Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 271

ตอนที่ 271

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 271: ทำลายซะ

เมื่อเขากล่าวจบประโยค ซ่งจงมุ่งหน้าไปที่หอเฉวียนจี้ทันทีพร้อมด้วยหานหลิงเฟิง

“ไม่ได้นะ!” หานหลิงเฟิงรีบกล่าวออกมา “เหล่าผู้เชี่ยวชาญมากมายอยู่ที่หอเฉวียนจี้ ท่านจะเอาชนะพวกเขาได้อย่างไร?”

“ฮี่ฮี่!” ซ่งจงเผยยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าในตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ห่างจากหอเฉวียนจี้มากนัก เขาจึงหยิบเอาเรือมังกรทองคำออกมา

เมื่อหานหลิงเฟิงที่เห็นเรือทองคำขนาดกว่าสามพันฟุต ปากของนางอ้ากว้างด้วยความตกใจอย่างไร้คำพูดใดๆ

“แน่นอนว่าหอเฉวียนจี้จะต้องกลายเป็นเพียงกองเศษเหล็ก!” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างเกลียดชัง จากนั้นเขาพาหานหลิงเฟิงขึ้นเรือทองคำพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่หอเฉวียนจี้ทันที

ในสถานที่ที่ไม่ห่างไกลนัก ปรากฏเสียงหัวเราะคิกคักของใครบางคนดังขึ้น “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มันจะต้องยอดเยี่ยม มันต้องเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมแน่ๆ!”

เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของตนเองตื่นเต้นมากเพียงใด ฉุ่ยจิ้งไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ในขณะที่นางกำลังจะเปิดปากเพื่อพูดอะไรบางอย่าง เทพธิดาเหมยฮวารีบดึงนางเพื่อตามเรือมังกรทองคำไปทันที

ไม่นานหลังจากที่หอเฉวียนจี้เตรียมการป้องกัน ทั้งหมดเห็นเรือขนาดใหญ่กว่าสามพันฟุตปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมทั้งปรากฏจิตสังหารที่รุนแรงเล็ดลอดออกมา ไม่ว่าจะเป็นขนาดของเรือ หรือความดุร้ายที่เปล่งประกายออกมาจากเรือ เพียงแค่ได้มองก็รู้สึกกดดันอย่างมหาศาล แม้ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดออกมา เพียงแค่มันปรากฏตัว ก็ทำให้รู้สึกถึงภัยคุกคามที่รุนแรง!

ช่วงเวลาที่เรือมังกรทองคำปรากฏขึ้น ผู้คนในหอเฉวียนจี้รู้ได้ทันทีว่าภัยคุกคามที่แข็งแกร่งได้มาถึงแล้วและเริ่มเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน หลังจากนั้นไม่นานฮัวชิงหยุนได้รับข่าวนี้เช่นกันและออกมาจากห้องโถงหอเฉวียนจี้ ด้านข้างของนางคือฮัวเฉียนหวู่และหานปิงเอ๋อพร้อมด้วยสาวกอีกสิบคน เมื่อทุกคนมองเห็นเรือมังกรทองคำ ทั้งหมดรู้สึกราวกับว่ามีหินหนักมาถ่วงหัวใจไว้ ภายในจิตใจปั่นป่วนราวกับถูกพายุสายฟ้าโจมตี

ฮัวชิงหยุนเงยหน้ามองเรือมังกรทองคำด้วยใบหน้าที่วิตกกังวล อย่างไรก็ตามนางกล่าวออกมาอย่างสงบ “เจ้าเป็นใคร? เหตุใดเจ้าจึงมาที่หอเฉวียนจี้?”

“คนที่กล่าวเช่นนี้ออกมาก็คงจะเป็นผู้นำแห่งหอเฉวียนจี้ เทพธิดาชิงหยุนใช่หรือไม่?” ซ่งจงส่งเสียงออกมาจากเรือมังกรทองคำ

ฮัวชิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมถามกลับ “แน่นอนว่าเป็นข้า แล้วเจ้าคือใคร?”

“ฮี่ฮี่ ข้าเป็นผู้ฝึกตนที่ไร้ฝ่าย นามว่าซ่งจง วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อพบเจ้าและฮัวเฉียนหวู่ ทั้งมารดาและบุตรสาวของท่านจะต้องชำระหนี้ให้กับข้าในวันนี้!” ซ่งจงสาปแช่งออกมา

แม้ว่าทั้งหมดจะเตรียมตัวมานาน เมื่อทกคนได้ยินเช่นนั้นก็ยังตื่นตระหนกจนเก็บอาการไม่ได้ ‘สาวกของสำนักเสวียนเทียนแบบใดกันที่กล้าเข้ามายั่วยุหอเฉวียนจี้ด้วยตนเองเช่นนี้? ความกล้าหาญของเขามันมากเกินไปไหม? อย่าบอกนะว่าศัตรูของเขาก็คือผู้นำของเราและเสี่ยงชีวิตมาที่นี่เพื่อแก้แค้น?’

หลังจากที่ฮัวชิงหยุนได้ยินสิ่งที่ซ่งจงกล่าวออกมา คิ้วของนางขมวดพร้อมดุเขาทันที “ซ่งจง เจ้าเป็นสาวกที่ถูกขับไล่ของสำนักเสวียนเทียน แล้วเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสร้างปัญหาที่นี่?”

“ข้ามีสิทธิ์!” หลังจากที่ซ่งจงกล่าวจบประโยค เขาสะบัดมือหนึ่งครั้งพร้อมกับปลดปล่อยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นับพันล่วงหล่นลงมาราวกับดาวตก

ฮัวชิงหยุนที่เห็นภาพนั้นตกใจทันที นางรีบโบกมือของตนเพื่อเปิดใช้งานรูปแบบการป้องกันของสำนักอย่างรวดเร็ว ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับปกคลุมสำนักทั้งหมดไว้อย่างรวดเร็ว

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังขึ้นนับไม่ถ้วน ลูกบอลสีทองปะทะเข้ากับโล่ห์พลังอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์จะทรงพลัง มันทำได้เพียงเขย่าลำแสงศักดิ์สิทธิ์ได้เบาๆเท่านั้น ซึ่งไม่มีร่องรอยว่ามันถูกทำลายแต่อย่างใด

สำหรับฮัวชิงหยุนที่เห็นเช่นนั้น นางอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน “ซ่งจง ถ้าหากความสามารถของเจ้ามีเพียงเท่านี้ วันนี้เจ้าก็คงเดินทางมาเสียเที่ยวแล้ว!”

“เหอะ!” ซ่งจงที่ได้ยินเช่นนั้น เขาตอบกลับอย่างเย็นชา “ข้าเพียงต้องการดูว่ารูปแบบการป้องกันของนังเพศยาเช่นเจ้าทั้งสองจะมีความสามารถเพียงใดเท่านั้น!”

เมื่อเขากล่าวจบ ซ่งจงโบกมืออีกครั้งพร้อมกับปรากฏแสงสีทองขึ้นบนเรือมังกรทองคำ หลังจากนั้นคลื่นลูกบอลสายฟ้าทองคำได้ฟาดลงบนรูปแบบการป้องกันของหอเฉวียนจี้อีกครั้ง

การโจมตีในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว ในก่อนหน้านี้มีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์มากมาย พวกมันกระจัดกระจายและไร้ทิศทาง แต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์มีความแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างมาก พวกมันมีจุดมุ่งหมายคือจุดสำคัญในการป้องกัน ซึ่งมันเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดของรูปแบบการป้องกัน รูปแบบการป้องกันสั่นไหวอย่างรุนแรงทันทีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นฮัวชิงหยุนและสาวกจึงไม่มีทางเลือกที่จะใช้ปราณจิตวิญญาณของตนเพื่อเสริมการป้องกันเข้าไป

มันไม่สำคัญถ้าหากช่องโหว่จะมากขึ้นหรือแตกหักลงไป แต่การป้องกันจะยุ่งเหยิงอย่างมากถ้าหากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป

เมื่อฮัวชิงหยุนเห็นเช่นนั้น นางตกใจทันที ก่อนอื่นคือจุดอ่อนของรูปแบบการป้องกันไม่ได้มีมากนัก อีกทั้งยังเล็กและหลบซ่อนอยู่ พวกมันเหล่านี้เป็นความลับขั้นสุดยอดของสำนัก ไม่มีใครรู้ว่าจุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่สร้างรูปแบบการป้องกันนี้ขึ้นมา เขาจะสามารถรับรู้จุดอ่อนเหล่านี้ได้หรือไม่? ถ้าไม่ แน่นอนว่าสำหรับบุคคลภายนอกมันคงเป็นความโชคดีที่สามารถโจมตีโดนจุดอ่อนได้หนึ่งถึงสองครั้ง

แต่สำหรับซ่งจง นอกเหนือจากการโจมตีครั้งแรกของเขา การโจมตีครั้งต่อมาไม่มีการโจมตีไหนที่พลาดเป้า เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เห็นได้ชัดว่าซ่งจงนั้นรู้จุดอ่อนทั้งหมดแล้ว!

เช่นนี้ ความแข็งแกร่งของรูปแบบการป้องกันลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้าหากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ มันจะต้องถูกทำลายลงอย่างแน่นอน

ฮัวชิงหยุนนั้นไม่ใช่คนโง่เขลา นางสามารถเดาสถานการณ์ทั้งหมดได้ทันที นางอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา “เทพธิดาเหมยฮวา เจ้าต้องการทำลายหอเฉวียนจี้ใช่หรือไม่!?”

สำหรับเทพธิดาเหมยฮวาที่ซ่อนตัวอยู่ นางตกใจเล็กน้อยพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง “ก็ไม่เชิง ข้านั้นให้ซ่งจงรู้เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็คงทำลายได้แค่ภายนอกของรูปแบบการป้องกันเท่านั้น แต่เหตุใดกันที่เด็กคนนี้กลับดูเหมือนรู้จุดอ่อนทั้งหมด? ถ้าหากเรื่องราวเป็นเช่นนี้ต่อไป มันจะผิดปกติเกินไปอย่างมาก!”

สำหรับฉุ่ยจิ้งที่อยู่ข้างกายเทพธิดาเหมยฮวา เมื่อนางได้ยินเช่นนั้น นางอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “ท่านอาจารย์มีบางอย่างผิดปกติงั้นหรือ?”

เทพธิดาเหมยฮวาขมวดคิ้ว “แน่นอน มีบางอย่างผิดปกติ! ซ่งจงยังเด็กและเขาเป็นผู้ฝึกตนสายฟ้า มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นปรมาจารย์แห่งรูปแบบการป้องกัน เขาสามารถเดาจุดอ่อนทั้งหมดได้อย่างไร ข้าให้ความรู้เขาไปเล็กน้อยเท่านั้น?”

“ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่ซ่งมีภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวออกมา “ผู้ฝึกตนทั้งเก้านั้นล้วนแต่เป็นผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน ความรู้ของพวกนางนั้นไร้ขีดจำกัด!”

“อ่า!” เมื่อเทพธิดาเหมยฮวาได้ยินเช่นนั้น นางอุทานออกมาทันที “เขามีภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า? สวรรค์ ไม่ดีแล้ว ไม่ดีจริงๆ!”

“อะไรผิดปกติงั้นหรือ?” ฉุ่ยจิ้งถาม

“ในขณะที่ข้านั้นมีความเป็นศัตรูกับฮัวชิงหยุน แต่ข้าก็ไม่คิดที่จะทำลายหอเฉวียนจี้อย่างจริงจัง ดังนั้นข้าจึงบอกซ่งจงไปเล็กน้อยเท่านั้นถึงจุดอ่อนของหอเฉวียนจี้ ข้าคิดว่าเขาเพียงจะทำลายสถานที่รอบๆเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโถงเฉวียนจี้ที่สำคัญและสวยงามเช่นนี้จะถูกทำลายไปด้วย!”

“แล้วมันไม่ถูกต้องอย่างไร?” ฉุ่ยจิ้งอุทานออกมา “โถงเฉวียนจี้นั้นเต็มไปด้วยเคล็ดวิชาที่สะสมมานับพันปี อีกทั้งสมบัติที่ล้ำค่าของสำนัก มันคือรากฐานของหอเฉวียนจี้ ถ้าหากโถงเฉวียนจี้ถูกทำลาย แน่นอนว่าสำนักแห่งนี้จะถูกลบชื่อออกไปจากภูเขา! ในระยะเวลาหนึ่งพันปีก็ไม่อาจกู้คืนกลับมาได้อีกครั้ง! ถ้าหากเรื่องราวได้ดำเนินการไปถึงขั้นนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่ฮัวชิงหยุนจะปิดบังเรื่องนี้กับอาวุโสระดับสูง แน่นอนว่าสำนักเฉวียนจี้จะต้องรับรู้เรื่องราวเหล่านี้!”

“ข้ารู้ ข้าไม่ต้องการให้เรื่องราวนั้นดำเนินมาถึงขั้นนี้! แต่ใครจะรู้ว่าซ่งจงนั้นแข็งแกร่งมากขนาดนั้น?” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างหมดหนทาง

“ไม่ เราต้องหยุดเขา ถ้าหากเรายอมให้เขาทำลายหอเฉวียนจี้ เขาจะถูกผู้เชี่ยวชาญจากสำนักเฉวียนจี้ติดตามเพื่อล้างแค้น! ในเวลานั้นไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดก็คงไม่อาจต้านทานได้!” ฉุ่ยจิ้งรีบกล่าวออกมา

 

 

ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น ฉุ่ยจิ้งต้องการที่จะวิ่งออกไปเพื่อหยุดซ่งจง แต่นางถูกเทพธิดาเหมยฮวาดึงไว้

“เหอะ มันจบแล้ว นี่คือเส้นทางที่ซ่งจงต้องเดิน!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างหดหู่

“เอะ!” เมื่อฉุ่ยจิ้งได้ยินเช่นนั้น นางตกใจทันทีพร้อมกับเงยหน้าขึ้นเพื่อดูฉากที่นางจะไม่มีวันลืมตลอดชีวิต

หลังจากซ่งจงใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เพื่อฉีกรูปแบบการป้องกันออก เขาเปิดการใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วงทันที!

ลูกบอลยักษ์รัศมีกว่าหนึ่งร้อยฟุตผสมกับสายฟ้าสีม่วงอยู่ภายใน พวกมันเหล่านี้พุ่งเข้าปะทะกับยอดสูงสุดของโถงเฉวียนจี้อย่างรุนแรง ส่วนที่เหลือแตกกระจายออกไปโจมตีพื้นที่ใกล้เคียง

ยอดของหอเฉวียนจี้นั้นสูงกว่าหนึ่งแสนฟุต ซึ่งมองจากที่ไกลๆดูคล้ายกับเสาขนาดมหึมาสูงทะลุฟ้า ซึ่งเป็นอาคารที่สำคัญที่สุดของหอเฉวียนจี้ และห้องโถงที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดนั้นอยู่ในอาคารนี้เช่นกัน

โดยปกติแล้วยอดเขาแห่งนี้นั้นแข็งแรงอย่างมาก มันจะไม่มีทางสั่นไหวได้เลยแม้แต่น้อยเพราะทุกพื้นที่เต็มไปด้วยรูปแบบการป้องกัน แต่ในวันนี้สิ่งต่างๆได้เปลี่ยนไป หลังจากที่หวงหลงสายฟ้าสีม่วงได้โจมตีจุดสูงสุดของโถงเฉวียนจี้ อาคารที่เคยมั่นคงในตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากที่มันยื่นตระหง่านมานานนับพันปี ในตอนนี้มันเหมือนยักษ์ที่กำลังจะล้ม ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดถูกประจักษ์ด้วยสายตาของสาวกหอเฉวียนจี้ทุกคน!

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset