Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 272

ตอนที่ 272

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

บทที่ 272: ไล่ล่าและไม่ยอมแพ้

หนึ่งแสนฟุตนั้นจะสูงมากเท่าไหร่กัน? แน่นอนว่าความสูงเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ธรรมชาติสร้างให้ ความจริงแล้วโถงเฉวียนจี้นั้นสูงเพียงสามหมื่นฟุตเท่านั้น แต่ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะของหอเฉวียนจี้ค่อยๆสร้างมันขึ้นอย่างช้าๆ จึงทำให้ความสูงของมันเพิ่มขึ้นถึงแสนฟุต

ยอดเขาที่สูงส่งเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ดูสง่างามเท่านั้น มันยังสามารถรวบรวมแหล่งพลังงานของโลกใบนี้ไว้ด้วยกันซึ่งสำคัญสำหรับผู้ฝึกตนอย่างมาก การค้นหามันไม่ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย พวกเขาจึงใช้วิธีนี้เพื่อค้นหามัน

แน่นอนว่าการสร้างอาคารสูงนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ทว่าการรักษามันไว้ยากยิ่งกว่า อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของหอเฉวียนจี้พวกนางสามารถทำได้โดยง่ายดาย เพื่อที่จะรักษาความมั่นคงของอาคารสูงหนึ่งแสนฟุต แน่นอนว่าจะต้องเสียสละวัตถุจำนวนมาก พวกนางทั้งหมดทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างมันให้มีความมั่นคงมากที่สุด

แน่นอนว่าการมียอดเขาที่มั่นคงนั้นมีประโยชน์ ในตอนนี้การทรุดตัวของมันจึงกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดที่พวกนางต้องพบเจอ

ความสูงหนึ่งแสนฟุตนั้นมีน้ำหนักเหนือจินตนาการ การทรุดตัวของมันเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด ผู้ฝึกตนระดับสูงของหอเฉวียนจี้ยังไม่สามารถหยุดยั้งภัยพิบัตินี้ได้ ทั้งหมดเรียกดาบบินออกมาและเริ่มหนีออกจากจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

หลังจากปรากฏแสงดาบจากทุกสารทิศ วินาทีที่ยอดถล่มลงมาได้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วภูเขา เกิดฝุ่นตลบอบอวลไปทั่วพื้นที่ ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยควันจากการถล่ม สิ่งสำคัญต่างๆที่อยู่ภายในอาคารได้พังทลายลงไปจนหมดสิ้นแล้ว ทิวทัศน์ที่งดงามทุกสิ่งได้หายไปภายในพริบตา ซึ่งภาพความงามที่ไม่สามารถจินตนาการได้ในตอนนี้ได้ถูกลบไปโดยสมบูรณ์!

สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้ล้วนแต่งดงามและล้ำค่า มันเป็นสมบัติสวรรค์อย่างไม่อาจหาที่เปรียบ ทั้งหมดได้ถูกทำลายลงไป เรียกได้ว่าบัดนี้หอเฉวียนจี้ได้ถูกลบออกไปจากภูเขาใหญ่เรียบร้อย!

เมื่อเห็นว่าสำนักที่ตั้งมามากกว่าหมื่นปีถูกลบให้หายไปได้อย่างไร เหล่าสาวกทั้งหมดรู้สึกหัวใจของตนเองแตกสลาย พวกนางเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและโกรธแค้น ใบหน้าของทุกคนล้วนแต่เต็มไปด้วยน้ำตา บางคนล้มลงไปทันทีจากความเสียใจ

เทพธิดาเหมยฮวาที่หลบซ่อนอยู่เคียงข้างกับศิษย์ของตน ยังรู้สึกหดหู่ในการกระทำของตนเอง นางไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ข้า… ข้า เหมือนว่าข้าจะทำเกินไป!”

ความตั้งใจเดิมของนางคืออนุญาตให้ซ่งจงทำลายอาคารภายนอกได้ตามใจชอบเท่านั้น อย่างเช่นห้องยา เนื่องจากพวกมันไม่ได้มีมูลค่ามากนักและสามารถฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้ อย่างมากที่สุดเพียงแค่ทรัพยากรที่สะสมมากว่าหมื่นปีจะหายไปเท่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าหากหอเฉวียนจี้ยังมีโถงเฉวียนจี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องลุกขึ้นมาใหม่ได้ในสักวันอีกหมื่นปีข้างหน้า

แต่ในตอนนี้ใครจะรู้ว่าซ่งจงนั้นคิดจะทำลายโถงเฉวียนจี้ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดในสำนัก? เรื่องนี้ได้เกินเลยไปมากและฮัวชิงหยุนผู้นำสำนักก็ไม่อาจรับมือได้ไหว แน่นอนว่าเบื้องบนจะต้องรับรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน ใครกันที่เผยจุดอ่อนของหอเฉวียนจี้? ในเวลานั้นเทพธิดาเหมยฮวาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นกัน

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เทพธิดาเหมยฮวาไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป นางหันไปหาฉุ่ยจิ้งและกล่าวว่า “ศิษย์ข้า นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว อีกทั้งยังเกินกว่าที่ข้าจะรับได้ไหว เราควรที่จะหลบหนีดีกว่าในตอนนี้ ถ้าหากหอเฉวียนจี้ส่งผู้เชี่ยวชาญมา เราทั้งคู่คงไม่อาจมีชีวิตรอดไปได้!”

เทพธิดาเหมยฮวาไม่เปิดโอกาสให้ฉุ่ยจิ้งกล่าวอะไร ก่อนที่จะพานางหลบหนีไปทันที

สำหรับซ่งจง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทพธิดาเหมยฮวาหนีไปแล้ว เขามองยืนดูฝุ่นที่คละคลุ้งไปทั่วท้องฟ้าอย่างเงียบๆ ภายในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและร่าเริง การจะทำลายสำนักที่มีอายุกว่าหมื่นปี มันง่ายดายเช่นนี้งั้นหรือ? แน่นอนว่าในตอนนี้ซ่งจงคิดว่าตนเองประสบความสำเร็จแล้ว!

ความจริงก็คือซ่งจงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ด้วยเพียงความแข็งแกร่งของตนเองในปัจจุบัน มันเป็นเพียงความบังเอิญต่างๆทำให้เขาทำสำเร็จเท่านั้น แน่นอนว่าผู้ที่ช่วยเหลือเขามากที่สุดก็คือเทพธิดาเหมยฮวา ผู้ที่บอกกล่าวจุดอ่อนของหอเฉวียนจี้ให้กับเขา

แผ่นหยกที่นางให้ไว้นั้นบอกกล่าวเกี่ยวกับจุดอ่อนของหอเฉวียนจี้อยู่สามสี่อย่าง แต่เห็นได้ชัดว่าซ่งจงนั้นไม่สามารถเข้าใจมันได้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามเขามีแม่มดเทวะที่มีอายุกว่าพันปีคอยให้คำแนะนำ ด้วยความทรงจำของผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน พวกนางสามารถแก้ไขปริศนาที่เทพธิดาเหมยฮวาใบ้ไว้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ซ่งจงสามารถทำลายรูปแบบการป้องกันได้อย่างง่ายดายโดยการเปิดฉากการโจมตีเพียงครั้งเดียว

สำหรับความบังเอิญอื่นคือสิ่งที่หอเฉวียนจี้นั้นครอบครอง ส่วนสำคัญที่เป็นสิ่งสำคัญของรูปแบบการป้องกันนั้นอยู่บนยอดสูงสุดของโถงเฉวียนจี้ ในตอนนี้แน่นอนว่าเทือกเขาเฉวียนจี้จะอ่อนแอลงอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงนั้นเป็นประโยชน์กับซ่งจงอย่างมาก ซึ่งมันง่ายที่จะทำลายหอเฉวียนจี้อย่างง่ายดาย

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่สามารถตำหนิเหล่าสาวกที่อยู่ในหอเฉวียนจี้ได้ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีผู้ใดสามารถมองเห็นจุดอ่อนของรูปแบบการป้องกันในเวลาเพียงสั้นๆ นอกจากนั้นทั้งหมดยังไม่เข้าใจพลังที่มหาศาลของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงอีกด้วย

