Complete Martial Arts Attributes 19

ตอนที่ 19

บทที่ 19: เสียงปืน

ขณะที่พวกเขากำลังเดินออกจากสนามกีฬา อีกสามคนก็รู้ตื่นเต้นเป็นพิเศษ พวกเขาไม่เคยหยุดพูดระหว่างทางกลับ

“ น่าทึ่งจริงๆ! พี่แข็งแกร่งมาก!”

“ พี่หวังเต็ง ศิษย์นักสู้ขั้นสูงทุกคนมีพลังมากขนาดนั้นเลยหรอ?”

“ เมื่อเทียบกับคนปกติแล้ว ศิษย์นักสู้ขั้นสูงก็นับเป็นตัวตนที่น่าเกรงขาม”

หวังเต็งจุดบุหรี่ เขาค่อยๆพ่นควันบุหรี่ออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบเงียบ

“ ฮ่าฮ่า นี่มันเยี่ยมจริงๆ เมื่อเรามีนายแล้ว มันก็จะไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องเราอีก” ซูเจี๋ยหัวเราะอย่างเต็มที่

“ พี่หวังเต็ง พี่คิดว่าฉันจะสามารถแข็งแกร่งเท่าพี่ในอนาคตได้ไหม?” หยูห่าวกำหมัดของเขาอย่างลับๆ และถามด้วยความอิจฉา

“ นายก็แค่ต้องฝึกฝนอย่างหนัก จากนั้นการเป็นศิษย์นักส้ขั้นสูงก็จะไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงสำหรับนาย” หวังเต็งตอบ

ไป่เว่ยเดินเคียงข้างพวกเขาโดยไม่พูดอะไร อย่างไรก็ตาม การจ้องมองของเธอก็จ้องไปที่หวังเต็งเป็นครั้งคราว มันมีรอยยิ้มหวานๆปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเธอ

กลุ่มคนทั้งสี่แยกจากกันที่หน้าประตูโรงเรียนและกลับบ้านของตนเอง

ระหว่างทางกลับ หวังเต็งยังคงสงสัยว่าทำไมหลี่หรงเฉิงถึงได้อ่อนแอขนาดนั้น เขาไม่ได้คิดที่จะเหยียดหยาบมัน แต่มันเป็นความจริงที่เขาคิด หลี่หรงเฉิงอ่อนแอเกินไปจริงๆ

เมื่อเขาขับรถไปตามถนนและมองไปที่รถคันอื่นๆที่วิ่งผ่านเขา เขาก็รู้แจ้งในทันใด

ความเร็ว!

ใช่มันเป็นเพราะความเร็ว!

เมื่อมองดูศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดในโลก มันก็มีเพียงความเร็วเท่านั้นที่ไม่อาจเอาชนะได้

ความเร็วของเขาเร็วกว่าหลี่หรงเฉิงมาก ดังนั้นเมื่อพูดกันตามตรงแล้ว ความเร็วในการโจมตีของหลี่หรงเฉิงจึงดูช้ามากสำหรับหวังเต็ง

หลี่หรงเฉิงช้ามากซะจนหวังเต็งใช้เพียงสองการเคลื่อนไหวก็สามารรถล้มมันได้

หวังเต็งไม่สามารถรู้ได้ว่าค่าคุณสมบัติความเร็วของเขานั้นมันมีสูตรคำนวณยังไง และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำการทดสอบความเร็วของเขา

ในวันนี้ จู่ๆศักยภาพของเขาก็ระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน และหลี่หรงเฉิงก็ไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ด้วยซ้ำ

ตอนกลางคืน เมื่อหวังเต็งทานอาหารเย็นที่บ้านเสร็จ เขาก็ไปที่สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้เพื่อฝึกฝนและรวบรวมค่าคุณสมบัติ

ไม่กี่วันต่อมา ชีวิตของเขาก็ยังคงสงบและราบรื่น

ในระหว่างวันเขาจะไปรียนที่โรงเรียน เขารวบรวมค่าคุณเพื่อยกระดับการศึกษาของเขา และแกล้งเพื่อนร่วมโต๊ะที่แสนสวยแต่เย็นชาเป็นครั้งคราว

หลังจากนั้นไม่กี่วัน การศึกษาของเขาก็ดีขึ้นอย่างมาก ถ้าเขาสอบตอนนี้ เขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถทำคะแนได้ถึง 90 คะแนนอย่างแน่นอน

ซึ่งระดับนี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา เขาไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเป็นอันดับหนึ่งในการสอบ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้ว

ในเวลากลางคืน เขาก็จะไปที่สถบันสอนศิลปะการต่อสู้เพื่อฝึกฝนและรวบรวมค่าคุณสมบัติเพื่อยกระดับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของเขา

ในตอนนี้ ค่าคุณสมบัติทางด้านศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดของเขาก็ได้ทะลุขีดจำกัดของศิษย์นักสู้ไปแล้ว

ความรู้แจ้ง: 51

ร่างกาย:121

ความแข็งแกร่ง:1356

ความเร็ว: 632

เทคนิคการต่อสู้: ทักษะหมัดขั้นพื้นฐาน (ผู้เชี่ยวชาญ), ฟุตเวิร์คขั้นพื้นฐาน (ผู้เชี่ยวชาญ), ทักษะดาบขั้นพื้นฐาน (ผู้เชี่ยวชาญ), ทักษะมีดขั้นพื้นฐาน (ผู้เชี่ยวชาญ)

ความรู้: วิชาพื้นฐาน (คะแนนเต็ม)

ขีดจำกัดสำหรับร่างกายองศิษย์นักสู้ขั้นสูงคือ 100 ขีดจำกัดสำหรับความแข็งแกร่งคือ 1,000 กก. และ 100 เมตรในสี่วินาทีสำหรับความเร็ว

ซึ่งค่าคุณสมบัติทั้งหมดของเขาก็เกินขีดจำกัดเหล่านั้นมามากแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ทดสอบความเร็วของเขาโดยเฉพาะ และตระหนักได้ว่าเขาสามารถวิ่งได้ 100 เมตรในสองวินาที ซึ่งมันก็เร็วกว่ามาตรฐานขีดจำกัดของศิษย์นักสู้ขั้นสูงมาก

จริงอยู่ที่มันอาจจะมีความแตกต่างกันเพียงสองวินาที แต่คนหลายคนก็ไม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรค์นี้ไปได้แม้เวลาจะผ่านไปสามถึงห้าปีแล้วก็ตาม

ลองคิดดูว่ามันยากแค่ไหนที่จะทำลายสถิติการวิ่ง 100 เมตรสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความยากของมัน

และพูดกันตามตรง หากในตอนนี้เขาต้องปะทะกับศิษย์นักสู้ขั้นสูง เขาก็จะสามารถเอาชนะศิษย์นักสู้ขั้นสูงเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย

เพราะท้ายที่สุดแล้ว หวังเต็งก็ได้ฝึกเทคนิคการต่อสู้ทุกอย่างของเขาจนถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญคืออะไร?

ตามชื่อของมัน มันคือขั้นของความเชี่ยวชาญในรายละเอียดที่เล็กที่สุดของเทคนิค การต่อสู้ ซึ่งนั่นก็ทำให้มันสามารถนับได้ว่าเป็นสภาวะที่อยู่เหนือภาวะสมบูรณ์อย่างแท้จริง

เทคนิคการต่อสู้ขั้นผู้เชี่ยวชาญนั้นมีพลังอำนาจเพียงใด

ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ

หากคนๆหนึ่งถูกโจมตีและเขาได้ฝึกฟุตเวิร์คขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นชำนาญแล้ว เขาก็จะต้องเคลื่อนไหวมากกว่าครึ่งเมตรเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี

อย่างไรก็ตาม หากคนๆนั้นบรรลุฟุตเวิร์คถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้ว เขาคนนั้นก็จะยังสามารถหลบการโจมตีได้แม้ว่าการโจมตีนั้นจะเริ่มโจมตีห่างจากจุดที่เขาอยู่เพียงสองเซนติเมตร

ด้วยเหตุนั้นเอง ความแตกต่างระหว่างทั้งสองขั้นจึงสามารถบอกได้อย่างชัดเจน

อาจกล่าวได้ว่าความสามารถในปัจจุบันของหวังเต็งนั้นก็อยู่ห่างจากนักสู้จริงๆเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น

และเมื่อเขาเริ่มฝึกฝนพลังฟอร์สได้ เขาก็จะกลายเป็นนักสู้ที่แท้จริง

ในวันศุกร์ หลังเลิกเรียน หวังเต็งกลับบ้านตามปกติ

เขาขับรถไปตามถนนและมองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถ ทว่าในใจของเขาก็กำลังไตร่ตรองว่าเขาจะได้รับคัมภีร์การฝึกฝนทักษะพลังฟอร์สได้อย่างไร

ในปัจจุบัน เขายังคงถูกนับให้เป็นเพียงแค่ศิษย์นักสู้ขั้นสูงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาสามารถฝึกฝนพลังฟอร์สได้ สถานะของเขาก็จะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม คัมภีร์การฝึกฝนทักษะพลังฟอร์สนั้นก็แตกต่างจากเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานและการบริหารร่างกายที่ศิษย์นักสู้หรือคนทั่วไปจะสามารถฝึกฝนได้

คัมภีร์การฝึกฝนทักษะพลังฟอร์สนั้นถูกควบคุมอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด

หนึ่งวิธีที่เขาจะสามารถได้รับมันมาก็คือ การเรียนในหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ในมหาวิทยาลัย

และอีกวิธีหนึ่งก็คือ การสมัครสอบเข้าเป็นนักสู้ที่สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้ เมื่อเขาสอบผ่านและสถาบันการศึกษาพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติกับภูมิหลังของเขา พวกเขาก็จะมอบคัมภีร์การฝึกฝนทักษะพลังฟอร์สให้แก่เขา

และด้วยวิธีนี้เอง เขาก็จะกลายเป็นนักสู้ของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้อย่างเต็มตัว และมันก็จะทำให้เขาอยู่บนเรือลำเดียวกันกับสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้

และวิธีสุดท้ายก็คือ การเป็นข้าราชบริพารของตระกูลที่มีอำนาจ หากคุณสามารถได้รับความไว้วางใจจากอีกฝ่ายได้ พวกเขาก็อาจจะมอบคัมภีร์การฝึกฝนทักษะพลังฟอร์สให้แก่คุณ อย่างไรก็ตาม มันก็มีค่าเท่ากับการขายวิญญาณของคุณให้กับพวกเขา

การเข้ามหาวิทยาลัยแล้วรับคัมภีร์มานั้นมันต้องใช้เวลามากเกินไป ดังนั้นหวังเต็งจึงได้ตัดมันออกจากตัวเลือก

อย่างงั้นแล้ว เขาก็ควรที่จะไปที่สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้เพื่อสมัครเป็นนักสู้หรือไม่?

ไม่ ไม่มีทาง!

ครอบครัวของหวังเต็งรู้ความก้าวหน้าของเขา เขาเพิ่งเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้เมื่อไม่นานมานี้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็กลับอยู่ห่างจากการเป็นนักสู้ที่แท้จริงเพียงไม่กี่ก้าวแล้ว และหากมันมีคนคอยจับตาดูเอยู่จริงๆ มันก็อาจจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องยุ่งได้

ถ้าอย่างนั้น… เขาควรจะเป็นข้าราชบริพารของตระกูลอื่นๆหรือไม่?

ลืมมันไปได้เลย เขายังคงเป็นลูกของเศรษฐีที่ร่ำรวย ดังนั้นเขาจะลดสถานะของเขาไปเป็นลูกน้องของคนอื่นได้อย่างไรกัน?

ปัง

ขณะที่เขากำลังไตร่ตรองกับตัวเอง เขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นข้างหน้าเขา

มันมีกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยออกมาต่อหน้าเขา

สี่แยกข้างหน้าเขาติดขัดด้วยเหตุผลบางประการ และรถข้างหน้าก็เบรกอย่างกะทันหัน มันดูเหมือนว่าจะมีการชนกันเกิดขึ้น

ปฏิกิริยาของหวังเต็งนั้นรวดเร็ว เขาเหยียบเบรกในทันที อย่างไรก็ตาม ระยะทางมันก็ใกล้เกินไป ดังนั้นรถจึงยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยแรงเฉื่อย

“ บู้ม!” รถของเขาปะทะเข้ากับรถอีกคัน

บี๊บ บี๊บ บี๊บ!

ริง ริง ริง ริง!

ทันใดนั้น เสียงแตรรถและเสียงไซเรนของรถตำรวจก็ประสานเข้าด้วยกัน

ฉากนั้นยุ่งเหยิงและวุ่นวาย ส่วนนี้ของถนนเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์

หวังเต็งขมวดคิ้ว เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลงจากรถเพื่อไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เขาต้องกลับบ้านไปทานอาหารเย็น

“ เกิดอะไรขึ้นกัน?”

“ โอ้พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกกั? รถเสียรึไง!”

คนขับโผล่หัวออกมาจากรถและเริ่มสาปแช่ง

ปัง ปัง ปัง

ทันใดนั้น เสียงที่ดังขึ้นถัดไปก็ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ

“ เสียงปืน!”

หวังเต็งรู้สึกประหลาดใจ “ ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้ฟังผิด นั่นจะต้องเป็นเสียงปืนอย่างแน่นอน!”

โจรกรรมตอนกลางวันแสกๆ?

จลาจล?

หรือจะเป็นการลักพาตัว?

ความคิดทุกประเภทแวบเข้ามาในจิตใจของหวังเต็ง ทันใดนั้น เขาก็เห็นคนสองสามคนกำลังวิ่งเข้ามา

เมื่อดูจากความเร็วของพวกมัน พวกมันก็จะต้องเป็นศิษย์นักสู้อย่างแน่นอน!

หวังเต็งได้ตัดสินใจในทันที เขารีบขยับรถไปด้านข้าง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทีรู้ๆคือมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา

เขาต้องการก้าวออกไป แต่มันก็น่าเสียดาย มันไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะไม่ตามหาเขา

เมื่อคนเหล่านี้วิ่งผ่านเขาไป คนที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าก็ตะโกนว่า “ เดี๋ยวก่อน!”

“ มีอะไร?” เพื่อนของมันรีบถาม

“ ตำรวจกำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้ ดังนั้นหากเรายังวิ่งโง่ๆแบบนี้ต่อไป เราก็จะต้องถูกจับอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนั้นเอง มัน็น่าจะดีกว่าที่เราจะจับตัวประกันไปด้วยสักคน”

ชายคนนั้นมองไปที่หวังเต็งขณะที่มันพูดออกมา

ในขณะที่หวังเต็งกำลังจะต่อต้าน ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าก็ยกปืนขึ้นด้วยมืออีกข้างหนึ่งและเล็งไปที่หัวของเขา “ อยู่นิ่งๆ แล้วฉันจะไม่ยิงแก!”

เขากำลังถูกจับเป็นตัวประกัน!

ออร่าแห่งความตายที่รุนแรงทำให้จิตใจของหวังเต็งแทบจะระเบิดและเลือดในร่างกายของเขาก็เริ่มไหลอย่างบ้าคลั่ง หัวใจของเขาหยุดเต้นในเสี้ยววินาที จากนั้นมันก็เริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่ง

Complete Martial Arts Attributes

Complete Martial Arts Attributes

Score 10
Status: Completed

[คุณสมบัติแห่งนักสู้]

[Complete Martial Arts Attributes]

 

รอยแยกมิติได้เชื่อมโยงโลกเข้ากับทวีปซินหวู่ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคแห่งศิลปะการต่อสู้!

ฉันจะไร้ประโยชน์ถ้าฉันไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างงั้นหรอ? ไม่เป็นไร เพราะฉันมีระบบที่สามารถช่วยให้ฉันสามารถเก็บค่าคุณสมบัติต่างๆได้ยังไงล่ะ! ในขณะที่คนอื่นๆกำลังดรอปค่าคุณสมบัติเหล่านั้นออกมา ฉันก็จะเก็บมันขึ้นมาอย่างเงียบๆ

ห้ะ? นี่จะบอกว่าการดวลกับผู้อื่นก็สามารถดรอปค่าคุณสมบัติได้ด้วยอย่างงั้นหรอ? ถ้าอย่างงั้น…

“ คุณได้เอาชนะอัจฉริยะทักษะดาบ ดรอป ความรู้แจ้ง×2, ทักษะดาบ×1…” คุณเก็บมันขึ้นมาแล้ว ค่าสถานะของคุณได้รับการปรับปรุงแล้ว คุณได้รับทักษะดาบขั้นพื้นฐาน!

“ คุณได้เอาชนะอัจฉริยะทักษะมีด ดรอป เทคนิคมีดสงคราม×1, เจตจำนงมีดสังหาร×1…” คุณเก็บมันขึ้นมาแล้ว เรียนรู้เทคนิคการต่อสู้มีดระดับหายาก! คุณค้นพบเจตจำนงมีดสังหารและได้กลายเป็นความชั่วร้ายที่บ้าคลั่ง!

“ คุณได้เอาชนะความสามารถทางร่างกาย ดรอป คัมภีร์กายา×1, กายาโลหิตศักดิ์สิทธิ์×1…” คุณเก็บมันขึ้นมาแล้ว เรียนรู้คัมภีร์ขั้นสูง! คุณโชคดีมากที่ได้รับกายาเลือดศักดิ์สิทธิ์ มันสามารถเปลี่ยนร่างกายของคุณได้อย่างสมบูรณ์และมันก็ทำให้คุณได้รับฉายาระดับพระเจ้า ‘กายาไร้จุดจบ‘

มีคนฆ่าสัตว์อสูรดาราที่ทรงพลังและดรอป สายตาแห่งจิตวิญญาณ×1 และคาคุณสมบัติเปล่า×60… คุณได้เก็บมันขึ้นมาอย่างลับๆ และได้รับพรสวรรค์สายตาแห่งจิตวิญญาณ และคะแนนค่าคุณสมบัติอีก 60 แต้มเพื่อเพิ่มในค่าคุณสมบัติที่คุณต้องการ!

คุณได้เอาชนะคู่ต่อสู้ไปมากมายในชีวิตของคุณ คุณได้บังเอิญไปสังหารปีศาจผู้บริสุทธิ์และผ่าแยกจักรวาลออกเป็นสองส่วนเมื่อคุณฝึกดาบที่บ้าน คุณได้ระเบิดดวงอาทิตย์ไปด้วยกำปั้นและโลกก็ถูกความมืดมิดกลืนกิน …

และนั่นคือตอนที่คุณตระหนักได้ว่า… คุณอยู่ยงคงกระพัน!

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options

not work with dark mode
Reset