Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 300.2

ตอนที่ 300.2

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

••••••••••••••••••••

บทที่ 300: สัตว์ประหลาดกลืนทองคำ (2)

ซ่งจงนั้นเป็นคนตรงไปตรงมาเสมอ สิ่งแรกที่เขาจะทำในตอนนี้คือการบินไปยังอาคารหลักของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออก ซึ่งมันอยู่บนยอดเขาใหญ่ บนยอดนั้นมีแท่นเสาหินสีดำขนาดใหญ่ขนาดหนึ่งตารางเมตร

ในบันทึกตามแผ่นหยก ซ่งจงจะต้องนำมือทั้งสองข้างวางลงบนแผ่นหินนั้น หลังจากที่เขาใส่ปราณจิตวิญญาณลงไป ปรากฏค่ายกลขนาดใหญ่ขึ้น เขาจะต้องเอาชนะแรงกดดันมหาศาลนี้ให้ได้ หินที่เดิมเคยว่างเปล่าตอนนี้เต็มไปด้วยพลังงาน มันปลดปล่อยขวานยักษ์ลึกลับออกมา ขวานค่อยๆลอยขึ้นจากช่องว่างในอากาศ

อย่างไรก็ตามถ้าหากเหม่อลอยเพียงนิดเดียว ขวานยักษ์จะศูนย์เสียการควบคุมทันทีและมันจะไล่ฟันทุกอย่างที่ขวางหน้า

เป็นครั้งแรกที่ซ่งจงได้มองเห็นขวานเล่มนี้ใกล้ๆ รูปร่างของมันเรียบง่ายไร้การแต่งเติมใดๆ มันสูงประมานห้าฟุตและหนาพอประมาณ ด้ามจับเหมือนกับขวานทั่วๆไป บนขวานมีร่องรอยของความเสียหายมากมาย นั้นเป็นการบอกว่ามันเสียหายมากแค่ไหนจากการต่อสู้ครั้งที่แล้ว

แต่ทว่าขวานยักษ์ในตอนนี้นั้นไร้พิษสงใดๆ มีเพียงแรงกดดันมหาศาลที่ถูกปล่อยออกมาเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ามันจะต้องได้รับการสังเวยโลหิตเสียก่อน ความรู้สึกเย็นวาบแผ่ไปทั่วกระดูกสันหลังของผู้ที่พบเห็นมัน ความน่าหวั่นสะพรึงนี้ไม่อาจมีใครต้านทานได้ แม้แต่ความแข็งแกร่งของซ่งจง ยังไม่สามารถต้านทานความกลัวภายในจิตใจของเขาได้ สำหรับเหล่าอสูรกาย พวกมันไม่กล้าที่จะเข้าใกล้บริเวณนั้นพร้อมทั้งวิ่งหนีห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตาพื้นที่แห่งนี้เหลือเพียงซ่งจงและขวานยักษ์เท่านั้น ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้หนีหายไปจนหมดสิ้นเพราะไม่มีผู้ใครกล้าหาญมากพอที่จะยืนอยู่ตรงนี้

ในตอนนี้ขวานยักษ์ลึกลับได้ลอยขึ้นสูง รัศมีของมันกดดันไปทั่วบริเวณอย่างหนักหน่วง ในตอนนี้ซ่งจงนั้นยังไม่รู้ว่าเขาจะสามารถเคลื่อนย้ายมันไปที่เรือมังกรทองคำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อเดินหน้าแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะถอยหลังกลับอีกแล้ว ซ่งจงทำทุกอย่างด้วยหัวใจที่ดื้อรั้น จนท้ายที่สุดซ่งจงนำมันออกจากค่ายกลป้องกันได้สำเร็จ ขวานยักษ์ที่ถูกผนึกมายาวนานหลายพันปีได้รับอิสระ พลังสีดำพวยพุ่งออกมาจนปกคลุมทั่วทั้งขวานอย่างสมบูรณ์ แรงกดดันมหาศาลถูกปล่อยออกมาจากตัวขวาน หินสีดำที่อยู่ด้านล่างแตกกระจายออกเป็นผุยผง พลังของมันกวาดทุกสิ่งอย่างให้ราบเป็นหน้ากองภายในพริบตาเดียว

ซ่งจงนั้นตื่นตระหนกอย่างยิ่ง เขาไม่เคยพบเจอพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน

หัวใจของเขาแทบจะหลุดออกจากร่างเมื่อถูกพลังวิญญาณมากมายมหาศาลกดดันโดยตรง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ซ่งจงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เขาจัดท่ายืนของตัวเองเสียใหม่ให้มั่นคงก่อนที่จะเริ่มดุเจ้าขวานที่ดื้อรั้น “เจ้าเป็นเพียงขวานพังๆเท่านั้น จะมาแสดงพลังอะไรกัน? นี่เจ้าไม่สามารถจะยอมแพ้ข้าแต่โดยดีเลยงั้นหรือ?”

ดูเหมือนว่าการคุยกับขวานเช่นนี้ทำให้ขวานนั้นรู้ว่าซ่งจงคือศัตรูของมัน มันโกรธทันทีพร้อมกับพุ่งทยานขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับพุ่งทยานเพื่อที่จะสับซ่งจงให้เป็นชิ้นๆ เกิดพายุใหญ่ขึ้นในบริเวณนั้นจากแรงกดดันมหาศาล

ขวานยักษ์ลุกขึ้นพร้อมต่อสู้ ความเร็วของมันยิ่งกว่าสายฟ้าเสียอีก มันพุ่งเข้าจู่โจมซ่งจงทันทีที่เขาวอกแว่กโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ พลังงานสีดำทั้งหมดต้องการเข้าโจมตีที่คอของซ่งจง กว่าที่เขาจะรู้ตัวว่าพลาดท่าก็สายเกินไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ตามในขณะที่คอของซ่งจงกำลังจะหลุดออกจากบ่า เขาจะต้องตายตกไปทันทีเมื่อถูกสับ ปรากฏลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองขึ้นปกคลุมร่างกายของซ่งจงทันที ระฆังทองแดงออกมาเพื่อปกป้องเขาได้อย่างทันท้วงที ทำให้ขวานยักษ์ลอยกระเด็นออกไป

ถึงแม้ว่าจะมีระฆังทองแดงมาช่วยเหลือ แต่ทว่าเพียงแค่ลำแสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถป้องกันพลังจากขวานยักษ์ได้แล้ว และสิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองนั้นดูดกลืนลำแสงสีดำของขวานยักษ์อย่างง่ายดายราวกับกินขนม ไม่เหลือร่องรอยการโจมตีใดๆ ทุกสิ่งถูกดูกกลืนไปจนหมดสิ้น

เห็นได้ชัดเจนว่าซ่งจงไม่ได้เรียกระฆังทองแดงออกมา แต่สิ่งที่ระฆังทองแดงทำนั้นคือการปกป้องเจ้านายของมัน ขวานยักษ์ถูกระเบิดจนกระเด็นไกลออกไป พลังของมันถูกระฆังดูดกลืนจนหมดสิ้น แสดงให้เห็นว่าพลังของระฆังทองแดงนั้นน่าเกรงขามมากเพียงใด

ไม่ใช่เพียงซ่งจงที่ตกใจกับฉากตรงหน้าเท่านั้น แม้แต่ขวานยักษ์ที่ดื้อรั้นเมื่อครู่ยังคิดที่จะหันหัวกลับหลบหนีไป แต่น่าเสียดายที่ระฆังทองแดงไม่เปิดโอกาสให้มันทำดั่งใจหวัง มันลั่นเสียงระฆังออกมาทันทีพร้อมปรากฏลำแสงสีทองเพื่อจับกุมขวานยักษ์เอาไว้อย่างง่ายดาย

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าลำแสงสีดำที่ห่อหุ้มขวานยักษ์เอาไว้ถูกดูดกลืนจนหมดสิ้นด้วยลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทอง ทุกสิ่งผสานเข้าด้วยกันราวกับหิมะถูกแสงอาทิตย์ ในที่สุดขวานยักษ์ก็ไร้ซึ่งพลัง มันร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างง่ายดาย

ซ่งจงลากระฆังทองแดงช้าๆอย่างระมัดระวัง พร้อมกับเดินไปที่ขวานยักษ์และพบว่ามันอยู่ในหลุมลึกราวหนึ่งฟุตอย่างนิ่งเฉย หรือว่าวิญญาณได้ออกจากร่างมันไปแล้วล่ะ? ซ่งจงมองอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขารีบหยิบมันขึ้นมาอย่างง่ายดาย

ซ่งจงนั้นคิดว่าขวานนี้คงจะมีน้ำหนักมากกว่าหมื่นจิน เพราะมันตกลงมาสร้างหลุมขนาดใหญ่เอาไว้บนพื้นที่ราบเรียบไร้การต่อสู้มาก่อน

แม้ว่าขวานนั้นจะหนักอย่างมาก แต่ซ่งจงก็ไม่ได้อ่อนแอ ผู้อื่นอาจจะไม่สามารถยกมันได้ แต่ทว่าไม่ใช่เขา! จากนั้นซ่งจงรีบเอาเรือมังกรทองคำออกมาอย่างรวดเร็วและเขาพุ่งไปที่ด้านบนของเรือทันทีและวางขวานยักษ์เอาไว้ตรงกลางซึ่งเป็นพื้นที่ที่เขาเตรียมไว้สำหรับมันโดยเฉพาะ

จากนั้นขวานยักษ์ค่อยๆหายเข้าไปในพื้นที่ของเขา ซึ่งนั่นทำให้ซ่งจงโล่งใจอย่างมาก เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นเขาเก็บเรือมังกรทองคำเข้าที่ พร้อมกับหันไปหาระฆังทองแดงที่อยู่ด้านข้าง เขาเอื้อมมือไปแตะมันเบาๆพร้อมกล่าวออกมาอย่างโล่งใจ “เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้อีกแล้ว” เมื่อคราวที่แล้วมันหยุดยั้งพลังของแม่มดเทวะเอาไว้ และในคราวนี้มันหยุดยั้งพลังของขวานยักษ์เอาไว้ ซึ่งนั่นแปลว่าพลังของมันนั้นอยู่เหนือขวานยักษ์อย่างแน่นอน ดังนั้นกล่าวได้ว่ามีโอกาสถึงเก้าในสิบที่ระฆังทองแดงจะเป็นสมบัติโบราณ!

อย่างไรก็ตามแม้ว่าระฆังทองแดงจะเป็นสมบัติโบราณ แล้วทำไมเขาจึงสามารถใช้มันได้ล่ะ? เกิดคำถามนี้ขึ้นภายในหัวใจของซ่งจง สมบัติโบราณนั้นถูกสร้างจากพลังที่บริสุทธิ์อย่างมาก แม้ว่าผู้ฝึกตนคนใดก็ไม่อาจกระตุ้นมันได้แม้แต่น้อย มีเพียงจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์เท่านั้น จึงจะสามารถควบคุมมันได้ ว่ากันว่าพลังที่บริสุทธิ์นั้นไม่อาจพบได้ในผู้ฝึกตนทั่วไป มันจะอยู่ในร่างกายของผู้ฝึกตนระดับต้าเชิงเท่านั้น

อีกทั้งพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์นั้นไม่สามารถนำออกมาใช้พร่ำเพื่อได้ แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับต้าเชิ่งก็ยังไม่สามารถมีมันได้ในบางคน นับว่าสมบัติโบราณนั้นหาได้ยากอย่างยิ่ง และการเลือกเจ้านายของมันนั้นลึกล้ำกว่าผู้ใดจะเข้าใจ

อย่างไรก็ตามถ้าหากการต่อสู้นั้นยาวนานเกินไป อาจจะทำให้พลังบริสุทธิ์นั้นหมดไป นั่นจึงเป็นอีกสาเหตุที่ไม่มีใครใช้มันพร่ำเพื่อ

แต่ในกรณีของซ่งจง เห็นได้ชัดว่าเขาใช้เพียงพลังระดับต่ำเท่านั้นเพื่อควบคุมมัน ถ้าระฆังทองแดงนั้นเป็นสมบัติโบราณจริง เขาจะไม่สามารถใช้มันได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าระฆังทองแดงไม่ใช่สมบัติโบราณ มันจะจัดการกับขวานยักษ์ลึกลับที่เป็นสมบัติโบราณได้อย่างไร?

แต่สุดท้ายแล้ว ซ่งจงก็ปล่อยความคิดไร้สาระพวกนี้ไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ถือว่าตนเองโชคดีที่มีสมบัติที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อยู่ในมือ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ซ่งจงเก็บระฆังทองแดง จากนั้นเขาเรียกดาบบินออกมาและพุ่งออกไป มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นหาสถานที่ที่จะทดลองพลังของขวานยักษ์ลึกลับ! เมื่อคิดเช่นนั้น ซ่งจงพยายามหาสถานที่ใกล้เคียงที่พอจะเป็นไปได้

หลังจากที่เขาเดินทางไกลกว่าหนึ่งชั่วโมง เขาพบสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเกาะที่มีรัศมีกว่าพันลี้ บนเกาะเหล่านี้มีอสูรกายเล็กน้อย อีกทั้งยังมีสมุนไพรอยู่บนเกาะมากมาย

ซ่งจงมองที่เกาะนี้อย่างพิจารณา จากนั้นเขาตัดสินใจเลือกมัน เพราะภูมิทัศน์ของมันเหมาะสมที่จะใช้ทดลอง

หลังจากที่เขาพบเป้าหมายแล้ว ซ่งจงหยิบเอาเรือมังกรทองคำออกมา เขาย้ายตนเองไปที่จุดควบคุมเรือพร้อมกับนั่งลง จากนั้นเหล่าแม่มดเทวะออกมายืนเคียงข้างเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือและนวดให้เขาอย่างเอาใจ

ซ่งจงนั้นมีความสุขกับหญิงสาวเหล่านี้มาก จากนั้นเขาหัวเราะพร้อมกล่าวออกมาว่า “เริ่มได้ แสดงพลังของขวานยักษ์นั่นให้ข้าดู!”

“รับทราบ!” แม่มดเทวะตอบรับ จากนั้นพวกนางเริ่มควบคุมขวานยักษ์ลึกลับทันที

ขวานยักษ์ค่อยๆปรากฏขึ้นพร้อมกับแรงกดดันมหาศาลเช่นเดิม

ซ่งจงดื่มชาอย่างสบายใจพร้อมกล่าวต่อ “ทำลายภูเขา!” พร้อมกับสะบัดมือออกไปด้านหน้า

“ตกลง!” เมื่อแม่มดเทวะได้ยินเช่นนั้น พวกนางรับคำสั่งพร้อมกับจัดการควบคุมขวานพุ่งไปที่ภูเขาลูกนั้นทันที

ภายใต้คำสั่ง ขวานยักษ์ลึกลับพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า มันพุ่งเข้าโจมตีภูเขาลูกใหญ่ด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ซ่งจงนั้นมองเห็นความเร็วของมัน เขาพอใจอย่างมาก อีกทั้งพลังของมันยังสามารถทำลายภูเขาได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีของมันอย่างน่าทึ่ง เมื่อมันโจมตีเสร็จสิ้น มันคืนสู่รูปลักษณ์เดิมอย่างรวดเร็วพร้อมกับบินไปมาอย่างรอคอยคำสั่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่ภูเขานั้น มันเป็นเพียงการระเบิดเท่านั้น ซ่งจงเห็นเช่นนั้นเขาเผยรอยยิ้มขื่นขมออกมา “เอาล่ะ ขวานนี้มันไม่ได้ตัดภูเขาขาดเป็นสองท่อนงั้นหรือ?”

แม่มดเทวะรีบกล่าวออกมา “เป็นไปได้ว่าขวานนี้ไม่ใช่สิ่งของที่แหลมคม แม้ว่ามันจะสามารถตัดภูเขาได้ แต่ทว่าการระเบิดภูเขาอาจจะง่ายกว่า! ดังนั้นเราจึงไม่สามารถมองเห็นการโจมตีของมันได้”

“เป็นไปได้!” แม่มดเทวะตนอื่นกล่าวเสริม “ที่จริงข้ารู้สึกว่ามันทำให้ภูเขาแตกกระจายมากเสียกว่าการตัดให้ขาด!”

“งั้นหรือ?” ซ่งจงกล่าวออกมา “ลองเอียงใบมีดเพื่อตัดดูได้ไหม?”

“รับทราบ!” แม่มดเทวะรับคำสั่ง พวกนางกระตุ้นขวานอีกครั้งเพื่อทำการตัดภูเขาทันที ลำแสงสีดำปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมด้วยความเร็วเช่นเดิม ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงของมัน เห็นมันผ่าครึ่งพร้อมกับถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ภูเขาลูกยักษ์ตกลงในทะเลสร้างคลื่นสูงกว่าร้อยเมตร ทั่วทั้งเกาะสั่นสะเทือน เสียงดังราวกับฟ้าผ่าทำให้เหล่าอสูรกายที่อยู่ใกล้เคียงพากันวิ่งหนีอย่างโกลาหล สิ่งนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกมันอย่างมาก

เมื่อเห็นพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ ซ่งจงรู้สึกพอใจอย่างมาก เขากล่าวชื่นชม “ยอดเยี่ยม มันสามารถตัดขาดภูเขาได้ราวกับผ่าแตงโม ขวานยักษ์ลึกลับนี้มันช่างอันตรายเหลือเกิน!”

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

ฝากกด like เพจด้วยนะคะ

*ผู้แปลขี้โรค

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset