Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 326 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 326 ตอนที่ 326 Posted by , ? Views, Released on October 9, 2020 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest บทที่ 326 : ขั้นรู้แจ้ง กล่องหยกนี้หลิงหยุนแกะสลักเป็นหลุมพลังไว้ถึงสี่สิบเก้าชั้น ในระหว่างที่ฝึกวิชาพลังลับหยินหยางนั้น เขาได้ใช้พลังอมตะในกล่องหยกนี้ไปจนหมดแล้ว ตอนนี้เขาจึงนำออกมาเพื่อให้มันดูดซับพลังชีวิตจากน้ำลายมังกรเข้าไปแทน หลิงหยุนวางกล่องหยกไว้ที่ขอบบ่อน้ำลายมังกร ปล่อยให้มันทำการดูดซับพลังชีวิตไปเรื่อยๆ และเมื่อเห็นว่ากล่องหยกดูดซับพลังชีวิตเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว หลิงหยุนก็รู้สึกพอใจอย่างมาก หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว หลิงหยุนก็โบกมือเรียกเจ้าขาวปุยให้เข้าไปหาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มบ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ดี “น้ำลายมังกรนี่มีประโยชน์ต่อการฝึกของเจ้ามาก ดื่มเข้าไปเร็วเข้า..” เจ้าขาวปุยมองน้ำลายมังกรที่อยู่ในบ่อหิน แต่ก็ไม่ยอมเดินเข้าไป ดวงตาคู่สวยมีเสน่ห์ของมันจ้องมองหลิงหยุนราวกับจะถาม.. “นี่เป็นของดีจริงๆ เร็วเข้า..” หลิงหยุนใช้ขวดน้ำแร่ในมือของเขาตักน้ำลายมังกรขึ้นมา และนำไปป้อนให้กับเจ้าขาวปุย เจ้าขาวปุยเริ่มดื่ม ดวงตาของมันเปี่ยมไปด้วยความสุขและพอใจ มันตั้งใจจะดื่มให้ถึงครึ่งขวด แต่หลิงหยุนดึงกลับไปคืน.. “ระดับขั้นของเจ้ายังไม่สูงพอ ดื่มมากเกินไปก็จะไม่เป็นผลดีต่อการฝึกของเจ้า เรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป..” หลิงหยุนยิ้มให้กับเจ้าขาวปุย หลิงหยุนสังเกตุเห็นว่ากำลังภายในของเจ้าขาวปุยได้พัฒนาขึ้นในระหว่างที่ฝึกฝนอยู่ที่ดวงตามังกรหยิน ตอนนี้มันดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปแล้ว หลังจากกลับไปฝึกฝนต่อที่บ้านอีกสักระยะหนึ่ง หางที่สามของมันก็จะงอกและโตเต็มที่ ถึงตอนนั้น เขาจะพาเจ้าขาวปุยไปหาที่สำหรับซ่อนตัว หลังจากที่มันสามารถผ่านบททดสอบที่เหี้ยมโหดได้แล้ว เจ้าขาวปุยก็จะสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เมื่อเห็นหลิงหยุนดึงขวดน้ำลายมังกรกลับไป เจ้าขาวปุยก็มองหลิงหยุนอย่างไม่พอใจนัก แต่นัยน์ตามีเสน่ห์ของมันกลับมีรอยยิ้ม จากนั้นจึงเดินไปนั่งฝึกอยู่ข้างๆสองคนนั้น ก่อนหน้าที่เจ้าขาวปุยจะมาพบหลิงหยุนนั้น มันเองก็ไม่เคยสัมผัสกับมนุษย์มาก่อน แต่เมื่อมาอยู่กับเฉิงเม่ยเฟิงและเสี่ยวเม่ยเม่ย นิสัยและลักษณะท่าทางของมันก็เริ่มเหมือนคนมากเข้าไปทุกที ความจริงแล้วตัวหลิงหยุนเองไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำลายมังกรก็ได้ เพราะจุดประสงค์ของการดื่มน้ำลายมังกรนั้น ก็เพื่อต้องการพลังชีวิตของมัน แต่ร่างกายของหลิงหยุนสามารถดูดซับพลังชีวิตจากน้ำลายมังกรได้เอง จึงไม่มีความแตกต่างอะไรระหว่างดูดซับเข้าไปกับการดื่มเข้าไป เจ้างูเหลือมยักษ์ได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส ตอนนี้มันยังคงนอนสลบไสลไม่รู้สึกตัว หลิงหยุนมองมันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดครู่หนึ่ง ก่อนจะนำขวดไปบรรจุน้ำลายมังกร แล้วเอาไปรินใส่ปากของมัน หลังจากที่รินน้ำลายมังกรให้เจ้างูยักษ์ดื่มแล้ว หลิงหยุนก็โยนขวดน้ำแร่ทิ้งไปพร้อมพูดกับมันว่า “นี่อาจเป็นชะตากรรมของเจ้าก็ได้ หากเจ้าสามารถรอดชีวิตได้ ก็นับว่าเป็นโชคของเจ้า! ข้าเองก็ได้พยายามสุดความสามารถของข้าแล้ว!” หลังจากพูดกับเจ้างูยักษ์จบแล้ว หลิงหยุนก็เริ่มมองสำรวจไปตามกำแพงหินอีกครั้ง เขาไม่เชื่อว่าจะไม่มีกลไกสำหรับเปิดประตูศิลานั่นได้ “มันต้องมีกลไกอยู่ที่ใหนสักแห่ง!” หลิงหยุนหันไปมองรอบๆกำแพงหิน กระโดดขึ้นไปสำรวจเพดานถ้ำ แต่ก็พบเพียงแค่แผ่นหินที่ว่างเปล่า ไม่มีปุ่มหรือกลไกใดๆให้เห็นเลย “เข้าไปด้านในไม่ได้จริงๆหรือนี่? ไม่น่าเป็นไปได้ ผู้ที่สร้างค่ายกลแห่งนี้ช่างล้ำลึกนัก..” หลิงหยุนเดินวนแล้ววนอีกอย่างไม่ย่อท้อ หลิงหยุนมาที่นี่เพื่อตั้งใจจะมาฝึกวิชาลับหยินเท่านั้น แต่เขากลับมีผลพลอยได้อย่างอื่นกลับไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นจุดตันเถียนและเส้นลมปราณที่ขยายและแกร่งขึ้นจากเดิมหลายเท่า และยังสามารถเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-4 ได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังได้สมบัติล้ำค่าอย่างกระบี่โลหิตแดนใต้ กระบี่มังกรขาว อีกทั้งของวิเศษจากหลวงจีนชรากลับไปด้วย หลวงจีนชรารูปนั้นมรณภาพในท่านั่งเช่นนั้นมานานเท่าไหร่แล้วไม่อาจรู้ได้ แต่สิ่งของต่างๆของเขาที่อยู่ภายใต้อุณหภูมิที่ติดลบเป็นสิบองศา กลับไม่บุบสลายลงไปแม้แต่น้อย หากไม่เรียกว่าของวิเศษ จะให้เรียกว่าอะไร? นอกเหนือจากนั้นแล้ว หลิงหยุนยังได้ไข่มุกราตรีในตำนานกลับไปถึงเก้าสิบเก้าเม็ด เพียงแค่นี้เขาก็ควรจะดีใจและพอใจอย่างมากแล้ว.. แต่เมื่อได้ยินเรื่องสมุดจักรพรรดิ! หลิงหยุนกลับรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นสมบัติล้ำค่า และมีความอัศจรรย์กว่าสมบัติชิ้นใหนๆ เขาจึงอดไม่ได้ที่อยากจะได้มันกลับไปด้วย! ‘พู่กันจักรพรรดิและสมุดจักรพรรดิ น่าจะต้องเป็นของวิเศษที่มีคุณสมบัติในระดับเดียวกัน และน่าจะเป็นของคู่กัน!’ หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่เงียบๆ แต่แล้วก็กลับเปลี่ยนใจ เพราะเมื่อครู่ที่อยู่ในดวงตามังกรหยินหยางนั้น พู่กันจักรพรรดิก็ได้ถ่ายเทพลังอมตะกับปราณมังกรลงไปในร่างกายของเขาแล้ว หากเขาได้เป็นเจ้าของสมบัติล้ำค่าทั้งสองชิ้น คงจะสะเทือนไปทั้งโลกและสวรรค์! การที่หลิงหยุนได้ครอบครองพู่กันจักรพรรดิ ก็ไม่ต่างจากการได้ครอบครองดวงตามังกรทั้งสองข้างและหัวใจมังกรของค่ายกลมังกรหยินหยางแห่งนี้ ‘ว่าแต่.. มังกรหายไปใหน? หรือมันหนีออกไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว? แล้วก็เอาสมุดจักรพรรดิไปด้วย?’ หลิงหยุนนั่งครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ไปๆมาๆ เขาเดินครุ่นคิดจนมาหยุดอยู่หน้าประตูศิลาทั้งสามบาน ‘พายุกระบี่.. เกิดจากพลังงานในค่ายกลแห่งนี้.. ’ หลิงหยุนคิดว่าประตูศิลาทั้งสามบานนี้ไม่น่าจะเหมือนประตูธรรมดาทั่วไป เขาคิดว่าการทำงานของมันน่าจะไม่เหมือนค่ายกลปกติ ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพลังงานลึกลับในที่แห่งนี้ ดูเหมือนว่าพลังงานในค่ายกลแห่งนี้ น่าจะเหนือกว่าพลังแห่งพุทธะที่อยู่ในอารามตรงตำแหน่งดวงตามังกรหยิน ไม่เช่นนั้นแล้วหลวงจีนรูปนั้นก็คงจะเข้าไปด้านในประตูได้แล้ว ค่ายกลมังกรหยินหยางแห่งนี้น่าจะเกิดขึ้นก่อน จากนั้นไม่รู้เวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ หลวงจีนนั่นจึงได้เข้ามาอยู่ที่ดวงตามังกรหยิน และหลังจากมรณภาพไปนาน เจ้าของโลงศพทองแดงสัมฤทธิ์นั่นจึงตามเข้ามา.. แล้วมังกรล่ะ? มังกรนั่นหนีออกไปจากค่ายกลแห่งนี้ก่อนหรือหลังที่หลวงจีนจะเข้ามาที่นี่กัน? ‘ค่ายกลแห่งนี้สร้างขึ้นมานานเท่าไหร่แล้ว? สามพันปี หรือว่าห้าพันปี..?” หลิงหยุนอดที่จะประหลาดใจกับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ได้ ‘หรือมันจะเป็นเพียงแค่เทพนิยาย..’ หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่นาน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางคิดหาคำตอบในเรื่องลี้ลับเหล่านี้ได้ เพราะตอนนี้ตัวเขาเองยังอยู่ในขั้นที่ต่ำเกินไป ต้องรอจนกว่าจะเข้าสู่ขั้นที่แข็งแกร่งกว่านี้ จึงค่อยหาทางหาคำตอบจะดีกว่า ในที่สุด.. หลิงหยุนก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาดูดซับพลังชีวิตจากน้ำลายมังกรเข้าไปจนเต็มแล้ว ‘นี่ข้าใช้เวลาดูดซับไปนานเท่าไหร่กัน? น่าจะเจ็ดหรือแปดชั่วโมงเป็นอย่างน้อย? ขนาดพลังชีวิตที่เข้มข้นอย่างน้ำลายมังกรยังใช้เวลาดูดซับนานถึงเพียงนี้ อยากรู้นักว่าจุดตันเถียนของข้าจะมีพลังชีวิตอยู่มากมายแค่ใหน?’ การที่ร่างกายของเขาเข้าสู่ขั้นที่สูงขึ้นในครั้งนี้นั้น ค่อนข้างอยู่เหนือความรู้ที่เขามีในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังภายในที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก หลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ แต่ก็มีความสุข แต่ถึงแม้จะไม่รู้ หลิงหยุนก็สัมผัสได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน เขาจะเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งเองเมื่อเข้าสู่ขั้นพลังชี่ และได้จิตหยั่งรู้ เจ้าขาวปุยเดินลมปราณเสร็จเป็นรายแรก มันตื่นขึ้นมาและวิ่งมาหาหลิงหยุนทันที หางใหญ่ๆของมันโบกสะบัดไปมา หลิงหยุนก้มมองเจ้าขาวปุย และรู้ว่ามันก้าวหน้าขึ้นแล้ว เขาจึงได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้.. เจ้าขาวปุยเห็นหลิงหยุนยิ้ม มันจึงยกขาหน้าขึ้นทั้งสองข้างขึ้นแตะหลิงหยุน เขารู้ว่ามันต้องการให้อุ้ม จึงก้มลงอุ้มมันขึ้นมาในอ้อมแขน และลูบไล้ขนที่นุ่มนวลของมัน แล้วเดินไปนั่งข้างบ่อหิน เจ้างูยักษ์ยังคงแน่นิ่งสลบไสล.. หลิงหยุนได้รินน้ำลายมังกรเข้าปากของมันไปแล้วถึงสามขวด เขาไม่กล้าที่จะให้มันดื่มมากกว่านี้ เพราะหากดื่มเข้าไปมากจนเกินไปกลับจะยิ่งไม่เป็นผลดี ตงฟางถิงที่เพิ่งเดินลมปราณเสร็จ ลุกขึ้นมาอย่างกะปรี้กะเปร่า! เขายืดเส้นยืดสายเล็กน้อย แล้วรีบเดินไปคาราวะหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยออกมาจากใจ “หลิงหยุน.. บุญคุณที่เจ้าช่วยชีวิต และมอบน้ำลายมังกรให้กับข้า ข้าตงฟางถิงซาบซึ้งและจะขอจดจำไว้ วันข้างหน้าข้าต้องตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน!” จากที่เกาเฉินเฉินเคยเล่าให้เขาฟังนั้น ตระกูลเก่าแก่ล้วนมีอำนาจ ตอนนี้เขาก็ได้ทำดีกับตระกูลเก่าแก่ถึงสองตระกูล เขาคงไม่ต้องเกรงกลัวตระกูลซันกับองค์กรนักฆ่าที่คอยสร้างปัญหาให้กับเขาอีกแล้ว! หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้นว่า “พี่ตงฟาง.. ตอนนี้พี่อยู่ขั้นใหนแล้ว?” ตงฟางถิงตอบพร้อมกับยิ้มอายๆ “ก่อนที่ข้าจะลงมาที่ก้นหลุมแห่งนี้ ข้ายังอยู่ในระดับต้นของขั้นโฮ่วเทียน-9 แต่ตอนนี้กลับสามารถเข้าสู่ระดับกลางได้แล้ว น้ำลายมังกรมีพลังมากก็จริง แต่กลับให้ผลกับข้าน้อยนัก หรือข้าอาจจะไม่มีพรสวรรค์ก็เป็นได้..” หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ “พี่ตงฟางอย่างเพิ่งรีบร้อน ข้าคาดว่าพี่จะต้องเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้ภายในสองเดือนนี้อย่างแน่นอน?” ตงฟางถิงถึงกับเกาศรีษะพร้อมกับตอบอายๆ “น้องหลิงหยุน.. เจ้านี่รอบรู้มากจริงๆ ใช่แล้ว.. อีกสองเดือนข้างหน้าข้าก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้จริงๆ!” หลิงหยุนรีบแสดงความยินดีล่วงหน้า “ข้ายินดีด้วยจริงๆ..” “หลิงหยุน.. ข้าจะบอกที่อยู่และเบอร์ติดต่อให้กับเจ้า เจ้าไปหาข้าได้ตลอดเวลา!” พูดจบตงฟางถิงก็บอกที่อยู่และเบอร์โทรให้กับหลิงหยุน หลิงหยุนฟังแค่รอบเดียวก็สามารถจดจำทุกอย่างได้ และได้ให้เบอร์โทรของเขากับตงฟาถิงเช่นกัน ตงฟางถิงถามหลิงหยุนว่า “หลิงหยุน.. ข้ามีคำถามที่อยากรู้ ข้าพบว่าตัวข้าเองไม่สามารถดูกำลังภายในของเจ้าออก แต่สัญชาติญาณของข้าก็บอกว่า เจ้ายังไม่อยู่ในขั้นที่สูงนัก..” หลังจากที่จุดตันเถียนของหลิงหยุนได้ขยายอย่างประหลาดนี้ ผู้ที่มีกำลังภายในเหนือกว่าเขาก็ดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในขั้นใหน หลิงหยุนได้แต่หัวเราะ “กำลังภายในของข้าน่าจะไม่เกินขั้นโฮ่วเทียน-8 แต่ข้าเองก็ไม่มั่นใจนัก..” แม้แต่หลิงหยุนเองยังคลุมเคลือไม่แน่นใจ เขารู้เพียงว่าตนเองอยู่ในขั้นปรับร่างกาย-4 แต่หลังจากที่ฝึกพลังลับหยินหยางไปแล้ว กำลังภายในของเขาก็ดูประหลาดไม่ชัดเจน ‘ข้าคงจะไม่สามารถเทียบท่านแม่ได้ แต่หากเป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-1 แม้ข้าจะไม่สามารถสู้ได้ แต่ก็น่าจะหลบหนีได้’ ตอนนี้หลิงหยุนไม่มีโซ่ตรวนแห่งพลังชีวิตคอยล่ามเขาไว้อีกแล้ว เขาจะหนีเอาตัวรอดเมื่อไหร่ และไปที่ใหนๆก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา “กำลังภายในก็ยากที่จะคาดเดา วิชาแพทย์ของเจ้าก็เป็นเลิศหาใครเทียบไม่ได้ อีกทั้งยังมีสุนัขจิ้งจอกสองหางที่สวยงามคอยติดตาม ที่สำคัญเจ้ายังมีใบหน้าที่หล่อเหลามากอีกด้วย ไม่ทราบว่าน้องชายมีหญิงสาวรู้ใจหรือยัง? หากยังไม่มี ข้าจะแนะนำน้องสาวของข้าให้รู้จัก นางเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเลยทีเดียว..” ตงฟางถิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ได้ฟังคำชื่นชมของตงฟางถิง หลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออก ขนาดหลิงหยุนที่เป็นคนหน้าหนาอย่างมากยังแทบรับไม่ได้ เขารีบโบกมือและพูดขึ้นว่า “พี่ตงฟาง.. พี่ชมข้าเกินไป! อย่าล้อข้าเล่นแบบนี้..” หญิงสาวรู้ใจน่ะเหรอ.. เป็นเรื่องที่ปวดหัวสำหรับหลิงหยุนมาก! ตงฟางถิงถึงกับหัวเราะเสียงดัง เขาหันไปมองตู้กู่โม่ที่ยังคงเดินลมปราณอยู่ด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ “เหตุใดกำลังภายในของตู้กู่โม่จึงสามารถก้าวหน้าได้เร็วเช่นนั้น? ดูเหมือนว่า.. เขาจะเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-9 แล้วสินะ!” หลิงหยุนแสร้งทำเป็นตกใจ “โอ้ว.. จริงด้วย! นี่เขาคงดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปมากสินะ?” ตงฟางถิงพึมพำออกมาด้วยความอิจฉา “ตู้กู่โม่อายุน้อยกว่าข้าถึงห้าปี แต่เขากลับสามารถมีกำลังภายในอยู่ในระดับเดียวกับข้าได้ พวกเราทั้งคู่ดื่มน้ำลายมังกรเหมือนกัน แต่ข้ากลับเข้าสู่เพียงแค่ระดับกลาง แต่เขาขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดแล้ว.. ตระกูลตู้กู่ช่างล้ำเลิศนัก!” หลิงหยุนรู้ดีว่าที่ตู้กู่โม่ก้าวหน้าได้เร็วนั้น เป็นเพราะพลังอมตะที่เขาถ่ายเทให้ มันสามารถช่วยเร่งรัดให้ตู้กู่โม่ก้าวกระโดดจากขั้นโฮ่วเทียน-8 ไปถึงขั้นเซียงเทียน-2 ได้ทันที และหากเขาไม่สามารถทำได้ ก็เท่ากับเขาล้มเหลว! “พี่ตงฟาง.. ที่นี่มีน้ำลายมังกรมากมาย ท่านฝึกต่ออีกดีหรือไม่?” หลิงหยุนเสนอ ตงฟางถิงยักไหล่ “ข้าไม่ฝึกแล้วล่ะ.. ข้ารู้สึกว่าใต้พื้นดินลึกห้าร้อยเมตรแห่งนี้มีเรื่องเหลือเชื่อมากมาย อีกอย่างถ้าข้าให้เจ้าคอยคุ้มครอบให้แบบนี้ ข้าเองรู้สึกเกรงใจ! ในเมื่อหาสมุดจักรพรรดิไม่พบ ข้าก็จะรอตู้กู่โม่และร่ำลาเขาก่อน” ได้ยินเช่นนั้น หลิงหยุนจึงไม่ห้ามตงฟางถิง พร้อมกับบอกให้เขานำน้ำลายมังกรกลับไปให้มากที่สุดด้วย “เจ้าช่างรู้ใจข้านัก!” นั่นเป็นสิ่งทีตงฟางถิงต้องการ เขาหยิบขวดน้ำแร่สองขวดขึ้นมา และตักน้ำลายมังกรใส่จนเต็มพร้อมกับปิดฝาไว้แน่น เมื่อเห็นว่าตู้กู่โม่ยังคงฝึกไม่เสร็จ หลิงหยุนก็หันไปถามตงฟางถิงว่า “พี่ตงฟาง ระหว่างนี้พี่ช่วยเล่าเรื่องตระกูลเก่าแก่ และนิกายลับให้ข้าฟังหน่อยจะได้ไม๊?” หลิงหยุนอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลเก่าแก่และนิกายลับมากที่สุดในตอนนี้ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีประโยชน์กับเขามากเท่านั้น ตงฟางถิงไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังหลิงหยุน ดังนั้นไม่ว่าหลิงหยุนถามอะไร เขาก็บอกทุกอย่างที่รู้ และนั่นทำให้หลิงหยุนเข้าใจและตระหนักถึงอำนาจและอิทธิพลในประเทศจีนนี้ดียิ่งขึ้น หนึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งคู่ก็คุยกันเรื่องขั้นเซียงเทียน และหลิงหยุนก็ถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ขั้นเซียงเทียนมีทั้งหมดเก้าระดับ หากผ่านระดับเก้าที่สูงสุดไปแล้ว ต่อจากนั้นจะเป็นขั้นอะไร?” ตงฟางถิงหัวเราะ “ข้าเองก็เคยถามเรื่องนี้กับคนเก่าแก่ในตระกูลของข้าเช่นกันกัน แต่พวกเขาบอกว่าการจะเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียนนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญมาก แต่ปู่ก็บอกว่าหลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นรู้แจ้ง..” “ขั้นรู้แจ้งงั้นรึ..?” หลิงหยุนร้องถามขึ้นมา “ใช่แล้ว.. ขั้นรู้แจ้ง! ผู้ใดที่เข้าสู่ขั้นนี้แล้ว จิตวิญญาณของคนผู้นั้นจะคืนกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง และเมื่อถึงขั้นนั้นแล้ว คนผู้นั้นก็จะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น” เป็นอีกครั้งที่หลิงหยุนได้ยินคำว่า ‘คนพวกนั้น’ ในใจก็อดคิดสงสัยไม่ได้ว่าตระกูลก่าแก่กับนิยายลับไม่ใช่ ‘คนพวกนั้น’ อย่างที่เกาเฉินเฉินบอกงั้นหรือ? ถ้าใช่.. แล้วเหตุใดตงฟางถิงยังพูดถึง ‘คนพวกนั้น’ เช่นกัน? “คนพวกนั้น.. หมายถึงใคร?” หลิงหยุนรีบถาม “พวกเขาก็คือบุคคลในตำนานไงเล่า.. เป็นผู้ฝึกตนเพื่อความรู้แจ้งอย่างแท้จริง!” หลิงหยุนถึงกับอึ้ง.. ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก! Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา Ch. 409 เคยกลัวคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ 10 สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา ปรมาจารย์ลัทธิมาร Ch. เล่ม 3 10 ปรมาจารย์ลัทธิมาร ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต Ch. เล่มที่ 12 บทที่ 351 พวกเจ้ามีใจให้กันประสาอะไร 10 ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด Ch. 282 วังวนแห่งความสุข (ตอนอวสาน) 10 เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด จอมใจจอมทัพ Ch. 57 ชุ่มแฉะไปด้วยน้ำใคร่ 10 จอมใจจอมทัพ
สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา Ch. 409 เคยกลัวคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ 10 สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา
ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต Ch. เล่มที่ 12 บทที่ 351 พวกเจ้ามีใจให้กันประสาอะไร 10 ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต