Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 250

ตอนที่ 250

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 250: แผนการลับ

“พี่สาว เหตุใดเจ้าจึงมาหาข้าในเวลาที่เลวร้ายเช่นนี้ล่ะ? หรือเป็นเพราะว่าอาวุโสเสวียนจี้วางแผนจะก่อความวุ่นวาย?” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกไปอย่างไม่จริงจังพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ยียวน เห็นได้ชัดว่าเขาทั้งคู่ค่อนข้างสนิทกัน

แต่นักบวชฮัวอวิ๋นไม่คาดคิดว่าคำพูดของเขาจะทำให้เทพธิดาชิงหยุนแสดงสีหน้าที่กังวลมากกว่าเดิม จากนั้นนางกล่าวออกมาอย่างขื่นขม “พวกเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น มันเป็นเพียงเรื่องของเวลา!”

“ว่าอะไร?” นักบวชฮัวอวิ๋นตกใจทันที พร้อมกับถามต่อ “เจ้ากำลังล้อเล่นงั้นหรือ? เหตุใดพวกเขาจึงคิดจะก่อกบฏ?”
“เพราะข้ากำลังจะมีปัญหาในไม่ช้า ดังนั้นข้าเลยมาหาเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ!” เทพธิดาชิงหยุนกล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด

“เหตุใดจึงพูดจาเคร่งเครียดเช่นนั้น? พวกเรานั้นเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ผ่านทุกข์และสุขมานับไม่ถ้วน ถ้าหากมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการจากข้า แน่นอนว่าข้าไม่ลังเลเลยที่จะช่วยเหลือ!” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบอย่างจริงใจ

นักบวชฮัวอวิ๋นและเทพธิดาชิงหยุนนั้นเติบโตขึ้นมาด้วยกัน ทั้งคู่นั้นอยู่ใกล้ชิดบิดามารดาตัวเองอย่างมาก ในอดีตนักบวชฮัวอวิ๋นมักจะโดนรังแกเพียงเพราะเขาอ่อนแออยู่เสมอ แต่เทพธิดาชิงหยุนนั้นเต็มไปด้วยพรสวรรค์ นางปกป้องน้องชายผู้นี้เสมอมา หลังจากที่เข้าสู่โลกของผู้ฝึกตนทั้งสองแยกกันไป แม้ว่าจะไม่ได้พบกัน แต่สายสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นแน่นเฟ้นยิ่งนัก

ดังนั้นเมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นพบว่าเทพธิดาชิงหยุนนั้นพบกับปัญหา เขามักจะช่วยเหลือนางอย่างเต็มที่โดยไม่ลังเล

เมื่อได้ยินนักบวชฮัวอวิ๋นตอบเช่นนั้น เทพธิดาชิงหยุนรู้สึกลำบากใจทันที “โอ้ จะให้ข้าพูดอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่ยากต่อการพิจารณาอย่างมาก!”

“โอ เรื่องนี้หากไม่ใช่ก่อปัญหาแก่เจ้า เจ้าก็คงไม่มาหาข้าไม่ใช่หรือ?” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวอย่างสบาย ๆ จากนั้นเขากล่าวเสริม “เอาล่ะ! พี่สาวแค่พูดมันออกมา ข้าจะตัดสินใจเองว่าสามารถช่วยได้หรือไม่!”

เทพธิดาชิงหยุนเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมกล่าวว่า “ข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้เรื่องข่าวล่าสุดของทะเลตะวันออกแล้ว”

“ข่าวล่าสุด?”  นักบวชฮัวอวิ๋นถามพร้อมกล่าวต่อ “ข้าเพิ่งได้รับจดหมายจากฮัวจิงฉือ เขากล่าวว่าซ่งจงตายและมู่ซื่อหรงได้เป็นหัวหน้าทะเลตะวันออก ด้วยความช่วยเหลือของผู้นำกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออก มู่ซื่อหรงได้ครอบครองเกาะไผ่เขียว ข้ารู้เพียงเท่านี้ พี่สาวมีสิ่งใดกล่าวเสริมหรือไม่?”

เทพธิดาชิงหยุนหยักหน้าพร้อมกับขมวดคิ้วและตอบกลับว่า “สิ่งเดียวที่เจ้ากล่าวผิดคือซ่งจงยังไม่ตาย!”

“เป็นเช่นนั้น!” เมื่อได้รับข่าวใหม่ นักบวชฮัวอวิ๋นตกใจทันทีพร้อมถามต่อ “พี่สาว ล้อเล่นใช่หรือไม่? แน่นอนว่าซ่งจงตายในเงื้อมือของตาเฒ่าเฟิง เหตุใดเขาจึงยังไม่ตายกันเล่า?”

“เพราะว่าตาเฒ่าเฟิงนั้นโง่เขลา งี่เง่าที่สุด!” เทพธิดาชิงหยุนกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “เป็นถึงผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน แต่เขาไม่สามารถแม้แต่จะแลกเปลี่ยนกับซ่งจงได้ อีกทั้งยังต้องใช้อาคมต้องห้ามด้วยการระเบิดสมบัติวิเศษขั้นแปดเพื่อเอาชนะซ่งจง แม้ทำทุกอย่างแล้วเขาก็ไม่สามารถสังหารซ่งจงได้ ซ่งจงนั้นหนีหายไปไกลจนพบกับเหลยซานเอ๋อ!”

หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด นักบวชฮัวอวิ๋นตกใจพร้อมกับกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “พี่สาวได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ใดกัน? มันไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย ซ่งจงนั้นอยู่ในระดับปฐมภูมิเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะตาเฒ่าเฟิงที่ใช้อาคมปีศาจเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้มันยังรุนแรงอย่างมาก เหตุใดจึงไม่สามารถสังหารเขาได้? แถมเหลยซานเอ๋อยังเป็นอสูรกาย ทำไมนางจะต้องช่วยเหลือซ่งจง? เป็นนางหรือที่ไม่ต้องการให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อสู้กันจนถึงแก่ความตาย?”

เทพธิดาชิงหยุนมองที่ฮัวอวิ๋นพร้อมกับพูดอย่างเคร่งเครียด “เจ้าพูดมีเหตุผล แต่สิ่งที่ข้ากล่าวคือความจริง นี่คือข้อมูลที่ตาเฒ่าเฟิงมอบให้ข้าและเขาไม่มีวันกล้าที่จะโกหกข้า!”

นักบวชฮัวอวิ๋นรู้ความสัมพันธ์ของตาเฒ่าเฟิงและเทพธิดาชิงหยุนมานานแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากแค่ไหน นักบวชฮัวอวิ๋นคิดว่าตาเฒ่าเฟิงนั้นยอมอ่อนข้อให้กับเทพธิดาชิงหยุนเท่านั้นและถูกใช้เพื่อเป็นสายลับภายในสำนักพันปีศาจ!

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของเทพธิดาชิงหยุน นักบวชฮัวอวิ๋นเริ่มมีโทสะและเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว “ตาเฒ่าเฟิงไม่ได้โกหกจริงงั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าข้าให้เขาใช้โลหิตสาบาน นอกจากนี้เรื่องนี้ยังสำคัญอย่างมาก เขาไม่กล้าที่จะโกหกแน่นอน เขาต่ำต้อยเกินกว่าที่จะโกหกข้า!” เทพธิดาชิงหยุนกล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด “ดังนั้นข้าจึงมั่นใจมากว่านี่คือเรื่องจริง”

“สวรรค์ มันเป็นไปได้อย่างไร?” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวอย่างตกใจ “แม้ว่าข้าจะรู้จักเจ้าอ้วนเป็นการส่วนตัว แต่ข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งจนสามารถแลกเปลี่ยนกับตาเฒ่าเฟิงที่ใช้ปีศาจเข้าสู่ร่างกายได้!”

เทพธิดาชิงหยุนถอนหายใจพร้อมกล่าวต่อ “เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ตาเฒ่าเฟิงนั้นไม่ควรถูกตำหนิ ไขมันนั่นเพียงแค่มีโชคอย่างมาก แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าอยู่ในมือของเขา”

“ข้าเพิ่งได้รู้เมื่อเร็ว ๆ นี้เช่นกัน” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวอย่างขื่นขม “ข้อมูลนี้มู่ซื่อหรงเป็นคนบอกข้า เจ้าบัดซบนั่นช่างปากแข็งยิ่งนัก!”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็รู้มานานแล้ว?” เทพธิดาชิงหยุนบ่นฮัวอวิ๋นต่อ “ทำไมเจ้าไม่คิดจะทำอะไรสักอย่าง?”

“นั่นเป็นเพราะซ่งจงนั้นพัฒนาไปไกลมากแล้ว นอกจากนี้เขาอยู่ในทะเลตะวันออกและอิทธิพลของข้าไปไม่ถึง” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวต่อ “แม้ว่าจะรวมพลังกับภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า แต่ตาเฒ่าเฟิงก็ควรจะสังหารเขาได้หรือไม่ใช่? ยังไงท้ายที่สุดแล้วระยะห่างของทั้งสองคนนั้นมากเกินไป”

“เพียงแค่ภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า แน่นอนว่าตาเฒ่าเฟิงไม่ต้องเกรงกลัว แต่ปัญหาก็คือเขามีสมบัติวิญญาณชิ้นอื่นอีก!” เทพธิดาชิงหยุนกล่าวอย่างขุ่นเคือง “นี่มันเรื่องอะไรกัน ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินไม่สามารถหามันได้ แต่ซ่งจงครอบครองถึงสองสิ่ง!”

นักบวชฮัวอวิ๋นตกใจพร้อมตอบกลับ “พี่สาว เขามีสมบัติอะไรอีก? มันคืออะไร?”

“ระฆังทองแดง! จากคำพูดของตาเฒ่าเฟิง ระฆังใบนี้เคลือบด้วยวัสดุระดับต่ำทำให้ดูไร้ค่า ไม่ว่าจะใช้อาคมใดก็ไม่สามารถทำลายได้เลย อีกทั้งระฆังนี้ยังส่งพลังคลื่นเสียงเพื่อทำลายภูเขาทั้งลูกได้! ในจุดนี้เขารู้สึกว่าระฆังไม่ธรรมดา จึงต้องใช้อาคมปีศาจเข้าสู่ร่างกาย จนท้ายที่สุดเขาสามารถลอกเปลือกนอกของมันออกได้จนหมด เผยให้เห็นระฆังที่น่าเกรงขามอยู่ด้านใน!” เทพธิดาชิงหยุนตอบกลับ

นักบวชฮัวอวิ๋นตบต้นขาตัวเองอย่างแรงพร้อมสาปแช่งออกมา “ไขมันบัดซบ มันกล้ามากที่เล่นกับข้าเช่นนี้!”

เทพธิดาชิงหยุนถามกลับอย่างอยากรู้อยากเห็น “อะไรหรือ? เกิดอะไรขึ้น?”

นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับ “สิ่งที่พี่สาวไม่รู้ก็คือระฆังใบนี้สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกมาระหว่างที่เขาต่อสู้กับฉุ่ยจิ้ง ทำให้เหล่าศิษย์บริเวณนั้นเข้าใจกฎแห่งสวรรค์ขึ้นมา พร้อมทั้งมีเจ็ดคนที่ผ่านสภาวะตีบตันเข้าสู่ระดับจินตันได้อย่างง่ายดาย!”

“โอ้ มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยงั้นหรือ?” เทพธิดาชิงหยุนอุทานออกมา “ในเวลานั้นเจ้าควรจะเดาได้แล้วว่ามีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับระฆังใบนี้ เหตุใดเจ้าจึงปล่อยให้เรื่องมันเป็นไปเช่นนั้น?”

“แน่นอน ข้าไม่ได้ปล่อยผ่านเรื่องนี้ ในเวลานั้นข้าไม่ลังเลเลยที่จะข้ามหน้าจ้าวสำนักคนเก่าและใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งธาตุทั้งห้าเพื่อแลกเปลี่ยนกับระฆัง แต่หลังจากแลกเปลี่ยนแล้ว ข้าได้เพียงเปลือกของมันเท่านั้น!” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับอย่างหงุดหงิด

“เจ้าโง่ยิ่งนัก ข้ามั่นใจว่าเขาเพียงขายเปลือกให้กับเจ้าและเอาสมบัติด้านในออก!” เทพธิดาชิงหยุนกล่าวอย่างอาลัยอาวรณ์

“เหอะ! ตอนนั้นข้ารู้แล้วแต่ก็ยังไม่แน่ใจ ใครก็รู้ว่าไอ้ไขมันนั่นฉลาดเป็นกรด! เป็นยิ่งกว่าสิ่งที่ข้ารังเกียจ ระฆังของมันก็ถือได้ว่าพิเศษมากเช่นกัน ในเวลานั้นมันปลุกความสงสัยของข้าขึ้นมา ใครจะรู้ว่าไอ้ไขมันนั่นจะเล่นแง่กับข้า? ข้าสูญเสียดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งธาตุทั้งห้าไปทั้งหมด มันทำให้ข้าอับอายถึงสองครั้ง สมบัตินั่นมันควรจะเป็นของข้าด้วยซ้ำ! บัดซบ! เจ้าไขมันน้อย เจ้าได้เล่นกับข้าแน่นอน!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างโกรธแค้น

หลังจากตระหนักถึงความจริง นักบวชฮัวอวิ๋นตบขาของตนเองอย่างทุกข์ใจ

เทพธิดาชิงหยุนฟังพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา นางคิดในใจ “เจ้ามีอายุมามากกว่าร้อยปีแล้ว แต่กลับโดนเด็กน้อยเล่นด้วยราวกับหุ่นเชิด ข้าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี?”

แน่นอนว่าเทพธิดาชิงหยุนรู้ดีว่านักบวชฮัวอวิ๋นเต็มไปด้วยความเสียใจและไม่ต้องการเยาะเย้ยเขาอีกต่อไป ดังนั้นนางจึงกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน “ลืมมันเถิด ตอนนี้เรื่องได้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง เรายังพอมีโอกาส”

“โอกาสอะไร? ในตอนนี้ไขมันนั่นมันก้าวหน้าไปไกลแล้ว แม้แต่ตาเฒ่าเฟิงยังไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย เห็นได้ชัดว่าข้าก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน รวมกับการที่เขาอยู่ได้ในทะเลตะวันออกอย่างสง่างาม ข้าเลยต้องปฏิบัติกับมันดังเช่นลูกหลานและเอาใจอย่างมาก ดีนะที่ข้ายังมองถึงอนาคตที่วางให้มู่ซื่อหรงยืนอยู่ข้างกับมัน และในตอนนี้ซ่งจงนั้นอยู่ฝ่ายเดียวกับข้า! นี่อาจจะเป็นพรเล็ก ๆ จากสวรรค์สำหรับข้าอย่างแท้จริง!”

หลังจากที่ได้ยินนักบวชฮัวอวิ๋นตอบเช่นนั้น เทพธิดาชิงหยุนไอออกมาสองครั้ง

นักบวชฮัวอวิ๋นเป็นคนฉลาด เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาสัมผัสได้อย่างรวดเร็วและรีบตอบกลับทันที “พี่สาว เจ้าต้องการให้ข้าช่วยจัดการซ่งจงงั้นหรือ?”

เทพธิดาชิงหยุนพยักหน้าอย่างขมขื่นพร้อมกับตอบกลับอย่างเศร้าโศก “เมื่อต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันช่างอัปยศอย่างแท้จริง ตาเฒ่าเฟิงนั้นโง่เขลาอย่างถึงที่สุด เขาถูกทำให้ขายหน้าโดยซ่งจงและเขาไปที่แห่งนั้นเพื่อจัดการเรื่องราว แต่เขากลับตกลงไปในหลุมพรางของซ่งจง อีกทั้งก่อนที่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับเด็กน้อย เขากลับบอกกล่าวความลับทั้งหมดของเรากับเขาออกไป!”

“ความลับอะไรงั้นหรือ?” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับอย่างตื่นตูม

“ความสัมพันธ์ของข้ากับตาเฒ่าเฟิงและวิธีที่ฮัวเฉียนหวู่วางแผนสังหารครอบครัวซ่งจง!” เทพธิดาชิงหยุนมองไปที่นักบวชฮัวอวิ๋นอย่างรอคำตอบ

นักบวชฮัวอวิ๋นกระทืบเท้าพร้อมกล่าวว่า “พี่สาวเรานั้นลงเรือลำเดียวกันแล้ว ในตอนนี้เมล็ดถั่วทั้งหมดได้หกไปเท่านั้น!”

เทพธิดาชิงหยุนกล่าวออกมาอย่างไม่อาจช่วยไม่ได้ “ตาเฒ่าเฟิงบอกซ่งจงว่าเจ้าก็รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และช่วยเหลือฮัวเฉียนหวู่ปกปิดและหนีรอดจากข้อสงสัย ตาเฒ่าเฟิงนั้นโง่เง่าที่สุด!”

“เขาไม่เพียงแค่โง่เขลา แต่เรียกได้ว่าสารเลว!” นักบวชฮัวอวิ๋นกระโดดด้วยความโกรธ “ข้าไม่ควรฟังเจ้าที่ยอมปล่อยไอ้สารเลวนี้ออกไป มองมาที่ข้าตอนนี้สิ มันเอาข้าขายจนหมดสิ้น! เมื่อไหร่ที่ซ่งจงกลับมา เขาจะเปิดเผยทุกอย่างพร้อมทั้งแก้แค้นให้กับครอบครัว! บัดซบ ข้าไม่ต้องเป็นจ้าวสำนักอีกต่อไปแล้ว ในตอนนี้ทำได้เพียงแค่รอการลงโทษจากหอคุมกฏเท่านั้น!” นักบวชฮัวอวิ๋นอุทานออกมา

ในตอนนี้นักบวชฮัวอวิ๋นรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก

เทพธิดาชิงหยุนนั้นรู้ตัวว่าตนเองทำผิด ก่อนหน้านี้นักบวชฮัวอวิ๋นลังเลว่าจะปล่อยตาเฒ่าเฟิงออกไปหรือไม่ แต่ด้วยการอ้อนวอนของเทพธิดาชิงหยุนทำให้เขาใจอ่อนและปล่อยมันออกไปอีกครั้ง แต่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เทพธิดาชิงหยุนเสียคำพูดอย่างมาก ช่างน่าเศร้านักเพราะคนที่นางช่วยกลับกลายเป็นคนที่ย้อนกลับมาทำร้ายน้องชายของตนเอง

ในสถานการณ์ปัจจุบัน เทพธิดาชิงหยุนทำได้เพียงขอโทษน้องชายตนเองและหาวิธีแก้ปัญหา สำหรับตาเฒ่าเฟิงนางรับปากว่าจะไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอนและจะให้ความยุติธรรมกับนักบวชฮัวอวิ๋นอย่างถึงที่สุด

นักบวชฮัวอวิ๋นกระทืบเท้าจนพื้นยุบลงไปพร้อมกับตอบกลับพี่สาวของตน “พี่ควรรู้ว่าข้าไม่ควรเกี่ยวข้องอะไรกับมันเลยในนามของสำนักเสวียนเทียน คุณชายใหญ่และคุณชายรองจ้องที่จะจับผิดข้าอยู่ตลอดเวลา และศิษย์พี่เหมยฮวา ถ้าหากนางรู้เรื่องฮัวเฉียนหวู่ แน่นอนว่านางจะถลกหนังข้าทั้งเป็น!”

เทพธิดาชิงหยุนตอบกลับ “แน่นอนว่าเรื่องมันจะไม่รุนแรงเช่นนั้น นางอยู่อย่างสันโดษไม่ใช่หรือ? และไม่สนใจกิจกรรมทางโลกทั้งหมด!”

“เป็นเช่นนั้น แต่ศิษย์พี่เหมยฮวานั้นมีศิษย์หนึ่งคนนามว่าฉุ่ยจิ้งที่ฝึกฝนอยู่ด้านนอก สิ่งที่สำคัญคือฉุ่ยจิ้งและซ่งจงนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างมาก และทั้งสองเป็นสหายร่วมฝึกฝนแบบคู่ ถ้าหากไขมันนั่นพยายามจะไปพบฉุ่ยจิ้ง ตำแหน่งของข้าก็คงไม่อาจมีผลอะไรแล้วก็ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้อีกด้วย!” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“เทพธิดาเหมยฮวานั้นเป็นหนึ่งในสามเทพธิดาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ แม้แต่ข้าก็ไม่อาจเทียบกับนางได้” เทพธิดาชิงหยุนขมวดคิ้วในขณะที่ตอบกลับ

“ถูกต้อง! ในเวลาเช่นนี้เราสามารถทำอะไรได้บ้าง?” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาพร้อมกับเดินไปรอบห้องอย่างกระวนกระวาย

“ไม่ต้องห่วง เหตุผลที่ข้ามาพบเจ้าก็เพื่อการแก้ปัญหาที่เกิดนี้และบอกความจริงกับเจ้า ในตอนนี้ข้ามีแผนแล้ว แต่มันเป็นเพียงเจ้าที่จะไม่กล้าดำเนินการ!” เทพธิดาชิงหยุนกล่าวอย่างสงบ

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset