Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 336

ตอนที่ 336

บทที่ 336 : หม้อเสินหนง

มิสเตอร์เฉินซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป เมื่อเห็นหลิงหยุนและตู้กู่โม่สังหารยอดฝีมือชาวญี่ปุ่นตายหมดภายในเวลาเพียงแค่สองสามนาที เขาก็รู้ทันทีว่าได้เกิดวิกฤตขึ้นแล้ว เขาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว และเตรียมตัวที่จะวิ่งหนีเอาตัวรอด

ตู้กู่โม่และหลิงหยุนต่างก็รู้ดีว่าคนสกุลเฉินผู้นี้ไม่มีทางที่จะหนีรอดได้อย่างแน่นอน ทั้งคู่จึงยังคงยืนเฝ้าโทคุงาวะไว้ไม่ขยับ

สำหรับยอดฝีมือขั้นเซียงเทียนนั้น หากใช้วิชาตัวเบาหลบหนีไปท่ามกลางป่าดงดิบที่หนาทึบเช่นนี้ ไม่มีทางที่พวกเขาทั้งคู่จะไล่ตามได้ทันอย่างแน่นอน

เมื่อมิสเตอร์เฉินเห็นว่าตู้กู่โม่และหลิงหยุนต่างก็ไม่มีใครสนใจเขา จึงรีบหันหลังเพื่อที่จะวิ่งหนีไป แต่ก็ต้องพบว่าภาพที่อยู่ด้านหลังของเขานั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว!

ใบหน้าของมิสเตอร์เฉินเปลี่ยนไป และเต็มไปด้วยความงุนงง เขาพบว่าตอนนี้ด้านหลังของเขามีต้นไม่อยู่หนาทึบ จนไม่มีช่องว่างให้มองเห็นท้องฟ้าแม้แต่น้อย และไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”

มิสเตอร์เฉินครุ่นคิดอยู่นาน เขาหันกลับไปกลับมา และมองไปรอบๆตัว แต่ก็พบว่าทุกอย่างที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว หากเขาต้องการจะวิ่งหนีในตอนนี้ มีเพียงแค่หนทางเดียวก็คือ วิ่งผ่านหน้าตู้กู่โม่และหลิงหยุนไปเท่านั้น

แต่เขาได้เห็นความแข็งแกร่งและเก่งกาจของทั้งสองคนด้วยตาตัวเองแล้ว ดังนั้นไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งก็สามารถฆ่าเขาได้เพียงแค่กระบี่เดียวอย่างแน่นอน เขาจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง

ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่งเมื่อคิดได้ว่า เวลานี้มีเพียงอยู่ข้างโทคุงาวะจึงจะมีโอกาสรอดตาย เขาจึงกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ไปยืนอยู่ข้างกายโทคุงาวะ

“คุณเฉิน.. พวกเราถูกโจมตี แต่คุณกลับไปหลบซ่อนดูอย่างสนุกสนาน คุณยังมีอะไรจะอธิบายไม๊?”

ใบหน้าของโทคุงาวะบูดบึ้งไม่พอใจ แต่ตอนนี้ศัตรูกำลังอยู่ตรงหน้า เขาจึงทำได้เพียงแค่พูดถึงคนสกุลเฉินขึ้นมาเพื่อให้เขากลายเป็นเป้าหมายใหม่แทน ส่วนริมฝีปากก็แสยะยิ้มอย่างเหยียดหยัน

“คุณโทคุงาวะอย่าได้พูดเช่นนั้น? สองคนนี้เป็นใครก็ไม่รู้ ผมก็ไม่สะดวกที่จะแสดงตัว ได้โปรดเข้าใจผมด้วย..”

ใบหน้าของคนแซ่เฉินยังคงยิ้ม และโทคุงาวะก็ได้แต่พยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“เอาล่ะ.. ในเมื่อพวกคุณทั้งหมดก็เป็นคนจีนเหมือนกัน ส่วนคุณในฐานะตัวแทนของตระกูลเฉิน ผมจะยกเรื่องนี้ให้คุณจัดการก็แล้วกัน!”

โทคุงาวะไม่ลังเลที่จะปัดความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับคนตระกูลเฉิน และการกระทำของโทคุงาวะนั้น ก็เท่ากับเป็นการดึงเอาตระกูลเฉินเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว มิสเตอร์เฉินที่ต้องการจะหลบหนี จึงได้แต่ต้องหันมาเผชิญหน้ากับปัญหา

‘แกช่างกล้าพูดนัก..!’

มิสเตอร์เฉินได้แต่สบถอย่างขุ่นเคืองอยู่ในใจ แต่ใบหน้าของเขายังคงยิ้มเอาอกเอาใจอย่างทาสผู้ซื่อสัตย์ จากนั้นก็หันไปทางหลิงหยุนและตู้กู่โม่พร้อมกับยกมือขึ้นผสานกันด้วยความนอบน้อม

“ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองเป็นใคร มาจากตระกูลใหน หรือว่าสำนักใหนกัน?!”

หลิงหยุนทำเสียงขึ้นจมูกพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เมื่อกี้ข้าก็บอกไปแล้ว เจ้าไม่ได้ยินรึยังไง? ผู้พิทักษ์เสินหนงเจี๋ยฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา!”

มิสเตอร์เฉินถึงกลับกลืนน้ำลายดังเอื๊อก แต่เขาก็ไม่ใส่ใจกับท่าทางของหลิงหยุน และยังคงพูดพร้อมกับหัวเราะว่า..

“ในเมื่อพวกท่านทั้งสองไม่ต้องการบอก.. ผมก็จะไม่ถาม! ส่วนผมมาจากตระกูลเฉิน หนึ่งในเจ็ดตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งปักกิ่ง ผมชื่อเฉินเจี้ยนเหยิวน.. ขอให้ท่านทั้งสองเห็นแก่หน้าสกุลเฉินของเราจะได้หรือไม่..?”

หลิงหยุนเองก็เคยได้ฟังเรื่องเจ็ดตระกูลใหญ่แห่งปักกิ่งจากปากเกาเฉินเฉินมาก่อนแล้ว เขาจึงรู้ว่าตระกูลเฉินก็เป็นหนึ่งในนั้น อีกทั้งยังได้ยินจากปากของโทคุงาวะก่อนหน้านี้ แต่เขาก็เพียงแค่ยิ้มและตอบกลับไปว่า

“ตระกูลเฉินงั้นเหรอ? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน! แต่ชื่อของเจ้านี่สิ.. ช่างอัปมงคลจริงๆ!”

เมื่อเฉินเจี้ยนเหยิวนเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมไว้หน้า เขาเองก็รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ฝืนพูดต่อว่า

“ส่วนคนผู้นี้คือมิสเตอร์โทคุงาวะ เป็นทายาทของตระกูลโทคุงาวะที่ยิ่งใหญ่แห่งญี่ปุ่น หากท่านทั้งสองยอมลามือจากพวกเราทั้งคู่ในวันนี้ พวกเราทั้งสองตระกูลรับปากว่าจะตอบแทนพวกท่านด้วยทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากมายมหาศาล..”

เฉินเจี้ยนเหยิวนรีบเปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นการต่อรองทันที และยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับหลิงหยุนและตู้กู่โม่

ตู้กู่โม่โกรธจนไม่สามารถทนรอให้หลิงหยุนพูดได้ เขาหยิบกระบี่ขึ้นมา และชี้ไปที่หน้าของเฉินเจี้ยนเหยิวน

“เจ้าสุนัขรับใช้! มีความสุขอยู่บนทรัพย์สมบัติของพวกญี่ปุ่น? ข้าจะสังหารเจ้าด้วยกระบี่นี่ ดูซิว่าเจ้าจะยังมีความสุขอยู่อีกไม๊!”

หลิงหยุนส่งสัญญาณให้ตู้กู่โม่ใจเย็นกว่านี้ เขายิ้มให้เฉินเจี้ยนเหยิวนแล้วพูดขึ้นว่า

“คนสกุลเฉิน หากเจ้าบอกความจริงมาว่า เข้ามาในป่าลึกเสินหนงเจี๋ยแห่งนี้มีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่? ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า และจะปล่อยเจ้าไป!”

เฉินเจี้ยนเหยิวนหันไปมองโทคุงาวะ ทาเคสุกะ แล้วจึงตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ความจริงแล้ว.. พวกเรามาที่นี่เพื่อมาหาสิ่งของบางอย่าง แต่ก็ไม่พบ และพวกเราก็กำลังจะกลับออกจาเสินหนงเจี๋ย แล้วก็ยังไม่มีเป้าหมายที่อื่นอีก!”

หลิงหยุนเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง แต่ก็แสร้งทำเป็นสนใจและถามขึ้นว่า “มาหาสิ่งของบางอย่างในเสินหนงเจี๋ยนี่งั้นรึ? พวกเจ้ามาหาอะไรกัน?”

เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนเริ่มยอมเจราจา โทคุงาวะก็รีบฉวยโอกาสนี้ต่อรองกับเขาทันที โทคุงาวะก้าวเท้าขึ้นไปด้านหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ฟังนะ.. ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย พวกเรามาหาอะไรนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะในป่าเสินหนงเจี๋ยแห่งนี้มีเรื่องลี้ลับอยู่มากมาย แต่หลักๆที่พวกเราเข้ามาที่นี่ก็เพื่อการศึกษา.. พวกท่านดูคนพวกนั้นสิ!”

โทคุงาวะยกมือขึ้นชี้ไปทางศพที่อยู่รอบๆกองไฟ แม้ในใจจะรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก แต่กลับแสร้งทำสีหน้าสงบนิ่ง..

“คนพวกนั้นล้วนเป็นนักโบราณคดี เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางต่างๆ ส่วนพวกเราติดตามคนพวกนั้นมาที่นี่ ก็เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเขา!”

หลิงหยุนและตู้กู่โม่ต่างก็ทำสีหน้ารังเกียจเมื่อได้ยินคำพูดไร้สาระของโทคุงาวะ หลิงหยุนส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ในเมื่อพวกเจ้าไม่ต้องการพูดความจริง ทุกอย่างก็จบ!”

เมื่อหลิงหยุนเห็นว่าทั้งคู่ต่างก็ไม่มีใครยอมพูดเรื่องหม้อทองแดง หลิงหยุนจึงไม่ต้องการพูดอะไรต่ออีก และกำลังคิดหาหนทางให้ทั้งคู่ได้ไปเกิดใหม่ พร้อมกับคิดหาวิธีเจ็บๆให้พวกมันยอมพูดความจริง!

หลิงหยุนได้หม้อทองแดงมาจากหุบเขาใกล้ๆนี้ แต่กลับหาฝาของมันไม่พบ ในใจก็นึกเสียดายอยู่แล้ว และเมื่อได้ยินคนพวกนี้พูดเรื่องฝา แน่นอนว่าในใจของเขาก็นึกอยากได้เช่นกัน

หลิงหยุนกระซิบบอกตู้กู่โม่ให้เล่นงานเฉินเจี้ยนเหยิวนบีบให้มันยอมพูดความจริงก่อน..

หลิงหยุนไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาหันหน้าไปพร้อมกับใช้มังกรพรางร่างไปโผล่อยู่ตรงหน้าของโทคุงาวะ พร้อมกับยกกระบี่ในมือขึ้น!

โทคุงาวะและเฉินเจิ้นเหยิวนเห็นหลิงหยุนที่จู่ๆก็มาโผล่อยู่ตรงหน้า โทคุงาวะไม่ได้หวาดกลัวมากนัก แต่เฉินเจี้ยนเหยิวนนั้นถึงกับขนหัวลุก

แม้ว่าเฉินเจิ้นเหยิวนจะอยู่เพียงแค่ขั้นโฮ่วเทียน-7 แต่เทคนิคการเคลื่อนไหวของเขานั้นก็รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงเดี๋ยวเดียว เขาวิ่งหนีตู้กู่โม่ที่มีกำลังภายในเหนือกว่าได้หลายต่อหลายครั้ง

ตู้กู่โม่มองเฉินเจี้ยนเหยิวนเป็นคนทรยศตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อเห็นเฉินเจี้ยนเหยิวนหลบหนีได้อย่างไหลลื่น และใช้ต้นไม้ในป่าให้เป็นประโยชน์ต่อการหลบซ่อน ตู้กู่โม่จึงโมโหอย่างมาก..

“ดูซิว่าคราวนี้เจ้าจะซ่อนอย่างไร?”

ตู้กู่โม่จัดการฟันต้นไม้ใหญ่ทิ้งไปถึงสิบสองต้น และเฉินเจี้ยนเหยิวนก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกต่อไป ป่าดงดิบที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้น เป็นภาพลวงตาที่เจ้าขาวปุยสร้างขึ้นมา เขาจึงไม่กล้าที่จะวิ่งเข้าไป และได้แต่วิ่งหลบไปหลบมา

แต่ตู้กู่โม่กลับหงุดหงิดมากขึ้น ในขณะที่ต้นไม้ใหญ่ล้มลงอย่างง่ายดาย แต่เฉินเจิ้นเหยิวนกลับวิ่งไปซ่อนได้ และเขาก็จับตัวได้ยากขึ้น

‘เหตุใดจึงได้ยากเย็นนักนะ?!’

คิ้วเส้นตรงของหลิงหยุนขมวดเข้าหากัน เขายกกระบี่ในมือขึ้นรับดาบที่โทคุงาวะฟันเข้ามา และอาศัยแผ่นหลังของโทคุงาวะส่งตัวเองไปหาเฉินเจี้ยนเหยิวน และจัดการซัดตะปูใส่ทั้งหนึ่งกำมือ!

หลิงหยุนซัดตะปูไปดักทางหนีของเฉินเจี้ยนเหยิวนไว้ เขาจึงรีบเปลี่ยนเส้นทางทันที แต่หลิงหยุนก็ซัดตะปูออกไปหกดอกสะกัดไว้อีกครั้งเช่นกัน

“แกตาย..!!” กระบี่ในมือของตู้กู่โม่สั่น พร้อมกับชี้หน้าเฉินเจี้ยนเหยิวน

ฟิ้ว.. ฟิ้ว.. ฟิ้ว..

หลิงหยุนซัดเข็มหกเจ็ดเล่มเข้าใส่จุดฝังเข็มของเฉินเจี้ยนเหยิวน พร้อมกับร้องตะโกนขึ้นว่า

“ข้าไม่มีทางให้เจ้าหนีรอดอยู่แล้ว.. เจ้ายืนรอความตายได้เลย!”

“ตามโทคุงาวะไปเร็วเข้า มันกำลังจะจะหนี!” ตู้กู่โม่ร้องขึ้นมา

ขณะที่หลิงหยุนไปช่วยตู้กู่มีจับเฉินเจี้ยนเหยิวนอยู่นั้น โทคุงาวะก็ได้ใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปตามยอดไม้ และค่อยๆห่างออกไปไกลเรื่อยๆ!

“ขาวปุย.. ตามไปหยุดมันไว้!”

โทคุงาวะนั้นเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่ามังกรพรางร่างของหลิงหยุน ในครั้งนี้เขาจึงต้องพึ่งเจ้าขาวปุย

เจ้าขาวปุยทำตามคำสั่งหลิงหยุน มันมองร่างของโทคุงาวะที่กำลังกระโดดหนีไป จากนั้นมันก็พุ่งร่างสีขาวขึ้นไปบนยอดไม้ และกระโดดไล่ตามโทคุงาวะไปอย่างรวดเร็ว

“เจ้าสุนัขจิ้งจอกขาว วิชาลวงตาของเจ้าไม่มีทางสู้วิชานินจาของเราชาวญี่ปุ่นได้หรอก?!”

โทคุงาวะเงื้อดาบขึ้นเตรียมฟันลงใส่เจ้าขาวปุย!

“ขาวปุย.. ระวัง!”

เจ้าขาวปุยที่อยู่กลางอากาศสามารถหลบดาบยาวของโทคุงาวะที่ฟันลงมาได้ แต่ไม่สามาถหลบฝ่ามือซ้ายที่ซัดตามมาได้ ร่างของมันจึงถูกฝ่ามือของโทคุงาวะซัดเข้าอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ และร่วงตกลงไปบนพื้น!

“ตายซะเถอะ!”

เมื่อเห็นเจ้าขาวปุยได้รับบาดเจ็บ หลิงหยุนก็โกรธสุดขีด! มือซ้ายที่กำตะปูไว้ซัดเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะอย่างรวดเร็ว และร่างของเขาก็พุ่งเข้าโทคุงาวะทันทีเช่นกัน!

ตะปูซัดของหลิงหยุนไม่สามารถทำอะไรโทคุงาวะที่มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งได้ สิ่งเดียวที่เขาจะสามารถต่อกรกับโทคุงาวะได้จึงมีเพียงกระบี่วิเศษในมือเล่มนี้!

โทคุงาวะไม่สะทกสะท้านกับตะปูซัดของหลิงหยุน มือทั้งสองข้างของโทคุงาวะยกดาบขึ้นต้านกระบี่วิเศษในมือของหลิงหยุนที่ฟันลงมา แต่ครั้งนี้ดาบยาวของเขาไม่สามารถต้านทานได้ และถูกหลิงหยุนฟันขาด!

ในขณะเดียวกันก็ไม่ทันได้ระวังกระบี่ยาวในมือของตู้กู่โม่ที่แทงเข้ามา เขาทำได้แค่บิดตัวหลบ แต่กระบี่ของตู้กู่โม่ก็แทงเข้าที่แขนซ้ายของเขาจนเป็นบาดแผลค่อนข้างลึก และเลือดสีแดงก็พุ่งออกมาทันที!

ตู้กู่โม่ไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาแทงกระบี่เข้าใส่โทคุงาวะอีกครั้งจนได้รับบาดเจ็บอีก

หลิงหยุนใช้เพลงกระบี่พายุที่ตัวกระบี่จะหมุนด้วยความเร็วดั่งพายุ จากนั้นกระบี่สีดำก็หมุนปกคลุมไปทั่วร่างของโทคุงาวะ

โทคุงาวะ ทาเคซุกะ ที่ได้รับบาดเจ็บและไม่มีบอดี้การ์ดคอยปกป้อง ถูกหลิงหยุนฟันเข้าที่ร่างกายถึงสี่ครั้ง และในที่สุดการต่อสู้ที่ยาวนานก็สิ้นสุดลง และร่างของเขาก็ร่วงลงพื้น

ปัง!

หลิงหยุนซัดตะปูใส่ร่างที่ล้มลงของโทคุงาวะอีกครั้ง เจ้าขาวปุยได้รับบาดเจ็บเพราะโทคุงาวะ หลิงหยุนรุ้สึกเสียใจอย่างมาก และตอนนี้เขาก็เป็นห่วงความปลอดภัยของมันอย่างมากเช่นกัน

โทคุงาวะตกใจมาก และรีบยกมือขวาขึ้นปัดป้อง

ชัวะ!

กระบี่โลหิตแดนใต้ฟันเข้าที่แขนขวาของโทคุงาวะตรงกลางระหว่างหัวไหล่กับข้อศอก เลือดสีแดงพุ่งออกมาเป็นทาง และร่างทั้งร่างก็แดงฉานไปด้วยเลือด!

อ๊าก!

โทคุงาวะกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และรีบใช้กำลังภายในห้ามเลือดไว้ แต่แล้วตู้กู่โม่ก็ใช้กระบี่แทงเข้าไปที่แขนซ้ายของเขาอีกครั้ง!

โทคุงาวะไม่สามารถหลบได้ทัน เขารู้ว่าตุ้กู่โม่และหลิงหยุนต่างก็ต้องการชีวิตของเขา เขารีบบิดแขนซ้าย และพุ่งตัวกระโดดขึ้นเพื่อต้องการหลบหนี

“เจ้าไม่มีทางหนีไปได้!” หลิงหยุนร้องบอก กระบี่วิเศษในมือของเขาฟันเข้าที่เอวของโทคุงาวะ!

 โทคุงาวะหวาดกลัวอย่างมาก และรีบใช้มือคว้ากิ่งไม้ที่อยู่บนศรีษะเพื่อพยุงร่างไว้!

ชัวะ!!

หลิงหยุนฟันเข้าที่ขาของโทคุงาวะทั้งสองข้าง!

“นายเฝ้ามันไว้ให้ดี!” หลิงหยุนสั่งตู้กู่โม่ จากนั้นก็เดินไปหาเจ้าขาวปุยที่นอนอยู่เพื่อตรวจดูอาการบาดเจ็บของมัน

หลิงหยุนรีบตรวจดูอาการของเจ้าขาวปุย และพบว่าฝ่ามือของโทคุงาวะนั้นไม่รุนแรงนัก มันได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อย และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วคราว เขาจึงค่อยรู้สึกโล่งอก

หลิงหยุนเรียกเข็มทองออกมา และทำการใช้เก้าเข็มปลุกชีพรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเจ้าขาวปุย จากนั้นก็ใช้ยันต์บำบัดรักษาร่องรอยของฝ่ามือ เขาค่อยๆประคองร่างของเจ้าขาวปุยขั้น และเดินตรงไปหาเฉินเจี้ยนเหยิวน

 “พาโทคุงาวะมาที่นี่!” หลิงหยุนพูดกับตู้กู่โม่

ตู้กู่โม่แทบอยากจะเตะโทคุงาวะให้กระเด็นไปไกลสักยี่สิบเมตร เขาผลักร่างของโทคุงาวะให้เดินไป!

“นี่เป็นโทษที่เจ้ากินสมองของลิงขนทอง นี่เป็นโทษที่เจ้าทำร้ายเจ้าขาวปุยที่สวยงาม” ตู้กู่โม่เตะโทคุงาวะอย่างโกรธแค้น เขาเตะจนกระทั่งร่างของโทคุงาวะเดินไปยืนอยู่ข้างๆเฉินเจี้ยนเหยิวนจึงค่อยหยุด

หลิงหยุนไม่สนใจเลือดของโทคุงาวะ เขายกมือขึ้นหยิบรูปถ่ายจากกระเป่าเสื้อของโทคุงาวะ และเพียงแค่เหลือบดูก็รู้ว่ามันเป็นรูปฝาของหม้อทองแดง

“ตอนนี้จะบอกได้หรือยัง? พวกเจ้ามาที่เสินหนงเจี๋ยทำไม?” หลิงหยุนพูดพร้อมกับยิ้มสดใสให้กับคนทั้งคู่

“นี่.. ฉันเป็นทายาทของตระกูลโทคุงาวะที่ร่ำรวยที่สุดในญี่ปุ่น พวกแกไม่มีสิทธิ์ฆ่าฉัน.. และฉันก็จะไม่บอกอะไรทั้งนั้น!”

โทคุงาวะ ทาเคซุกะเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน กำลังภายในของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก แขนขวาข้างหนึ่ง กับน่องอีกสองข้างถูกฟันจนบาดเจ็บ เลือดก็ยังไหลออกมาไม่หยุด แต่เขากลับยังสามารถใช้กำลังภายในหล่อเลี้ยงร่างกาย และยังมีชีวิตอยู่ได้

หลิงหยุนได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจ.. จากนั้นก็เรียกหม้อทองคำใบใหญ่ออกมาจากแหวนพื้นที่ เขาจับหูของหม้อทองคำวางลงบนพื้น พร้อมกับถามขึ้นว่า

“พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อหาสิ่งนี้ใช่ไม๊?”

“นั่นมัน.. หม้อเสินหนง!”

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..


Options

not work with dark mode
Reset