ซ่งจงไม่รู้สึกผิดและไร้ความปราณีต่อหญิงสาวมากมายที่กำลังร่ำไห้อยู่ต่อหน้าของเขาอีกทั้งยังเผยเสียงหัวเราะอันชั่วร้ายออกมาพร้อมกับคิดในใจ ‘เนื่องจากมารดาของผู้หญิงคนนั้นสามารถสังหารครอบครัวของข้าได้ ข้าก็จะทำลายครอบครัวของพวกเจ้าทั้งหมด! แน่นอนว่ามันจะไม่จบลงที่หอเฉวียนจี้ แต่มันหมายถึงสำนักพันปีศาจอีกด้วย พวกเจ้าคอยดูให้ดี!’

ในขณะที่กำลังยินดีกับตนเองอยู่นั้น ซ่งจงได้ยินเสียงฮัวชิงหยุนที่ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น “ซ่งจงนับตั้งแต่เจ้ากล้าทำลายหอเฉวียนจี้ของข้า แน่นอนว่าสำนักเฉวียนจี้จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป! เจ้าจงทำความสะอาดคอของตนเองให้ดีเพื่อรอรับความตาย!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งจงมองออกไปทันที และพบว่าฮัวชิงหยุนนั้นยืนอยู่ไม่ไกล เคียงข้างกับหานปิงเอ๋อและฮัวเฉียนหวู่ นัยน์ตาของเขาเป็นประกายพร้อมกล่าวออกมาว่า “ฮัวชิงหยุน ข้านั้นไม่รู้ว่าข้าจะตายเมื่อไหร่ แต่ในตอนนี้เวลาตายของเจ้ามาถึงแล้วรู้หรือไม่?

เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนั้น ซ่งจงสะบัดมือของตนเองพร้อมกับปรากฏภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าออกมา ทั้งหมดเข้าควบคุมเรือมังกรทองและปลดปล่อยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

ฮัวชิงหยุนนั้นไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เพียงลำพังโดยไร้รูปแบบการป้องกันของสำนัก นางคว้าสาวกข้างกายทั้งสองคนหลบลูกบอลสายฟ้าพร้อมตะโกน “สาวกเฉวียนจี้จงฟังคำสั่งของข้า! จงทำเพื่อตนเอง จงหนีไป!” เมื่อนางกล่าวจบ นางบินออกไปราวกับสายลม

ก่อนอื่นต้องบอกว่าฮัวชิงหยุนนั้นเต็มไปด้วยความเป็นผู้นำ นางไม่เคยปล่อยให้ความโกรธครอบงำและรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าสาวกของนางไม่อาจเอาชนะเรือมังกรทองคำได้ นางไม่คิดจะให้เหล่าสาวกตายโดยไร้ประโยชน์ ดังนั้นนางจึงใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้ซ่งจงตาม และเปิดโอกาสให้สาวกหนี

เป็นไปตามคาด ซ่งจงนั้นไม่สนใจเหล่าสาวกที่กำลังหลบหนี เขาไม่ใช่ปีศาจที่ชื่นชอบการสังหารหมู่ เหตุใดเขาจะต้องตามล่าเหล่าสาวกที่บริสุทธิ์เหล่านั้น? เขาสนใจเพียงคนที่สังหารครอบครัวของเขา ฮัวเฉียนหวู่และฮัวชิงหยุน เมื่อเห็นว่าพวกนางกำลังหลบหนี แน่นอนว่าเขาใช้เรือมังกรทองคำไล่ตามทันที

ในขณะที่ไล่ตาม ซ่งจงเปิดใช้งานภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าเพื่อให้พวกนางปล่อยลูกบอลสายฟ้าออกไปปิดทางการหลบหนี ฮัวชิงหยุนนั้นหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว ซ่งจงนั้นก่นด่านางตลอดทาง “ฮัวชิงหยุน นังเพศยา ถ้าหากเจ้ามีความกล้าหาญ เหตุใดจึงไม่หยุดวิ่ง? เจ้าต้องการปกป้องบุตรสาวของตนเองงั้นหรือ? แล้วเหตุใดเจ้าจึงต้องกล่าวหาว่าครอบครัวของข้าเป็นสายลับให้กับอสูรกาย? เจ้านั้นมีตาเฒ่าเฟิงคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังไม่ใช่งั้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงต้องวิ่งหนี!?”

ฮัวชิงหยุนที่กำลังหลบหนีในตอนนี้ได้โกรธจัดแล้ว นางคิดในใจ ‘เจ้าบ้า ถ้าหากเจ้าไม่มีเรือลำนี้ แน่นอนว่าข้าสามารถสังหารเจ้าได้ด้วยการสะบัดมือเพียงครั้งเดียว! ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าพ่นสิ่งเหล่านี้ออกมาได้แม้แต่คำเดียว!’

แม้ว่าในหัวใจของนางเต็มไปด้วยความแค้น แต่นางก็ไม่เสียเวลาที่จะตอบโต้ ตอนนี้สิ่งที่นางต้องทุ่มเทให้คือการหลบหนี แต่ในขณะที่กำลังหนี นางยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นเพราะความเร็วของนางไม่อาจเทียบกับเรือมังกรทองคำได้และนางยังแบกหญิงสาวทั้งสองคนอีกด้วย

มันไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ ฮัวชิงหยุนยังคงมีความสามารถเนื่องจากนางอยู่ในระดับหยวนหยิน ความเร็วของนางคือหกถึงเจ็ดพันหน่วย แต่ในตอนนี้นางต้องแบกทั้งสองคนไว้ ความเร็วของนางจึงตกลงไปอยู่ที่ห้าพันเท่านั้น

การบินด้วยความเร็วห้าพันหน่วยนั้นเป็นเพียงความเร็วของผู้ฝึกตนหยวนหยินธรรมดาทั่วไปเท่านั้น และซ่งจงไม่อาจไล่ตามนางได้อย่างแน่นอน

แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือซ่งจงนั้นใช้ความเร็วของเรือมังกรทองคำ! และหินจิตวิญญาณระดับสูงมากมายที่ได้จากเทพธิดาเหมยฮวา แน่นอนว่าเขาจะสามารถไล่ล่านางได้จนสุดขอบโลก

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม่มดเทวะทั้งเก้าใช้สมาธิอย่างมากในการควบคุมเรือ ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา ทำให้เรือสามารถบินได้เร็วถึงหกพันหน่วย แน่นอนว่ามันเร็วกว่าฮัวชิงหยุนที่แบกทั้งสองคนไว้!

ในตอนนี้ระยะห่างค่อยๆลดลง และยังมีการโจมตีของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ฮัวชิงหยุนถูกบังคับให้นำสมบัติวิเศษออกมาเพื่อป้องกันตนเอง สภาพของนางในตอนนี้ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก

ด้วยระยะทางที่สั้นลง สายฟ้าที่พุ่งเข้ามานั้นก็มีความเร็วที่เพิ่มขึ้น เกิดความกลัวขึ้นภายในใจของฮัวชิงหยุนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่ ถ้าหากซ่งจงนั้นใช้สมบัติวิเศษโจมตีพร้อมกับเรือมังกรทองคำ ฮัวชิงหยุนจะไม่สามารถป้องกันตนเองได้แม้ว่านางจะมีสามหัวหกแขนก็ตาม

ในตอนนี้นางจะต้องเลือกที่จะละทิ้งหนึ่งคน ด้วยความสามารถของนางในตอนนี้ถ้าหากทิ้งไปหนึ่งคน แน่นอนความเร็วของนางจะเพิ่มขึ้นเป็นหกพันหน่วย หรืออาจจะเจ็ดพันหน่วย ภายในพริบตา นางจะสามารถหลบหนีเรือมังกรทองคำได้อย่างง่ายดาย แต่ปัญหาก็คือนางจะทิ้งใครไว้ด้านหลัง? บุตรสาวเพียงคนเดียวของนาง? หรือศิษย์ที่นางโปรดปราณอีกทั้งยังครอบครองสมบัติวิญญาณขั้นเก้าอีกด้วย?

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset