยุดนิ่งราวกับรูปปั้นเทพธิดา

หลังจากที่แน่ใจว่าหลิงหยุนได้หายตัวไปแล้วจริงๆ และเกิดเรื่องน่าเศร้ามากมายขึ้นกับครอบครัวของเธอ  หนิงหลิงยู่ก็ไม่เคยได้ข่มตาให้นอนหลับได้อีกเลย ในใจของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และยังคงตั้งตารอคอยการกลับมาของหลิงหยุน!

ในใจของเธอนั้น เป็นห่วง กระวนกระวายใจ และร้อนใจเกี่ยวกับหลิงหยุนมากกว่าเรื่องอื่นๆ! แต่เธอก็แข็งแกร่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ!

หนิงหลิงยู่ค่อยๆหันหน้าไปมองหลิงหยุนที่จู่ๆก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเริ่มแดงก่ำ และคลอไปด้วยน้ำตา

“พี่ใหญ่.. พี่กลับมาแล้ว..” ใบหน้าที่อ่อนล้ายิ้มอย่างสดใส และแววตาเป็นประกาย เธอลุกขึ้นยืนและกำลังจะวิ่งเข้าไปหาอ้อมแขนของหลิงหยุน

แต่เพียงแค่ลุกขึ้นยืน ร่างบอบบางของเธอก็โยกเยก และรู้สึกว่าทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับมืดมิดไปหมด คล้ายกับท้องฟ้ากำลังถล่มทลาย!

ภายใต้แรงบีบคั้นที่รุนแรงมากมายในช่วงหลายวันนี้ หนิงหลิงยู่เองก็แทบล้มไปอีกคน ร่างกายและจิตใจของเธอแบกรับแรงกดดันที่บีบคั้นมานานจนเกินที่จะรับได้ไหวอีก ดังนั้นเมื่อเห็นหลิงหยุนมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ความงุนงงสับสนที่เกิดขึ้นในใจ ทำให้เธอไม่อาจทนรับได้ และเป็นลมล้มพับไปทันที!

“หลิงยู่!”

หลิงหยุนรีบพุ่งเข้าไปรับร่างที่อ่อนนุ่มของหนิงหลิงยู่ไว้ จากนั้นก็ช้อนร่างที่สลบไสลของเธอไว้ในอ้อมแขน และอุ้มไปวางไว้บนเตียงอ่อนนุ่มในห้องของเสี่ยวเม่ยเม่ย แล้วจัดการห่มผ้าให้กับเธอ

“หลับซะนะหลิงยู่.. พักผ่อนให้เต็มที่ น้องพี่แบกรับทุกอย่างมานานเกินไปแล้ว..”

หลิงหยุนไม่ปลุกหนิงหลิงยู่ที่เป็นลมล้มพับไป แต่เลือกที่จะให้เธอได้นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ ทั้งร่างกายและจิตใจของหนิงหลิงยู่ได้ผ่านความเหนื่อยากและบีบคั้นมามาก จนตอนนี้ได้หมดเรี่ยวหมดแรงลงแล้ว!

หลิงหยุนนึกสภาพของหนิงหลิงยู่ที่ผ่านมาได้ดี จู่ๆสมาชิกในครอบครัวก็หายไปโดยไม่ทันได้ร่ำลา และไม่รู้แม้กระทั่งว่าพี่ชายของตนเองหายไปอยู่ที่ใหน หลังจากนั้นก็ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจากหน้ามือเป็นหลังมือ แน่นอนว่าหนิงหลิงยู่ย่อมต้องได้รับความกดดันและความเครียดอย่างมากมายแน่นอน แต่การที่เธอสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงเวลานี้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อย่างมากทีเดียว!

หากไม่ใช่เพราะหลิงหยุนใช้พลังอมตะเปลี่ยนร่างของหนิงหลิงยู่ให้เป็นกายอัปสรแล้วล่ะก็ รับรองว่าป่านนี้เธอคงต้องล้มไปนานแล้ว!

แต่แน่นอนว่า การที่หนิงหลิงยู่ยืนหยัดมาได้จนถึงตอนนี้ และสามารถยอมรับกับเรื่องราวน่าเศร้าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันได้นั้น ส่วนหนึ่งก็คือความแข็งแกร่งและความเข้มแข็งในตัวของเธอนั่นเอง ไม่เช่นนั้นแล้ว ลำพังกายอัปสรของเธอเพียงอย่างเดียวนั้น ก็คงจะไม่สามารถพาเธอให้ยืนหยัดมาจนถึงเวลานี้ได้

“เฮ้อ..!!”

หลิงหยุนถอนหายใจออกมาเสียงดัง ในใจของเขารู้สึกผิดและนึกตำหนิตัวเองอย่างมาก เขาเก็บงำและอดกลั้นต่อความเคียดแค้นทั้งหมดไว้ภายในใจ แล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

หลิงหยุนกลับไปที่ห้องนอนของตนเอง และพบว่าเหยาลู่กำลังนอนลืมตามองเขาอยู่ และร่างบอบบางของเธอก็กำลังดิ้นขลุกขลักเพื่อจะลุกขึ้นจากเตียง

“เหยาลู่.. คุณอย่าขยับตัว และอย่าเพิ่งพูดอะไร! ให้ผมจัดการรักษาอาการบาดเจ็บของคุณก่อน!”

ตอนนี้ร่างของเหยาลู่เปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มผืนบางที่คลุมร่างกายท่อนล่างไว้เท่านั้น ตอนนี้ทั่วทั้งร่างกายของเธอเริ่มเขียวคล้ำไปหมด ระหว่างหน้าอกทั้งสองข้างมีรอยฝ่ามือสีเขียวเข้มประทับอยู่ ไม่มีอาการบวมเปล่งแม้แต่น้อย แต่รอยฝ่ามือกลับจมลึกเข้าไปในเนื้อ และเนื้อบริเวณนั้นก็เริ่มเน่าเปื่อยเป็นหนองจนส่งกลิ่นเหม็นออกมา

หลิงหยุนมองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยดวงตาร้อนผ่าว และแทบจะระเบิดออกมา เขาตัดสินใจแล้วว่า หลังจากที่จัดการรักษาเหยาลู่แล้ว เขาจะไปหากลุ่มคนเซียงซีในคืนนี้เลย!

ระหว่างที่หลิงหยุนพูดกับเหยาลู่ เขาก็ได้เรียกเข็มทองทั้งเก้าเล่มออกมา และเริ่มใช้เก้าเข็มปลุกชีพรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเธอ!

หลังจากที่ฝึกวิชาลับหยินหยางสำเร็จ และเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-4 ได้แล้วนั้น จุดตันเถียนและเส้นลมปราณในร่างกายของหลิงหยุน ก็ได้ขยายเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยเท่า และพลังที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นเรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด อีกทั้งยังมีพลังชีวิตจากน้ำลายมังกรอีกด้วย!

การรักษาพิษของหนอนกู่ด้วยพลังชีวิตจากน้ำลายมังกรนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว หลิงหยุนเพียงแค่ใช้เก้าเข็มปลุกชีพรักษาได้ไม่นาน ก็พบว่ารอยเขียวคล้ำตามร่างกายได้หายไปในพริบตา!

“คิดจะหนีงั้นรึ? มันสายไปแล้ว!”

หลิงหยุนพูดด้วยเสียงเย้ยหยัน และยื่นมือซ้ายออกไปอย่างรวดเร็ว และนิ้วชี้กับนิ้วกลางของเขาตวัดอยู่กลางอากาศ แล้วก็คีบได้หนอนกู่ที่กำลังจะหนีไป..

บางอย่างที่มีรูปร่างน่าเกลียดสีเขียวคล้ำกำลังดิ้นรนไปมา เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหนีได้ มันจึงพยายามจะไชเข้าในนิ้วของหลิงหยุนแทน

แต่ทว่าตอนนี้หลิงหยุนได้ฝึกดารกะดายันผ่านมาถึงสิบเอ็ดขั้นย่อยแล้ว หนอนกู่ตัวเล็กที่มีพิษเพียงแค่นี้ ไม่มีทางที่จะเข้าไชเข้าไปในเนื้อของเขาได้อย่างแน่นอน

“คิดจะฆ่าข้างั้นรึ!”

ในเมื่อหลิงหยุนได้พบกับศัตรูคนแรกของเขาแล้ว เขาจึงระบายความโกรธทั้งหมดลงบนหนอนกู่สีเขียวเข้มตัวนั้น หลิงหยุนใช้นิ้วมือทั้งสามบี้หนอนกู่จนตายคาที่!

จากนั้น ก็ไม่รอให้น้ำสีเขียวเข้มกระเด็นออกมาจากตัวมันมัน หลิงหยุนจัดการใช้ยันต์อัคนีเผาหนอนกู่จนไม่เหลือแม้แต่ซาก!

….

เกือบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง ที่สี่แยกซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนจิงฉีและถนนกู่เฟิง ตรงหัวมุมถนนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้น กลุ่มคนเซียงซีได้กลับมาเปิดร้านเสื้อผ้าอีกครั้ง

ชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีใบหน้าคล้ายปีศาจนั้น กำลังกระอักเลือด แต่เขากัดฟันกลั้นไว้ไม่ให้พุ่งออกมา และใบหน้าของเขาก็เขียวคล้ำไปหมด

“เด็กสาวคนนั้นมีคนมาช่วยไว้แล้ว แล้วมันก็ได้ฆ่าหนอนกู่ของข้าแล้ว!” ชายเซียงซีวัยกลางคนเอ่ยขึ้น

ภายในบ้าน ยังมีชายหน้ายาวเหมือนม้าอยู่อีกคน เขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิด.. น่าจะเป็นเด็กผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตเจ้าของร้านเสื้อผ้าคนเก่าไว้ และทำร้ายผู้เฒ่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส!”

ชายวัยกลางคนอายุสี่สิบตอนนี้หน้าผากเป็นสีเขียวคล้ำ กำลังยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า

“ถ้ามันกล้ามาที่นี่ ข้าจะให้มันได้ลิ้มรสชาติของการมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน!”

…..

หลังจากที่หลิงหยุนจัดการขับหนอนกู่ออกจากร่างของเหยาลู่และฆ่ามันทิ้งแล้ว เขาก็ใช้เก้าเข็มปลุกชีพรักษาอาการบาดเจ็บภายในให้กับเหยาลู่ ด้วยพลังของหลิงหยุน เพียงไม่นานรอยฝ่ามือเขียวคล้ำบนหน้าอกของเหยาลู่ก็ได้อันตธานหายไปจนหมด ผิวของเหยาลู่ก็กลับมาใสสว่างราวกับคริสตัลเช่นเดิม

“หลิงหยุน.. คุณหายไปใหนมา รู้ไม๊ว่าพวกเราเป็นห่วงมากแค่ใหน!”

ตอนนี้ร่างกายของเหยาลู่หายสั่นแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บภายในได้หายแล้ว และไม่ได้รับความเจ็บปวดจากพิษของหนอนกู่อีกแล้ว

และทันทีที่สามารถอ้าปากขึ้นพูดได้ เหยาลู่กลับไม่พูดเรื่องของตนเอง แต่กลับเป็นห่วงหลิงหยุนก่อนสิ่งอื่น เห็นได้ชัดว่า.. หลิงหยุนคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ!

“อย่าเพิ่งพูดอะไร.. รอให้ผมรักษาอาการบาดเจ็บให้หายสนิทเสียก่อน!”

หลังจากที่หลิงหยุนดึงเข็มออกจากร่างกายของเหยาลู่ เขาก็ใช้ยันต์บำบัดปิดไปตามบาดแผลตามร่างกายของเธอ และบาดแผลต่างๆก็หายไปในพริบตาไม่เหลือร่องรอยทิ้งไว้ให้เห็นแม้แต่น้อยม

“ผมไม่ได้ทำให้คุณเจ็บตรงใหนใช่ไม๊? เหยาลู่ของผมสวยที่สุดเลย..”

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับมองดูเหยาลู่ที่ตอนนี้ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว จากนั้นเธอก็ถึงกับตกใจและอึ้งไป เมื่อพบว่าร่างของเธอเปลือยเปล่า จึงรีบเอามือปิดหน้าอกที่สั่นไว้ เธอมองหลิงหยุนแล้วพูดขึ้นว่า “คุณเห็นหมดแล้วใช่ไม๊..”

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับจ้องมองเหยาลู่ เขาเอื้อมมือดึงเหยาลู่เข้ามกอดพร้อมกับพูดขึ้นอย่างเสียใจ

“ผมไม่รู้สึกเสียใจเรื่องคลีนิคเลย วันหลังคุณอย่าทำแบบนี้อีกนะ!”

ดวงตาของเหยาลู่แดงก่ำ แล้วน้ำตาก็ไหลพร่างพรูออกมา “หลิงหยุน.. ฉันรักษาคลีนิคไว้ไม่ได้..”

หลิงหยุนยิ้มแต่ในแววตานั้นเต็มไปด้วยรังสีเพชรฆาต “เหยาลู่.. คุณทำใจให้สบาย ผมรับรองว่าใครก็ตามที่มันทำลายคลีนิคของผม มันจะต้องได้รับการตอบแทนกลับไปอย่างสาสม ผมจะให้มันชดใช้เป็นพันเท่า และรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต!”

“คุณรอดูก็แล้วกัน!”

หลิงหยุนพูดกับเหยาลู่อย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบชามและเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง หลิงหยุนเรียกน้ำเต้าวิเศษออกมา และจัดการเทน้ำลายมังกรลงไปในถ้วยใบเล็กนั้น

กลิ่นหอมหวลของน้ำลายมังกรโชยไปทั่วบริเวณ..

“กลิ่นหอมจัง!”

เหยาลู่ต้องทนกลับกลิ่นเนื้อเน่าที่โชยออกมาจากร่างกายของเธอเป็นเวลานานหลายวัน เมื่อได้กลิ่นที่หอมหวลเช่นนี้ เธอจึงอดที่จะสูดดมเข้าไปไม่ได้

หลิงหยุนใช้ส่งกระแสจิตบอกถังเมิ่งกับเสี่ยวเม่ยหนิงที่รออยู่ในรถให้ขึ้นมาที่ห้องได้แล้ว ทั้งคู่นั่งคอยอยู่ในรถนานกว่ายี่สิบนาที ทันทีที่ได้รับคำสั่งของหลิงหยุน ทั้งคู่จึงรีบพุ่งออกจากรถทันที

เมื่อได้ยินเสียงของคนทั้งคู่เดินเข้ามาในห้อง เหยาลู่จึงรีบกลับลงไปนอนบนเตียง และรีบดึงผ้าห่มผืนบางนั้นขึ้นมาห่มร่างที่เปลือยเปล่าไว้ทันที หลิงหยุนจึงรีบร้องตะโกนบอกถังเมิ่งว่า

“ถังเมิ่ง.. นายอย่าเข้ามาในห้อง!”

ส่วนเสี่ยวเม่ยหนิงนั้นผลุนผลันเข้าไปในห้องทันทีที่เข้ามาถึง และเมื่อเธอได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที และได้แต่ยืนกัดริมฝีปากเพื่อระงับอารมณ์ด้านลบที่กำลังพวยพุ่งขึ้นมา..

ความสัมพันธ์ระหว่างเสี่ยวเม่ยหนิงกับหลิงหยุนนั้น ตอนนี้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็ได้รับรู้แล้ว เมื่อมาเห็นภาพเช่นนี้ในห้องนอน หากเธอไม่รู้สึกอะไรก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกมาก..

เหยาลู่มองเสี่ยวเม่ยหนิงอย่างระมัดระวัง เธอกำลังอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็เลือกที่จะทิ้งศรีษะลงบนหมอนแทน และไม่พูดอะไรอีก..

บรรยากาศภายในห้องนอนค่อนข้างกระอักกระอ่วน หลิงหยุนยกมือขึ้นเกาศรีษะอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นว่า

“หนิงน้อย.. เหยาลู่อายุมากกว่าคุณ คุณก็เรียกเธอว่าพี่ก็แล้วกัน”

ในเมื่อไม่อาจเลี่ยงได้ หลิงหยุนก็ไม่ต้องการปิดบัง และอาศัยโอกาสนี้พูดออกไปตรงๆ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในอนาคต!

เสี่ยวเม่ยหนิงนั้นมีพื้นฐานจิตใจที่ดีและโอบอ้อมอารี หลิงหยุนเชื่อว่าการที่ทั้งคู่จะก้าวข้ามกำแพงนี้ได้นั้น คงไม่มีโอกาสใหนจะดีและเหมาะสมไปกว่าช่วงเวลาที่เหยาลู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนี่แล้ว

เสี่ยวเม่ยหนิงไม่ต้องการที่จะเกรี้ยวกราดกับหลิงหยุน แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมถอย! เธอรู้ดีว่าตอนนี้ความโกรธของหลิงหยุนมาถึงขึ้นสูงสุด และต้องการจะออกไปแก้แค้น เธอจึงไม่ต้องการให้หลิงหยุนมีความกังวลใจอะไรอีก

“เอ่อ..”

เสี่ยวเม่ยหนิงเกือบจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางของเหยาลู่ที่กระอึกกระอัก และพูดอะไรไม่ออก

ในที่สุดเหยาลู่ก็พยายามมองเสี่ยวเม่ยหนิงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “หนิงน้อย.. พี่อายุมากกว่าเธอ พี่จะไม่แย่ง.. ไม่..”

หลังจากกระอึกกระอักอยู่นาน เหยาลู่ก็อายเกินกว่าจะพูดชื่อหลิงหยุนออกมา..

“พี่ลู่คะ.. พี่หลิงหยุนน่ะร้ายกาจมาก ต่อไปพี่กับฉันต้องช่วยกันจับตาดูพี่หลิงหยุนให้ดี.. รู้ไม๊คะ?!”

เสี่ยวเม่ยหนิงใคร่ครวญอยู่นาน เธอนึกถึงเฉิงเม่ยเฟิง และเสี่ยวเม่ยเม่ย.. เธอจึงรู้สึกว่า ยิ่งเธอไม่สามารถยอมรับได้มากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งท้อแท้หมดหวังมากเท่านั้น!

“คุณสองคนคุยกันไปก่อน ผมจะออกไปคุยธุระกับถังเมิ่ง!”

หลิงหยุนเดินยิ้มกริ่มออกไปจากห้อง..

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..


Options

not work with dark mode
Reset